🇹🇭มาลาริน⚃15ก.ย. ป่วย13,798คน รักษาหาย14,133 คน เสียชีวิต144คน/โควิด77จว./ห่วงภูมิกลุ่มเสี่ยง/เตรียมแผนฉีดไฟเซอร์เด็ก



https://www.bangkokbiznews.com/news/960177



https://www.thaipost.net/main/detail/116792



https://siamrath.co.th/n/280708


 
'นพ.มานพ'เผยผลฉีดวัคซีน คนสูงอายุโดยเฉพาะผู้ที่มีโรคร่วม ภูมิลดลงเร็วกว่ากลุ่มอื่น
วันพุธ ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2564, 13.01 น.

วันที่ 15 กันยายน 2564 นพ.มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยการแพทย์แม่นยำ คณะ​แพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์เฟซบุ๊กถึงประสิทธิผลของวัคซีน ระบุว่า
 
ประสิทธิผลของวัคซีนลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ผู้สูงอายุและมีโรคร่วมจะลดลงเร็วกว่ากลุ่มอื่น เมื่อเดือนที่แล้วมีข้อมูลจาก Office for National Statistics UK เป็นข่าวดังที่รายงานว่าประสิทธิผลของวัคซีน AstraZeneca ลดลงช้ากว่า Pfizer จนอาจมีระดับพอๆ กัน
 
เมื่อ 4 เดือนหลังฉีดวัคซีน (อ่านเพิ่มเติมที่นี่ https://www.facebook.com/manopsi/posts/10161181653928448) จากนั้นมีข้อมูลเผยแพร่จาก ZOE COVID cohort ที่แสดงต่างออกไปคืออัตราการลดลงของประสิทธิผลวัคซีนทั้ง 2 ชนิดพอๆ กัน
 
เมื่อคืน Public Health England เผยแพร่ข้อมูลชุดของตนเองบ้างใน preprint พบว่าอัตราการลดลงของประสิทธิผลของวัคซีนที่ใช้ในอังกฤษลดลงทั้ง 3 ชนิด โดยที่ AstraZeneca และ Pfizer vaccine ก็ลดลงในอัตราส่วนพอๆ กันแทบจะเป็นเส้นขนาน เมื่อติดตามไปอย่างน้อย 5 เดือน ประสิทธิผลของวัคซีน Pfizer ยังคงสูงกว่า AstraZeneca

ที่น่าเป็นห่วงคืออัตราลดลงในกลุ่มเปราะบาง คือคนสูงอายุโดยเฉพาะผู้ที่มีโรคร่วม ภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรืออยู่บ้านพักคนชรา จะลดลงเร็วกว่ากลุ่มอื่น
ข้อมูลนี้น่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ JCVI แนะนำให้เริ่มฉีดวัคซีนเข็มสามในกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ก่อน หลังได้รับวัคซีนครบอย่างน้อย 6 เดือน โดยใช้ Pfizer vaccine เป็นวัคซีนหลัก (https://www.gov.uk/…/jcvi-issues-updated-advice-on…)
 
ข้อสังเกตของ Moderna ดูเหมือนประสิทธิผลจะคงอยู่ในระดับสูงกว่า Pfizer vaccine สอดคล้องกับข้อมูลจาก Mayo Clinic และ CDC แต่ระยะติดตามของอังกฤษยังสั้นกว่าเนื่องจากเป็นวัคซีนที่เริ่มใช้ทีหลังอีกสองตัว
น่าสนใจดีว่าผลการวิเคราะห์ข้อมูลที่ต่างกันระหว่าง Public Health England & ZOE COVID กับ ONS เกิดจากอะไร 

https://www.naewna.com/local/602267

เพี้ยนแคปเจอร์'สุภัทร' เผยประชุมซักซ้อมความเข้าใจแผนฉีดไฟเซอร์  นร.-นศ. 17 ก.ย.นี้ ก่อนเชิญผู้ปกครองยินยอม 



15ก.ย.64- นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) กล่าวถึงแนวทางการฉีดวัคซีนโควิด-19 “Pfizer” ให้กับนักเรียน นักศึกษา อายุ 12-18 ปี ว่า จากข้อมูลจะมีนักเรียนกลุ่มดังกล่าวที่เรียนในระบบของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และสังกัดอื่น ๆ รวมแล้วมีประมาณ 4,350,000 คน ซึ่งจากการประสานกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) วัคซีน Pfizer จะทยอยเข้ามาปลายเดือน กันยายนนี้ 2 ล้านโดส และเดือน ตุลาคมอีก 8 ล้านโดส ดังนั้นในจำนวนดังกล่าวจึงเพียงพอที่จะฉีดให้กับเด็กนักเรียน นักศึกษากลุ่มนี้  

นายสุภัทร กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินการเพื่อฉีดวัคซีนให้กับนักเรียน นักศึกษาในครั้งนี้ ทางกรมควบคุมโรค สธ.ได้เตรียมแผนที่จะกระจายวัคซีน Pfizer ไปฉีดให้กับเด็กพร้อมกันทั้ง 76 จังหวัด และกรุงเทพฯ โดยแต่ละจังหวัดจะมีการวางแผนกระจายการฉีดวัคซีนภายในจังหวัดของตัวเอง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด และคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดเป็นผู้พิจารณา และจะกระจายการฉีดไปที่โรงเรียน แต่ในบางกรณีที่โรงเรียนมีความคับแคบไม่สะดวกในการดำเนินการ ศธ.ได้หารือกับทางปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เพื่อขอใช้สถานที่ของมหาวิทยาลัยในจังหวัดนั้น ๆ ในการจัดฉีดแทน ในระหว่างนี้ ศธ.จะต้องจัดเตรียมข้อมูลต่าง ๆ ของนักเรียน นักศึกษาก่อนส่งให้กับ สธ. ดังนั้นศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ถือเป็นศูนย์รวมการตรวจสอบข้อมูลสุดท้ายก่อนส่งให้กับสาธารณสุขจังหวัด (สธจ.)/กรุงเทพฯ และจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการร่วมในแต่ละจังหวัดเพื่อทำงานเรื่องนี้ด้วยกัน โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน และมี ศธจ. ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) อาชีวศึกษาจังหวัด ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธยาศัย (กศน.) ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการศึกษาเอกชนจังหวัด และหน่วยงานอื่น ๆ ที่มีเด็กนักเรียนในกลุ่มอายุดังกล่าว ร่วมเป็นคณะกรรมการ เพื่อกลั่นกรองข้อมูลให้ถูกต้อง ครบถ้วนสมบูรณ์ ก่อนจัดส่งข้อมูลให้ สธจ.วางแผนการฉีดวัคซีนภายในจังหวัดให้เกิดความเรียบร้อยต่อไป 

https://www.thaipost.net/main/detail/116793

เพี้ยนลุย ก.ย.และต.ค.นี้ช่วยกันดึงให้จำนวนลดลงมาค่ะ 

ประเทศอื่นๆเขาลดลงแล้ว ช่วยกันนะคะ

แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 15 กันยายน 2564 เวลา 12.30 น.
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19
ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
ประจำวันที่ 15 กันยายน 2564 เวลา 12.30 น.


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันพุธที่ 15 กันยายน 2564
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/407358777549119


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19
ณ วันพุธที่ 15 กันยายน 2564

ประเทศไทย
วันนี้มีผู้ติดเชื้อ 13,798 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 1,420,340 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯเพิ่มขึ้น 12,117 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 451 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น  22 ราย
- ผู้ติดเชื้อในสถานกักกันของรัฐสะสม 5,107 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกวันนี้  1,208 ราย (ยอดผู้ติดเชื้อสะสมจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกอยู่ที่ 271,712 ราย)

เสียชีวิตรวม 14,765 ราย(วันนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 144 ราย)
รักษาหายป่วยแล้ว 1,277,029 ราย (มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 14,133 ราย)
รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 128,546 ราย

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศ (ไม่รวมเรือนจำ) 13,325 ราย มีรายละเอียดดังนี้จากกรุงเทพฯ(3,263) ปริมณฑล (1,932) จังหวัดอื่น ๆ (8,130)

สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ เพิ่มขึ้นในวันนี้  22 รายและเข้า Quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่นราธิวาส(5) ตาก(10)  เชียงราย(2) สระแก้ว(4)และ จันทบุรี(1) มีรายละเอียดดังนี้
- จากประเทศมาเลเซีย 5 ราย
- จากประเทศกัมพูชา 5 ราย
- จากประเทศเมียนมา 12 ราย

สถานการณ์โลกในวันนี้
- ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก 226.6 ล้านราย มีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมกว่า 4.6 ล้านราย(คิดเป็นร้อยละ 2.06 ของจำนวนผู้ติดเชื้อ) ในขณะที่ผู้รักษาหายมีจำนวน 203.3 ล้านราย (คิดเป็นร้อยละ 89.71)
- สหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่  142,059 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 1 ของโลก อยู่ที่ 682,341 ราย
- อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 33.3 ล้านรายแล้ว โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 27,491 ราย ทั้งนี้ยอดผู้รักษาหายในอินเดียอยู่ที่ 32.5 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 97.5
- ไทยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่อันดับ 29  และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 42 ของโลก

สถานการณ์อาเซียนในวันนี้
- เมียนมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 436,527 ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยในรอบ 7 วันที่ผ่านมาอยู่ที่ 2,304 ราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 16,693 ราย
- มาเลเซีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 2,011,440 ราย โดยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ อยู่ที่  15,669 ราย
- กัมพูชา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 100,790 ราย มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 2,058 ราย  
- ลาว ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 17,682  ราย โดยกำลังรักษาอยู่ 12,098 ราย
- เวียดนาม ผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่  10,508 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสม 15,936 ราย

ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนาสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
https://web.facebook.com/nrctofficial/posts/4158326260959581
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่