ตามหัวข้อเลยครับ ผมอยากรู้ความหมายของคำว่า"อวด"ของแต่ละคนที่พบเจอกันมาหน่อยครับ ว่าจริงๆแล้วคำว่าอวดเป็นแบบไหน เอามาตรฐานอะไรมาวัดว่านั่นคือการอวดครับ
แล้วการที่เค้าคนนั้นชอบโอ้อวดเรื่องนั้นเรื่องนี้ ต้องแก้ที่ตัวของผู้พูดเองให้ลดลงหน่อย หรือต้องแก้ที่ตัวของผู้ฟังที่รู้สึกว่าเค้าคนนั้นขี้อวดครับ
แล้วถ้าให้คนที่มีนิสัยขี้อวด ลดการพูดโอ้อวดของตัวเองลงหน่อย ถือว่าเป็นการเปลี่ยนตัวเองเพื่อคนอื่นรึเปล่าครับ
เพราะในยุคปัจจุบันนี้ นิยมใช้คำว่าสิทธิส่วนบุคคลกันมาก จะมีคำถามตลอดว่า "ทำไมต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อคนอื่นด้วย" อะไรแบบนี้ครับ
ผมมีเพื่อนคนนึงซึ่งมีแนวโน้มว่านิสัยออกจะเป็นคนขี้อวด ชอบพูดว่าตัวเองมีนั่นมีนี่ ซื้อนั่นซื้อนี่ บ้านเค้ามีที่ดินเท่านั้นเท่านี้ มีรถรุ่นนั้นรุ่นนี้ เงินเดือนเท่านั้นเงินเก็บของเค้าเท่านี้ จะพูดอะไรประมานนี้อยู่บ่อยๆ ไม่ว่าเพื่อนคนไหนจะพูดเรื่องอะไรกันเค้าก็จะชอบพูดว่าเค้าก็มี เค้าก็เคย เค้ามีเท่านั้นเท่านี้ หรือไม่อยู่ๆเค้าก็พูดขึ้นเองเลย เค้าทำแบบนี้เป็นประจำเพื่อไม่ให้น้อยหน้าคนอื่น จริงๆพวกผมก็ใช้ชีวิตกันเรียบๆไม่ได้หวือหวาเกินหน้าเกินตากัน ซึ่งตอนแรกๆผมเองก็ไม่ได้คิดว่ามันคือการโอ้อวดอะไร แต่พอมาพูดบ่อยๆเข้า เพื่อนหลายๆคนก็เริ่มจะรู้สึกว่าเค้าชอบอวด จนผมเองก็เริ่มคิดและรู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน ซึ่งมันเกิดคำถามในหัวว่า "เค้าจะมาบอกทำไม"
จนผมมีโอกาสได้นั่งคุยถึงนิสัยขี้อวดนี้กับเพื่อนคนนั้นไปตรงๆ เค้าบอกว่าสิ่งที่เค้าทำ เค้าไม่ได้คิดว่าเป็นการมาอวด เค้าคิดว่ามันเป็นแค่เป็นการบอกให้รู้เฉยๆ ทำไมหลายๆคนถึงมองว่ามันเป็นการอวด ทำไมไม่มองว่านี่มันคือนิสัยอย่างนึงของเค้าหรือทำไมไม่มองว่าเค้าแค่บอกเฉยๆซึ่งมันไม่ใช่การอวด ทำไมถึงไปตัดสินเค้าแบบนั้น ซึ่งผมก็อธิบายให้เค้าฟังแล้วว่าทำไม เพราะอะไร แล้วก็บอกให้เค้าลองลดลงสักหน่อยไหมในเรื่องของการพูดแนวนี้ เพราะเค้าเองเคยพูดกับผมไว้ว่าไม่อยากให้ใครมีดูถูกหรือมองเค้าว่าเป็นคนขี้อวด แต่พอผมบอกให้เค้าลดลงหน่อยในเรื่องการพูด เพื่อนๆคนอื่นจะได้ไม่ต้องมองเค้าว่าเค้าเป็นคนขี้อวด เพราะเรื่องที่เค้าบอกมามันเรื่องส่วนตัวเค้าไม่ได้มีผลอะไรกับเพื่อนคนอื่นเลย แค่เอามาพูดบ่อยๆจนคนอื่นรู้สึกไม่ดีกับเค้า
ซึ่งที่ผมบอกให้เค้าลดลงเพราะเค้าจะได้ไม่ได้โดนมองโดนคิดว่าเค้าเป็นคนโอ้อวด ซึ่งเค้าเองไม่ชอบที่จะโดนมองแบบนั้น ไม่ว่ากับเพื่อนหรือใครก็ตาม ผมก็อธิบายไปนะครับว่าจริงๆแล้วเพื่อนๆก็ไม่อยากจะมองจะคิดแบบนั้นกัน แต่ด้วยที่เค้าแสดงออกด้วยคำพูดและท่าทางแบบนั้นบ่อย ทำให้เพื่อนเริ่มคิดไปแบบนั้นกับเค้า แต่เค้าคิดว่ามันคือตัวเค้า ทำไมเค้าต้องเปลี่ยนนิสัยนี้เพื่อเพื่อนคนอื่น ทำไมคนอื่นไม่ยอมมองว่านั้นมันคือการที่เค้าแค่เอามาบอกมาเล่าให้ฟัง
- ผมเลยสงสัยว่า จริงๆแล้วคำว่า"อวด"คืออะไร แล้วเอาอะไรมาเป็นมาตรฐานในการวัดว่านั่นคืออวด ?
- การที่ให้เค้าลดลงในเรื่องการชอบพูดและแสดงออกเรื่องของตัวเองจนเกินพอดีให้เพื่อนคนอื่นคิดแบบนั้นกับเค้า มันเป็นการให้เค้าเปลี่ยนตัวเองเพื่อคนอื่นหรือเพื่อตัวเค้าเอง ?
- จริงๆควรเปลี่ยนที่ตัวผู้พูดหรือผู้ฟังมากกว่ากัน ?
- การไม่เปลี่ยนแปลงหรือรับฟังคนรอบตัวเลยจะทำให้เราอยู่ในสังคมได้จริงๆแบบมีความสุขใช่ไหมครับ ?
- การเป็นตัวของตัวเองดีที่สุดจริงรึเปล่าครับ ?
ปล.ไม่ต้องห่วงนะครับ พวกผมก็ยังเป็นเพื่อนกันได้แบบปกตินะครับ ไม่ได้ทะเลาะหรือขุ่นเคืองใจอะไรกัน พวกเราแค่รับฟังและพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกันครับ ซึ่งตัวเพื่อนผมคนนั้นก็คงจะมีแอบคิดมากเรื่องนี้บ้างแหละครับ มันเองก็เลือกจะรับฟังผม แต่มันก็เป็นคนที่มีชุดความคิดในตัวมันเองสูงครับ ประมานว่าก็เชื่อความคิดตัวเองด้วยไรประมานนี้ครับ
ยาวหน่อยขอโทษด้วยครับ ผมพยายามลงรายละเอียดให้ได้เยอะๆครับ
จริงๆแล้ว"คนขี้อวด"คือคนแบบไหน?
แล้วการที่เค้าคนนั้นชอบโอ้อวดเรื่องนั้นเรื่องนี้ ต้องแก้ที่ตัวของผู้พูดเองให้ลดลงหน่อย หรือต้องแก้ที่ตัวของผู้ฟังที่รู้สึกว่าเค้าคนนั้นขี้อวดครับ
แล้วถ้าให้คนที่มีนิสัยขี้อวด ลดการพูดโอ้อวดของตัวเองลงหน่อย ถือว่าเป็นการเปลี่ยนตัวเองเพื่อคนอื่นรึเปล่าครับ
เพราะในยุคปัจจุบันนี้ นิยมใช้คำว่าสิทธิส่วนบุคคลกันมาก จะมีคำถามตลอดว่า "ทำไมต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อคนอื่นด้วย" อะไรแบบนี้ครับ
ผมมีเพื่อนคนนึงซึ่งมีแนวโน้มว่านิสัยออกจะเป็นคนขี้อวด ชอบพูดว่าตัวเองมีนั่นมีนี่ ซื้อนั่นซื้อนี่ บ้านเค้ามีที่ดินเท่านั้นเท่านี้ มีรถรุ่นนั้นรุ่นนี้ เงินเดือนเท่านั้นเงินเก็บของเค้าเท่านี้ จะพูดอะไรประมานนี้อยู่บ่อยๆ ไม่ว่าเพื่อนคนไหนจะพูดเรื่องอะไรกันเค้าก็จะชอบพูดว่าเค้าก็มี เค้าก็เคย เค้ามีเท่านั้นเท่านี้ หรือไม่อยู่ๆเค้าก็พูดขึ้นเองเลย เค้าทำแบบนี้เป็นประจำเพื่อไม่ให้น้อยหน้าคนอื่น จริงๆพวกผมก็ใช้ชีวิตกันเรียบๆไม่ได้หวือหวาเกินหน้าเกินตากัน ซึ่งตอนแรกๆผมเองก็ไม่ได้คิดว่ามันคือการโอ้อวดอะไร แต่พอมาพูดบ่อยๆเข้า เพื่อนหลายๆคนก็เริ่มจะรู้สึกว่าเค้าชอบอวด จนผมเองก็เริ่มคิดและรู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน ซึ่งมันเกิดคำถามในหัวว่า "เค้าจะมาบอกทำไม"
จนผมมีโอกาสได้นั่งคุยถึงนิสัยขี้อวดนี้กับเพื่อนคนนั้นไปตรงๆ เค้าบอกว่าสิ่งที่เค้าทำ เค้าไม่ได้คิดว่าเป็นการมาอวด เค้าคิดว่ามันเป็นแค่เป็นการบอกให้รู้เฉยๆ ทำไมหลายๆคนถึงมองว่ามันเป็นการอวด ทำไมไม่มองว่านี่มันคือนิสัยอย่างนึงของเค้าหรือทำไมไม่มองว่าเค้าแค่บอกเฉยๆซึ่งมันไม่ใช่การอวด ทำไมถึงไปตัดสินเค้าแบบนั้น ซึ่งผมก็อธิบายให้เค้าฟังแล้วว่าทำไม เพราะอะไร แล้วก็บอกให้เค้าลองลดลงสักหน่อยไหมในเรื่องของการพูดแนวนี้ เพราะเค้าเองเคยพูดกับผมไว้ว่าไม่อยากให้ใครมีดูถูกหรือมองเค้าว่าเป็นคนขี้อวด แต่พอผมบอกให้เค้าลดลงหน่อยในเรื่องการพูด เพื่อนๆคนอื่นจะได้ไม่ต้องมองเค้าว่าเค้าเป็นคนขี้อวด เพราะเรื่องที่เค้าบอกมามันเรื่องส่วนตัวเค้าไม่ได้มีผลอะไรกับเพื่อนคนอื่นเลย แค่เอามาพูดบ่อยๆจนคนอื่นรู้สึกไม่ดีกับเค้า
ซึ่งที่ผมบอกให้เค้าลดลงเพราะเค้าจะได้ไม่ได้โดนมองโดนคิดว่าเค้าเป็นคนโอ้อวด ซึ่งเค้าเองไม่ชอบที่จะโดนมองแบบนั้น ไม่ว่ากับเพื่อนหรือใครก็ตาม ผมก็อธิบายไปนะครับว่าจริงๆแล้วเพื่อนๆก็ไม่อยากจะมองจะคิดแบบนั้นกัน แต่ด้วยที่เค้าแสดงออกด้วยคำพูดและท่าทางแบบนั้นบ่อย ทำให้เพื่อนเริ่มคิดไปแบบนั้นกับเค้า แต่เค้าคิดว่ามันคือตัวเค้า ทำไมเค้าต้องเปลี่ยนนิสัยนี้เพื่อเพื่อนคนอื่น ทำไมคนอื่นไม่ยอมมองว่านั้นมันคือการที่เค้าแค่เอามาบอกมาเล่าให้ฟัง
- ผมเลยสงสัยว่า จริงๆแล้วคำว่า"อวด"คืออะไร แล้วเอาอะไรมาเป็นมาตรฐานในการวัดว่านั่นคืออวด ?
- การที่ให้เค้าลดลงในเรื่องการชอบพูดและแสดงออกเรื่องของตัวเองจนเกินพอดีให้เพื่อนคนอื่นคิดแบบนั้นกับเค้า มันเป็นการให้เค้าเปลี่ยนตัวเองเพื่อคนอื่นหรือเพื่อตัวเค้าเอง ?
- จริงๆควรเปลี่ยนที่ตัวผู้พูดหรือผู้ฟังมากกว่ากัน ?
- การไม่เปลี่ยนแปลงหรือรับฟังคนรอบตัวเลยจะทำให้เราอยู่ในสังคมได้จริงๆแบบมีความสุขใช่ไหมครับ ?
- การเป็นตัวของตัวเองดีที่สุดจริงรึเปล่าครับ ?
ปล.ไม่ต้องห่วงนะครับ พวกผมก็ยังเป็นเพื่อนกันได้แบบปกตินะครับ ไม่ได้ทะเลาะหรือขุ่นเคืองใจอะไรกัน พวกเราแค่รับฟังและพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกันครับ ซึ่งตัวเพื่อนผมคนนั้นก็คงจะมีแอบคิดมากเรื่องนี้บ้างแหละครับ มันเองก็เลือกจะรับฟังผม แต่มันก็เป็นคนที่มีชุดความคิดในตัวมันเองสูงครับ ประมานว่าก็เชื่อความคิดตัวเองด้วยไรประมานนี้ครับ
ยาวหน่อยขอโทษด้วยครับ ผมพยายามลงรายละเอียดให้ได้เยอะๆครับ