ผมอายุ 40 ปีครับ ภรรยาอายุ 35 ปีครับ เรามีลูกกัน 2 คนครับ ผู้ชายทั้งสองคน ตนโต 19 ปี คนเล็ก 7 ปี ผมแต่งกับภรรยาตั้งแต่ผมอายุ 22 ปีครับ เพราะเขามีลูกคนแรกครับ ผมต้องรับผิกชอบครับ ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมาผมให้เงินเดือนเขาทั้งหมดแต่สุดท้ายมีหนีเต็มไปหมดเลย (มารู้เมื่อเจ้าหนี้มาทวงที่บ้านครับ) ผมก็ต้องทำงานเพิ่มอีกเพื่อค่อยๆใช้หนี เคยลองสอบถามเรื่องเงินนะครับ แต่ถามที่ไรเข้าชวยทะเลาะทุกทีครับ ผมก็เลยเลือกที่จะไม่ถามครับ จนถึงเวลาที่เข้าทำงานได้ เขาก็ยังเป็นคนเก็บเงินนะครับพอใช้มั่งไม่พอใช้บ้างกระท่อนกระแท่นกันทุกเดือน แต่เพิ่มเติมที่เขาจะไม่ทำอะไรที่ที่แม่บ้านควรทำเลย หน้าที่ของเขาจะทำอยู่แค่ซักผ้ากับเสียบหม้อหุงข้าวแค่นั้น ที่เหลือผมต้องทำเองครับไม่ว่า ทำกับข้าว ล้างจาน เก็บกวาดบ้าน ล้างรถและอื่นๆอีกมาครับ ขนาดของใช้อย่างเช่น สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้าหนุ่ม ผมยังต้องคอยดูแล้วบอกให้ไปซื้อ ไม่งั้นก็ไม่มีใช้ ผมเหนื่อยครับถ้าผมไม่ทำลูกๆก็จะลำบาก เคยพูกคุยกันนะครับ (ตามที่มีคนเคยบอก) แต่ก็ดีขึ้นเดือนสองเดือนแล้วก็กลับมาเหมือนเดิม เหนื่อยจนบางครั้งคิดที่จะเลิกหลายหนครับ แต่พอเห็นหน้าลูกๆก็ทำไม่ลงครับไม่อยากให้พวกเขาเป็นเด็กที่ พ่อแม่เลิกกันแล้วเกิดปมด้อยครับ ผมหวังว่าจะมีแนวคิดจากเพื่อนๆเพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้ครับ ไม่หวังให้ภรรยาผมทำทุกอย่างนะครับ ขอแค่ช่วยแบ่งเบาผมบ้างก็พอครับ เหนื่อยกายพักก็หายครับ แต่ตอนนี้ผมเหนื่อยทั้งกายทั้งใจเลยครับ
ผมจะแก้ไขหรือทำยังไงต่อกับภรรยาผมดีครับ