ผมได้มาอยู่คอนโด ไฮ สุทธิสาร ตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม 2563 ซึ่งซื้อคอนโดมือสองห้องเปล่าๆ ต่อจากเจ้าของห้องเก่าที่ซื้อไว้ตั้งแต่โครงการเริ่มสร้างใหม่ๆ ข้อดี คือราคาไม่สูงมาก และสามารถตกแต่งห้องได้ในแบบของตัวเอง.... ข้อเสีย คือ ต้องตกแต่งห้องเองทั้งหมด และต้องใช้เงินเยอะพอสมควร เพื่อตกแต่งห้องให้ได้แบบที่ตนเองต้องการ... ต่อไป เข้าเรื่องของน้องสาวผมเลยแล้วกันครับ..... น้องสาวทำงานเอกชนแห่งหนึ่ง เป็นพนักงานบัญชี อายุ 29 ปี เงินเดือนปัจจุบันได้ 25,000 บาท ครับ....
วันที่ 2 ก.ค. 64 (ศุกร์)
น้องสาวได้โทรมาปรึกษาว่าต้องการหาซื้อคอนโด ที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า ซึ่งก็ได้บอกไปว่าราคาจะสูงมาก ถึงจะอยู่ชาญเมืองก็ตาม เลยพยายามบอกน้องว่าให้ซื้อแบบที่ตัวเองไหว และไม่เดือดร้อนคนอื่น ผมได้แนะนำให้มาซื้อคอนโด ไฮ สุทธิสาร มี 3 ตึก (ตึก A B C) มีจำนวน 544 ห้อง ซึ่งทางโครงการฯ จะมีรถส่งไปที่สถานี MRT สุทธิสาร ตั้งแต่เวลา 07.00-15.30 น. ทุกวัน แต่ตอนเย็นต้องนั่งรถวินมอเตอร์ไซต์กลับมาคอนโดเอง 25 บาท น้องสาวก็บอกว่าเข้ามาลึก เดินทางลำบาก เลยให้น้องสาวมาพักด้วย เพื่อให้ลองเดินทางไปทำงาน การที่เดินทางเข้าออกบ่อยๆ จะชินไปเอง
โดย กรณี ของน้องสาวผมมีความกังวล คือ
ช่วงก่อนโควิด 19 ระยะที่ 1 น้องสาวได้ทำงานที่บริษัทฯ เอกชน (ที่เก่า) เจ้าหน้าที่บัญชี มาประมาณ 2 ปีกว่า (2561-2563) เงินเดือน 18,000+ บาท และเป็นจังหวะที่ไม่ดีที่ได้แจ้งเปลี่ยนงานก่อนที่โควิด 19 ระยะที่ 1 จะระบาดในกรุงเทพฯ น้องสาวก็ได้หางานใหม่และเปลี่ยนงานมา 2 ครั้ง ในรอบ 7 เดือน ที่ผ่านมา (เม.ย.-ต.ค. 63) ก่อนมาทำงานที่ปัจจุบัน ก็มีกังวลที่ว่าน้องสาวเริ่มทำงานที่ใหม่มาตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค. 63 ที่บริษัทฯ สนง. ใหญ่ เอกชน (5 เดือน) และวันที่ 26 มี.ค. 64 - ปัจจุบัน ย้ายไปทำงานที่ใหม่บริษัทฯ เอกชนในเครือ (3 เดือน) รวมตอนที่จะยื่นกู้ซื้อคอนโด ทั้งหมด รวม 8 เดือน (เงินประการบริษัทฯ ในเครือ เช็คจากในระบบ
https://data.creden.co/ เหมือนเครดิตที่ใหม่จะไม่ค่อยดี) และไม่มีสวัสดิการร่วมกับ ธอส. และเงื่อนไขการยื่นกู้ทุกธนาคารต้องให้ทำงานครบ 12 เดือน ถึงจะยื่นกู้ได้ และที่สำคัญช่วงเปลี่ยนงานและหางานน้องสาวผ่อนหนี้ กยศ. บ้าง ไม่ได้ผ่อนบ้าง (เม.ย.-ต.ค. 63) เลยไปหาข้อมูลในเน็ต มีทั้งบอกว่ามีผลและไม่มีผลในการยื่นกู้ กังวลไปอีก......
ก่อนการยื่นกู้และระหว่างการยื่นกู้ ได้หาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตต่างๆ ประกอบไว้เยอะมาก
วันที่ 3 - 4 ก.ค. 64 (เสาร์-อาทิตย์)
น้องสาวต้องการห้องที่ราคาไม่เกิน 1.6-1.8 ล้านบาท พร้อมเฟอร์นิเจอร์ แบบพร้อมเข้าอยู่ไปก่อน อยากเปลี่ยนอะไรค่อยว่ากัน เริ่มหาข้อมูล....ห้องที่ต้องการซื้อ
- ทางอินเตอร์เน็ต มีทั้งราคาสูงที่ตกแต่งแล้ว และราคาสูงที่เป็นห้องเปล่า ทั้งเจ้าของขายเอง ฝากขาย และ Agency ขายเองโดยตรง
- ทางโครงการฯ ราคาห้องเปล่า เริ่ม 1.73 ซึ่งถือว่าราคาสูง กู้กับโครงการฯ โดยตรง ได้ค่าโอน-ค่ารายปี ฟรี แถมแอร์ Cash Back ตกแต่งห้อง ฯลฯ
- ทางกลุ่มลูกบ้านคอนโด ประกาศหาซื้อห้อง มีคนทัก chat มา 2 ห้อง
ห้องที่ 1 ขาย 1.5 ล้านบาท (28 ตรว.) ชั้น 5 วิวสระน้ำ พร้อมเฟอร์นิเจอร์พื้นฐานทั่วไป แอร์ ตู้เย็น ทีวี โซฟา ที่นอน เครื่องซักผ้า ฯลฯ ถ้าห้องเปล่าขาย 1.39 ล้านบาท
ห้องที่ 2 ขาย 1.9 ล้านบาท (30 ตรว.) ชั้น 7 ห้องมุม พร้อมเฟอร์นิเจอร์บางชิ้น ตกแต่งนิดหน่อย
และก็ยังหาห้องอื่นๆ ต่อไป
วันที่ 5 ก.ค. 64 (จันทร์)
ช่วงหัวค่ำ นัดผู้ขายขอดูห้อง ราคา 1.5 ล้านบาท น้องสาวชอบ เพราะห้องพร้อมอยู่ ราคาสู้ไหว วิวสระน้ำ ผ่อนยาวๆ ไป เหลือเงินเที่ยว... ด้วย ในฐานะพี่ชายก็พูดโน้มน้าวให้น้องสาวซื้อห้องที่นี่ เพราะ 1. ราคา 2. อยู่ที่เดียวกัน 3. มีสมบัติเป็นของตนเอง...ดีกว่าไปไปจ่ายค่าห้องเช่า 4. น่าจะอยู่กรุงเทพฯ กันยาวๆ กลับบ้านสุพรรณบุรีก็สะดวก
วันที่ 6-7 ก.ค. 64 (อังคาร-พุธ)
-ร่างสัญญาจะซื้อจะขาย กับผู้ขายไว้ในราคา 1.6 ล้านบาท พร้อมระบุเฟอร์นิเจอร์ให้ชัดเจนว่าชิ้นไหนบ้างที่ได้ในการซื้อครั้งนี้ และคอนโดถือเป็นมือสองอาจจะกู้ได้แค่ 90% เลยตั้งเผื่อราคาไว้ 1.6 ล้านบาท น้องสาววางมัดจำไว้ 5,000 บาท กรณี กู้ไม่ผ่านผู้ขายยินดีคืนเงินให้ เก็บหลักฐานไว้ที่ Line
-น้องสาวต้องทำงาน ผมเลยไปเช็คเครดิดบรูโรให้น้องสาวที่ ธอส. สนง. ใหญ่ โดยมีใบมอบฉันฑะ + สำเนาบัตรประชาชน 2 คน และบัตรประชาชนตัวจริง 2 คน มีการใช้บัตรเคดิต 2 ใบ ผ่อนตรงทุกเดือน หนี้อื่นๆ ไม่มี ยกเว้น หนี้ กยศ. นี่หละที่กลัวมีผลในการยี่นกู้ สรุป คือ ไม่มีติดบรูโรใดๆ สบายใจไปอีก 1 แต่ในระบบที่ ธอส. จะเช็คหรือเปล่าไม่รู้ และจะมีผลอะไรไหม เพราะแค่หนี้ผ่อน กยศ. เดือนละไม่กี่พันบาทยังมีช่วงขาดผ่อนเลย และถ้าหนี้ก้อนใหญ่ๆ จะส่งได้ไหม
วันที่ 9 ก.ค. 64 (ศุกร์)
- วันที่ 9 ก.ค. 64 นัดเซ็นต์สัญญาจะซื้อจะขาย กับผู้ขาย พร้อมโอนเงินมัดจำ ทำสัญญาฯ ไว้ 30 วัน
วันที่ 10 ก.ค. 64 (เสาร์) วันยื่นเอกสารกู้
เวลา 10.00 น. เข้าไปปรึกษา จนท. สินเชื่อ ธอส. สาขาห้างเซ็นทรัลพระราม 9 ว่าต้องการยื่นกู้คอนโดมือสอง 100% ซึ่ง จนท. สินเชื่อ ไม่สามารถรับรองได้ว่าจะได้ 100% หรือไม่ แต่พยายามจะยื่นและเขียนเหตุผลประกอบให้ได้ 100% กรณี ไม้ได้ 100 % ต้องหาเงินส่วนต่างมาจ่ายเพิ่มเอง ตอนยื่นเอกสาร จนท. สินเชื่อ ที่รับผิดชอบโดยตรง ติดเคสอื่นๆ เลยยื่นเอกสารต่างๆ กับ จนท. ธอส. ที่ทำหน้าที่อื่น (จนท. คงเห็นว่ามากัน 3 กัน และรอประมาณ 35 นาทีแล้ว) เป็นเอกสารพื้นฐานทั่วไป เช่น แบบขอยื่นกู้ / สัญญาจะซื้อจะขาย / หนังสือรับรองเงินเดือน /หนังสือรับรองบริษัทฯ ในเครือเดียวกัน / Statement ธนาคาร ฯลฯ และหลังจากนั้น จนท. สินเชื่อ ขอให้ส่งเอกสารต่างๆ เพิ่มเติมทางอีเมล์ หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย พ.ศ. 2561-2563 (ที่ทำงานบริษัทเก่า) เพื่อประกอบเป็นหลักฐานในการขอสินเชื่อการกู้ซื้อคอนโด และความมั่นคงของรายได้ที่ผ่านมา #จนท. สินเชื่อแจ้งว่าต้อง WFH การยื่นกู้ของเอกสารต่างๆ อาจจะล่าช้ากว่าปกติ
ปล. สัญญาจะซื้อจะขาย ที่ทำไว้มี 2 หน้า สรุปว่า จนท. สินเชื่อ แนะนำให้เอาข้อความที่มีเฟอร์นิเจอร์ออกทั้งหมด เพราะไม่ถือเป็นทรัพย์สินในการประเมินห้อง ผมว่าขึ้นอยู่แต่ละธนาคารฯ ผมก็เลยต้องประสานงานกับผู้ขายคอนโดให้เอาข้อความที่มีเฟอร์นิเจอร์ออกทั้งหมด โดยที่ไม่ให้กระทบกับหน้าที่ 2 จะได้ไม่ต้องมีการเซ็นต์ลงนามกันใหม่ และให้ส่งสำเนาบ้านเลขที่ผู้ขายมาด้วย เพราะลืมแนบกันเมื่อวัน 9 ก.ค. 64 ตอนทำสัญญาฯ
ผู้ขายห้องยังให้เฟอร์นิเจอร์เหมือนเดิมตามราคาที่ตกลงกันไว้
เวลา 12.00 น. ส่งเอกสารเพิ่มเติมไปที่อีเมล์ จนท. สินเชื่อ ได้แก่ หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย พ.ศ. 2561-2563 สัญญาจะซื้อจะขาย (ตัวใหม่)
วันที่ 19 ก.ค. 64 (จันทร์) ก่อนหน้าเพราะช่วง WFH ก็เลยไม่ได้โทรตามอะไรมาก
14.45 น. โทรสอบถาม จนท. สินเชื่อว่าได้รับเอกสารทางอีเมล์ ที่ส่งให้เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 64 แล้วหรือยัง สรุป จนท. บอกว่ายังไม่ได้รับ เลยต้องเปลี่ยนเป็นอีกหนึ่งอีเมล์ส่งไปอีกครั้ง เวลา 14.50 น. จนท. สินเชื่อ เหมือนไม่ค่อยสนใจในการตามการยื่นกู้ ทางผมต้องโทรสอบถามเองตลอด (แอบขัดใจ เราก็อยากรู้ผลอนุมัติไวๆ)
วันที่ 20 ก.ค. 64 (อังคาร)
จนท. ธอส. โทรมาแจ้งวงเงินกู้ 1.6 ล้าน พร้อมจะขายประกันชีวิต น้องสาวตอบไม่สนใจที่จะซื้อประกันชีวิตเพิ่มเติมฯ สบายใจหน่อยอย่างน้อยก็มี จนท. โทรติดต่อมาแล้ว แต่ก็ยังลุ้นอยู่ว่าจะผ่านไหม และได้ 100% หรือเปล่า
วันที่ 24-27 ก.ค. 64 วันหยุดยาวของบริษัทฯ น้องสาว
วันที่ 27 ก.ค. 64 (อังคาร)
เวลา 18.00 น. มี จนท. ธอส. โทรมาสอบถามน้องสาวว่าไม่สามารถติดต่อที่ทำงานได้ เลยไม่แน่ใจว่าเบอร์ที่ให้ไว้ ถูกต้องหรือไม่ น้องสาวแจ้งว่าบริษัทฯ ในเครือทั้ง 2 บริษัทฯ วันหยุดยาว และให้โทรหาฝ่ายบุคคลฯ วันที่ 29 ก.ค. 64 แทน
วันที่ 29 ก.ค. 64 (พฤหัสฯ)
เวลา 09.30 น. จนท. ธอส. โทรสอบถามข้อมูลทั่วไป กับฝ่ายบุคคลฯ เพื่อเช็คข้อมูลของน้องสาว
เวลา 14.45 น. จนท. ธอส. แผนกประเมินคอนโด (บริษัทฯ เอกชนในเครือ ธอส.) โทรมานัดวันกับน้องสาว เพื่อเข้าประเมินห้อง ผมโทรแจ้งวันเวลากับเจ้าของห้อง และโอนเงินค่าประเมิน 2,800 บาท ฝากไว้
วันที่ 30 ก.ค. 64 (ศุกร์)
เวลา 08.00 น. จนท. ประเมินคอนโด เข้ามาประเมินราคา ผมให้โทรหาเจ้าของห้องโดยตรง เพราะบริษัทประเมินฯ อยู่แถวสุทธิสาร จนท. มาแค่ดูและถ่ายรูปห้องไม่เกิน 20 นาที ก็เรียบร้อย และฝากใบเสร็จค่าใช้จ่ายไว้กับเจ้าของห้อง
วันที่ 5 ส.ค. 64 (พฤหัสฯ)
09.00 น. ผมหาข้อมูลเพิ่มเติม การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด ณ กรมที่ดิน สาขาห้วยขวาง สรุปว่าต้องจองใน App Qland เท่านั้น
เวลา 14.15 น. ผมให้น้องสาวโทรสอบถาม จนท. สินเชื่อ สาขาเซ็นทรัลพระราม 9 ว่าผลอนุมัติเป็นอย่างไรบ้าง ได้คำตอบว่า “อนุมัติแล้ว” และได้ 100% ดีใจมากครับ ที่ “คอนโดมือสอง” สามารถกู้ได้เต็ม 100% และสอบถามเพิ่มเติมว่า ต้องไปทำสัญญากู้กับ ธอส. ที่ไหน สรุปว่าต้องไปที่ ธอส. สนง. ใหญ่ เพราะในห้างยังปิดอยู่.. และต่อมามี จนท. ธอส. สนง. ใหญ่ (คนใหม่) โทรมาหาน้องสาวว่าสัญญาพร้อมแล้ว ให้นัดวันกับคนขายได้เลยว่าจะเข้าไปจองวันโอนสัญญาที่กรมที่ดิน ห้วยขวาง ได้วันไหน และให้แจ้งกลับมาก่อน 1-3 วัน
หลังจากนั้น ผมโทรหาคนขาย ว่าการยื่นกู้ของน้องสาวผม “อนุมัติแล้ว และได้ 100%” ให้ไปทำเรื่องไถ่ถอนที่ธนาคารฯ ที่กู้ไว้ได้เลย
ค่ำๆ คนขายโทรมาสอบถามเรื่อง “การจองวันโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด ณ กรมที่ดิน ห้วยขวาง” ทางคนขายบอกผมว่าต้องทำเอกสารไถ่ถอน ใช้เวลาประมาณ 7-14 วัน แล้วแต่ธนาคาร ผมก็เลยให้น้องสาวรีบจองวันโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด ทาง App Qland สรุปว่า เบื้องต้นได้วันที่ 26 ส.ค. 64 และรอผลยืนยันกลับจากกรมที่ดินอีกครั้ง คิวการจองยาวเลยครับ ต้องรอประมาณ 3 อาทิตย์ เพราะจำกัดจำนวนคนเข้าในกรมที่ดินฯ ให้แค่วันละ 20 คิวเท่านั้น
https://www.facebook.com/landshuaykwang/
การนัดวันโอนฯ อยู่ที่ว่าจะตกลงกันว่าใครจะเป็นคนจอง เพราะอย่างไรทั้ง 2 ฝ่ายต้องไปเจอกันที่กรมที่ดิน แนะนำให้ลางานไว้ 1 วันเลยครับ
ผมไม่สบายใจ เรื่องเงินส่วนต่าง 1 แสนบาท เพราะราคาขายจริง 1.5 ล้าน และราคาทำสัญญาจะซื้อจะขายทำไว้ 1.6 ล้าน ผมโทรปรึกษาเพื่อนที่เป็นนักกฎหมาย ไม่อยากเป็นสัญญาลมปาก เพราะเงินไม่ได้น้อยๆ เพื่อนบอกให้ทำสัญญากู้ยืมเงินทั่วไป ผมเลยหาแบบฟอร์มจากอินเตอร์เน็ต และมาปรับในแบบของตนเอง และได้พูดคุยกับคนขาย สรุปว่าคนขายจะโอนเงินสดไปให้น้องสาวผม 1 แสนบาท ให้ก่อนที่จะทำสัญญาโอนฯ ไม่โอนก็ไม่เซ็นต์เน้อ...
วันที่ 6 ส.ค. 64 (ศุกร์)
เวลา 08.15 น. มีข้อความยืนยันการโอนฯ มาที่ App Qland เป็นวันที่ 26 ส.ค. 64 บอกให้น้องสาวโทรแจ้ง จนท. ธอส. ว่าพร้อมเข้าไปเซ็นต์สัญญากู้ วันที่ 23 ส.ค. 64 เพื่อ จนท. จะได้เตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องไว้ให้เลย ระหว่างนี้ก็รอวันผู้ขายทำเอกสารการไถ่ถอนกับธนาคารฯ และเคลียร์ค่าใช้จ่ายต่างๆ กับนิติคอนโด และก็รอวันที่ 26 ส.ค. 64 เพื่อไปทำการโอนฯ ห้องต่อไปครับ
กรณี วันโอนฯ ของสาวผมต้องเตรียมเงินไปประมาณ 40,000 บาท เป็นค่าธรรมเนียมการโอน 1% (คนะละครึ่ง) และค่าธรรมเนียมจดจำนองของวงเงินกู้กับ ธอส.
1. ค่าธรรมเนียมการโอน 2% ผู้ซื้อกับผู้ขายออกคนละครึ่ง หรือตามตกลง
2. ค่าธุรกิจเฉพาะ 3.3% ผู้ขายออก
3. ค่าอากร 0.5% ผู้ขาย
4. ค่าภาษีเงินได้ (ค่าโอน) ผู้ขาย
5. ค่าธรรมเนียมจดจำนอง 1% ผู้ซื้อ
วันที่ 20 ส.ค. 64 (ศุกร์)
โทรหาผู้ขาย ว่าย้ายออกวันไหน ผู้ขายบอกว่าย้ายวันหยุด แต่ไม่ได้ระบุวันที่ ทางเราก็นึกว่าย้ายออกวันที่เสาร์-อาทิตย์ที่ 21-22 สค. 64 ที่ไหนได้ สรุปว่าเข้าใจคนละแบบ ขอย้ายหลังโอนเสร็จ คือ วันที่ 26 ส.ค. 64 มีโอนกรรมสิทธิ์แล้ว ห้องต้องเป็นของทางน้องสาวผม เขาไม่มีสิทธิ์จะอยู่ต่อ เพราะผมนัดช่างต่างๆ มา built in / ติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น /Digital Door lock …..
ยื่นกู้คอนโด มือสอง กับ ธอส. ช่วงโควิด-19 ช่วงระยะที่ 3 (ก.ค.-ส.ค. 64)
วันที่ 2 ก.ค. 64 (ศุกร์)
น้องสาวได้โทรมาปรึกษาว่าต้องการหาซื้อคอนโด ที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า ซึ่งก็ได้บอกไปว่าราคาจะสูงมาก ถึงจะอยู่ชาญเมืองก็ตาม เลยพยายามบอกน้องว่าให้ซื้อแบบที่ตัวเองไหว และไม่เดือดร้อนคนอื่น ผมได้แนะนำให้มาซื้อคอนโด ไฮ สุทธิสาร มี 3 ตึก (ตึก A B C) มีจำนวน 544 ห้อง ซึ่งทางโครงการฯ จะมีรถส่งไปที่สถานี MRT สุทธิสาร ตั้งแต่เวลา 07.00-15.30 น. ทุกวัน แต่ตอนเย็นต้องนั่งรถวินมอเตอร์ไซต์กลับมาคอนโดเอง 25 บาท น้องสาวก็บอกว่าเข้ามาลึก เดินทางลำบาก เลยให้น้องสาวมาพักด้วย เพื่อให้ลองเดินทางไปทำงาน การที่เดินทางเข้าออกบ่อยๆ จะชินไปเอง
โดย กรณี ของน้องสาวผมมีความกังวล คือ
ช่วงก่อนโควิด 19 ระยะที่ 1 น้องสาวได้ทำงานที่บริษัทฯ เอกชน (ที่เก่า) เจ้าหน้าที่บัญชี มาประมาณ 2 ปีกว่า (2561-2563) เงินเดือน 18,000+ บาท และเป็นจังหวะที่ไม่ดีที่ได้แจ้งเปลี่ยนงานก่อนที่โควิด 19 ระยะที่ 1 จะระบาดในกรุงเทพฯ น้องสาวก็ได้หางานใหม่และเปลี่ยนงานมา 2 ครั้ง ในรอบ 7 เดือน ที่ผ่านมา (เม.ย.-ต.ค. 63) ก่อนมาทำงานที่ปัจจุบัน ก็มีกังวลที่ว่าน้องสาวเริ่มทำงานที่ใหม่มาตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค. 63 ที่บริษัทฯ สนง. ใหญ่ เอกชน (5 เดือน) และวันที่ 26 มี.ค. 64 - ปัจจุบัน ย้ายไปทำงานที่ใหม่บริษัทฯ เอกชนในเครือ (3 เดือน) รวมตอนที่จะยื่นกู้ซื้อคอนโด ทั้งหมด รวม 8 เดือน (เงินประการบริษัทฯ ในเครือ เช็คจากในระบบ https://data.creden.co/ เหมือนเครดิตที่ใหม่จะไม่ค่อยดี) และไม่มีสวัสดิการร่วมกับ ธอส. และเงื่อนไขการยื่นกู้ทุกธนาคารต้องให้ทำงานครบ 12 เดือน ถึงจะยื่นกู้ได้ และที่สำคัญช่วงเปลี่ยนงานและหางานน้องสาวผ่อนหนี้ กยศ. บ้าง ไม่ได้ผ่อนบ้าง (เม.ย.-ต.ค. 63) เลยไปหาข้อมูลในเน็ต มีทั้งบอกว่ามีผลและไม่มีผลในการยื่นกู้ กังวลไปอีก......
ก่อนการยื่นกู้และระหว่างการยื่นกู้ ได้หาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตต่างๆ ประกอบไว้เยอะมาก
วันที่ 3 - 4 ก.ค. 64 (เสาร์-อาทิตย์)
น้องสาวต้องการห้องที่ราคาไม่เกิน 1.6-1.8 ล้านบาท พร้อมเฟอร์นิเจอร์ แบบพร้อมเข้าอยู่ไปก่อน อยากเปลี่ยนอะไรค่อยว่ากัน เริ่มหาข้อมูล....ห้องที่ต้องการซื้อ
- ทางอินเตอร์เน็ต มีทั้งราคาสูงที่ตกแต่งแล้ว และราคาสูงที่เป็นห้องเปล่า ทั้งเจ้าของขายเอง ฝากขาย และ Agency ขายเองโดยตรง
- ทางโครงการฯ ราคาห้องเปล่า เริ่ม 1.73 ซึ่งถือว่าราคาสูง กู้กับโครงการฯ โดยตรง ได้ค่าโอน-ค่ารายปี ฟรี แถมแอร์ Cash Back ตกแต่งห้อง ฯลฯ
- ทางกลุ่มลูกบ้านคอนโด ประกาศหาซื้อห้อง มีคนทัก chat มา 2 ห้อง
ห้องที่ 1 ขาย 1.5 ล้านบาท (28 ตรว.) ชั้น 5 วิวสระน้ำ พร้อมเฟอร์นิเจอร์พื้นฐานทั่วไป แอร์ ตู้เย็น ทีวี โซฟา ที่นอน เครื่องซักผ้า ฯลฯ ถ้าห้องเปล่าขาย 1.39 ล้านบาท
ห้องที่ 2 ขาย 1.9 ล้านบาท (30 ตรว.) ชั้น 7 ห้องมุม พร้อมเฟอร์นิเจอร์บางชิ้น ตกแต่งนิดหน่อย
และก็ยังหาห้องอื่นๆ ต่อไป
วันที่ 5 ก.ค. 64 (จันทร์)
ช่วงหัวค่ำ นัดผู้ขายขอดูห้อง ราคา 1.5 ล้านบาท น้องสาวชอบ เพราะห้องพร้อมอยู่ ราคาสู้ไหว วิวสระน้ำ ผ่อนยาวๆ ไป เหลือเงินเที่ยว... ด้วย ในฐานะพี่ชายก็พูดโน้มน้าวให้น้องสาวซื้อห้องที่นี่ เพราะ 1. ราคา 2. อยู่ที่เดียวกัน 3. มีสมบัติเป็นของตนเอง...ดีกว่าไปไปจ่ายค่าห้องเช่า 4. น่าจะอยู่กรุงเทพฯ กันยาวๆ กลับบ้านสุพรรณบุรีก็สะดวก
วันที่ 6-7 ก.ค. 64 (อังคาร-พุธ)
-ร่างสัญญาจะซื้อจะขาย กับผู้ขายไว้ในราคา 1.6 ล้านบาท พร้อมระบุเฟอร์นิเจอร์ให้ชัดเจนว่าชิ้นไหนบ้างที่ได้ในการซื้อครั้งนี้ และคอนโดถือเป็นมือสองอาจจะกู้ได้แค่ 90% เลยตั้งเผื่อราคาไว้ 1.6 ล้านบาท น้องสาววางมัดจำไว้ 5,000 บาท กรณี กู้ไม่ผ่านผู้ขายยินดีคืนเงินให้ เก็บหลักฐานไว้ที่ Line
-น้องสาวต้องทำงาน ผมเลยไปเช็คเครดิดบรูโรให้น้องสาวที่ ธอส. สนง. ใหญ่ โดยมีใบมอบฉันฑะ + สำเนาบัตรประชาชน 2 คน และบัตรประชาชนตัวจริง 2 คน มีการใช้บัตรเคดิต 2 ใบ ผ่อนตรงทุกเดือน หนี้อื่นๆ ไม่มี ยกเว้น หนี้ กยศ. นี่หละที่กลัวมีผลในการยี่นกู้ สรุป คือ ไม่มีติดบรูโรใดๆ สบายใจไปอีก 1 แต่ในระบบที่ ธอส. จะเช็คหรือเปล่าไม่รู้ และจะมีผลอะไรไหม เพราะแค่หนี้ผ่อน กยศ. เดือนละไม่กี่พันบาทยังมีช่วงขาดผ่อนเลย และถ้าหนี้ก้อนใหญ่ๆ จะส่งได้ไหม
วันที่ 9 ก.ค. 64 (ศุกร์)
- วันที่ 9 ก.ค. 64 นัดเซ็นต์สัญญาจะซื้อจะขาย กับผู้ขาย พร้อมโอนเงินมัดจำ ทำสัญญาฯ ไว้ 30 วัน
วันที่ 10 ก.ค. 64 (เสาร์) วันยื่นเอกสารกู้
เวลา 10.00 น. เข้าไปปรึกษา จนท. สินเชื่อ ธอส. สาขาห้างเซ็นทรัลพระราม 9 ว่าต้องการยื่นกู้คอนโดมือสอง 100% ซึ่ง จนท. สินเชื่อ ไม่สามารถรับรองได้ว่าจะได้ 100% หรือไม่ แต่พยายามจะยื่นและเขียนเหตุผลประกอบให้ได้ 100% กรณี ไม้ได้ 100 % ต้องหาเงินส่วนต่างมาจ่ายเพิ่มเอง ตอนยื่นเอกสาร จนท. สินเชื่อ ที่รับผิดชอบโดยตรง ติดเคสอื่นๆ เลยยื่นเอกสารต่างๆ กับ จนท. ธอส. ที่ทำหน้าที่อื่น (จนท. คงเห็นว่ามากัน 3 กัน และรอประมาณ 35 นาทีแล้ว) เป็นเอกสารพื้นฐานทั่วไป เช่น แบบขอยื่นกู้ / สัญญาจะซื้อจะขาย / หนังสือรับรองเงินเดือน /หนังสือรับรองบริษัทฯ ในเครือเดียวกัน / Statement ธนาคาร ฯลฯ และหลังจากนั้น จนท. สินเชื่อ ขอให้ส่งเอกสารต่างๆ เพิ่มเติมทางอีเมล์ หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย พ.ศ. 2561-2563 (ที่ทำงานบริษัทเก่า) เพื่อประกอบเป็นหลักฐานในการขอสินเชื่อการกู้ซื้อคอนโด และความมั่นคงของรายได้ที่ผ่านมา #จนท. สินเชื่อแจ้งว่าต้อง WFH การยื่นกู้ของเอกสารต่างๆ อาจจะล่าช้ากว่าปกติ
ปล. สัญญาจะซื้อจะขาย ที่ทำไว้มี 2 หน้า สรุปว่า จนท. สินเชื่อ แนะนำให้เอาข้อความที่มีเฟอร์นิเจอร์ออกทั้งหมด เพราะไม่ถือเป็นทรัพย์สินในการประเมินห้อง ผมว่าขึ้นอยู่แต่ละธนาคารฯ ผมก็เลยต้องประสานงานกับผู้ขายคอนโดให้เอาข้อความที่มีเฟอร์นิเจอร์ออกทั้งหมด โดยที่ไม่ให้กระทบกับหน้าที่ 2 จะได้ไม่ต้องมีการเซ็นต์ลงนามกันใหม่ และให้ส่งสำเนาบ้านเลขที่ผู้ขายมาด้วย เพราะลืมแนบกันเมื่อวัน 9 ก.ค. 64 ตอนทำสัญญาฯ
ผู้ขายห้องยังให้เฟอร์นิเจอร์เหมือนเดิมตามราคาที่ตกลงกันไว้
เวลา 12.00 น. ส่งเอกสารเพิ่มเติมไปที่อีเมล์ จนท. สินเชื่อ ได้แก่ หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย พ.ศ. 2561-2563 สัญญาจะซื้อจะขาย (ตัวใหม่)
วันที่ 19 ก.ค. 64 (จันทร์) ก่อนหน้าเพราะช่วง WFH ก็เลยไม่ได้โทรตามอะไรมาก
14.45 น. โทรสอบถาม จนท. สินเชื่อว่าได้รับเอกสารทางอีเมล์ ที่ส่งให้เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 64 แล้วหรือยัง สรุป จนท. บอกว่ายังไม่ได้รับ เลยต้องเปลี่ยนเป็นอีกหนึ่งอีเมล์ส่งไปอีกครั้ง เวลา 14.50 น. จนท. สินเชื่อ เหมือนไม่ค่อยสนใจในการตามการยื่นกู้ ทางผมต้องโทรสอบถามเองตลอด (แอบขัดใจ เราก็อยากรู้ผลอนุมัติไวๆ)
วันที่ 20 ก.ค. 64 (อังคาร)
จนท. ธอส. โทรมาแจ้งวงเงินกู้ 1.6 ล้าน พร้อมจะขายประกันชีวิต น้องสาวตอบไม่สนใจที่จะซื้อประกันชีวิตเพิ่มเติมฯ สบายใจหน่อยอย่างน้อยก็มี จนท. โทรติดต่อมาแล้ว แต่ก็ยังลุ้นอยู่ว่าจะผ่านไหม และได้ 100% หรือเปล่า
วันที่ 24-27 ก.ค. 64 วันหยุดยาวของบริษัทฯ น้องสาว
วันที่ 27 ก.ค. 64 (อังคาร)
เวลา 18.00 น. มี จนท. ธอส. โทรมาสอบถามน้องสาวว่าไม่สามารถติดต่อที่ทำงานได้ เลยไม่แน่ใจว่าเบอร์ที่ให้ไว้ ถูกต้องหรือไม่ น้องสาวแจ้งว่าบริษัทฯ ในเครือทั้ง 2 บริษัทฯ วันหยุดยาว และให้โทรหาฝ่ายบุคคลฯ วันที่ 29 ก.ค. 64 แทน
วันที่ 29 ก.ค. 64 (พฤหัสฯ)
เวลา 09.30 น. จนท. ธอส. โทรสอบถามข้อมูลทั่วไป กับฝ่ายบุคคลฯ เพื่อเช็คข้อมูลของน้องสาว
เวลา 14.45 น. จนท. ธอส. แผนกประเมินคอนโด (บริษัทฯ เอกชนในเครือ ธอส.) โทรมานัดวันกับน้องสาว เพื่อเข้าประเมินห้อง ผมโทรแจ้งวันเวลากับเจ้าของห้อง และโอนเงินค่าประเมิน 2,800 บาท ฝากไว้
วันที่ 30 ก.ค. 64 (ศุกร์)
เวลา 08.00 น. จนท. ประเมินคอนโด เข้ามาประเมินราคา ผมให้โทรหาเจ้าของห้องโดยตรง เพราะบริษัทประเมินฯ อยู่แถวสุทธิสาร จนท. มาแค่ดูและถ่ายรูปห้องไม่เกิน 20 นาที ก็เรียบร้อย และฝากใบเสร็จค่าใช้จ่ายไว้กับเจ้าของห้อง
วันที่ 5 ส.ค. 64 (พฤหัสฯ)
09.00 น. ผมหาข้อมูลเพิ่มเติม การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด ณ กรมที่ดิน สาขาห้วยขวาง สรุปว่าต้องจองใน App Qland เท่านั้น
เวลา 14.15 น. ผมให้น้องสาวโทรสอบถาม จนท. สินเชื่อ สาขาเซ็นทรัลพระราม 9 ว่าผลอนุมัติเป็นอย่างไรบ้าง ได้คำตอบว่า “อนุมัติแล้ว” และได้ 100% ดีใจมากครับ ที่ “คอนโดมือสอง” สามารถกู้ได้เต็ม 100% และสอบถามเพิ่มเติมว่า ต้องไปทำสัญญากู้กับ ธอส. ที่ไหน สรุปว่าต้องไปที่ ธอส. สนง. ใหญ่ เพราะในห้างยังปิดอยู่.. และต่อมามี จนท. ธอส. สนง. ใหญ่ (คนใหม่) โทรมาหาน้องสาวว่าสัญญาพร้อมแล้ว ให้นัดวันกับคนขายได้เลยว่าจะเข้าไปจองวันโอนสัญญาที่กรมที่ดิน ห้วยขวาง ได้วันไหน และให้แจ้งกลับมาก่อน 1-3 วัน
หลังจากนั้น ผมโทรหาคนขาย ว่าการยื่นกู้ของน้องสาวผม “อนุมัติแล้ว และได้ 100%” ให้ไปทำเรื่องไถ่ถอนที่ธนาคารฯ ที่กู้ไว้ได้เลย
ค่ำๆ คนขายโทรมาสอบถามเรื่อง “การจองวันโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด ณ กรมที่ดิน ห้วยขวาง” ทางคนขายบอกผมว่าต้องทำเอกสารไถ่ถอน ใช้เวลาประมาณ 7-14 วัน แล้วแต่ธนาคาร ผมก็เลยให้น้องสาวรีบจองวันโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด ทาง App Qland สรุปว่า เบื้องต้นได้วันที่ 26 ส.ค. 64 และรอผลยืนยันกลับจากกรมที่ดินอีกครั้ง คิวการจองยาวเลยครับ ต้องรอประมาณ 3 อาทิตย์ เพราะจำกัดจำนวนคนเข้าในกรมที่ดินฯ ให้แค่วันละ 20 คิวเท่านั้น https://www.facebook.com/landshuaykwang/
การนัดวันโอนฯ อยู่ที่ว่าจะตกลงกันว่าใครจะเป็นคนจอง เพราะอย่างไรทั้ง 2 ฝ่ายต้องไปเจอกันที่กรมที่ดิน แนะนำให้ลางานไว้ 1 วันเลยครับ
ผมไม่สบายใจ เรื่องเงินส่วนต่าง 1 แสนบาท เพราะราคาขายจริง 1.5 ล้าน และราคาทำสัญญาจะซื้อจะขายทำไว้ 1.6 ล้าน ผมโทรปรึกษาเพื่อนที่เป็นนักกฎหมาย ไม่อยากเป็นสัญญาลมปาก เพราะเงินไม่ได้น้อยๆ เพื่อนบอกให้ทำสัญญากู้ยืมเงินทั่วไป ผมเลยหาแบบฟอร์มจากอินเตอร์เน็ต และมาปรับในแบบของตนเอง และได้พูดคุยกับคนขาย สรุปว่าคนขายจะโอนเงินสดไปให้น้องสาวผม 1 แสนบาท ให้ก่อนที่จะทำสัญญาโอนฯ ไม่โอนก็ไม่เซ็นต์เน้อ...
วันที่ 6 ส.ค. 64 (ศุกร์)
เวลา 08.15 น. มีข้อความยืนยันการโอนฯ มาที่ App Qland เป็นวันที่ 26 ส.ค. 64 บอกให้น้องสาวโทรแจ้ง จนท. ธอส. ว่าพร้อมเข้าไปเซ็นต์สัญญากู้ วันที่ 23 ส.ค. 64 เพื่อ จนท. จะได้เตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องไว้ให้เลย ระหว่างนี้ก็รอวันผู้ขายทำเอกสารการไถ่ถอนกับธนาคารฯ และเคลียร์ค่าใช้จ่ายต่างๆ กับนิติคอนโด และก็รอวันที่ 26 ส.ค. 64 เพื่อไปทำการโอนฯ ห้องต่อไปครับ
กรณี วันโอนฯ ของสาวผมต้องเตรียมเงินไปประมาณ 40,000 บาท เป็นค่าธรรมเนียมการโอน 1% (คนะละครึ่ง) และค่าธรรมเนียมจดจำนองของวงเงินกู้กับ ธอส.
1. ค่าธรรมเนียมการโอน 2% ผู้ซื้อกับผู้ขายออกคนละครึ่ง หรือตามตกลง
2. ค่าธุรกิจเฉพาะ 3.3% ผู้ขายออก
3. ค่าอากร 0.5% ผู้ขาย
4. ค่าภาษีเงินได้ (ค่าโอน) ผู้ขาย
5. ค่าธรรมเนียมจดจำนอง 1% ผู้ซื้อ
วันที่ 20 ส.ค. 64 (ศุกร์)
โทรหาผู้ขาย ว่าย้ายออกวันไหน ผู้ขายบอกว่าย้ายวันหยุด แต่ไม่ได้ระบุวันที่ ทางเราก็นึกว่าย้ายออกวันที่เสาร์-อาทิตย์ที่ 21-22 สค. 64 ที่ไหนได้ สรุปว่าเข้าใจคนละแบบ ขอย้ายหลังโอนเสร็จ คือ วันที่ 26 ส.ค. 64 มีโอนกรรมสิทธิ์แล้ว ห้องต้องเป็นของทางน้องสาวผม เขาไม่มีสิทธิ์จะอยู่ต่อ เพราะผมนัดช่างต่างๆ มา built in / ติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น /Digital Door lock …..