ช่วงนี้น้ำตาลตก ร่างกายต้องการความหวาน เปิดตู้เก็บเสบียงไม่มีขนมหวานหลงเหลือตกค้างอยู่เลย ไม่เป็นไร ทำเองได้ นักเลงพอ
ตอนแรกกะทำสังขยาฟักทอง ปรากฏว่าเหลือไข่แค่ 2ฟอง ไม่พอแน่ๆ กะทิกระป๋องก็หมด จะทำแพนเค้กก็ไม่มีเมเปิ้ลไซรัปเอาไว้ราด ทำเค้กเนยสด แม่พิมพ์เค้กก็ไม่มีอีก โอ๊ย... อยากกรี๊ดดังๆ เอาไงดี?
ไปๆมาๆทำคุกกี้ดีกว่า ง่ายดี วัตถุดิบมีเกือบครบ ดูวิธีทำหลายสูตร เลยเอาทุกสูตรมารวมกัน ประยุกต์ดัดแปลง อะไรไม่มีก็ไม่ใส่ อะไรที่คิดว่าควรจะใส่ก็จัดไปเท่าที่หาได้ ไม่มีการชั่งตวงวัดใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่มีเครื่องชั่ง เครื่องตวงวัด
เท่าที่ได้อ่านรีวิว เห็นหลายคนกลัวว่าคุกกี้จะนุ่ม ไม่กรอบ ตอนแรกก็กังวลเหมือนกัน ส่วนตัวชอบคุกกี้กรอบมากกว่าคุกกี้นุ่มปวกเปียก แต่พอทำเสร็จปรากฏว่าคุกกี้กรอบโดนใจ และกรอบนานอีกด้วย เป็นความมั่วที่ลงตัวอย่างบังเอิญจริงๆ
วัตถุดิบเท่าที่หาได้ (ไม่เน้นความเป๊ะเว่อร์)
1. แป้งสาลีธรรมดา หรือเอนกประสงค์ แล้วแต่หาได้ (กะปริมาณเอาตามความเหมาะสม)
2. เนยสด ใช้เนยเค็ม (จะได้ไม่ต้องใส่เกลือเพิ่ม) ตัดมาใช้ประมาณ 80% ของก้อน
3. ไข่ 2ฟอง ใช้เฉพาะไข่แดง
4. น้ำตาลทราย ชอบหวานน้อยใส่น้อย ชอบหวานมากใส่มาก
5. กลิ่นวานิลา (1ช้อนโต๊ะ)
6. น้ำข้นจืด (กะเอาตามความเหมาะสม)
7. เม็ดมะม่วงหิมพานต์ (ตามความชอบ)
*** ไม่ใส่ผงฟูหรือเบกกิ้งโซดา เพราะไม่มี & สูตรของฝรั่งบางคนก็ไม่ใส่
วิธีทำ

(กราบขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย เนื่องจากมีภาพที่ไม่เหมาะสม เป็นเงาตกกระทบสะท้อนลงในอ่างผสมแป้ง เลยขอใช้สีปิดทับเอาไว้)
1. นำเนยสดใส่ลงในอ่างผสม (ต้องรอให้เนยนุ่มก่อน) พร้อมน้ำตาลทราย แล้วใช้ไม้พายหรือเครื่องตีให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียว (ไม่ต้องละเอียดมากจนเป็นครีม)
2. ตอกไข่ทั้ง 2ฟอง เอาเฉพาะไข่แดงเท่านั้น
3. ใส่ไข่แดงลงไปทีละฟอง (อย่าใส่พร้อมกัน) ตีประมาณครั้งละ 5วินาที
4. ตามด้วยกลิ่นวานิลา แล้วคนประมาณ 20วินาที
5. ใส่นมข้นจืดลงไป คนให้เข้ากันประมาณ 10วินาที
6. ร่อนแป้งลงในอ่างผสม ทีละนิดๆ ตะล่อมคนแป้งให้เข้ากับส่วนผสม
7. ใส่เม็ดมะม่วงฯลงไปผสม คนให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
8. ค่อยๆคนไปเรื่อยๆ คนจนกว่าจะเหนียวในระดับที่ใช้ได้ (เปรียบเทียบความเหนียวประมาณถั่วกวนที่ใช้ปั้นทำลูกชุปหรือทำใส้กะหรี่ปั๊บ) หากส่วนผสมยังไม่เหนียวพอ สามารถร่อนแป้งลงไปเพิ่มได้
9. เมื่อส่วนผสมเหนียวได้ที่ ให้ตักใส่กรวยบีบ หรือใช้ที่ตักไอติม ถ้าไม่มีอุปกรณ์ทั้งสอง สามารถใช้ช้อนกาแฟตักได้
10. บีบหรือตักลงบนถาดที่ปูด้วยกระดาษรองอบ (ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใช้ แค่ทาเนยบางๆบนถาด เพื่อกันไม่ให้คุกกี้ติด)
11. เปิดเตาอบทิ้งไว้ก่อนประมาณ 20-30นาที โดยตั้งความร้อนที่อุณหภูมิ 170 องศาฯ เอาคุกกี้เข้าอบประมาณ 15-20 นาที ถ้าได้กลิ่นหอมฟุ้งโชยออกมาจากเตา และตัวคุกกี้ออกสีเหลืองจนถึงน้ำตาลอ่อน แสดงว่าใช้ได้แล้ว
12. นำคุกกี้มาผึ่งให้เย็น แล้วรีบเก็บในภาชนะที่มิดชิดทันที คุกกี้จะได้กรอบนาน
สภาพหน้าตาของคุกกี้ที่ได้ รสชาติกลมกล่อม หวานกำลังดี กรอบได้ใจสุดๆ เนื้อในไม่ร่วน ไม่แห้ง เรียกได้ว่า มั่วจนคลำทางถูก
คุกกี้เนยสด+เม็ดมะม่วงฯ สูตรตามมีตามเกิด รับประกันความกรอบทน กรอบนาน
ช่วงนี้น้ำตาลตก ร่างกายต้องการความหวาน เปิดตู้เก็บเสบียงไม่มีขนมหวานหลงเหลือตกค้างอยู่เลย ไม่เป็นไร ทำเองได้ นักเลงพอ
ตอนแรกกะทำสังขยาฟักทอง ปรากฏว่าเหลือไข่แค่ 2ฟอง ไม่พอแน่ๆ กะทิกระป๋องก็หมด จะทำแพนเค้กก็ไม่มีเมเปิ้ลไซรัปเอาไว้ราด ทำเค้กเนยสด แม่พิมพ์เค้กก็ไม่มีอีก โอ๊ย... อยากกรี๊ดดังๆ เอาไงดี?
ไปๆมาๆทำคุกกี้ดีกว่า ง่ายดี วัตถุดิบมีเกือบครบ ดูวิธีทำหลายสูตร เลยเอาทุกสูตรมารวมกัน ประยุกต์ดัดแปลง อะไรไม่มีก็ไม่ใส่ อะไรที่คิดว่าควรจะใส่ก็จัดไปเท่าที่หาได้ ไม่มีการชั่งตวงวัดใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่มีเครื่องชั่ง เครื่องตวงวัด
เท่าที่ได้อ่านรีวิว เห็นหลายคนกลัวว่าคุกกี้จะนุ่ม ไม่กรอบ ตอนแรกก็กังวลเหมือนกัน ส่วนตัวชอบคุกกี้กรอบมากกว่าคุกกี้นุ่มปวกเปียก แต่พอทำเสร็จปรากฏว่าคุกกี้กรอบโดนใจ และกรอบนานอีกด้วย เป็นความมั่วที่ลงตัวอย่างบังเอิญจริงๆ
วัตถุดิบเท่าที่หาได้ (ไม่เน้นความเป๊ะเว่อร์)
1. แป้งสาลีธรรมดา หรือเอนกประสงค์ แล้วแต่หาได้ (กะปริมาณเอาตามความเหมาะสม)
2. เนยสด ใช้เนยเค็ม (จะได้ไม่ต้องใส่เกลือเพิ่ม) ตัดมาใช้ประมาณ 80% ของก้อน
3. ไข่ 2ฟอง ใช้เฉพาะไข่แดง
4. น้ำตาลทราย ชอบหวานน้อยใส่น้อย ชอบหวานมากใส่มาก
5. กลิ่นวานิลา (1ช้อนโต๊ะ)
6. น้ำข้นจืด (กะเอาตามความเหมาะสม)
7. เม็ดมะม่วงหิมพานต์ (ตามความชอบ)
*** ไม่ใส่ผงฟูหรือเบกกิ้งโซดา เพราะไม่มี & สูตรของฝรั่งบางคนก็ไม่ใส่
วิธีทำ
(กราบขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย เนื่องจากมีภาพที่ไม่เหมาะสม เป็นเงาตกกระทบสะท้อนลงในอ่างผสมแป้ง เลยขอใช้สีปิดทับเอาไว้)
1. นำเนยสดใส่ลงในอ่างผสม (ต้องรอให้เนยนุ่มก่อน) พร้อมน้ำตาลทราย แล้วใช้ไม้พายหรือเครื่องตีให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียว (ไม่ต้องละเอียดมากจนเป็นครีม)
2. ตอกไข่ทั้ง 2ฟอง เอาเฉพาะไข่แดงเท่านั้น
3. ใส่ไข่แดงลงไปทีละฟอง (อย่าใส่พร้อมกัน) ตีประมาณครั้งละ 5วินาที
4. ตามด้วยกลิ่นวานิลา แล้วคนประมาณ 20วินาที
5. ใส่นมข้นจืดลงไป คนให้เข้ากันประมาณ 10วินาที
6. ร่อนแป้งลงในอ่างผสม ทีละนิดๆ ตะล่อมคนแป้งให้เข้ากับส่วนผสม
7. ใส่เม็ดมะม่วงฯลงไปผสม คนให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
8. ค่อยๆคนไปเรื่อยๆ คนจนกว่าจะเหนียวในระดับที่ใช้ได้ (เปรียบเทียบความเหนียวประมาณถั่วกวนที่ใช้ปั้นทำลูกชุปหรือทำใส้กะหรี่ปั๊บ) หากส่วนผสมยังไม่เหนียวพอ สามารถร่อนแป้งลงไปเพิ่มได้
9. เมื่อส่วนผสมเหนียวได้ที่ ให้ตักใส่กรวยบีบ หรือใช้ที่ตักไอติม ถ้าไม่มีอุปกรณ์ทั้งสอง สามารถใช้ช้อนกาแฟตักได้
10. บีบหรือตักลงบนถาดที่ปูด้วยกระดาษรองอบ (ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใช้ แค่ทาเนยบางๆบนถาด เพื่อกันไม่ให้คุกกี้ติด)
11. เปิดเตาอบทิ้งไว้ก่อนประมาณ 20-30นาที โดยตั้งความร้อนที่อุณหภูมิ 170 องศาฯ เอาคุกกี้เข้าอบประมาณ 15-20 นาที ถ้าได้กลิ่นหอมฟุ้งโชยออกมาจากเตา และตัวคุกกี้ออกสีเหลืองจนถึงน้ำตาลอ่อน แสดงว่าใช้ได้แล้ว
12. นำคุกกี้มาผึ่งให้เย็น แล้วรีบเก็บในภาชนะที่มิดชิดทันที คุกกี้จะได้กรอบนาน
สภาพหน้าตาของคุกกี้ที่ได้ รสชาติกลมกล่อม หวานกำลังดี กรอบได้ใจสุดๆ เนื้อในไม่ร่วน ไม่แห้ง เรียกได้ว่า มั่วจนคลำทางถูก