คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
เราออกมาจากตรงนั้น ด้วยความงงในใจว่าทำไม หรือเราขอมากไป หรือเราใช้คำพูดไม่ดีรึป่าว ทำให้แม่เค้าไม่พอใจขนาดนี้
— แม่เขาโกรธคุณที่ไปว่าลูกเขาค่ะว่าตื่นสาย ถึงคุณจะไม่ได้พูดว่าโดยตรง แต่การไปพูดแบบนั้นเหมือนเป็นการว่าๆตื่นสายน่ะค่ะ เท่าที่อ่านเราคิดว่าแฟนคุณถูกเลี้ยงมาแบบเป็นคุณชายของบ้าน แม่ไม่ดุไม่ว่า ลูกชายทำอะไรก็ยอมตามใจหมดจนกลายเป็นคนไม่มีวินัย
ทุกคนช่วยตอบเราทีว่าเราผิดมากใช่ไหมที่อยากให้แฟนเราตื่นเองให้ได้
— ไม่ผิดที่อยากให้แฟนตื่นเองให้ได้แต่ผิดตรงที่
1. คุณรู้มานานแล้วว่าเขาเป็นแบบนี้ แต่คุณคิดว่าคุณจะเปลี่ยนเขาได้เลยแต่งงานกับเขา จุดนี้คุณคิดผิดมหันต์ค่ะ ผู้หญิงหลายคนชอบคิดว่าจะเปลี่ยนนิสัยผู้ชายได้ เช่น เจ้าชู้ ไม่เอาการเอางาน ขี้โกหก ถ้าคุณรับข้อเสียเขาไม่ได้ก็ไม่ควรแต่งงานค่ะ ไม่มีใครเปลี่ยนใครได้ค่ะนอกจากเขาจะคิดได้เอง แล้วก็ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อไรเขาจะคิดได้ บางคนทั้งชีวิตยังคิดไม่ได้เลยค่ะ
2. ผิดที่คุณไปบอกแม่เขาให้ไปตกลงกับแฟนค่ะ บอกตามตรงนะคะ คุณไม่ได้อยู่ในจุดที่จะต่อรองอะไรได้ คุณไปอยู่บ้านเขา ทำงานรับเงินจากบ้านเขา
อีกเรื่องคือแฟนคุณโตพอจนแต่งเมียแล้วค่ะ ไม่ต้องหวังให้แม่เขามาตกลงหรือมาสั่งให้แฟนคุณตื่น กรณีที่แม่แฟนไปตกลงให้ คิดว่าแม่เขาพูดแล้วเขาจะตื่นเช้าได้หรอคะ อย่างมากก็ทำได้สองสามวันแล้วก็เหมือนเดิม แต่เราว่าแม่เขาไม่พูดให้หรอกค่ะ เขาเลี้ยงลูกเขามาแบบนั้น เขาไม่ได้รู้สึกว่าการตื่นสายเป็นเรื่องใหญ่อะไร ยิ่งคุณไปพูดก็เหมือนไปฟ้อง แม่เขาก็หงุดหงิดว่าเรื่องแค่นี้จะเอามาเป็นปัญหาทำไมค่ะ
— แม่เขาโกรธคุณที่ไปว่าลูกเขาค่ะว่าตื่นสาย ถึงคุณจะไม่ได้พูดว่าโดยตรง แต่การไปพูดแบบนั้นเหมือนเป็นการว่าๆตื่นสายน่ะค่ะ เท่าที่อ่านเราคิดว่าแฟนคุณถูกเลี้ยงมาแบบเป็นคุณชายของบ้าน แม่ไม่ดุไม่ว่า ลูกชายทำอะไรก็ยอมตามใจหมดจนกลายเป็นคนไม่มีวินัย
ทุกคนช่วยตอบเราทีว่าเราผิดมากใช่ไหมที่อยากให้แฟนเราตื่นเองให้ได้
— ไม่ผิดที่อยากให้แฟนตื่นเองให้ได้แต่ผิดตรงที่
1. คุณรู้มานานแล้วว่าเขาเป็นแบบนี้ แต่คุณคิดว่าคุณจะเปลี่ยนเขาได้เลยแต่งงานกับเขา จุดนี้คุณคิดผิดมหันต์ค่ะ ผู้หญิงหลายคนชอบคิดว่าจะเปลี่ยนนิสัยผู้ชายได้ เช่น เจ้าชู้ ไม่เอาการเอางาน ขี้โกหก ถ้าคุณรับข้อเสียเขาไม่ได้ก็ไม่ควรแต่งงานค่ะ ไม่มีใครเปลี่ยนใครได้ค่ะนอกจากเขาจะคิดได้เอง แล้วก็ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อไรเขาจะคิดได้ บางคนทั้งชีวิตยังคิดไม่ได้เลยค่ะ
2. ผิดที่คุณไปบอกแม่เขาให้ไปตกลงกับแฟนค่ะ บอกตามตรงนะคะ คุณไม่ได้อยู่ในจุดที่จะต่อรองอะไรได้ คุณไปอยู่บ้านเขา ทำงานรับเงินจากบ้านเขา
อีกเรื่องคือแฟนคุณโตพอจนแต่งเมียแล้วค่ะ ไม่ต้องหวังให้แม่เขามาตกลงหรือมาสั่งให้แฟนคุณตื่น กรณีที่แม่แฟนไปตกลงให้ คิดว่าแม่เขาพูดแล้วเขาจะตื่นเช้าได้หรอคะ อย่างมากก็ทำได้สองสามวันแล้วก็เหมือนเดิม แต่เราว่าแม่เขาไม่พูดให้หรอกค่ะ เขาเลี้ยงลูกเขามาแบบนั้น เขาไม่ได้รู้สึกว่าการตื่นสายเป็นเรื่องใหญ่อะไร ยิ่งคุณไปพูดก็เหมือนไปฟ้อง แม่เขาก็หงุดหงิดว่าเรื่องแค่นี้จะเอามาเป็นปัญหาทำไมค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ชีวิตหลังแต่งงาน
แฟนเราอายุน้อยกว่าเรา1ปี
แต่ไม่รู้ด้วยความที่เป็นธุรกิจของแม่เค้ารึป่าว ทำให้เค้าค่อนข้างมีอิสระ
เค้ากลายเป็นคนที่ ควบคุมการนอนการหลับการตื่นไม่ได้ กลางคืนไม่นอน กลางวันไม่ตื่น อยากตื่นไปทำงานกี่โมงก็ตื่น อยากไปก้ไปไม่อยากไปก็พัก
ตัวเราเองตอนที่ตัดสินใจแต่งงานก็รู้ว่าเค้ามีปัญหาเรื่องนี้ค่ะ แต่ในตอนนั้นก็คิดมาตลอดว่า เราจะเปลี่ยนเค้าได้
ก็อยู่กันมาประมาณ2ปีค่ะ
ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราก็ปลุกเค้าแทบทุกวันเพื่อที่จะได้ไปทำงาน ไม่สาย (ไปสายก็โดนลูกจ้างแหน็บค่ะ เราไม่ชอบให้ใครมาว่าได้ ก็เลยพยายามปลุกเช้าตลอด7.30)
ก็ทะเลาะกันบ้างค่ะ แค่เวลาปลุกตอนเช้าบางทีก็เหวี่ยงก็โมโห
เรื่องนี้มันเป็นปัญหามาตลอดค่ะ
วันไหนที่เค้าไม่ตื่นไปทำงาน เราโทรปรึกษาแม่แฟน
เค้าก็จะตอบว่า "มันไม่ไปหนูก็ไปทำงานคนเดียวเลย"
แล้วคือเราก็ต้องไปดูแลงานดูลูกน้องคนเดียวอย่างนั้น
แต่เราก็ทำค่ะ เราทำอย่างนั้นมาตลอด
อยู่มาก็มีปัญหาอีกอย่าง คือพ่อแฟนเป็นคนค่อนข้างปากร้ายค่ะ
พูดจาไม่ค่อยจะถนอมน้ำใจสักเท่าไหร่ เช่น 1.วันๆทำ อะไร เห็นมีแต่ลูกน้องทำ 2.จะไปไหนก็ไป เอาเมียไปด้วยมาอยู่ที่นี่ก็มีแต่ปัญหา
3.ให้มันไปอยู่ที่อื่นเลย เลี้ยงไปก็เสียข้าวสุก เลี้ยงหมายังดีกว่าอีก
4.ทำแค่นี้เหนื่อยหรอ
มีครั้งนึงเค้าทะเลาะจะต่อยกับแฟนเรา แต่อยู่ๆหันมา ชี้หน้าเราแล้วบอกว่า "ก็อีกคน" เราก็งงว่าเค้าหมายถึงอะไร?
จากที่ได้ยินได้ฟังมันก็ทำให้เรารู้สึกแย่ ท้อ ไม่รู้จะทำจะทุ่มเทไปเพื่ออะไร เหมือนทำไปก็ไม่เคยดี ไม่เคยเห็นค่า
ตัวแฟนเราเองก็เป็นคนที่ชอบเอ่ยปากไล่เหมือนกันค่ะ เค้าไล่เราหลายครั้ง ไม่รู้เพราะแค่อยากเอาชนะ หรือเพราะต้องการอย่างนั้นจริงๆ
เราก็บอกเค้าตลอดว่าถ้าไม่ต้องการอย่างนั้นจริงๆ อย่าพูด
กลับมาเรื่องงานต่อ คือในการทำงานแม่แฟนก็สอนให้เราดูแลทุกอย่างช่วย ทำไปสักพักแม่ก็มีแพลนจะให้เรากับแฟนไปทำร้านอาหาร
เราก็เตรียมตัวเตรียมใจที่จะไป
แต่พอใกล้ถึงวันที่จะต้องไปจริงๆ
แม่โทรมาถามว่าสรุปจะไปไหม เราเลยตอบไปว่า "ไปค่ะ แต่ว่าแม่ต้องตกลงกับเอ(แฟนเรา)ด้วยนะว่าต้องตื่น ถ้าเอไม่ตื่นหนูก็ไม่ตื่นนะ
(ในตอนนั้นเราก็อยากให้เค้าตื่นเองให้ได้แล้ว ก็มาช่วยกันทำงาน เค้าจะได้โตสักที)
แต่พอเราขอแบบนั้น แม่แฟนไม่พอใจมากค่ะ บอกว่า"ถ้าจะพูดอย่างนี้ก็ไม่ต้องไปทำ" แล้วเค้าก็ไม่คุยกับเราอีกเลย
ตอนนั้นเราก็งงมากว่าเราก็อยากให้แฟนเราตื่นเองให้ได้ มีความรับผิดชอบต่องาน ทำไมแม่ต้องไม่พอใจขนาดนี้ด้วย หรือว่าเราต้องไปทำ แต่แฟนเราจะตื่นไม่ตื่นก็ช่างแบบนี้หรอถึงจะถูกใจเค้า
วันนั้นเราที่แม่แฟนก้ไม่คุยด้วย แฟนก็ทะเลาะไล่เราอีก บอกว่ากูไม่เอาแล้ว แม่กูก็ไม่เอาแล้ว เราเสียใจมากๆ ตลอดเวลาที่เค้าไล่เราก็ไม่เคยหายไปไหน
แต่ครั้งนี้ แม่เค้าก็ไม่เอา แล้วก็ด้วยเหตุผลหลายๆอย่างรวมกันแล้วเราไม่ไหวกับทุกอย่าง
วันนั้นเราเก็บเสื้อผ้าแล้วบอกพี่มารับกลับบ้าน
เราออกมาจากตรงนั้น ด้วยความงงในใจว่าทำไม หรือเราขอมากไป หรือเราใช้คำพูดไม่ดีรึป่าว ทำให้แม่เค้าไม่พอใจขนาดนี้
ทุกคนช่วยตอบเราทีว่าเราผิดมากใช่ไหมที่อยากให้แฟนเราตื่นเองให้ได้ มีความรับผิดชอบแล้วโตสักที เพราะเราเหนื่อยที่ต้องทะเลาะกันตั้งแต่เช้าเพราะการปลุกในแทบทุกวัน แล้วเราก็ท้อที่เค้าไม่เคยเห็นค่า