สวัสดีครับ วันนี้จะมารีวิวหูฟังบลูทูธที่ใช้สำหรับคุยโทรศัพท์โดยเฉพาะที่เผอิญผมกดสั่งซื้อมาลองแล้วใช้ดีมากๆ ราคาก็ไม่แพงมากครับ
ต้องบอกก่อนว่าปกติผมจะใช้หูฟังบลูทูธอยู่แล้ว โจทย์คือต้องคุยชัดและตัดเสียงรบกวนรอบข้างดีเพราะผมออกไปหน้างานบ่อย โดยรุ่นที่ใช้อยู่คือ Plantronics 5200 ครับ รุ่นนี้คุยชัดและตัดเสียงรบกวนดีมากแต่มีข้อเสียคือราคาค่อนข้างสูงและแบตน้อยไปหน่อย บางวันใช้หนักๆอาจใช้ไม่พอ ผมเลยมาหาตัวสำรองเพิ่มอีกตัว เจอรุ่นนี้หน้าตาคล้ายๆกัน มีรีวิวชมเยอะและราคาถูกกว่าเลยสั่งมาลองใช้ดู ลองใช้มาประมาณ 1 เดือนแล้ว ใช้ดีพอๆกับ 5200 เลย ผมเลยมารีวิวเปรียบเทียบให้ฟังกันครับ
อันนี้คือหน้าตาของ Plantronic 5200 (บน) ราคา 3200 บาท กับ Kawa K18 (ล่าง) ราคา 899 บาท (สั่งจากชอปปี้) จะเห็นว่าหน้าตาละม้ายคล้ายกันมาก งานประกอบดีทั้งคู่แต่ผิวสัมผัส 5200 ทำได้ดีกว่าครับ
สเปคของ Kawa K18
- บลูทูธ 5.1 ใช้ชิป Qualcomm QCC3020 รองรับ AptX HD
- คุยต่อเนื่อง 13 ชั่วโมง
- มี Ai ช่วยในการตัดเสียงรบกวน
- กันน้ำ IPX4
- เชื่อมต่อได้ 2 เครื่องพร้อมกัน
1. การเชื่อมต่อ
5200 จะเป็นบลูทูธ 4.1 ในขณะที่ K18 จะเป็นบลูทูธ 5.1 เชื่อมต่อไวทั้งคู่ 5200 เปิดปุ๊บจะต่อภายใน 1 วินที แต่ K18 จะประมาณ 1-2 วินาที (ทดสอบด้วยไอโฟน 12) ระยะเชื่อมต่อได้ไกลทั้งคู่
2. คุณภาพลำโพง
K18 เสียงลำโพงจะดังชัดเจนกว่า ถ้าเปิดสุดของ 5200 จะเท่ากับความดังของ K18 เปิดที่ 70% ถ้าอยู่ในออฟฟิศจะได้ยินชัดเจนทั้งคู่ ถ้าอยู่ข้างนอก 5200 เสียงลำโพงเวลาคุยจะเบาไปนิดนึง
3. คุณภาพการฟังเพลง
5200 เสียงจะออกทุ้มกว่า ของ K18 ออกกลางเด่นนิดๆ แต่ก็เบสหนักพอๆกัน ถ้าฟังเพลง 5200 จะฟังเพลงดีกว่า แต่เสียงยังเบากว่าเหมือนเดิม
4. คุณภาพไมค์
5200 จะออกไปโทนทุ้มๆนุ่มๆ ส่วน K18 จะออกใสๆเหมือนจริง อันนี้แล้วแต่คนชอบเพราะคุยชัดเจนทั้งสองรุ่นแต่คนละสไตล์
5. การตัดเสียงรบกวน
5200 มี 4 ไมค์ช่วยในการตัดเสียงรบกวน ส่วน K18 มี Ai ช่วยตัดเสียงรบกวน (ไม่ระบุจำนวนไมค์) แต่ไม่น่าเชื่อ 5200 กับ K18 ตัดเสียงรบกวนได้พอๆกันเลย ในบางสถานการณ์ K18 จะทำได้ดีกว่าด้วย อันนี้ประทับใจ K18 มาก
6. แบตเตอรี่
5200 จากสเปคจะใช้ได้ 7 ชม พอดีผมใช้ทั้งวัน ใช้จริงจะได้ประมาณ 6 ชม คือจะหมดช่วงเย็นๆ แต่มาระยะหลังๆนี่รู้สึกว่าแบตจะเสื่อม ช่วงบ่ายๆก็หมดแล้ว ใช้ไม่พอ ส่วน K18 ใช้จริงแบตจะได้ 10+ ชม คือแบตเยอะกว่า 5200 และใช้ได้ทั้งวัน แต่ไม่แน่ใจว่าถึง 13 ชม จริงไหมเพราะใช้ไม่ถึงและชาร์จทุกวัน แต่รวมๆแล้วแบตเยอะกว่า 5200
7. ลูกเล่นการใช้งาน
5200 จะโหลดแอปได้ ปรับโน่นนี่ได้เยอะกว่าแต่ส่วนตัวจะไม่ค่อยได้ใช้เพราะโทรอย่างเดียว ส่วน K18 จะไม่มีแอปเลย เชื่อมต่อกับมือถือแล้วโทร ทั้งคู่บอก % แบตที่มือถือทั้งคู่ ส่วน 5200 จะบอกตอนเปิดด้วยว่าใช้ได้อีกกี่ ชม
สรุป
จากการทดลองใช้จริง K18 คุณภาพดีใกล้เคียงกับ 5200 เลย แต่แบตจะทนกว่าและตัดเสียงรบกวนได้ดีกว่าในบางสถานการณ์ ตอนแรกตั้งใจจะสั่งมาใช้เป็นเครื่องสำรองตอนแบต 5200 หมด แต่ด้วยความที่แบต K18 ทนกว่าและคุณภาพไมค์ใกล้เคียงกันเลยใช้เป็นเครื่องหลักไปเลย แต่ขอตินิดนึงคือของ K18 จะไม่มีกล่องผลิตภัณฑ์คือใส่กระเป๋ามาเฉยๆเลย ซึ่งต่างกับ 5200 ที่มีกล่องมาให้ดูมีมาตรฐานดีกว่า แต่บอกเลยว่าคุณภาพของ K18 นี่ดีเกินราคาไปมาก แนะนำสั่งมาลองใช้กันดูครับ
[CR] รีวิว หูฟังบลูทูธตัดเสียงรบกวน Kawa K18 เน้นคุยโทรศัพท์โดยเฉพาะ ดีพอๆกับแบรนด์ดัง แต่ราคาถูกกว่ามาก
ต้องบอกก่อนว่าปกติผมจะใช้หูฟังบลูทูธอยู่แล้ว โจทย์คือต้องคุยชัดและตัดเสียงรบกวนรอบข้างดีเพราะผมออกไปหน้างานบ่อย โดยรุ่นที่ใช้อยู่คือ Plantronics 5200 ครับ รุ่นนี้คุยชัดและตัดเสียงรบกวนดีมากแต่มีข้อเสียคือราคาค่อนข้างสูงและแบตน้อยไปหน่อย บางวันใช้หนักๆอาจใช้ไม่พอ ผมเลยมาหาตัวสำรองเพิ่มอีกตัว เจอรุ่นนี้หน้าตาคล้ายๆกัน มีรีวิวชมเยอะและราคาถูกกว่าเลยสั่งมาลองใช้ดู ลองใช้มาประมาณ 1 เดือนแล้ว ใช้ดีพอๆกับ 5200 เลย ผมเลยมารีวิวเปรียบเทียบให้ฟังกันครับ
อันนี้คือหน้าตาของ Plantronic 5200 (บน) ราคา 3200 บาท กับ Kawa K18 (ล่าง) ราคา 899 บาท (สั่งจากชอปปี้) จะเห็นว่าหน้าตาละม้ายคล้ายกันมาก งานประกอบดีทั้งคู่แต่ผิวสัมผัส 5200 ทำได้ดีกว่าครับ
สเปคของ Kawa K18
- บลูทูธ 5.1 ใช้ชิป Qualcomm QCC3020 รองรับ AptX HD
- คุยต่อเนื่อง 13 ชั่วโมง
- มี Ai ช่วยในการตัดเสียงรบกวน
- กันน้ำ IPX4
- เชื่อมต่อได้ 2 เครื่องพร้อมกัน
1. การเชื่อมต่อ
5200 จะเป็นบลูทูธ 4.1 ในขณะที่ K18 จะเป็นบลูทูธ 5.1 เชื่อมต่อไวทั้งคู่ 5200 เปิดปุ๊บจะต่อภายใน 1 วินที แต่ K18 จะประมาณ 1-2 วินาที (ทดสอบด้วยไอโฟน 12) ระยะเชื่อมต่อได้ไกลทั้งคู่
2. คุณภาพลำโพง
K18 เสียงลำโพงจะดังชัดเจนกว่า ถ้าเปิดสุดของ 5200 จะเท่ากับความดังของ K18 เปิดที่ 70% ถ้าอยู่ในออฟฟิศจะได้ยินชัดเจนทั้งคู่ ถ้าอยู่ข้างนอก 5200 เสียงลำโพงเวลาคุยจะเบาไปนิดนึง
3. คุณภาพการฟังเพลง
5200 เสียงจะออกทุ้มกว่า ของ K18 ออกกลางเด่นนิดๆ แต่ก็เบสหนักพอๆกัน ถ้าฟังเพลง 5200 จะฟังเพลงดีกว่า แต่เสียงยังเบากว่าเหมือนเดิม
4. คุณภาพไมค์
5200 จะออกไปโทนทุ้มๆนุ่มๆ ส่วน K18 จะออกใสๆเหมือนจริง อันนี้แล้วแต่คนชอบเพราะคุยชัดเจนทั้งสองรุ่นแต่คนละสไตล์
5. การตัดเสียงรบกวน
5200 มี 4 ไมค์ช่วยในการตัดเสียงรบกวน ส่วน K18 มี Ai ช่วยตัดเสียงรบกวน (ไม่ระบุจำนวนไมค์) แต่ไม่น่าเชื่อ 5200 กับ K18 ตัดเสียงรบกวนได้พอๆกันเลย ในบางสถานการณ์ K18 จะทำได้ดีกว่าด้วย อันนี้ประทับใจ K18 มาก
6. แบตเตอรี่
5200 จากสเปคจะใช้ได้ 7 ชม พอดีผมใช้ทั้งวัน ใช้จริงจะได้ประมาณ 6 ชม คือจะหมดช่วงเย็นๆ แต่มาระยะหลังๆนี่รู้สึกว่าแบตจะเสื่อม ช่วงบ่ายๆก็หมดแล้ว ใช้ไม่พอ ส่วน K18 ใช้จริงแบตจะได้ 10+ ชม คือแบตเยอะกว่า 5200 และใช้ได้ทั้งวัน แต่ไม่แน่ใจว่าถึง 13 ชม จริงไหมเพราะใช้ไม่ถึงและชาร์จทุกวัน แต่รวมๆแล้วแบตเยอะกว่า 5200
7. ลูกเล่นการใช้งาน
5200 จะโหลดแอปได้ ปรับโน่นนี่ได้เยอะกว่าแต่ส่วนตัวจะไม่ค่อยได้ใช้เพราะโทรอย่างเดียว ส่วน K18 จะไม่มีแอปเลย เชื่อมต่อกับมือถือแล้วโทร ทั้งคู่บอก % แบตที่มือถือทั้งคู่ ส่วน 5200 จะบอกตอนเปิดด้วยว่าใช้ได้อีกกี่ ชม
สรุป
จากการทดลองใช้จริง K18 คุณภาพดีใกล้เคียงกับ 5200 เลย แต่แบตจะทนกว่าและตัดเสียงรบกวนได้ดีกว่าในบางสถานการณ์ ตอนแรกตั้งใจจะสั่งมาใช้เป็นเครื่องสำรองตอนแบต 5200 หมด แต่ด้วยความที่แบต K18 ทนกว่าและคุณภาพไมค์ใกล้เคียงกันเลยใช้เป็นเครื่องหลักไปเลย แต่ขอตินิดนึงคือของ K18 จะไม่มีกล่องผลิตภัณฑ์คือใส่กระเป๋ามาเฉยๆเลย ซึ่งต่างกับ 5200 ที่มีกล่องมาให้ดูมีมาตรฐานดีกว่า แต่บอกเลยว่าคุณภาพของ K18 นี่ดีเกินราคาไปมาก แนะนำสั่งมาลองใช้กันดูครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้