สวัสดีครับ ผมได้ทำการกู้สินเชื่อบ้าน กับทางธนาคารกรุงไทย
ครบสัญญา 3 ปี ในวันที่ 9 สค. มีความไม่สะดวกต่างๆ เกิดขึ้น
ทำให้เกิดคำถามว่า เป็นขั้นตอนปกติของทุกธนาคาร เลยหรือเปล่าครับ
จึงอยากสอบถามเพื่อนสมาชิกที่มีประสบการณ์ ในแต่ละข้อ ดังนี้ครับ
คำถามข้อแรก เรื่องการขอ Retention
ผมยื่นเรื่องไปก่อนครบสัญญาประมาณ. 3 สัปดาห์
แต่ จนท.สินเชื่อที่ทำเรื่องให้ แจ้งว่า
ต้องครบกำหนดก่อน จึงจะสามารถยื่นขอ retention เข้าไปได้
และของกรุงไทย กว่าจะทราบดอกเบี้ยที่ได้รับการปรับลด จะใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์
ดังนั้น กว่าที่ผมจะสามารถตัดสินใจว่าจะ retention หรือ refinance ได้ ก็จะใช้เวลาราวๆ เกือบ 1 เดือน ทำให้ผมต้องเสียดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นมาหลังจาก 3 ปี ราวๆ 4 - 5 พันบาท
สำหรับคำถามข้อนี้ คือ เป็นทุกธนาคารเลยหรือเปล่าครับ ที่ต้องครบกำหนดก่อน จึงจะสามารถยื่นขอ retention เข้าไปได้
คำถามข้อสอง เรื่องการขอยื่นไถ่ถอน เพื่อไป refinance กับธนาคารอื่น
ขั้นตอนที่ทางเจ้าหน้าที่แจ้งมาคือ ต้องทำการยื่นเรื่องเพื่อขออนุมัติ (เท่าๆ ที่อ่านจากที่ เพื่อนสมาชิกเคยบอก จะใช้เวลาประมาณ 2 - 3 สัปดาห์)
เมื่ออนุมัติแล้วจึงจะส่งโฉนดไปยัง ส.เขต พื้นที่ๆ บ้านตั้งอยู่ และนัดวันที่ไถ่ถอน (จนท. แจ้งว่าส่งไปทางไปรณีย์ ใช้เวลาอีกราวๆ 2 - 3 วัน)
ทำให้ กว่าจะรู้วันที่นัดไถ่ถอนและยอดเงินปิดบัญชีได้ จะใช้เวลาอีกราวๆ 3 สัปดาห์ (วันนัดและยอดปิด ต้องนำไปแจ้งยังธนาคารใหม่ เพื่อทำการนัดเจ้าหน้าที่ และทำเช็คต่างๆ เพื่อปิดยอดครับ)
สำหรับคำถามข้อนี้ คือ เป็นทุกธนาคารเลยหรือเปล่าครับ ที่ขั้นตอนขอไถ่ถอนเป็นแบบนี้ และใช้เวลานานขนาดนี้
สรุปนะครับ
1. ถ้าจะเลือก retention กับทางกรุงไทย ต้องเสียดอกเบี้ยที่แพงขึ้นหลังจากครบกำหนด 3 ปี ไปประมาณ 1 เดือนก่อน ยอดของผมคือราวๆ 5,000 บาท
2. ถ้าบทสรุปคือ ไถ่ถอนกับทางกรุงไทย ต้องเสียดอกเบี้ยที่แพงขึ้นหลังจากครบกำหนด 3 ปี ไปประมาณ 2 เดือนก่อน ยอดของผมคือราวๆ 10,000 บาท
ดังนั้น
ถ้าไม่อยากเสียดอกเบี้ยที่แพงขึ้นนี้ ต้องเลือกไถ่ถอนออกจากกรุงไทยอย่างเดียว และต้องทำเรื่องกับทางธนาคารอื่นล่วงหน้าราวๆ 1 เดือน
ผมสงสัยข้อสุดท้ายนี้ ที่ทำไมเหมือนกรุงไทยบีบให้ลูกค้าต้องเลือกไถ่ถอนอย่างเดียวเลยครับ หรือธนาคารอื่นๆ ก็เป็นแบบนี้ครับ
สอบถามขั้นตอนการขอ Retention และการขอไถ่ถอนเพื่อไปรีไฟแนนซ์ (Refinance) ของธนาคารต่างๆ ครับ
ครบสัญญา 3 ปี ในวันที่ 9 สค. มีความไม่สะดวกต่างๆ เกิดขึ้น
ทำให้เกิดคำถามว่า เป็นขั้นตอนปกติของทุกธนาคาร เลยหรือเปล่าครับ
จึงอยากสอบถามเพื่อนสมาชิกที่มีประสบการณ์ ในแต่ละข้อ ดังนี้ครับ
คำถามข้อแรก เรื่องการขอ Retention
ผมยื่นเรื่องไปก่อนครบสัญญาประมาณ. 3 สัปดาห์
แต่ จนท.สินเชื่อที่ทำเรื่องให้ แจ้งว่า ต้องครบกำหนดก่อน จึงจะสามารถยื่นขอ retention เข้าไปได้
และของกรุงไทย กว่าจะทราบดอกเบี้ยที่ได้รับการปรับลด จะใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์
ดังนั้น กว่าที่ผมจะสามารถตัดสินใจว่าจะ retention หรือ refinance ได้ ก็จะใช้เวลาราวๆ เกือบ 1 เดือน ทำให้ผมต้องเสียดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นมาหลังจาก 3 ปี ราวๆ 4 - 5 พันบาท
สำหรับคำถามข้อนี้ คือ เป็นทุกธนาคารเลยหรือเปล่าครับ ที่ต้องครบกำหนดก่อน จึงจะสามารถยื่นขอ retention เข้าไปได้
คำถามข้อสอง เรื่องการขอยื่นไถ่ถอน เพื่อไป refinance กับธนาคารอื่น
ขั้นตอนที่ทางเจ้าหน้าที่แจ้งมาคือ ต้องทำการยื่นเรื่องเพื่อขออนุมัติ (เท่าๆ ที่อ่านจากที่ เพื่อนสมาชิกเคยบอก จะใช้เวลาประมาณ 2 - 3 สัปดาห์)
เมื่ออนุมัติแล้วจึงจะส่งโฉนดไปยัง ส.เขต พื้นที่ๆ บ้านตั้งอยู่ และนัดวันที่ไถ่ถอน (จนท. แจ้งว่าส่งไปทางไปรณีย์ ใช้เวลาอีกราวๆ 2 - 3 วัน)
ทำให้ กว่าจะรู้วันที่นัดไถ่ถอนและยอดเงินปิดบัญชีได้ จะใช้เวลาอีกราวๆ 3 สัปดาห์ (วันนัดและยอดปิด ต้องนำไปแจ้งยังธนาคารใหม่ เพื่อทำการนัดเจ้าหน้าที่ และทำเช็คต่างๆ เพื่อปิดยอดครับ)
สำหรับคำถามข้อนี้ คือ เป็นทุกธนาคารเลยหรือเปล่าครับ ที่ขั้นตอนขอไถ่ถอนเป็นแบบนี้ และใช้เวลานานขนาดนี้
สรุปนะครับ
1. ถ้าจะเลือก retention กับทางกรุงไทย ต้องเสียดอกเบี้ยที่แพงขึ้นหลังจากครบกำหนด 3 ปี ไปประมาณ 1 เดือนก่อน ยอดของผมคือราวๆ 5,000 บาท
2. ถ้าบทสรุปคือ ไถ่ถอนกับทางกรุงไทย ต้องเสียดอกเบี้ยที่แพงขึ้นหลังจากครบกำหนด 3 ปี ไปประมาณ 2 เดือนก่อน ยอดของผมคือราวๆ 10,000 บาท
ดังนั้น ถ้าไม่อยากเสียดอกเบี้ยที่แพงขึ้นนี้ ต้องเลือกไถ่ถอนออกจากกรุงไทยอย่างเดียว และต้องทำเรื่องกับทางธนาคารอื่นล่วงหน้าราวๆ 1 เดือน
ผมสงสัยข้อสุดท้ายนี้ ที่ทำไมเหมือนกรุงไทยบีบให้ลูกค้าต้องเลือกไถ่ถอนอย่างเดียวเลยครับ หรือธนาคารอื่นๆ ก็เป็นแบบนี้ครับ