สวัสดีค่ะทุกๆคน ออกตัวก่อนว่าเราคือคนนอกด้อมที่เข้ามาดูเพราะอยากจะ appreciate ผลงานชิ้นนี้โดยเฉพาะการค้นหาความหมายที่ซ่อนอยู่ใน mv เราจะชอบมาก ความจริงแล้วกระทู้นี้คิดว่าจะไม่ทำแล้ว เพราะเยอะมากวิเคราะห์จนเหนื่อย แต่รู้สึกคาใจก็เลยลงดีกว่า ไม่รู้ mv ช้ำหมดแล้วยัง ถ้ามาช้าไปขอโทษด้วยนะคะ
การวิเคราะห์เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็น ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ พื้นฐานความรู้และภูมิหลังอื่นๆ ไม่มีอะไรตายตัวนะคะ เรามองทุกอย่างว่ามีความหมายทั้งๆที่บางอย่างอาจจะไม่ได้สื่ออะไรเลย และไม่ดูวิเคราะห์ที่อื่นเพื่อให้ได้ข้อมูลของตัวเองแบบที่มาจากตัวเองอย่างแท้จริง และเนื่องจากมันเยอะมากเลยจะเขียนปนตลกให้อ่านไม่เบื่อนะคะ เริ่มกันเลยค่ะ
Solo ‘LALISA’ พูดถึงตัวตันของลิซ่า ?
สิ่งที่ลิซ่าเคยผ่านมา ?
ลิซ่าสายมู ร่ายมนต์ดำ(ชมพู) มูเตลูทั้ง MV ?
เริ่มกันที่ฉากแรก เปิดตัวด้วยภาพหลังลิซ่าในเฉดสีเทาหรือที่เราเรียกกันว่าภาพขาวดำ ซึ่งเข้ากับเนื้อเพลง ‘แค่เพียงเห็นด้านหลังก็รู้เลย...’ ท่อนต่อไปคือ ‘…แม้ยามมืดมิดก็ส่องประกาย…’ กลายเป็นว่ามีแสงสีชมพูเฟดเข้ามาตรงท่อนนี้พอดี และเฟดกลับไปที่ขาวดำต่อ โดยทุกครั้งที่เพลงพูดถึงแสงไฟหรือสปอร์ตไลท์บนเวทีจะมีการเฟดแสงเข้าออก เริ่มด้วยเฟดแสงแรกเข้ามาคือสีดำแล้วตามสีชมพูเสมอ สลับกันไปแบบนี้ซ้ำๆอยู่ประมาณ 20 วินาที นี่มันสีของ BLACKPINK วงของเธอนี่ลิซ่า!
แต่ทุกคนไม่ต้องแปลกใจนะคะว่าทำไมเห็นแต่ข้างหลังของลิซ่า นั่นเป็นเพราะว่าลิซ่ากำลังนำทางเราอยู่ต่างหาก ฉากชุดราตรีดำสิ่งที่ลิซ่ากำลังเดินไปหาคือ ‘ประตูที่มีอักษร L’ ซึ่งเป็นอักษรแรกของชื่อ Lalisa หรือ Lisa เธอพร้อมจะเข้าสู่โลกที่มีแต่ตัว L แล้วหรือยัง ?
ภาพตัดมาอีกโลกแล้ว ลิซ่าใส่ชุดสีดำนั่งอยู่บนตัวอักษร L และที่สำคัญ mv ยังไม่หยุดเฟดสีชมพูเข้ามาอีก มีสีดำที่ไหนต้องมีสีชมพูนี่คือสิ่งที่เราจะเจอได้ตลอด แต่มันก็ทำให้คำว่า LALISA สีขาวเด่นขึ้นมาด้วยนะ
ต่อมาคือฉากสุดแสนจะสตรีท เราคงเห็นตั้งแต่ต้นแล้วว่ามีป้ายทั้งที่เกี่ยวกับอาหารและไม่เกี่ยวเยอะแยะไปหมด ทั้งภาษาไทย อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น เรียกได้ว่าเอาใจ BLINK แบบเต็มๆเลย และอีกอย่างสีที่ยังไม่เคยหลุดออกไปจากสายตาคือสีชมพู โทนชมพูนี่มันฮอตฮิตจริงๆ แต่เอ๊ะ! นั่นมันป้าย ‘Snack Bar’ นี่นา มันชวนให้นึกถึง...
ฉากนี้ในเพลง Kill This Love ของว่างวางเต็มห้องไปหมดเลย Snack Bar ที่แท้จริงคือซีเรียลสีสันน่ารักพวกนี้ที่ลิซ่าเคยผ่านมาใช่มั้ย?
ตัดมาที่ฉากเดิมตรงกับท่อนที่ร้องว่า ‘Burn Burn Burn’ ความจริงแล้วมันไม่มีอะไรหรอกค่ะ เพียงแต่การที่แดนเซอร์ในตู้กระจกเต้นแบบเกาะกระจกแล้วค่อยๆย่อตัวลงมา มันทำให้เรารู้สึกว่าพวกเขาหลอมละลายไปกับ ‘Now burn baby burn’ ของลิซ่าจริงๆ
ป้าย ‘DURING LOCKDOWN’ คิดว่าทุกคนคงเข้าใจกันดีกว่าช่วงนี้เรากำลังเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ทำร้ายความรู้สึกและจิตใจรวมไปถึงการใช้ชีวิตด้วย ความจริงแล้วหลายๆวงก็พูดเรื่องนี้ ใน mv นี้ก็หยิบยกประเด็นนี้มาเช่นกัน มันเจ็บปวดมากจริงๆ นั่งคนเดียวไปก่อนนะลิซ่า เอาไว้สถานการณ์ดีขึ้นดี๋ยวเพื่อน BLINK คงไปหา
ก่อนจะเซ็งไปกว่านี้มาดูลิซ่าชวนพวกเราดื่มแชมเปญสีชมพูสดใสกันดีกว่า ก็ยกยั่วๆแบบพรีเซนเตอร์ไปเลยสิคะ... แต่ทำไมเนื้อเพลงบอกว่าให้ ‘จิบแชมเปญรสนุ่มจากตัว’ สรุปแชมเปญที่ว่านี่คือตัวเธอเหรอ?
ลิซ่าคนบ้าคนผีทะเล! ><
ท่อนต่อไปคือ ‘โปรดจงรักภักดีต่อร่างกายฉัน’ แล้วลิซ่าก็นอนอยู่บนผืนผ้าสีชมพู (อีกแล้ว) พร้อมกับมีมือคนจำนวนมากคล้ายว่ากำลังดันลิซ่าขึ้นมา สื่อให้เห็นถึงการเป็นที่รักน่ายกย่องชื่นชมเหนือคนทั้งปวง อู้หูวว
ฉากต่อมาก็แค่ยืนเท่ ๆ พร้อมกับหมวกที่เขียนว่า ‘LALISA’ มีชื่อเธอทุกที่จริงๆเลย
แต่ก็ต้องเอ๊ะอีกรอบ ใครเป็นคนแปะโปสเตอร์กันนะ น่าสนใจจริงๆ
มันเป็นเรื่องบังเอิญแหละที่โปสเตอร์ AMARENA FABBRI มันคือผลิตภัณฑ์จากเชอร์รีป่า คือน้ำหวานที่คนนิยมนำมาทำขนมหรือใส่ในเครื่องดื่ม มันไม่เกี่ยวกับแชมเปญสีชมพูรสนุ่มที่ลิซ่าบอกหรอก รวมถึงโปสเตอร์ CANYON MOON ก็ดันเป็นชื่อเพลงของ Harry Styles สมาชิกวงบอยแบนด์อย่าง One Direction มันยังไงแน่นะ เราเองก็ไม่ใช่แฟนคลับ รบกวนเพื่อน BLINK ช่วยตอบด้วยนะคะว่าพวกเขาเป็นเพื่อนกันหรือเปล่า?
เข้าท่อนฮุคของเพลงแล้ว ‘Say Lalisa love me Lalisa love me’ ยังคงสังเกตเห็นตัว L เหมือนเดิม เพียงแต่คราวนี้มาอยู่ในท่าเต้น โดยท่าเต้นจะทำเป็นรูปตัวอักษร L และ LA ใครสายเต้นคงจะได้แกะท่ากันไปแล้วใช่มั้ยคะ แล้วมีใครเห็นไฟนีออนรูปผู้หญิงผมสั้นข้างบนบ้าง เราว่านั่นก็คือลิซ่าในลุคผมสั้นนะ
จากรูปข้างบนเห็นป้าย ‘อาหารจานด่วน’ และชื่ออาหารเอเชียอื่นด้วย แถมลิซ่าก็กำลังสวมหมวกกันน็อคจะขับรถไปไหนหรือเปล่า ?
เท่ไปเลยล่ะสิ อย่าลืมสวมหมวกนิรภัยแบบลิซ่านะคะทุกคน กลับมาที่ mv หลายคนคงจะงงว่าลิซ่าจะขี่ไปไหน ใช่ เราก็งง ไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเลยเพราะมันไม่ใช่วงมโหรี แฮร่!
รู้เพียงแค่ว่าจากเนื้อเพลงลิซ่าบอกให้เรียกชื่อลิซ่าดังๆแบบดังที่สุดตามความหมายบนป้ายทะเบียน ‘LOUDEST’
ลิซ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาา ~ !
ยังคงวนเวียนอยู่กับการขับรถ ถึงแม้ไม่รู้ว่าลิซ่าจะไปไหนกันแน่ แต่ดูจากภาพที่ขับขี่อยู่ในอุโมงค์แล้ว เส้นทางยังอีกยาวไกลเลย เอาเป็นว่าขับขี่ปลอดภัยนะลิซ่า
เดี๋ยวก่อนนนนนน... เมื่อกี้เราพูดว่า ‘เส้นทางยังอีกยาวไกล’ เหรอ? หรือว่าการขี่มอเตอร์ไซค์ในครั้งนี้ของลิซ่าไม่ได้หมายความถึงตอนนี้ล่ะ? ถ้ามันหมายถึงช่วงเวลาอื่น? ถ้าเราหาสิ่งที่เป็นสัญญะเจอ เราอาจจะพบสิ่งที่ซ่อนอยู่ก็ได้นะ
หรือว่าจะเป็น....
อืมมม เราว่ามันแปลกๆนะ ข้อสันนิษฐานที่ว่าการเดินทางของลิซ่าที่เราเห็นมันอาจไม่ใช่ช่วงปัจจุบัน ถ้าอย่างนั้นแปลว่า...สร้อยคอไม้กางเขน...คือสัญลักษณ์ร่วมของ...!
.
.
.
.
.
เข้าใจแล้ว ‘จุดเริ่มต้น’ ของเธอ ก็คือเพลง BOOMBAYAH เพลงเดบิวต์ของ BLACKPINK สินะลิซ่าตื๊ด..ตื๊ด..ตื๊ด.. BLACKPINK IN YOUR AREA ~ AH! งั้นแปลว่า...การเดินทางครั้งนี้เปรียบเสมือนการเดินทางไล่ตามความฝันใช่มั้ย? อุโมงค์แทนเส้นทางอันยาวไกลอย่างที่คิดแน่ๆเลย
งั้นลองสังเกตภาพ 2 ภาพข้างล่างซึ่งเป็นฉากที่ต่อกันตาม mv ดูนะ
ตำแหน่งของทิศที่ลิซ่ากำลังพุ่งไปได้เปลี่ยนมาเป็นอีกฉากที่ถูกทับซ้อนในตำแหน่งเดียวกันด้วยแสงไฟฉาย (ใน mv นาทีที่ 1:20) ถึงแม้มันอาจจะเป็นเพียงทฤษฎีทาง Production เพื่อดึงดูดสายตาผู้ชม แต่เรามองว่ามันมีความหมาย มันคือการที่ลิซ่าเดินทางไปหาแสงสว่างนั่นก็คือ...
การประสบความสำเร็จ
ฉากนี้จะเห็นว่ามีการแปลงคำจาก POLICE เป็น POLISA อย่างที่รู้กันว่าตอนนี้เราอยู่ในโลกของลิซ่าแล้ว ลิซ่าเลยตั้งใจจะให้ทุกอย่างเป็นชื่อตัวเองหรือเป็นอะไรที่มันเกี่ยวกับลิซ่า อีกอย่างท้ายคำของทั้ง 2 คำ คือ LICE (ลิซ) กับ LISA (ลิซ่า) มันคือชื่อเธอทั้งคู่เลยนะเนี่ย แถมฉากนี้ลิซ่ามาพร้อมกับการแร็ปแบบเท่ๆด้วย
‘Baby get the megaphone, Put it on speaker
I said I can hear you, So you need to speak up’
เรามองว่าลิซ่าพูดถึงแอนตี้ค่ะ เหมือนบอกว่าพูดให้ดังกว่านี้หน่อยเพราะมันไม่ได้ยินเลย นั่นคือ ลิซ่าประสบความสำเร็จมากจนไม่ได้ยินเสียงอะไรแล้ว บางช่วงสไตล์การแร็ปทำให้เรานึกถึง Nicki Minaj ด้วย คิดถึงจริงๆ
อีกประเด็นคือเรามองว่ามันคือการเล่นคำให้คล้องกับคำว่า Pole dance ซึ่งหมายถึงการเต้นรูดเสาที่เรารู้จักกันนั่นแหละ ในเมืองไทยให้ความหมายไปในทางลบแต่จริงๆแล้ว Pole dance ก็เป็นเพียงการเต้นอีกสายหนึ่งที่ได้รับการยอมรับโดยทั่วไปเหมือนการเต้นในรูปแบบอื่นๆ ซึ่งลิซ่ากำลังจะโชว์ให้เราเห็นในฉากถัดไป
Pole dance นิยมเต้นด้วยอินเนอร์เซ็กซี่ ใน mv จึงมีการใส่เล่นฉากให้เห็นถึงความเท่ของการแร็ปแล้วตัดมาเป็นสายตาเย้ายวน
ไม่แน่ใจว่าลิซ่าอาจจะฝึก Pole dance เพื่อโซโล่นี้โดยเฉพาะ เป็นไปได้นะว่าในอนาคตเพื่อน BLINK อาจจะได้เห็นลิซ่าโชว์ Pole dance ในระดับสูงกว่าที่โชว์ใน mv
*ติดตามต่อใน Comment
วิเคราะห์ MV + เพลง Solo ‘LALISA’ มีอะไรซ่อนอยู่ ?
การวิเคราะห์เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็น ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ พื้นฐานความรู้และภูมิหลังอื่นๆ ไม่มีอะไรตายตัวนะคะ เรามองทุกอย่างว่ามีความหมายทั้งๆที่บางอย่างอาจจะไม่ได้สื่ออะไรเลย และไม่ดูวิเคราะห์ที่อื่นเพื่อให้ได้ข้อมูลของตัวเองแบบที่มาจากตัวเองอย่างแท้จริง และเนื่องจากมันเยอะมากเลยจะเขียนปนตลกให้อ่านไม่เบื่อนะคะ เริ่มกันเลยค่ะ
เริ่มกันที่ฉากแรก เปิดตัวด้วยภาพหลังลิซ่าในเฉดสีเทาหรือที่เราเรียกกันว่าภาพขาวดำ ซึ่งเข้ากับเนื้อเพลง ‘แค่เพียงเห็นด้านหลังก็รู้เลย...’ ท่อนต่อไปคือ ‘…แม้ยามมืดมิดก็ส่องประกาย…’ กลายเป็นว่ามีแสงสีชมพูเฟดเข้ามาตรงท่อนนี้พอดี และเฟดกลับไปที่ขาวดำต่อ โดยทุกครั้งที่เพลงพูดถึงแสงไฟหรือสปอร์ตไลท์บนเวทีจะมีการเฟดแสงเข้าออก เริ่มด้วยเฟดแสงแรกเข้ามาคือสีดำแล้วตามสีชมพูเสมอ สลับกันไปแบบนี้ซ้ำๆอยู่ประมาณ 20 วินาที นี่มันสีของ BLACKPINK วงของเธอนี่ลิซ่า!
ภาพตัดมาอีกโลกแล้ว ลิซ่าใส่ชุดสีดำนั่งอยู่บนตัวอักษร L และที่สำคัญ mv ยังไม่หยุดเฟดสีชมพูเข้ามาอีก มีสีดำที่ไหนต้องมีสีชมพูนี่คือสิ่งที่เราจะเจอได้ตลอด แต่มันก็ทำให้คำว่า LALISA สีขาวเด่นขึ้นมาด้วยนะ
ต่อมาคือฉากสุดแสนจะสตรีท เราคงเห็นตั้งแต่ต้นแล้วว่ามีป้ายทั้งที่เกี่ยวกับอาหารและไม่เกี่ยวเยอะแยะไปหมด ทั้งภาษาไทย อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น เรียกได้ว่าเอาใจ BLINK แบบเต็มๆเลย และอีกอย่างสีที่ยังไม่เคยหลุดออกไปจากสายตาคือสีชมพู โทนชมพูนี่มันฮอตฮิตจริงๆ แต่เอ๊ะ! นั่นมันป้าย ‘Snack Bar’ นี่นา มันชวนให้นึกถึง...
ฉากนี้ในเพลง Kill This Love ของว่างวางเต็มห้องไปหมดเลย Snack Bar ที่แท้จริงคือซีเรียลสีสันน่ารักพวกนี้ที่ลิซ่าเคยผ่านมาใช่มั้ย?
ตัดมาที่ฉากเดิมตรงกับท่อนที่ร้องว่า ‘Burn Burn Burn’ ความจริงแล้วมันไม่มีอะไรหรอกค่ะ เพียงแต่การที่แดนเซอร์ในตู้กระจกเต้นแบบเกาะกระจกแล้วค่อยๆย่อตัวลงมา มันทำให้เรารู้สึกว่าพวกเขาหลอมละลายไปกับ ‘Now burn baby burn’ ของลิซ่าจริงๆ
ป้าย ‘DURING LOCKDOWN’ คิดว่าทุกคนคงเข้าใจกันดีกว่าช่วงนี้เรากำลังเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ทำร้ายความรู้สึกและจิตใจรวมไปถึงการใช้ชีวิตด้วย ความจริงแล้วหลายๆวงก็พูดเรื่องนี้ ใน mv นี้ก็หยิบยกประเด็นนี้มาเช่นกัน มันเจ็บปวดมากจริงๆ นั่งคนเดียวไปก่อนนะลิซ่า เอาไว้สถานการณ์ดีขึ้นดี๋ยวเพื่อน BLINK คงไปหา
ก่อนจะเซ็งไปกว่านี้มาดูลิซ่าชวนพวกเราดื่มแชมเปญสีชมพูสดใสกันดีกว่า ก็ยกยั่วๆแบบพรีเซนเตอร์ไปเลยสิคะ... แต่ทำไมเนื้อเพลงบอกว่าให้ ‘จิบแชมเปญรสนุ่มจากตัว’ สรุปแชมเปญที่ว่านี่คือตัวเธอเหรอ?
ฉากต่อมาก็แค่ยืนเท่ ๆ พร้อมกับหมวกที่เขียนว่า ‘LALISA’ มีชื่อเธอทุกที่จริงๆเลย
แต่ก็ต้องเอ๊ะอีกรอบ ใครเป็นคนแปะโปสเตอร์กันนะ น่าสนใจจริงๆ
มันเป็นเรื่องบังเอิญแหละที่โปสเตอร์ AMARENA FABBRI มันคือผลิตภัณฑ์จากเชอร์รีป่า คือน้ำหวานที่คนนิยมนำมาทำขนมหรือใส่ในเครื่องดื่ม มันไม่เกี่ยวกับแชมเปญสีชมพูรสนุ่มที่ลิซ่าบอกหรอก รวมถึงโปสเตอร์ CANYON MOON ก็ดันเป็นชื่อเพลงของ Harry Styles สมาชิกวงบอยแบนด์อย่าง One Direction มันยังไงแน่นะ เราเองก็ไม่ใช่แฟนคลับ รบกวนเพื่อน BLINK ช่วยตอบด้วยนะคะว่าพวกเขาเป็นเพื่อนกันหรือเปล่า?
เข้าท่อนฮุคของเพลงแล้ว ‘Say Lalisa love me Lalisa love me’ ยังคงสังเกตเห็นตัว L เหมือนเดิม เพียงแต่คราวนี้มาอยู่ในท่าเต้น โดยท่าเต้นจะทำเป็นรูปตัวอักษร L และ LA ใครสายเต้นคงจะได้แกะท่ากันไปแล้วใช่มั้ยคะ แล้วมีใครเห็นไฟนีออนรูปผู้หญิงผมสั้นข้างบนบ้าง เราว่านั่นก็คือลิซ่าในลุคผมสั้นนะ
จากรูปข้างบนเห็นป้าย ‘อาหารจานด่วน’ และชื่ออาหารเอเชียอื่นด้วย แถมลิซ่าก็กำลังสวมหมวกกันน็อคจะขับรถไปไหนหรือเปล่า ?
เท่ไปเลยล่ะสิ อย่าลืมสวมหมวกนิรภัยแบบลิซ่านะคะทุกคน กลับมาที่ mv หลายคนคงจะงงว่าลิซ่าจะขี่ไปไหน ใช่ เราก็งง ไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเลยเพราะมันไม่ใช่วงมโหรี แฮร่!
รู้เพียงแค่ว่าจากเนื้อเพลงลิซ่าบอกให้เรียกชื่อลิซ่าดังๆแบบดังที่สุดตามความหมายบนป้ายทะเบียน ‘LOUDEST’
ลิซ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาา ~ !
ยังคงวนเวียนอยู่กับการขับรถ ถึงแม้ไม่รู้ว่าลิซ่าจะไปไหนกันแน่ แต่ดูจากภาพที่ขับขี่อยู่ในอุโมงค์แล้ว เส้นทางยังอีกยาวไกลเลย เอาเป็นว่าขับขี่ปลอดภัยนะลิซ่า
เดี๋ยวก่อนนนนนน... เมื่อกี้เราพูดว่า ‘เส้นทางยังอีกยาวไกล’ เหรอ? หรือว่าการขี่มอเตอร์ไซค์ในครั้งนี้ของลิซ่าไม่ได้หมายความถึงตอนนี้ล่ะ? ถ้ามันหมายถึงช่วงเวลาอื่น? ถ้าเราหาสิ่งที่เป็นสัญญะเจอ เราอาจจะพบสิ่งที่ซ่อนอยู่ก็ได้นะ
หรือว่าจะเป็น....
อืมมม เราว่ามันแปลกๆนะ ข้อสันนิษฐานที่ว่าการเดินทางของลิซ่าที่เราเห็นมันอาจไม่ใช่ช่วงปัจจุบัน ถ้าอย่างนั้นแปลว่า...สร้อยคอไม้กางเขน...คือสัญลักษณ์ร่วมของ...!
.
.
.
.
.
เข้าใจแล้ว ‘จุดเริ่มต้น’ ของเธอ ก็คือเพลง BOOMBAYAH เพลงเดบิวต์ของ BLACKPINK สินะลิซ่าตื๊ด..ตื๊ด..ตื๊ด.. BLACKPINK IN YOUR AREA ~ AH! งั้นแปลว่า...การเดินทางครั้งนี้เปรียบเสมือนการเดินทางไล่ตามความฝันใช่มั้ย? อุโมงค์แทนเส้นทางอันยาวไกลอย่างที่คิดแน่ๆเลย
งั้นลองสังเกตภาพ 2 ภาพข้างล่างซึ่งเป็นฉากที่ต่อกันตาม mv ดูนะ
ตำแหน่งของทิศที่ลิซ่ากำลังพุ่งไปได้เปลี่ยนมาเป็นอีกฉากที่ถูกทับซ้อนในตำแหน่งเดียวกันด้วยแสงไฟฉาย (ใน mv นาทีที่ 1:20) ถึงแม้มันอาจจะเป็นเพียงทฤษฎีทาง Production เพื่อดึงดูดสายตาผู้ชม แต่เรามองว่ามันมีความหมาย มันคือการที่ลิซ่าเดินทางไปหาแสงสว่างนั่นก็คือ...
การประสบความสำเร็จ
ฉากนี้จะเห็นว่ามีการแปลงคำจาก POLICE เป็น POLISA อย่างที่รู้กันว่าตอนนี้เราอยู่ในโลกของลิซ่าแล้ว ลิซ่าเลยตั้งใจจะให้ทุกอย่างเป็นชื่อตัวเองหรือเป็นอะไรที่มันเกี่ยวกับลิซ่า อีกอย่างท้ายคำของทั้ง 2 คำ คือ LICE (ลิซ) กับ LISA (ลิซ่า) มันคือชื่อเธอทั้งคู่เลยนะเนี่ย แถมฉากนี้ลิซ่ามาพร้อมกับการแร็ปแบบเท่ๆด้วย
อีกประเด็นคือเรามองว่ามันคือการเล่นคำให้คล้องกับคำว่า Pole dance ซึ่งหมายถึงการเต้นรูดเสาที่เรารู้จักกันนั่นแหละ ในเมืองไทยให้ความหมายไปในทางลบแต่จริงๆแล้ว Pole dance ก็เป็นเพียงการเต้นอีกสายหนึ่งที่ได้รับการยอมรับโดยทั่วไปเหมือนการเต้นในรูปแบบอื่นๆ ซึ่งลิซ่ากำลังจะโชว์ให้เราเห็นในฉากถัดไป
Pole dance นิยมเต้นด้วยอินเนอร์เซ็กซี่ ใน mv จึงมีการใส่เล่นฉากให้เห็นถึงความเท่ของการแร็ปแล้วตัดมาเป็นสายตาเย้ายวน
ไม่แน่ใจว่าลิซ่าอาจจะฝึก Pole dance เพื่อโซโล่นี้โดยเฉพาะ เป็นไปได้นะว่าในอนาคตเพื่อน BLINK อาจจะได้เห็นลิซ่าโชว์ Pole dance ในระดับสูงกว่าที่โชว์ใน mv