ศาสนาพุทธเคยมีคำสอนที่ว่าเดินตามบัณฑิตแล้วได้ดี ในพุทธประวัติพระพุทธเจ้า พระองค์ได้ทรงได้หาธรรมเพื่อพ้นทุกจากอาจารย์ทั้งหลาย ซึ่งพระองค์ถือเป็นว่าบัณฑิต เราจะสังเกตได้ว่าไม่ว่าเราจะอยู่ใกล้ใครเราจะมีอุปนิสัยใกล้เคียงกัน อยู่ใกล้คนดีเราก็เป็นคนดี อยู่ใกล้คนแบบไหนเราก็อาจเป็นแบบนั้น เช่นไอน์สไตน์เป็นชาวพุทธอยู่ใกล้กับผู้ที่เป็นชาวคริสต์ ชาวยิว เขาเลยฉลาดกว่าเพราะอาจเป็นผู้เรียนที่ดีถ้าได้อ่านจากประวัติ  เราเห็นผู้ใหญ่รักขโมย เราก็อาจทำตาม เราเห็นใครทำอะไรเราก็อาจทำตาม แต่ศาสนาคริสต์มีความคิดแปลก คิดสิ่งใหม่อยู่เสมอ เราถึงเรียนรู้กับเขาไม่รู้จบ ไม่ว่าอะไรเราก็คัดลอกจากเขา เราเป็นผู้เรียน 

เคยสังเกตไหมว่าความคิดแรกที่ดังอยู่ในหัวแล้วเราทำตามแล้วถูกทั้งๆที่เราไม่รู้ แต่เสียงนั้นเราเคยได้ยินว่าคล้ายใคร ถ้าเราเคยเล่นเกมส์ทำกิจกรรมสงคราม เวลาตายแล้วมาเกิดใหม่ แล้วคิดว่าจะไปต่อดีไหม มีเสียงบอกมาว่าอย่าไป ซึ่งเราไม่ทำตามปัญหาเกิดเพราะเราตายก่อนจะถึงที่นัดพบ ที่น่าสงสัยก็คือเขาอยู่ตั้งไกลเราได้ยินได้อย่างไร ในโทรศัพท์มีสัญญาณ มันอาจเชื่อมต่อถึงกัน

ไสยศาสตร์ก็อาจอาศัยสัญญาณเหมือนกัน เราเสียบหูฟังโทรศัพท์กับไม่เสียบมีผลต่างกัน เช่นเราอาจได้ยินเสียงกระซิบเมื่อไม่ใส่หูฟัง แต่พอใส่กับไม่ได้ยิน แต่ถ้าเราใส่แล้วได้ยินไสยศาสตร์อาจมาคลื่นโทรศัพท์ พอถอดเราไม่ได้ยิน 

โรคโควิดที่สังเกตมีเหตุการณ์ถ่ายเลือด ผลที่ตามมาคือร่างกายดื้อยามากขึ้น เกิดจากอะไร แล้วทำให้ทรุดหนัก

ผู้หญิงเป็นโรคมะเร็งง่ายกว่าผู้ชายเพราะอะไร เครียดง่าย เป็นทุกข์ง่าย หรืออะไร แต่ในแง่ไสยศาสตร์ ผู้หญิงมักชอบตามใจผู้ชายมากกว่า อาจย่อมผู้ชายได้ง่าย ส่วนใหญ่ผู้ที่มีวิชาอาคมจะเป็นผู้ชาย จากที่พบเจอไสยศาสตร์อาจทำให้หัวสมองทำงานพลาด 

ไสยศาสตร์จากที่สังเกตวันหนึ่งเราปกติไม่ได้เป็นอะไร แต่พอเรานอนเราตื่นขึ้นมามีปัญหาเกิดขึ้นผิดปกติ อาจจะเป็นไปได้ว่าไสยศาสตร์ทำร้ายเราตอนหลับได้ง่ายกว่า เราจะป้องกันอย่างไร พระก็ช่วยไม่ได้ แล้วดันทำไสยศาสตร์ใส่อีก เครื่องรางที่ว่าแน่ยังช่วยไม่ได้ พระปราบมารก็ช่วยไม่ได้ เบี้ยแก้ก็ช่วยไม่ได้ แต่พอถือจี้ไม้กางเขนกับดีขึ้น 
พระพุทธรูปอาจทำร้ายเราได้สังเกตจากพระพุทธรูปคอหัก ก่อนหน้าไม่หัก แต่พอมาวันหนึ่งเกิดหัก เราเกิดปัญหาเริ่มหลงลืม สิ่งที่เราถืออยู่ติดว่าป้องกันได้จริงหรือ อาจมีคนมาทำเปลี่ยนให้เป็นร้ายก็ได้ คนที่เราคิดว่าไว้ใจได้แต่เราคิดผิด เราถึงคิดว่าเปลี่ยนเป็นศาสนาคริสต์ดีกว่า เหมือนเป็นคำเชิญทั้งๆที่ตอนแรกไม่ใช่ซื้อจี้ไม้กางเขนมาด้วยซ้ำ 

เราเคยโดนไสยศาสตร์ แต่อยู่ดีๆก็เหมือนถูกตัดออกจากไสยศาสตร์ หายเป็นปกติ แต่พอเรากลับถึงห้องเท้านั้นแหละเรากลับมาเป็นอีก ถึงเราถอนแล้วถ้าคนเขาคิดจะทำใส่เรายังไงก็ไม่หาย ถึงจะทำอะไรเราพลาดไม่ได้แต่ทำให้เรารำคาญได้ ถ้าเราเป็นผู้ชาย เราเป็นผู้ชายเจอผู้ชายด้วยกันอาจชกต่อยกันได้ แต่ผู้หญิงล่ะ คิดเอาครับ