ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 13.30 น. นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(ศบค.) ชุดใหญ่ โดยมีรายงานว่า ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศปก.ศบค.) จะนำเสนอเรื่องลดจำนวนจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) 29 จังหวัด ส่วนจะลดลงกี่จังหวัดนั้น ขึ้นอยู่กับที่ประชุมใหญ่ของศบค. ขณะเดียวกันจะนำความคืบหน้าเรื่องการจัดทำร่างพระราชบัญญัติโรคติดต่อ (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม) มาพิจารณาประกอบกัน เพื่อเตรียมความพร้อมยกเลิกการบังคับใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และศบค.ต่อไป.-สำนักข่าวไทย

https://www.amarintv.com/news/detail/97935


เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 10 กันยายน 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) หรือ ศบค. เป็นประธานการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference)

ต่อมาเวลา 15.30 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงผลการประชุม ศบค.ว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้คงระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร โดยพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ยังคงไว้ที่ 29 จังหวัด นอกจากนี้ ให้คงมาตรการป้องกันโควิด-19 ตามข้อกำหนด ฉบับที่ 32 ถึง 30 ก.ย.64

นพ.ทวีศิลป์ กล่าว่า สำหรับแผนการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ประเทศไทย 64 คาดว่าจะมีวัคซีนเข้ามาในประเทศ 152.9 ล้านโดส โดยเป็นการเพิ่มเติมวัคซีนจากแอสตร้าเซนเนก้าและไฟเซอร์ โดย ศบค.เห็นชอบแผนการจัดสรรวัคซีน 24 ล้านโดส แยกตามกลุ่มเป้าหมาย ระหว่างวันที่ 27 ก.ย. – 31 ต.ค. ดังนี้....✏

1.ฉีดให้ประชาชนทั่วไปที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ จำนวน 16.8 ล้านโดส
2.นักเรียนที่มีอายุ 12-17 ปีทั่วประเทศ จำนวน 4.8 ล้านโดส
3.แรงงานในระบบประกันสังคม จำนวน 0.8 ล้านโดส
4.หน่วยงานอื่นๆ เช่น องค์กรภาครัฐ ราชทัณฑ์ จำนวน 1.1 ล้านโดส
5.กลุ่มที่ได้รับซิโนแวค 2 เข็ม และต้องการเข็มกระตุ้นหรือเข็มที่ 3 ด้วยแอสตร้าเซนเนก้า จำนวน 0.5 ล้านโดส

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หารือถึงแนวทางการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป โดยใช้สถานศึกษาเป็นจุดฉีดวัคซีน และใช้สูตรการฉีดไฟเซอร์ 2 เข็ม คาดว่า กรมควบคุมโรคจะจัดส่งวัคซีนและอุปกรณ์การฉีดได้ในช่วงเดือน ต.ค.64

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวทิ้งท้ายว่า การยังคงมาตรการไปจนถึงเดือน 30 ก.ย.64 เป็นเรื่องที่เราต้องร่วมมือร่วมใจกัน กราบขอบพระคุณทุกท่านที่ร่วมมือร่วมใจกันในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งโรคนี้ยังไม่จบง่ายๆ เราต้องอยู่กับโควิดนี้ต่อไป และขอความร่วมมือกันต่อไป

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯยังได้สั่งติดตามการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ MU (มิว) ที่ขณะนี้ยังไม่พบการแพร่ระบาดในประเทศไทย รวมทั้งขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำข้อสังเกต ข้อเสนอแนะหรือข้อท้วงติงที่เป็นประโยชน์ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจมาปรับใช้ในการทำงาน เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนและช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น



https://www.naewna.com/politic/601260

หลังการอภิปรายในสภา นายกฯเดินหน้าทำงานไม่หยุดเลยค่ะ

วันนี้ท่านตรวจเยี่ยมโรงงานที่เป็น sandbox เพื่อจะได้เปิดโรงงานทำงานไปด้วยระวังโควิดไปด้วยเดินหน้าเศรษฐกิจ ได้ทั้งรัฐบาล เอกชน และ ประชาชนคนใช้แรงงาน

เพื่อไม่ให้เกิดคลัสเตอร์ใหม่ในระยะนี้ จังหวัดแดงเข้ม 29 จังหวัด ยังคงล็อกดาวน์แบบเดิมไปจนถึงสิ้นเดือนค่ะ

ให้กำลังใจนายกฯลุงตู่ ผู้นำที่แข็งแกร่งของเรากันนะคะ

สู้ๆค่ะ