สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆสมาชิก pantip ทุกท่านครับ
ผมเป็นสมาชิกเก่าแก่ ที่จริงๆ ก็แก่แล้วหละ 555
อยู่มานานตั้งแต่สมัยเรียน จนตอนนี้ แต่งงาน มีบ้าน มีคอนโด มีลูก มีครอบครัวเรียบร้อยแล้ว
จากกระทู้เก่าที่เคยรีวิวการแต่งบ้านตัวเองไปเมื่อ 14 ปีที่แล้ว
http://topicstock.ppantip.com/home/topicstock/2007/07/R5580670/R5580670.html
และ
http://topicstock.ppantip.com/home/topicstock/2007/09/R5805564/R5805564.html
ช่วงนี้เนื่องด้วยสถานการณ์โควิดทำให้ไม่สามารถออกไปทำงานนอกบ้านได้ ประจวบกับงานแบบก็เสร็จหมดแล้ว เลยมีเวลาว่างมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับงานที่ทำหน่อย
ก่อนอื่น ขอแนะนำตัวเองก่อนนะครับ
ผมเป็นมัณฑณากร ตั้งแต่เรียนจบก็ได้ทำงานในออฟฟิศของอาจารย์ที่ตรวจ Thesis ก่อนเรียนจบ
อาจจะเป็นเพราะผลงานที่ออกแบบตอนโปรเจคก่อนจบถูกใจอาจารย์ และสมัยนั้น (20 กว่าปีที่แล้ว ... แก่มากจริง 555) ไม่ค่อยมีคนใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการออกแบบ เนื่องจากยอมรับว่าตัวเองเขียนภาพสู้เพื่อนๆในรุ่นไม่ค่อยได้ เลยต้องหันมาเอาดีทางด้านการออกแบบผ่านคอมพิวเตอร์
สมัยนั้นทั้งงานนอก งานใน แน่นไปหมด แต่เงินเดือนไม่ค่อยพอใช้ อาจเป็นเพราะงานนอกผมก็คิดไม่แพงเท่าไหร่ เพราะเรามือใหม่ไม่กล้าเรียกแพง กลัวไม่ได้งาน แต่ก็ไม่ได้ตัดราคาใครจนน่าเกลียดนะครับ
ทำงานได้ปีกว่าๆ ก็ลาออกเพราะงานนอกเยอะจนไม่มีเวลาทำงานออฟฟิศ และรู้สึกว่าถ้าทำแบบนี้อาจจะไม่ได้นอนเป็นปกติแน่ๆ เลยปลดล๊อกตัวเองมาเป็นมัณฑนากรอิสระแบบเต็มตัว
ถามว่าเสี่ยงมั้ย
สำหรับน้องๆที่คิดว่าเรียนจบแล้วจะออกมาทำเอง เตือนไว้ก่อนเลยนะครับ
เรียนจบใหม่ๆ Connection ยังไม่เยอะ คนยังไม่รู้จักเรา อาจจะได้งานจากรุ่นพี่หรือเพื่อนๆที่เรียนด้วยกัน แต่งานในส่วนนี้เสี่ยงพอสมควรที่อนาคตอาจจะไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพ
แนะนำให้ทำออฟฟิศเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์เพิ่ม Connection ให้ตัวเองแล้วค่อยออกมาทำเองก็ยังไม่สายนะครับ
ขนาดผมเองทำงานในออฟฟิศรู้จักคนเยอะพอสมควร
ยังมีช่วงเสียวที่ไม่มีงาน ต้องกินเงินเก่าหลายครั้งอยู่เลยครับ
อ่าาาา นอกเรื่องไปไกลเลย
มาเล่าเรื่องการทำงานในปัจจุบันกันดีกว่าครับ
6 ปีที่แล้วหลังจากที่ลูกสาวสอบติดโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในเมือง
เนื่องจากบ้านผมอยู่ชานเมือง (รามอินทรา)
ผมเลยจำเป็นที่จะต้องหาที่อยู่เพื่อรองรับการเดินทางในเมืองหลวง ที่หลายคนรู้ดีว่าการเดินทางในกรุงเทพฯใช้เวลาอย่างน้อยๆ 1-2 ชั่วโมงในแต่ละครั้ง
ไหนจะค่าทางด่วน ค่าน้ำมัน และลูกต้องโตในรถ
คิดดูแล้วก็สงสารเด็ก
เลยตัดสินใจลองดูคอนโดในเมืองซักหน่อย
ด้วยความที่ไม่เคยสนใจคอนโดเลยก็กะราคาไม่ถูกว่าราคาคอนโดในเมืองเป็นยังไงบ้าง
ตั้งงบในใจ “ 2 ล้าน !!! ” คิดว่าน่าจะหรูแล้วหละ
ปรากฎว่าพอลองมาดูจริงๆ “ คุณพระ !!! ” 3 ล้านกลางๆ ได้ห้องนิดเดียวเท่าแมวดิ้น
เลยต้องเพิ่มงบตัวเองมาเป็น 3ล้าน (น้ำตาไหลพราก)
มองหาไปเรื่อยๆก็มาเจอโครงกาาร NYX ย่านถนนพระเจ้าตากสิน ราคาอยู่ในงบ
แต่ทว่า “มันไม่สร้าง” เนื่องจากคนซื้อไม่เยอะหรืออะไรก็ไม่ทราบได้โครงการเลยถูกยุบไป
พนักงานก็แนะนำให้ลองมาดูตรง BTS วงเวียนใหญ่ เป็นโครงการของเจ้าเดียวกันแต่ราคาสูงกว่าหน่อย ก็เลยลองแวะเข้าไปดูโครงการซะหน่อย
ขับรถเลี้ยวขวามาแป๊บเดียวก็เจอ โครงการ NYE by Sansiri เป็นคอนโด ตึกแฝด ซึ่ง Sansiri ตั้งใจให้เป็นโครงการในคอลเล็คชั่น “Live With Attitude” ซึ่งของ Nye เป็น Concept โทนสีทอง เน้นแนว Modern Luxury ที่กำลังฮิตใน 6 ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน
ราคาโครงการตอนนั้นติดป้ายหน้าซอยไว้ เริ่มต้น 4 ล้าน
เอิ่มมมมมม
จากที่ตั้งไว้ 2 ล้าน
บานมา 2 เท่า
แถมยังปิดการขายไปแล้วด้วย!!!
เลยถอยมาตั้งหลักที่บ้านก่อนว่าจะเอายังไงดี
มีเวลาอีกไม่ถึงปีลูกสาวต้องไปเรียนในเมือง
ต้องนั่งรถวันละ 4 ชั่วโมง จะไหวมั้ย
คืนนั้นก็นั่งหาข้อมูล หาคอนโดอื่นๆไปด้วย
ไปเจอคนขายห้องที่ Nye พอดี
เออ!!! เหมือนโชคจะเข้าข้าง
รุ่งขึ้น ลองโทรถามข้อมูล
เจ้าของห้องเค้าเปลี่ยนใจมาซื้อบ้านเลยขายคอนโด (รู้ๆกันเนอะ 555)
ดูจากราคาที่เค้าบวกก็ไม่เยอะมาก
พอกัดฟันสู้ได้ก็เลยตกลงจองห้องไป
ได้ห้องชั้น 25 ตำแหน่งโอเค วิวน่าจะสวย
ตอนนั้น คอนโดกำลังสร้าง ขี้นยังไม่ถึงชั้น 25 เลย (คอนโดมี 30 ชั้น)
ก็ตั้งหน้าตั้งตารอใช้เวลาประมาณ 6 เดือนก็ได้เห็นห้องตัวเอง ได้เห็นวิว
ถือว่าประทับใจ
ห้องเรียบๆ ธรรมดา (ผมไม่ซีเรียสกับวัสดุที่โครงการให้มามากเท่าไหร่เพราะกะจะรื้อทิ้งอยู่แล้ว)
แต่วิวสวย เห็นวัดอรุณ เห็นสะพานพระราม 8 ไกลๆ 555
แถมมองไปด้านขวาก็เห็นพื้นที่ว่าง ที่ปัจจุบันคือ Icon Siam ด้วย
ปีใหม่ ลอยกระทง วันสำคัญอื่นๆ ได้เห็นพลุแบบ พาโนรามา ประทับใจมากๆ
เข้าเรื่องจริงๆแล้วนะครับ
สำหรับคนที่คิดจะแต่งห้องเอาข้อมูลตรงนี้ไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจได้เลยนะครับ
หลังจากส่งมอบห้อง
อันดับแรกก็เริ่มวาง Layout plan ห้องก่อนเลย
ดูว่าห้องนี้เราต้องการ Function อะไรบ้าง
ห้องนี้ขนาด 36 ตารางเมตร
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ
ผมตั้งโจทย์ให้กับตัวเองว่าอยากให้ห้อง Concept แนวเดียวกับโครงการ
ซึ่งก็คือ Modern Luxury
เน้นวัสดุ กระจกเงาทอง สแตนเลสสีทอง โทนออกดำ ทอง เข้มๆ
มีห้องนั่งเล่น ห้องครัว และสามารถนั่งทำงานบริเวณห้องนั่งเล่นได้ (เพราะส่วนใหญ่ ผมทำงานออกแบบที่บ้านอยู่แล้ว)
ส่วนห้องนอนอยากได้เตียงแบบวางพื้น แต่เป็นพื้นยกเหมือนญี่ปุ่นเพราะเราเอาเตียงวางพื้นก็จะได้นอนกันสบายๆ 3 คน พ่อ แม่ ลูก (ซึ่งความจริง มันอบอุ่นซะจนเกือบร้อนเลย 555)
มาถึงห้องน้ำ
คอนโดให้มาแบบเรียบๆ
แต่ผมอยากได้ Modern Luxury ส่วน Function คงทำอะไรมากไม่ได้
ห้องเล็กอยู่แล้วขยับอะไรไม่ได้แน่ๆ
อ่านข้อมูลกันมาเยอะแล้ว
มาผ่อนคลายสายตาด้วยภาพกันบ้างครับ
ตกแต่งภายในคอนโด เรื่องเล็กๆ ที่ไม่เล็ก - รีวิวการแต่งห้องพักอาศัยในคอนโด ของผมเอง -
ผมเป็นสมาชิกเก่าแก่ ที่จริงๆ ก็แก่แล้วหละ 555
อยู่มานานตั้งแต่สมัยเรียน จนตอนนี้ แต่งงาน มีบ้าน มีคอนโด มีลูก มีครอบครัวเรียบร้อยแล้ว
จากกระทู้เก่าที่เคยรีวิวการแต่งบ้านตัวเองไปเมื่อ 14 ปีที่แล้ว
http://topicstock.ppantip.com/home/topicstock/2007/07/R5580670/R5580670.html
และ
http://topicstock.ppantip.com/home/topicstock/2007/09/R5805564/R5805564.html
ช่วงนี้เนื่องด้วยสถานการณ์โควิดทำให้ไม่สามารถออกไปทำงานนอกบ้านได้ ประจวบกับงานแบบก็เสร็จหมดแล้ว เลยมีเวลาว่างมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับงานที่ทำหน่อย
ก่อนอื่น ขอแนะนำตัวเองก่อนนะครับ
ผมเป็นมัณฑณากร ตั้งแต่เรียนจบก็ได้ทำงานในออฟฟิศของอาจารย์ที่ตรวจ Thesis ก่อนเรียนจบ
อาจจะเป็นเพราะผลงานที่ออกแบบตอนโปรเจคก่อนจบถูกใจอาจารย์ และสมัยนั้น (20 กว่าปีที่แล้ว ... แก่มากจริง 555) ไม่ค่อยมีคนใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการออกแบบ เนื่องจากยอมรับว่าตัวเองเขียนภาพสู้เพื่อนๆในรุ่นไม่ค่อยได้ เลยต้องหันมาเอาดีทางด้านการออกแบบผ่านคอมพิวเตอร์
สมัยนั้นทั้งงานนอก งานใน แน่นไปหมด แต่เงินเดือนไม่ค่อยพอใช้ อาจเป็นเพราะงานนอกผมก็คิดไม่แพงเท่าไหร่ เพราะเรามือใหม่ไม่กล้าเรียกแพง กลัวไม่ได้งาน แต่ก็ไม่ได้ตัดราคาใครจนน่าเกลียดนะครับ
ทำงานได้ปีกว่าๆ ก็ลาออกเพราะงานนอกเยอะจนไม่มีเวลาทำงานออฟฟิศ และรู้สึกว่าถ้าทำแบบนี้อาจจะไม่ได้นอนเป็นปกติแน่ๆ เลยปลดล๊อกตัวเองมาเป็นมัณฑนากรอิสระแบบเต็มตัว
ถามว่าเสี่ยงมั้ย
สำหรับน้องๆที่คิดว่าเรียนจบแล้วจะออกมาทำเอง เตือนไว้ก่อนเลยนะครับ
เรียนจบใหม่ๆ Connection ยังไม่เยอะ คนยังไม่รู้จักเรา อาจจะได้งานจากรุ่นพี่หรือเพื่อนๆที่เรียนด้วยกัน แต่งานในส่วนนี้เสี่ยงพอสมควรที่อนาคตอาจจะไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพ
แนะนำให้ทำออฟฟิศเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์เพิ่ม Connection ให้ตัวเองแล้วค่อยออกมาทำเองก็ยังไม่สายนะครับ
ขนาดผมเองทำงานในออฟฟิศรู้จักคนเยอะพอสมควร
ยังมีช่วงเสียวที่ไม่มีงาน ต้องกินเงินเก่าหลายครั้งอยู่เลยครับ
อ่าาาา นอกเรื่องไปไกลเลย
มาเล่าเรื่องการทำงานในปัจจุบันกันดีกว่าครับ
6 ปีที่แล้วหลังจากที่ลูกสาวสอบติดโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในเมือง
เนื่องจากบ้านผมอยู่ชานเมือง (รามอินทรา)
ผมเลยจำเป็นที่จะต้องหาที่อยู่เพื่อรองรับการเดินทางในเมืองหลวง ที่หลายคนรู้ดีว่าการเดินทางในกรุงเทพฯใช้เวลาอย่างน้อยๆ 1-2 ชั่วโมงในแต่ละครั้ง
ไหนจะค่าทางด่วน ค่าน้ำมัน และลูกต้องโตในรถ
คิดดูแล้วก็สงสารเด็ก
เลยตัดสินใจลองดูคอนโดในเมืองซักหน่อย
ด้วยความที่ไม่เคยสนใจคอนโดเลยก็กะราคาไม่ถูกว่าราคาคอนโดในเมืองเป็นยังไงบ้าง
ตั้งงบในใจ “ 2 ล้าน !!! ” คิดว่าน่าจะหรูแล้วหละ
ปรากฎว่าพอลองมาดูจริงๆ “ คุณพระ !!! ” 3 ล้านกลางๆ ได้ห้องนิดเดียวเท่าแมวดิ้น
เลยต้องเพิ่มงบตัวเองมาเป็น 3ล้าน (น้ำตาไหลพราก)
มองหาไปเรื่อยๆก็มาเจอโครงกาาร NYX ย่านถนนพระเจ้าตากสิน ราคาอยู่ในงบ
แต่ทว่า “มันไม่สร้าง” เนื่องจากคนซื้อไม่เยอะหรืออะไรก็ไม่ทราบได้โครงการเลยถูกยุบไป
พนักงานก็แนะนำให้ลองมาดูตรง BTS วงเวียนใหญ่ เป็นโครงการของเจ้าเดียวกันแต่ราคาสูงกว่าหน่อย ก็เลยลองแวะเข้าไปดูโครงการซะหน่อย
ขับรถเลี้ยวขวามาแป๊บเดียวก็เจอ โครงการ NYE by Sansiri เป็นคอนโด ตึกแฝด ซึ่ง Sansiri ตั้งใจให้เป็นโครงการในคอลเล็คชั่น “Live With Attitude” ซึ่งของ Nye เป็น Concept โทนสีทอง เน้นแนว Modern Luxury ที่กำลังฮิตใน 6 ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน
ราคาโครงการตอนนั้นติดป้ายหน้าซอยไว้ เริ่มต้น 4 ล้าน
เอิ่มมมมมม
จากที่ตั้งไว้ 2 ล้าน
บานมา 2 เท่า
แถมยังปิดการขายไปแล้วด้วย!!!
เลยถอยมาตั้งหลักที่บ้านก่อนว่าจะเอายังไงดี
มีเวลาอีกไม่ถึงปีลูกสาวต้องไปเรียนในเมือง
ต้องนั่งรถวันละ 4 ชั่วโมง จะไหวมั้ย
คืนนั้นก็นั่งหาข้อมูล หาคอนโดอื่นๆไปด้วย
ไปเจอคนขายห้องที่ Nye พอดี
เออ!!! เหมือนโชคจะเข้าข้าง
รุ่งขึ้น ลองโทรถามข้อมูล
เจ้าของห้องเค้าเปลี่ยนใจมาซื้อบ้านเลยขายคอนโด (รู้ๆกันเนอะ 555)
ดูจากราคาที่เค้าบวกก็ไม่เยอะมาก
พอกัดฟันสู้ได้ก็เลยตกลงจองห้องไป
ได้ห้องชั้น 25 ตำแหน่งโอเค วิวน่าจะสวย
ตอนนั้น คอนโดกำลังสร้าง ขี้นยังไม่ถึงชั้น 25 เลย (คอนโดมี 30 ชั้น)
ก็ตั้งหน้าตั้งตารอใช้เวลาประมาณ 6 เดือนก็ได้เห็นห้องตัวเอง ได้เห็นวิว
ถือว่าประทับใจ
ห้องเรียบๆ ธรรมดา (ผมไม่ซีเรียสกับวัสดุที่โครงการให้มามากเท่าไหร่เพราะกะจะรื้อทิ้งอยู่แล้ว)
แต่วิวสวย เห็นวัดอรุณ เห็นสะพานพระราม 8 ไกลๆ 555
แถมมองไปด้านขวาก็เห็นพื้นที่ว่าง ที่ปัจจุบันคือ Icon Siam ด้วย
ปีใหม่ ลอยกระทง วันสำคัญอื่นๆ ได้เห็นพลุแบบ พาโนรามา ประทับใจมากๆ
เข้าเรื่องจริงๆแล้วนะครับ
สำหรับคนที่คิดจะแต่งห้องเอาข้อมูลตรงนี้ไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจได้เลยนะครับ
หลังจากส่งมอบห้อง
อันดับแรกก็เริ่มวาง Layout plan ห้องก่อนเลย
ดูว่าห้องนี้เราต้องการ Function อะไรบ้าง
ห้องนี้ขนาด 36 ตารางเมตร
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ
ผมตั้งโจทย์ให้กับตัวเองว่าอยากให้ห้อง Concept แนวเดียวกับโครงการ
ซึ่งก็คือ Modern Luxury
เน้นวัสดุ กระจกเงาทอง สแตนเลสสีทอง โทนออกดำ ทอง เข้มๆ
มีห้องนั่งเล่น ห้องครัว และสามารถนั่งทำงานบริเวณห้องนั่งเล่นได้ (เพราะส่วนใหญ่ ผมทำงานออกแบบที่บ้านอยู่แล้ว)
ส่วนห้องนอนอยากได้เตียงแบบวางพื้น แต่เป็นพื้นยกเหมือนญี่ปุ่นเพราะเราเอาเตียงวางพื้นก็จะได้นอนกันสบายๆ 3 คน พ่อ แม่ ลูก (ซึ่งความจริง มันอบอุ่นซะจนเกือบร้อนเลย 555)
มาถึงห้องน้ำ
คอนโดให้มาแบบเรียบๆ
แต่ผมอยากได้ Modern Luxury ส่วน Function คงทำอะไรมากไม่ได้
ห้องเล็กอยู่แล้วขยับอะไรไม่ได้แน่ๆ
อ่านข้อมูลกันมาเยอะแล้ว
มาผ่อนคลายสายตาด้วยภาพกันบ้างครับ