แฮกเกอร์ ประกาศขายข้อมูลส่วนตัวคนไทย อ้างมี 30 ล้านรายชื่อ!
https://www.pptvhd36.com/news/อาชญากรรม/155823
คนร้าย วางขายข้อมูลส่วนตัวของคนไทยในเว็บบอร์ด พร้อมอ้างว่ามีข้อมูลถึง 30 ล้านรายชื่อ หลังจากเมื่อวานนี้มีการวางขายข้อมูล 16 ล้านรายชื่อ ที่อ้างมาได้มาจากกระทรวงสาธารณสุขไทย
เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก น้องปอสาม ได้โพสต์ภาพ พร้อมระบุมีการปล่อยขายข้อมูลรายชื่อคนไทยจำนวน 30 ล้านคน ภายในเว็บบอร์ดที่ชื่อว่า raidforums.com
“เมื่อวานมีข้อมูลหลุดมาชุดใหญ่ไปแล้ว วันนี้มีมาอีก ข้อมูลหลุดไม่แน่ใจว่าไปเจาะเอามาจากไหนนะครับ เพราะอันนี้ไม่ได้ระบุนะครับ แต่ข้อมูลละเอียดมาก เบอร์โทร ที่อยู่ เลขบัตรประชาชน แม้กระทั่งวันเกิด และเพศ แถมมีคนสนใจไป PM ขอรายละเอียดเพิ่มเติมด้วย ไม่แน่ใจว่า จะมีที่ไหนโดนเจาะมาอีกบ้าง”
ทั้งนี้จากการตรวจสอบของทีมข่าวพบว่า ผู้ใช้ที่ชื่อว่า "osintguy" บนเว็บบอร์ด Raidforums ได้ลงขายข้อมูลส่วนตัวคนไทย โดยอ้างว่ามี 30 ล้านรายชื่อ พร้อมแนบไฟล์ตัวอย่างรายชื่อให้ดู โดยภายในไฟล์ดังกล่าวมีรายละเอียด้อมูลคนไทยจำนวนหนึ่ง ประกอบด้วย เลขID ชื่อ เลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ วันเกิด และข้อมูลที่ระบุเพศ
https://www.facebook.com/nongposamm/posts/3003547839911619
หนองคายสั่งปิดโรงเรียนดัง! หลังเกิดคลัสเตอร์ใหญ่ ‘ครู-นร.’ติดโควิดไปแล้วกว่า300ราย
https://www.dailynews.co.th/news/244792/
โควิดหนองคาย ผวาคลัสเตอร์ใหญ่ โรงเรียนประจำดังโพนพิสัย นักเรียนกว่าพันคน ติดเชื้อแล้ว 353 ราย พ่อเมืองสั่งปิด-ทำบิ๊กคลีนนิ่ง ก่อนแถลงผลอย่างเป็นทางการ 8 ก.ย.นี้
เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 ใน จ.หนองคาย มีรายงานว่าพบคลัสเตอร์ใหม่ และกำลังขยายวงกว้าง เป็นคลัสเตอร์โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 27 ต.จุมพล อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย โดยพบการติดเชื้อครั้งแรก เมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา เวลา 21.04 น. หลังสำนักงานสาธารณสุข จ.หนองคาย ได้รับแจ้งจากทีมสอบสวนโรค อ.โพนพิสัย ว่ามีนักเรียนติดเชื้อโควิด 2 ราย และมีแนวโน้มติดเชื้ออีกเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นโรงเรียนประจำแบบกินนอน มีนักเรียนอยู่ประจำรวมกันมากกว่าพันคน
จากนั้นทีมสอบสวนโรค สสจ.หนองคาย และใกล้เคียง ทั้ง อ.โพนพิสัย อ.ท่าบ่อ และ จ.อุดรธานี ระดมกำลังเข้าสอบสวนและควบคุมโรคตั้งแต่วันที่ 2-7 ก.ย. พบผู้ติดเชื้อแล้วรวม 353 ราย ส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลโพนพิสัย 69 ราย และโรงพยาบาลสนาม จ.หนองคาย 284 ราย และเร่งเก็บตัวอย่าง swab RT PCR จากกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเพิ่มเติม
จากการสอบสวนโรคคาดว่าสาเหตุมาจากมีเชื้อปนเปื้อนมากับสิ่งของที่ผู้ปกครองฝากเข้ามาให้นักเรียน และจากการที่มีนักเรียนจำนวนหนึ่งหลบหนีออกนอกโรงเรียนเข้าไปในพื้นที่ชุมชนที่มีผู้ติดเชื้อ ประกอบกับโรงเรียนเป็นโรงเรียนประจำ มีนักเรียนอาศัยอยู่รวมกันตลอดเวลา หอพักนักเรียนมีความแออัดระยะห่างระหว่างเตียงน้อยกว่า 1 เมตร รวมถึงมีการใช้สิ่งของร่วมกัน เช่น การรับประทานอาหาร การใช้ห้องสุขา เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังเกิดเหตุ นาย
ประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผวจ.หนองคาย ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการเกิดโรค และเบื้องต้นสั่งการให้ปิดโรงเรียนเป็นการชั่วคราว และทำความสะอาดบิ๊กคลีนนิ่ง พร้อมกำชับให้ดูแลนักเรียนทุกคนให้ดีที่สุด ให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังโรคขั้นสูงสุด ส่วนโรงเรียนอื่นๆ ซึ่งมีการเปิดเรียนไปแล้วตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน ไม่ได้สั่งปิด แต่ให้คงมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวดประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และจะมีการแถลงอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 ก.ย.ต่อไป
ศาลฎีกาสั่ง ฉลอง-ภูมิศิษฎ์ สส.ภูมิใจไทย หยุดทำหน้าที่ ปมเสียบบัตรแทน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6607077
ศาลฎีกา สั่ง ฉลอง-ภูมิศิษฎ์ 2 ส.ส.พัทลุง ภูมิใจไทย หยุดปฏิบัติหน้าที่ ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายเเรงปมเสียบบัตรเเทนกัน มีผล 3 ก.ย.ส่งหนังสือเเจ้งสภาเเล้ว
เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา ศาลฎีกาได้มีคำสั่งคดีหมายเลขดำที่ คมจ. 3/2564 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นร้อง นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ และนายภูมิศิษฎ์ คงมี ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย(ภท.) เรื่องการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง (ชั้นรับคำร้อง) ในคดีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดมาตรฐานจริยธรรมฯ อย่างร้ายแรง
จากกรณีถูกกล่าวหาว่ามีพฤติการณ์เสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน ระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท
คดีนี้ ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกา มีคำพิพากษาหรือคำสั่งว่า ผู้คัดค้านฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงให้ผู้คัดค้านหยุดปฏิบัติหน้าที่ นับแต่วันที่ศาลฎีการับคำร้องจนกว่าจะมีคำพิพากษาให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง นับแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้านและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลาไม่เกิน 10 ปีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 235 พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
พ.ศ.2561 มาตรา 87 และมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ข้อ 6-8, 11, 17 และ 27
ศาลฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่า คำร้องของผู้ร้องบรรยายพฤติการณ์ที่กล่าวหา พร้อมทั้งชี้ช่องพยานหลักฐานชัดเจนเพียงพอที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไปได้ และผู้ร้องดำเนินการตามระเบียบที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาว่าด้วยการพิจารณาพิพากษาคดีเกี่ยวกับการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง พ.ศ. 2561 ครบถ้วนแล้ว
ศาลฎีกา จึงมีคำสั่งให้รับคำร้องของผู้ร้องเเละสั่งผู้คัดค้านหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำพิพากษาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 235 วรรคสาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ให้มีผลตั้งแต่วันที่รับคำร้อง 3 ก.ย. 2564 โดยศาลมีเอกสารแจ้งไปยังรัฐสภาแล้ว
JJNY : 4in1 ขายข้อมูลคนไทย 30ล.ชื่อ!│หนองคายสั่งปิดร.ร.ดัง!│ศาลสั่งสส.ภท.หยุดทำหน้าที่│ชี้โรงแรมที่เปิด ประคองไม่ถึง3ด.
https://www.pptvhd36.com/news/อาชญากรรม/155823
คนร้าย วางขายข้อมูลส่วนตัวของคนไทยในเว็บบอร์ด พร้อมอ้างว่ามีข้อมูลถึง 30 ล้านรายชื่อ หลังจากเมื่อวานนี้มีการวางขายข้อมูล 16 ล้านรายชื่อ ที่อ้างมาได้มาจากกระทรวงสาธารณสุขไทย
เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก น้องปอสาม ได้โพสต์ภาพ พร้อมระบุมีการปล่อยขายข้อมูลรายชื่อคนไทยจำนวน 30 ล้านคน ภายในเว็บบอร์ดที่ชื่อว่า raidforums.com
“เมื่อวานมีข้อมูลหลุดมาชุดใหญ่ไปแล้ว วันนี้มีมาอีก ข้อมูลหลุดไม่แน่ใจว่าไปเจาะเอามาจากไหนนะครับ เพราะอันนี้ไม่ได้ระบุนะครับ แต่ข้อมูลละเอียดมาก เบอร์โทร ที่อยู่ เลขบัตรประชาชน แม้กระทั่งวันเกิด และเพศ แถมมีคนสนใจไป PM ขอรายละเอียดเพิ่มเติมด้วย ไม่แน่ใจว่า จะมีที่ไหนโดนเจาะมาอีกบ้าง”
ทั้งนี้จากการตรวจสอบของทีมข่าวพบว่า ผู้ใช้ที่ชื่อว่า "osintguy" บนเว็บบอร์ด Raidforums ได้ลงขายข้อมูลส่วนตัวคนไทย โดยอ้างว่ามี 30 ล้านรายชื่อ พร้อมแนบไฟล์ตัวอย่างรายชื่อให้ดู โดยภายในไฟล์ดังกล่าวมีรายละเอียด้อมูลคนไทยจำนวนหนึ่ง ประกอบด้วย เลขID ชื่อ เลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ วันเกิด และข้อมูลที่ระบุเพศ
https://www.facebook.com/nongposamm/posts/3003547839911619
หนองคายสั่งปิดโรงเรียนดัง! หลังเกิดคลัสเตอร์ใหญ่ ‘ครู-นร.’ติดโควิดไปแล้วกว่า300ราย
https://www.dailynews.co.th/news/244792/
โควิดหนองคาย ผวาคลัสเตอร์ใหญ่ โรงเรียนประจำดังโพนพิสัย นักเรียนกว่าพันคน ติดเชื้อแล้ว 353 ราย พ่อเมืองสั่งปิด-ทำบิ๊กคลีนนิ่ง ก่อนแถลงผลอย่างเป็นทางการ 8 ก.ย.นี้
เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 ใน จ.หนองคาย มีรายงานว่าพบคลัสเตอร์ใหม่ และกำลังขยายวงกว้าง เป็นคลัสเตอร์โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 27 ต.จุมพล อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย โดยพบการติดเชื้อครั้งแรก เมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา เวลา 21.04 น. หลังสำนักงานสาธารณสุข จ.หนองคาย ได้รับแจ้งจากทีมสอบสวนโรค อ.โพนพิสัย ว่ามีนักเรียนติดเชื้อโควิด 2 ราย และมีแนวโน้มติดเชื้ออีกเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นโรงเรียนประจำแบบกินนอน มีนักเรียนอยู่ประจำรวมกันมากกว่าพันคน
จากนั้นทีมสอบสวนโรค สสจ.หนองคาย และใกล้เคียง ทั้ง อ.โพนพิสัย อ.ท่าบ่อ และ จ.อุดรธานี ระดมกำลังเข้าสอบสวนและควบคุมโรคตั้งแต่วันที่ 2-7 ก.ย. พบผู้ติดเชื้อแล้วรวม 353 ราย ส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลโพนพิสัย 69 ราย และโรงพยาบาลสนาม จ.หนองคาย 284 ราย และเร่งเก็บตัวอย่าง swab RT PCR จากกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเพิ่มเติม
จากการสอบสวนโรคคาดว่าสาเหตุมาจากมีเชื้อปนเปื้อนมากับสิ่งของที่ผู้ปกครองฝากเข้ามาให้นักเรียน และจากการที่มีนักเรียนจำนวนหนึ่งหลบหนีออกนอกโรงเรียนเข้าไปในพื้นที่ชุมชนที่มีผู้ติดเชื้อ ประกอบกับโรงเรียนเป็นโรงเรียนประจำ มีนักเรียนอาศัยอยู่รวมกันตลอดเวลา หอพักนักเรียนมีความแออัดระยะห่างระหว่างเตียงน้อยกว่า 1 เมตร รวมถึงมีการใช้สิ่งของร่วมกัน เช่น การรับประทานอาหาร การใช้ห้องสุขา เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังเกิดเหตุ นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผวจ.หนองคาย ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการเกิดโรค และเบื้องต้นสั่งการให้ปิดโรงเรียนเป็นการชั่วคราว และทำความสะอาดบิ๊กคลีนนิ่ง พร้อมกำชับให้ดูแลนักเรียนทุกคนให้ดีที่สุด ให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังโรคขั้นสูงสุด ส่วนโรงเรียนอื่นๆ ซึ่งมีการเปิดเรียนไปแล้วตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน ไม่ได้สั่งปิด แต่ให้คงมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวดประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และจะมีการแถลงอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 ก.ย.ต่อไป
ศาลฎีกาสั่ง ฉลอง-ภูมิศิษฎ์ สส.ภูมิใจไทย หยุดทำหน้าที่ ปมเสียบบัตรแทน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6607077
ศาลฎีกา สั่ง ฉลอง-ภูมิศิษฎ์ 2 ส.ส.พัทลุง ภูมิใจไทย หยุดปฏิบัติหน้าที่ ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายเเรงปมเสียบบัตรเเทนกัน มีผล 3 ก.ย.ส่งหนังสือเเจ้งสภาเเล้ว
เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา ศาลฎีกาได้มีคำสั่งคดีหมายเลขดำที่ คมจ. 3/2564 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นร้อง นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ และนายภูมิศิษฎ์ คงมี ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย(ภท.) เรื่องการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง (ชั้นรับคำร้อง) ในคดีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดมาตรฐานจริยธรรมฯ อย่างร้ายแรง
จากกรณีถูกกล่าวหาว่ามีพฤติการณ์เสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน ระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท
คดีนี้ ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกา มีคำพิพากษาหรือคำสั่งว่า ผู้คัดค้านฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงให้ผู้คัดค้านหยุดปฏิบัติหน้าที่ นับแต่วันที่ศาลฎีการับคำร้องจนกว่าจะมีคำพิพากษาให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง นับแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้านและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลาไม่เกิน 10 ปีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 235 พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
พ.ศ.2561 มาตรา 87 และมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ข้อ 6-8, 11, 17 และ 27
ศาลฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่า คำร้องของผู้ร้องบรรยายพฤติการณ์ที่กล่าวหา พร้อมทั้งชี้ช่องพยานหลักฐานชัดเจนเพียงพอที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไปได้ และผู้ร้องดำเนินการตามระเบียบที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาว่าด้วยการพิจารณาพิพากษาคดีเกี่ยวกับการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง พ.ศ. 2561 ครบถ้วนแล้ว
ศาลฎีกา จึงมีคำสั่งให้รับคำร้องของผู้ร้องเเละสั่งผู้คัดค้านหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำพิพากษาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 235 วรรคสาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ให้มีผลตั้งแต่วันที่รับคำร้อง 3 ก.ย. 2564 โดยศาลมีเอกสารแจ้งไปยังรัฐสภาแล้ว