“เอ้า เจ้าพศร มากราบคุณนายแม่เสีย ท่านมีเมตตารับอุปการะ ตามที่พ่อเอ็งได้บากหน้ามาขอความกรุณาเอาไว้”
ชายสูงวัยเลยกลางคน ผลักดุนหลังเด็กชายวัยเจ็ดขวบ ผิวพรรณและหน้าตาผุดผาด ผิดแผกไปจากเด็กอายุรุ่นราวคราวเดียวกันในละแวกนี้อย่างสิ้นเชิง
เด็กชายสีผิวขาวละเอียด เค้าหน้าประพิมพ์ประพายละม้ายใครคนหนึ่ง ที่ส่อแววคมสันตั้งแต่พานยังไม่แตก หมอบคลานกระเถิบมาไหว้สตรีผู้เฉิดโฉมในวัยทองผู้นั้นอย่างนบน้อม ดวงตางามคมวาวคู่นั้นเพียงเหลือบมองชั่วประด๋าว ก็ให้รู้สึกเจ็บแปลบในทรวงอก ใบหน้านั้นช่างคล้ายคลึงเหลือเกิน
เลือดเนื้อเชื้อไขชายชั่ว หลอกให้หล่อนหลงรักจนหัวปักหัวปำ แล้วก็ไปอยู่กินกับหญิงคนอื่น จนคลอดบุตรชายออกมา ทิ้งให้เธอระทมทุกข์ ครองตัวเป็นโสดจนทุกเมื่อเชื่อวันนี้
จวบจนสิ้นไร้ไม้ตอก ไปก่อคดีความเอาไว้จนไม่พ้นคุกตารางนั่นแหละ ชายโฉดคนนี้จึงยอมไร้ศักดิ์ศรี ไหว้วานลุงปานพาลูกชายที่ถือกำเนิดจากหญิงอื่นมาพึ่งใบบุญหล่อน
“ไม่ให้อโหสิกรรมกับพี่ก็ได้ เพราะพี่ได้สร้างเวรสร้างกรรมให้แก่น้องจนเกินอภัย แต่ช่วยเอ็นดูลูกพี่ด้วยเถอะนะน้อง เด็กตาดำๆไม่รู้ความชั่วที่พ่อมันเคยก่อไว้แม้แต่น้อย” นั่นคือถ้อยคำที่เขาฝากคนงานของหล่อนมาบอก
วูบหนึ่งของความรู้สึก ฟ้ารุ่งรีบชิงพูดกับชายชราผู้อยู่รับใช้มานาน ก่อนที่หัวใจหล่อนจะแสดงความอ่อนแอออกมาให้เห็น
“ลุงปาน พาไปอยู่บ้านพักคนงานก่อน แล้วฉันจะจัดแจงที่อยู่ให้ใหม่ทีหลัง แล้วเรื่องโรงเรียนฉันจะจัดการให้ แล้วระหว่างนี้” ฟ้ารุ่งเบือนหน้าไปอีกทาง พูดห้วนๆก่อนจะเดินจากไป
“อย่าได้ดูดายอยู่เฉยๆล่ะ งานอะไรทำได้ก็ทำ ฟ้าให้ลุงปานสั่งงานได้เต็มที่”
และเมื่ออยู่ตามลำพังแล้ว ฟ้ารุ่งถึงน้ำตาเอ่อล้นด้วยกลัดกั้นไม่ไหว ทำไมหล่อนต้องใจอ่อนรับเด็กที่เป็นลูกของชายโฉดที่ฆ่าเธอทั้งเป็นมาเลี้ยง ตอกย้ำรอยแผลเป็นจนกลายเป็นแผลสดใหม่อีกครั้ง
แต่แล้วหล่อนก็ปาดน้ำตาทิ้ง วางแผนที่จะล้างแค้นเป็นขั้นตอน
รุ่งขึ้นตั้งแต่ฟ้าไม่สาง นายแม่ใหญ่แห่งสวน”แสงศรัทธา” ก็สั่งการให้ปลุกเด็กชายมาถอนต้นไม้แห้งยืนตายซากออกจากสวนให้หมดทุกต้น
คนงานคนเก่าคนแก่เหลือบมองหน้ากันไปมา งานนี้หนักเกินไปสำหรับเด็ก แม้แต่ผู้ใหญ่ร่างกายแข็งแรงด้วยกันเองยังต้องช่วยกันทำสองสามแรงขึ้นไป
ทั้งๆที่ต่างสงสัยว่าทำไมนายหญิงที่จิตใจปราณีเสมอมา ถึงได้ใจไม้ใส้ระกำกับเด็กนัก แต่ทุกคนก็ปฎิบัติตามโดยปราศจากคำถาม
ผลก็คือเด็ก”พศร”ทำงานหนักโดยไม่ปริปาก ตากแดดร้อนเปรี้ยง ในที่สุดมือที่จับเสียมนั้นก็แตก เด็กชายเป็นลมแดดพับลงไปด้วยความไม่เคยชินในการทำงานกลางแจ้ง
ลุงปานกับคนงานอีกคนพยุงเด็กชายที่อ่อนกระปลกกระปลี้ยผ่านมา ฟ้ารุ่งยืนมองตาค้างหัวใจหล่นวูบ
“ยังไม่เคยงานครับคุณนาย สงสารมัน” นายปานเอ่ยขึ้นอย่างเกรงใจ เด็กชายตาอ่อนระโหยพยายามแข็งใจยกมือไหว้โดยไม่อุทธรณ์
“ผมขะ ขอโทษครับนายแม่ พะ พรุ่งนี้ผมจะทำให้ดีกว่าเดิม”
แววตาที่ซื่อใสบริสุทธิ์ไม่มีการตัดพ้อต่อว่านั้น ทำให้สาวใหญ่นึกเกลียดตนเองขึ้นมาอย่างฉับพลัน กระนั้นก็ยังทำขึงใส่เสียงแข็ง
“ไปนอนพักไป๋ อะไร้ ใจเสาะเหลือเกิน”
พูดจบก็หันหลังเดินหนี แต่พอลับตาคนก็ทรุดตัวลงนั่งอย่างไร้เรี่ยวแรง ก้มหน้าซบฝ่ามือร้องให้สะอึกสะอื้น
เด็กชายมีวิวัฒนาการในเรื่องงานหลังจากนั้นอย่างน่าทึ่ง แม้กระทั่งคนสวนที่ตรากตรำมาทั้งชีวิตยังอดชมไม่ได้
“ไอ้หนูนี่ใจสู้โว้ย”
ฟ้ารุ่งแอบได้ยิน หล่อนมองผิวที่เคยขาวเนียนซึ่งบัดนี้ได้เริ่มเกรียนลงเพราะแรงแดดของเด็กชายแล้วใจหาย
ถ้าคนที่ทิ้งฉันไป สลัดรักฉันอย่างไม่ไยดีนั้นใจร้าย แล้วฉันล่ะ ในตอนนี้ จิตใจต่างจากเขาตรงไหน
เด็กชายพศรได้เข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่ง ชื่อผู้ปกครองนั้นคือ”คุณนายฟ้ารุ่ง” เศรษฐีนีอันดับต้นของจังหวัด แม้แต่ผู้อำนวยการยังต้องยกมือไหว้
พศรไม่ทำให้คนที่ส่งเสียนั้นผิดหวัง เกรดและคะแนนในการเรียนของเขานั้นติดอันดับเสมอมา ในแง่กิจกรรมนั้นก็ดีงาม ครูบาอาจารย์ต่างรักใคร่เอ็นดู
ความปลื้มอกปลื้มใจนั้นได้บังเกิดขึ้นในใจของผู้หญิงคนนี้ คนที่ตั้งใจว่าจะจงเกลียดจงชังผู้ชายคนหนึ่งและทายาทเขาไปตลอดชีวิต
ทุกครั้งเจอหล่อนเจอหน้าเด็กชาย สีหน้าเธอจะวางนิ่งและพูดด้วยน้ำเสียงจืดจาง
“ตั้งใจเรียน อย่าทำให้ฉันต้องอับอายขายหน้า ที่เอาลูกของคนไม่เอาถ่านมาเลี้ยง แล้วงานสวนงานไร่ไม่ต้องไปทำแล้ว เดี๋ยวคนจะตราหน้าว่าฉันกดขี่แรงงาน ไม่ให้เวลาไปท่องหนังสือ ทำการบ้านอีก”
พูดจบเธอก็จะสะบัดหน้าหนีอย่างทุกครั้ง แล้วเดินจากไป แต่ครั้งนี้
“ขอบคุณครับ นายแม่ “
เสียงที่พูดออกมาอย่างจริงใจนั้น แทบทำให้หล่อนหันหลังกลับไปและโอบกอดร่างนั้นมาแแนบอก แต่ไม่ได้ นี่มันคือเอาลูกเขามาเลี้ยงเอาเมี่ยงเขามาอม สักวันหนึ่งพอมันได้ดี มันก็จะทิ้งขว้างเธอไป อย่างเช่นที่พ่อมันทำ
“ดี” ฟ้ารุ่งพูดทิ้งเสียงห้วนๆ หันหลังไม่มองหน้าเด็กชายอีก
โครงการชื่อเดียวเอี่ยวทุกเรื่อง”แม่”(Furryjit)
ชายสูงวัยเลยกลางคน ผลักดุนหลังเด็กชายวัยเจ็ดขวบ ผิวพรรณและหน้าตาผุดผาด ผิดแผกไปจากเด็กอายุรุ่นราวคราวเดียวกันในละแวกนี้อย่างสิ้นเชิง
เด็กชายสีผิวขาวละเอียด เค้าหน้าประพิมพ์ประพายละม้ายใครคนหนึ่ง ที่ส่อแววคมสันตั้งแต่พานยังไม่แตก หมอบคลานกระเถิบมาไหว้สตรีผู้เฉิดโฉมในวัยทองผู้นั้นอย่างนบน้อม ดวงตางามคมวาวคู่นั้นเพียงเหลือบมองชั่วประด๋าว ก็ให้รู้สึกเจ็บแปลบในทรวงอก ใบหน้านั้นช่างคล้ายคลึงเหลือเกิน
เลือดเนื้อเชื้อไขชายชั่ว หลอกให้หล่อนหลงรักจนหัวปักหัวปำ แล้วก็ไปอยู่กินกับหญิงคนอื่น จนคลอดบุตรชายออกมา ทิ้งให้เธอระทมทุกข์ ครองตัวเป็นโสดจนทุกเมื่อเชื่อวันนี้
จวบจนสิ้นไร้ไม้ตอก ไปก่อคดีความเอาไว้จนไม่พ้นคุกตารางนั่นแหละ ชายโฉดคนนี้จึงยอมไร้ศักดิ์ศรี ไหว้วานลุงปานพาลูกชายที่ถือกำเนิดจากหญิงอื่นมาพึ่งใบบุญหล่อน
“ไม่ให้อโหสิกรรมกับพี่ก็ได้ เพราะพี่ได้สร้างเวรสร้างกรรมให้แก่น้องจนเกินอภัย แต่ช่วยเอ็นดูลูกพี่ด้วยเถอะนะน้อง เด็กตาดำๆไม่รู้ความชั่วที่พ่อมันเคยก่อไว้แม้แต่น้อย” นั่นคือถ้อยคำที่เขาฝากคนงานของหล่อนมาบอก
วูบหนึ่งของความรู้สึก ฟ้ารุ่งรีบชิงพูดกับชายชราผู้อยู่รับใช้มานาน ก่อนที่หัวใจหล่อนจะแสดงความอ่อนแอออกมาให้เห็น
“ลุงปาน พาไปอยู่บ้านพักคนงานก่อน แล้วฉันจะจัดแจงที่อยู่ให้ใหม่ทีหลัง แล้วเรื่องโรงเรียนฉันจะจัดการให้ แล้วระหว่างนี้” ฟ้ารุ่งเบือนหน้าไปอีกทาง พูดห้วนๆก่อนจะเดินจากไป
“อย่าได้ดูดายอยู่เฉยๆล่ะ งานอะไรทำได้ก็ทำ ฟ้าให้ลุงปานสั่งงานได้เต็มที่”
และเมื่ออยู่ตามลำพังแล้ว ฟ้ารุ่งถึงน้ำตาเอ่อล้นด้วยกลัดกั้นไม่ไหว ทำไมหล่อนต้องใจอ่อนรับเด็กที่เป็นลูกของชายโฉดที่ฆ่าเธอทั้งเป็นมาเลี้ยง ตอกย้ำรอยแผลเป็นจนกลายเป็นแผลสดใหม่อีกครั้ง
แต่แล้วหล่อนก็ปาดน้ำตาทิ้ง วางแผนที่จะล้างแค้นเป็นขั้นตอน
รุ่งขึ้นตั้งแต่ฟ้าไม่สาง นายแม่ใหญ่แห่งสวน”แสงศรัทธา” ก็สั่งการให้ปลุกเด็กชายมาถอนต้นไม้แห้งยืนตายซากออกจากสวนให้หมดทุกต้น
คนงานคนเก่าคนแก่เหลือบมองหน้ากันไปมา งานนี้หนักเกินไปสำหรับเด็ก แม้แต่ผู้ใหญ่ร่างกายแข็งแรงด้วยกันเองยังต้องช่วยกันทำสองสามแรงขึ้นไป
ทั้งๆที่ต่างสงสัยว่าทำไมนายหญิงที่จิตใจปราณีเสมอมา ถึงได้ใจไม้ใส้ระกำกับเด็กนัก แต่ทุกคนก็ปฎิบัติตามโดยปราศจากคำถาม
ผลก็คือเด็ก”พศร”ทำงานหนักโดยไม่ปริปาก ตากแดดร้อนเปรี้ยง ในที่สุดมือที่จับเสียมนั้นก็แตก เด็กชายเป็นลมแดดพับลงไปด้วยความไม่เคยชินในการทำงานกลางแจ้ง
ลุงปานกับคนงานอีกคนพยุงเด็กชายที่อ่อนกระปลกกระปลี้ยผ่านมา ฟ้ารุ่งยืนมองตาค้างหัวใจหล่นวูบ
“ยังไม่เคยงานครับคุณนาย สงสารมัน” นายปานเอ่ยขึ้นอย่างเกรงใจ เด็กชายตาอ่อนระโหยพยายามแข็งใจยกมือไหว้โดยไม่อุทธรณ์
“ผมขะ ขอโทษครับนายแม่ พะ พรุ่งนี้ผมจะทำให้ดีกว่าเดิม”
แววตาที่ซื่อใสบริสุทธิ์ไม่มีการตัดพ้อต่อว่านั้น ทำให้สาวใหญ่นึกเกลียดตนเองขึ้นมาอย่างฉับพลัน กระนั้นก็ยังทำขึงใส่เสียงแข็ง
“ไปนอนพักไป๋ อะไร้ ใจเสาะเหลือเกิน”
พูดจบก็หันหลังเดินหนี แต่พอลับตาคนก็ทรุดตัวลงนั่งอย่างไร้เรี่ยวแรง ก้มหน้าซบฝ่ามือร้องให้สะอึกสะอื้น
เด็กชายมีวิวัฒนาการในเรื่องงานหลังจากนั้นอย่างน่าทึ่ง แม้กระทั่งคนสวนที่ตรากตรำมาทั้งชีวิตยังอดชมไม่ได้
“ไอ้หนูนี่ใจสู้โว้ย”
ฟ้ารุ่งแอบได้ยิน หล่อนมองผิวที่เคยขาวเนียนซึ่งบัดนี้ได้เริ่มเกรียนลงเพราะแรงแดดของเด็กชายแล้วใจหาย
ถ้าคนที่ทิ้งฉันไป สลัดรักฉันอย่างไม่ไยดีนั้นใจร้าย แล้วฉันล่ะ ในตอนนี้ จิตใจต่างจากเขาตรงไหน
เด็กชายพศรได้เข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่ง ชื่อผู้ปกครองนั้นคือ”คุณนายฟ้ารุ่ง” เศรษฐีนีอันดับต้นของจังหวัด แม้แต่ผู้อำนวยการยังต้องยกมือไหว้
พศรไม่ทำให้คนที่ส่งเสียนั้นผิดหวัง เกรดและคะแนนในการเรียนของเขานั้นติดอันดับเสมอมา ในแง่กิจกรรมนั้นก็ดีงาม ครูบาอาจารย์ต่างรักใคร่เอ็นดู
ความปลื้มอกปลื้มใจนั้นได้บังเกิดขึ้นในใจของผู้หญิงคนนี้ คนที่ตั้งใจว่าจะจงเกลียดจงชังผู้ชายคนหนึ่งและทายาทเขาไปตลอดชีวิต
ทุกครั้งเจอหล่อนเจอหน้าเด็กชาย สีหน้าเธอจะวางนิ่งและพูดด้วยน้ำเสียงจืดจาง
“ตั้งใจเรียน อย่าทำให้ฉันต้องอับอายขายหน้า ที่เอาลูกของคนไม่เอาถ่านมาเลี้ยง แล้วงานสวนงานไร่ไม่ต้องไปทำแล้ว เดี๋ยวคนจะตราหน้าว่าฉันกดขี่แรงงาน ไม่ให้เวลาไปท่องหนังสือ ทำการบ้านอีก”
พูดจบเธอก็จะสะบัดหน้าหนีอย่างทุกครั้ง แล้วเดินจากไป แต่ครั้งนี้
“ขอบคุณครับ นายแม่ “
เสียงที่พูดออกมาอย่างจริงใจนั้น แทบทำให้หล่อนหันหลังกลับไปและโอบกอดร่างนั้นมาแแนบอก แต่ไม่ได้ นี่มันคือเอาลูกเขามาเลี้ยงเอาเมี่ยงเขามาอม สักวันหนึ่งพอมันได้ดี มันก็จะทิ้งขว้างเธอไป อย่างเช่นที่พ่อมันทำ
“ดี” ฟ้ารุ่งพูดทิ้งเสียงห้วนๆ หันหลังไม่มองหน้าเด็กชายอีก