การแพร่ระบาดไปทั่วโลกของเชื้อไวรัสโควิด-19 มันส่งผลกระทบกับหลายวงการ เพราะมันทำให้คนเราไม่สามารถทำกิจกรรมนอกบ้านได้ ซึ่งโลกฟุตบอลก็เป็นหนึ่งในวงการที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง เนื่องจากการขาดคนดูในสนามมันส่งผลให้แต่ละทีมขาดรายได้จากวันที่มีการแข่งขัน อย่างเช่นค่าตั๋วเข้าชมการแข่งขัน เป็นต้น
เมื่อขาดรายได้แบบนั้นมันก็ส่งผลให้หลายคนประเมินว่าแต่ละทีมจะไม่สามารถทำการเสริมทัพได้มากเท่าไหร่ตามไปด้วย ซึ่งหากนับเฉพาะในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้วล่ะก็ มันก็มีตลาดการเสริมทัพ 3 ตลาดที่ต้องดำเนินการในระหว่างที่เชื้อร้ายกำลังแพร่กระจายตามไปด้วย นั่นคือตลาดช่วงซัมเมอร์ของปี 2020, ตลาดช่วงหน้าหนาวของปี 2021 และตลาดช่วงซัมเมอร์ของปี 2021
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้หลายทีมจะไม่มีเงินให้ช็อปมากพอ แต่มันก็ยังมีบางทีมที่ใช้เงินช็อปแข้งไปเยอะพอตัวในระหว่างตลาด 3 ช่วงนั้นเหมือนกัน ซึ่งวันนี้เราจะมาเปิดเผยกันว่า 5 ทีมไหนในทวีปยุโรปที่ใช้เงินไปกับการช็อปแข้งมากที่สุดใน 3 ตลาดดังกล่าว โดยขอบอกก่อนเลยว่ามันเป็นทีมจากอังกฤษทั้งหมดด้วย
5. สเปอร์ส
อาจจะเป็นอันดับที่ทำให้หลายคนแปลกใจ แต่ใช่แล้ว สเปอร์ส ใช้เงินเสริมทัพไปเยอะมากในตลาด 3 รอบหลังสุด โดยในตลาดช่วงซัมเมอร์ของปี 2021 นั้น พวกเขาจ่ายเงินไป 25.8 ล้านปอนด์เพื่อเอา เอแมร์ซอน รอยัล มาจาก บาร์เซโลน่า, ดีลมูลค่า 21.6 ล้านปอนด์ที่ได้ ไบรยัน คิล มาจาก เซบีย่า และยังมีดีล 14.6 ล้านปอนด์ที่เป็นค่าตัวของ ปาเป้ มาตาร์ ซาร์ อีก
ขณะที่ซัมเมอร์ปีก่อนก็มีอย่างเช่น เซร์คิโอ เรกีล่อน ที่มีค่าตัว 25 ล้านปอนด์ กับ ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก ซึ่งมีค่าตัว 15 ล้านปอนด์ ด้วยเหตุนี้ ในตลาด 3 รอบหลังสุดนั้น มันก็เท่ากับว่า สเปอร์ส ใช้เงินเสริมทัพไปรวมแล้ว 152 ล้านปอนด์ด้วยกัน
4. ลีดส์
160.6 ล้านปอนด์ คือเม็ดเงินทั้งหมดที่ ลีดส์ ใช้ไปในการเสริมทัพช่วง 3 ตลาดที่ผ่านมา ดังนั้นมันจึงทำให้ทัพ "ยูงทอง" ขึ้นมาอยู่ในอันดับ 4 ของชาร์ตจอมทุ่มเงินช็อปในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แบบน่าเซอร์ไพรส์พอตัว
ทั้งนี้ คนที่มีค่าตัวสูงสุดจากเงินทั้งหมด 160.6 ล้านปอนด์ที่ ลีดส์ ใช้ไปนั้น ได้แก่ โรดรีโก้ กองหน้าชาวสแปนิชที่ ลีดส์ จ่ายไป 26 ล้านปอนด์เพื่อดึงมาร่วมทัพเมื่อช่วงซัมเมอร์ ปีก่อน รองลงมาก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น แดเนี่ยล เจมส์ แข้งป้ายแดงรายล่าสุดของพวกเขาที่มีค่าตัว 25 ล้านปอนด์นั่นเอง ส่วนคนอื่นๆ ที่น่าสนใจมีอย่างเช่น ฆูเนียร์ ฟีร์โป้ ที่มีค่าตัว 12.8 ล้านปอนด์ และ แจ็ค แฮร์ริสัน ซึ่งโดนดึงมาร่วมทีมด้วยค่าตัว 11 ล้านปอนด์ เป็นต้น
3. อาร์เซน่อล
ฤดูกาล 2020-21 ถือเป็นซีซั่นแรกที่ มิเกล อาร์เตต้า ได้เป็นผู้จัดการทีมของ อาร์เซน่อล ตั้งแต่เปิดฤดูกาล นั่นหมายความว่าในตลาด 3 รอบที่ผ่านมานั้นเขาได้เสริมทัพเพื่อสร้างทีมตามที่ตัวเองต้องการเยอะในระดับหนึ่ง ซึ่งโปรเจ็กต์ที่ว่าก็ใช้เงินไปกับการเสริมทัพแล้ว 166.6 ล้านปอนด์ด้วยกัน
เบน ไวท์ คือคนที่ทำให้ อาร์เซน่อล ต้องควักเงินไปมากที่สุดในตลาด 3 ช่วงที่ผ่านมา หลังจากที่เขามีค่าตัวสูงถึง 50 ล้านปอนด์ รองลงมาคือ โธมัส ปาร์เตย์ กองกลางชาวกานาที่ย้ายมาจาก แอตเลติโก มาดริด ด้วยค่าตัว 45 ล้านปอนด์ ตามมาด้วย มาร์ติน โอเดการ์ด ที่ "ไอ้ปืนใหญ่" ต้องจ่ายเงินให้ เรอัล มาดิด ไป 30 ล้านปอนด์
2. เชลซี
นับตั้งแต่ที่ โรมัน อบราโมวิช เศรษฐีชาวรัสเซียเข้ามาเทคโอเวอร์ทีมนั้น เชลซี ก็เป็นทีมที่แสดงให้เห็นว่าพร้อมจ่ายเงินเพื่อนักเตะที่พวกเขาคิดว่าเหมาะกับทีมอยู่เสมอ ไม่ว่านักเตะคนนั้นๆ จะมีค่าตัวแพงระยับขนาดไหนก็ตาม ซึ่งถึงแม้จะเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ด้วยการเงินและการบริหารที่ดีทำให้ เชลซี ยังสามารถใช้เงินสอยนักเตะได้เยอะกว่าหลายทีม
โรเมลู ลูกากู กองหน้าที่พวกเขาเพิ่งดึงกลับมาอยู่กับทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ถือเป็นตัวอย่างที่ดี เพราะถึงแม้ อินเตอร์ จะตั้งค่าตัวไว้สูงลิบระดับ 97.5 ล้านปอนด์ แต่ เชลซี ก็จ่ายได้แบบแทบไม่มีปัญหาอะไร ขณะที่กลางปีก่อนพวกเขาก็เคยเสียเงินเสริมทัพไปเยอะเหมือนกัน อย่างเช่นการจ่ายเงินไป 72 ล้านปอนด์เพื่อเป็นค่าตัวของ ไค ฮาแวร์ทซ์, ดีลของ ติโม แวร์เนอร์ ที่มีมูลค่า 47.7 ล้านปอนด์, 45.18 ล้านปอนด์เพื่อปิดดีลกับ เบน ชิลเวลล์ และ 36 ล้านปอนด์ที่เป็นค่าตัวของ ฮาคิม ซีเย็ค เป็นต้น ทำให้ในตลาด 3 รอบหลังสุด เชลซี ใช้เงินเสริมทัพไป 176 ล้านปอนด์ด้วยกัน
1. แมนฯ ยูไนเต็ด
ใช่ ไม่มีทีมไหนในทวีปยุโรปอีกแล้วที่จะควักเงินเสริมทัพในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปมากกว่าทีมของกุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา หลังจากที่พวกเขาจ่ายเงินไปรวมแล้วมากถึง 187 ล้านปอนด์ ในตลาด 3 รอบหลังสุด
แน่นอนว่าเงินส่วนใหญ่จาก 187 ล้านปอนด์ที่ว่านั้นเกิดขึ้นจากการจับจ่ายใช้สอยในตลาดช่วงซัมเมอร์นี้ ไม่ว่าจะเป็น เจดอน ซานโช่ ที่มีค่าตัว 73 ล้านปอนด์, ราฟาแอล วาราน ที่มีราคา 41 ล้านปอนด์ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่การเดินทางกลับสู่ แมนฯ ยูไนเต็ด ของเขาต้องแลกกับจำนวนค่าตัวในเบื้องต้น 12.85 ล้านปอนด์ ส่วนช่วงกลางปีก่อนนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เคยใช้เงินในเบื้องต้นไป 35 ล้านปอนด์เพื่อปิดดีลกับ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค เหมือนกัน
อันดับ 6-10
6. แมนฯ ซิตี้ 140.8 ล้านปอนด์
7. ยูเวนตุส 119.3 ล้านปอนด์
8. ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 114 ล้านปอนด์
9. แอสตัน วิลล่า 91.9 ล้านปอนด์
10. อาแอส โรม่า 87.6 ล้านปอนด์
cr : www.siamsport.co.th
ยังช็อปไหว! 5 ทีมควักเงินเสริมทัพมากสุดแม้เจอโควิดในตลาด 3 รอบหลังสุด
เมื่อขาดรายได้แบบนั้นมันก็ส่งผลให้หลายคนประเมินว่าแต่ละทีมจะไม่สามารถทำการเสริมทัพได้มากเท่าไหร่ตามไปด้วย ซึ่งหากนับเฉพาะในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้วล่ะก็ มันก็มีตลาดการเสริมทัพ 3 ตลาดที่ต้องดำเนินการในระหว่างที่เชื้อร้ายกำลังแพร่กระจายตามไปด้วย นั่นคือตลาดช่วงซัมเมอร์ของปี 2020, ตลาดช่วงหน้าหนาวของปี 2021 และตลาดช่วงซัมเมอร์ของปี 2021
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้หลายทีมจะไม่มีเงินให้ช็อปมากพอ แต่มันก็ยังมีบางทีมที่ใช้เงินช็อปแข้งไปเยอะพอตัวในระหว่างตลาด 3 ช่วงนั้นเหมือนกัน ซึ่งวันนี้เราจะมาเปิดเผยกันว่า 5 ทีมไหนในทวีปยุโรปที่ใช้เงินไปกับการช็อปแข้งมากที่สุดใน 3 ตลาดดังกล่าว โดยขอบอกก่อนเลยว่ามันเป็นทีมจากอังกฤษทั้งหมดด้วย
5. สเปอร์ส
อาจจะเป็นอันดับที่ทำให้หลายคนแปลกใจ แต่ใช่แล้ว สเปอร์ส ใช้เงินเสริมทัพไปเยอะมากในตลาด 3 รอบหลังสุด โดยในตลาดช่วงซัมเมอร์ของปี 2021 นั้น พวกเขาจ่ายเงินไป 25.8 ล้านปอนด์เพื่อเอา เอแมร์ซอน รอยัล มาจาก บาร์เซโลน่า, ดีลมูลค่า 21.6 ล้านปอนด์ที่ได้ ไบรยัน คิล มาจาก เซบีย่า และยังมีดีล 14.6 ล้านปอนด์ที่เป็นค่าตัวของ ปาเป้ มาตาร์ ซาร์ อีก
ขณะที่ซัมเมอร์ปีก่อนก็มีอย่างเช่น เซร์คิโอ เรกีล่อน ที่มีค่าตัว 25 ล้านปอนด์ กับ ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก ซึ่งมีค่าตัว 15 ล้านปอนด์ ด้วยเหตุนี้ ในตลาด 3 รอบหลังสุดนั้น มันก็เท่ากับว่า สเปอร์ส ใช้เงินเสริมทัพไปรวมแล้ว 152 ล้านปอนด์ด้วยกัน
4. ลีดส์
160.6 ล้านปอนด์ คือเม็ดเงินทั้งหมดที่ ลีดส์ ใช้ไปในการเสริมทัพช่วง 3 ตลาดที่ผ่านมา ดังนั้นมันจึงทำให้ทัพ "ยูงทอง" ขึ้นมาอยู่ในอันดับ 4 ของชาร์ตจอมทุ่มเงินช็อปในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แบบน่าเซอร์ไพรส์พอตัว
ทั้งนี้ คนที่มีค่าตัวสูงสุดจากเงินทั้งหมด 160.6 ล้านปอนด์ที่ ลีดส์ ใช้ไปนั้น ได้แก่ โรดรีโก้ กองหน้าชาวสแปนิชที่ ลีดส์ จ่ายไป 26 ล้านปอนด์เพื่อดึงมาร่วมทัพเมื่อช่วงซัมเมอร์ ปีก่อน รองลงมาก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น แดเนี่ยล เจมส์ แข้งป้ายแดงรายล่าสุดของพวกเขาที่มีค่าตัว 25 ล้านปอนด์นั่นเอง ส่วนคนอื่นๆ ที่น่าสนใจมีอย่างเช่น ฆูเนียร์ ฟีร์โป้ ที่มีค่าตัว 12.8 ล้านปอนด์ และ แจ็ค แฮร์ริสัน ซึ่งโดนดึงมาร่วมทีมด้วยค่าตัว 11 ล้านปอนด์ เป็นต้น
3. อาร์เซน่อล
ฤดูกาล 2020-21 ถือเป็นซีซั่นแรกที่ มิเกล อาร์เตต้า ได้เป็นผู้จัดการทีมของ อาร์เซน่อล ตั้งแต่เปิดฤดูกาล นั่นหมายความว่าในตลาด 3 รอบที่ผ่านมานั้นเขาได้เสริมทัพเพื่อสร้างทีมตามที่ตัวเองต้องการเยอะในระดับหนึ่ง ซึ่งโปรเจ็กต์ที่ว่าก็ใช้เงินไปกับการเสริมทัพแล้ว 166.6 ล้านปอนด์ด้วยกัน
เบน ไวท์ คือคนที่ทำให้ อาร์เซน่อล ต้องควักเงินไปมากที่สุดในตลาด 3 ช่วงที่ผ่านมา หลังจากที่เขามีค่าตัวสูงถึง 50 ล้านปอนด์ รองลงมาคือ โธมัส ปาร์เตย์ กองกลางชาวกานาที่ย้ายมาจาก แอตเลติโก มาดริด ด้วยค่าตัว 45 ล้านปอนด์ ตามมาด้วย มาร์ติน โอเดการ์ด ที่ "ไอ้ปืนใหญ่" ต้องจ่ายเงินให้ เรอัล มาดิด ไป 30 ล้านปอนด์
2. เชลซี
นับตั้งแต่ที่ โรมัน อบราโมวิช เศรษฐีชาวรัสเซียเข้ามาเทคโอเวอร์ทีมนั้น เชลซี ก็เป็นทีมที่แสดงให้เห็นว่าพร้อมจ่ายเงินเพื่อนักเตะที่พวกเขาคิดว่าเหมาะกับทีมอยู่เสมอ ไม่ว่านักเตะคนนั้นๆ จะมีค่าตัวแพงระยับขนาดไหนก็ตาม ซึ่งถึงแม้จะเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ด้วยการเงินและการบริหารที่ดีทำให้ เชลซี ยังสามารถใช้เงินสอยนักเตะได้เยอะกว่าหลายทีม
โรเมลู ลูกากู กองหน้าที่พวกเขาเพิ่งดึงกลับมาอยู่กับทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ถือเป็นตัวอย่างที่ดี เพราะถึงแม้ อินเตอร์ จะตั้งค่าตัวไว้สูงลิบระดับ 97.5 ล้านปอนด์ แต่ เชลซี ก็จ่ายได้แบบแทบไม่มีปัญหาอะไร ขณะที่กลางปีก่อนพวกเขาก็เคยเสียเงินเสริมทัพไปเยอะเหมือนกัน อย่างเช่นการจ่ายเงินไป 72 ล้านปอนด์เพื่อเป็นค่าตัวของ ไค ฮาแวร์ทซ์, ดีลของ ติโม แวร์เนอร์ ที่มีมูลค่า 47.7 ล้านปอนด์, 45.18 ล้านปอนด์เพื่อปิดดีลกับ เบน ชิลเวลล์ และ 36 ล้านปอนด์ที่เป็นค่าตัวของ ฮาคิม ซีเย็ค เป็นต้น ทำให้ในตลาด 3 รอบหลังสุด เชลซี ใช้เงินเสริมทัพไป 176 ล้านปอนด์ด้วยกัน
1. แมนฯ ยูไนเต็ด
ใช่ ไม่มีทีมไหนในทวีปยุโรปอีกแล้วที่จะควักเงินเสริมทัพในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปมากกว่าทีมของกุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา หลังจากที่พวกเขาจ่ายเงินไปรวมแล้วมากถึง 187 ล้านปอนด์ ในตลาด 3 รอบหลังสุด
แน่นอนว่าเงินส่วนใหญ่จาก 187 ล้านปอนด์ที่ว่านั้นเกิดขึ้นจากการจับจ่ายใช้สอยในตลาดช่วงซัมเมอร์นี้ ไม่ว่าจะเป็น เจดอน ซานโช่ ที่มีค่าตัว 73 ล้านปอนด์, ราฟาแอล วาราน ที่มีราคา 41 ล้านปอนด์ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่การเดินทางกลับสู่ แมนฯ ยูไนเต็ด ของเขาต้องแลกกับจำนวนค่าตัวในเบื้องต้น 12.85 ล้านปอนด์ ส่วนช่วงกลางปีก่อนนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เคยใช้เงินในเบื้องต้นไป 35 ล้านปอนด์เพื่อปิดดีลกับ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค เหมือนกัน
อันดับ 6-10
6. แมนฯ ซิตี้ 140.8 ล้านปอนด์
7. ยูเวนตุส 119.3 ล้านปอนด์
8. ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 114 ล้านปอนด์
9. แอสตัน วิลล่า 91.9 ล้านปอนด์
10. อาแอส โรม่า 87.6 ล้านปอนด์
cr : www.siamsport.co.th