สวัสดีค่ะ
เนื่องจาก Pantip ถือเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญของเราเลยในการเตรียมสอบ เลยตั้งใจไว้ว่าถ้าสอบเสร็จและคะแนนถึงเกณฑ์ที่ตั้งใจไว้
จะมาแบ่งปันข้อมูลและประสบการณ์จากการสอบ ที่เกิดขึ้นในช่วงโควิด (ตอนช่วงสอบ ตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นทุกวัน)
เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับคนที่กำลังจะตัดสินใจสอบ ielts หรือ toefl โดยเฉพาะ toefl แบบ home edition ซึ่งคนยังไม่ค่อยรีวิวไว้มากนัก
ขอเกริ่นก่อนสักนิด
นี่เป็นครั้งแรกของการสอบทั้ง ielts และ toefl ของเราค่ะ จริง ๆ ตอนแรก เราไม่ได้คิดจะสอบ ielts เลย เพราะก่อนหน้านี้ เราซื้อคอร์ส Notefull ไว้ (ซึ่ง Pantip หลายกระทู้แนะนำไว้สำหรับคนที่เตรียมตัวสอบ toefl เองที่บ้าน) เราเลยแพลนว่าจะใช้เวลาเตรียมตัวประมาณสักราว ๆ 2 เดือน โดยกดเลือกวันสอบ toefl พร้อมจ่ายเงินเรียบร้อย สร้างแรงฮึดในการเริ่มอ่านอย่างจริงจัง เราเลือกวันสอบไว้ช่วงต้นเดือนกรกฎาคมค่ะ เพราะฉะนั้น ตั้งแต่พฤษภาคม - มิถุนายน เราก็ใช้ Notefull เป็นหลักในการเตรียมตัว ซึ่งจริง ๆ เป็นเว็ปที่ดีมาก เราซื้อคอร์สที่รวมการฝึกทุกทักษะ (ฟัง พูด อ่าน เขียน) มีทั้งคลิปการสอน ทริคในการสอบ และข้อสอบให้ลองฝึกทำ
จนมาถึงวันก่อนสอบ 1 วัน เราได้รับอีเมลจาก Prometric ใจความว่า "Please do not go to the test center." (ช่วงนั้นสถานการณ์โควิดระลอกใหม่กำลังพุ่งขึ้นค่ะ) และขอให้เรารอรับเมลจาก ETS ภายใน 1 วัน ให้กด reschedule ได้ 1 ครั้ง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เมื่อได้รับเมล วันที่จะเลื่อนได้เร็วที่สุด ก็คืออีก 2 อาทิตย์ถัดไป แต่เราลองคาดการณ์ว่าอีก 2 อาทิตย์ ถ้าเราเลือกศูนย์สอบในกรุงเทพฯ อีก ต้องไม่น่าได้สอบอีกแน่ ๆ คราวนี้เราเลยเปลี่ยนเป็นศูนย์ที่ชลบุรีเลยค่ะ ลองหาเบอร์โทรไปสอบถาม ก็ได้ความว่าศูนย์สอบยังเปิดอยู่ ระหว่าง 2 อาทิตย์นี้ เราก็ให้กำลังใจตัวเอง คิดว่าไม่เป็นไร ถือว่าได้มีโอกาสเตรียมตัวเพิ่ม ท่องศัพท์อีกสักหน่อย แต่สุดท้าย พอก่อนวันสอบอีก 3 วัน เราก็ได้รับอีเมลจาก Prometric เหมือนเดิม สรุปคือ เราก็ต้องเลื่อนวันสอบอีกเป็นครั้งที่ 2 ทีนี้เริ่มใจไม่ดีแล้ว กลัวว่าถ้าเลื่อนอีก แล้วได้คะแนนไม่ดี ถ้าจะสอบใหม่ กลัวจะได้คะแนนไม่ทันตามแพลนที่วางไว้ แล้วก็คาดเดาสถานการณ์โควิดไม่ได้ด้วย เลยเป็นจุดเริ่มต้นให้เราได้สอบ ielts ค่ะ ส่วน toefl เราก็ลองเลื่อนอีกครั้งเป็นครั้งที่ 3 T^T ก็เลือกศูนย์ชลบุรีเหมือนเดิม ได้วันสอบเป็นช่วงต้นเดือนสิงหาคม
การสอบ ietls
เราตัดสินใจสมัครสอบ ielts ทันทีที่รู้ว่ามีศูนย์สอบเปิด และเลือกวันที่เร็วที่สุด โดยเลือกสอบแบบ computer based ค่ะ (เรามีเวลาก่อนสอบแค่ 3 วัน เพราะกลัวสถานการณ์ไม่ดีแล้วจะไม่ได้สอบอีก และให้กำลังใจตัวเองเอาว่า ไม่เป็นไรอย่างน้อยก็พอจะเตรียมตัวสำหรับ toefl มาบ้าง) โดย 3 วันที่มีอยู่ เรายังคงใช้ Pantip เป็นหลักในการหาแนวทางในการเตรียมตัวเหมือนเดิม (ขอบคุณเจ้าของกระทู้ทุกคนจริง ๆ น้า <3) โดยเริ่มจากศึกษารูปแบบของข้อสอบ ฝึกทำข้อสอบเก่าจาก application ielts prep (สีแดง ๆ) ดูทริคต่าง ๆ จาก youtube (ส่วนตัวชอบช่อง E2 ielts โดยเฉพาะทริคของ part reading ซึ่งช่วยให้ประหยัดเวลาในการทำข้อสอบวันจริงของเราไปเยอะเลย) และก็เตรียมส่วนอื่รที่พอจะเตรียมได้ในระยะเวลาอันแสนสั้น เช่น part writing ก็ศึกษา template จากที่ต่าง ๆ แล้วก็พวกคำศัพท์ที่จะต้องใช้สำหรับการตอบ Question 1 ที่ต้องรู้คำศัพท์สำหรับบรรยาย graph chart ต่าง ๆ เป็นต้น นอกจากนั้น ก็สวดมนต์รัว ๆ 5555 เพราะไม่อยากโดนเลื่อนสอบอีกแล้ว
ส่วนตัว เราคิดว่าจริง ๆ แม้ข้อสอบ ielts จะวัด 4 ทักษะเหมือน toefl แต่รูปแบบของคำถามแต่ละ part ค่อนข้างแตกต่างกัน เช่น part listening ของ ielts จะมีส่วนคำตอบที่ต้องพิมพ์เติมคำ ในขณะที่ toefl เป็น multiple choices ทั้งหมด เป็นต้น และความแตกต่างที่ชัดที่สุดคงเป็น part speaking ที่ ietls เราจะได้พูดกับ examiner แต่ toefl ต้อง record กับคอมพิวเตอร์ (ซึ่งสำหรับเรา toefl ยากกว่ามาก ทั้งข้อจำกัดเรื่องเวลาและการต้องใช้ทักษะหลายอย่างเพื่อจะคิดคำตอบให้ทันและครบถ้วน)
ในเรื่องของศูนย์สอบ ต้องบอกว่าศูนย์สอบก็จัดมาตรการการเว้นระยะห่างอย่างดี ต้องใส่ mask ตลอด แม้แต่ตอนสอบ speaking ก็มีฉากกั้นและต้องสวม mask ตลอดเช่นกันค่ะ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นปัญหาอะไร รู้สึกคิดถูกที่เลือกสอบ ielts computer based ไป และยังรู้ผลเร็วมาก แค่ 3 วัน ก็ได้รับแจ้งทาง sms แล้ว (ผล ielts ออก เรายังไม่ได้สอบ toefl เลยค่ะตอนนั้น 5555)
การสอบ toefl home edition
จากที่เกริ่นไปข้างต้นว่าเราเลื่อนสอบ toefl เป็นครั้งที่ 3 สุดท้ายพอครั้งที่ 3 ก็ยังได้รับอีเมลเลื่อนอีกจริง ๆ ทำให้เราตัดสินใจเลือกสอบแบบ home edition แทน ทั้งที่ไม่อยากเลือกสอบที่บ้าน เพราะอ่านรีวิวมา บางคนมีปัญหากับ internet connection ติดต่อ proctor ไม่ได้ เป็นต้น แต่สุดท้ายก็คิดว่า ชะตาฟ้าลิขิต คงจะไม่ได้ไปสอบที่ศูนย์สอบเร็ว ๆ นี้ เลยคิดว่าก็คงต้อง home edition แล้วแหละ
สำหรับอุปกรณ์การเตรียมสอบ toefl home edition ก็คือ แน่นอนต้องมีคอมพิวเตอร์ จะเป็น desktop หรือ notebook ก็ได้ แต่ต้องมีกล้อง (ใน website ETS เขียนว่าต้อง 360 องศา ก็อุตส่าห์สั่งกล้องมาติด แต่สุดท้าย proctor ให้แกะออก ใช้กล้องที่ติดกับโน้ตบุ้ค เพราะชัดกว่า แล้วตอนโชว์รอบ ๆ ห้องก็ใช้วิธียก notebook หมุนรอบตัวเองเอา 555) และมีไมโครโฟนติดกับตัวเครื่อง เพราะวันสอบห้ามใช้หูฟัง แล้วก็ต้องมีกระดาน whiteboard ที่ลบได้ หรือจะใช้ซองใสใส่กระดาษ A4 ไว้ข้างในแทนก็ได้ เพื่อใช้แทนกระดาษทดในการสอบ โดยเมื่อสอบเสร็จเราต้องแสดงให้ proctor เห็นว่าเราลบทุกอย่างที่โน้ตไว้หมดแล้ว นอกจากนี้ ก็ต้องอย่าลืมโหลด software มาติดตั้ง (ใน website ETS เลยค่ะ) และลองทดสอบคอมพิวเตอร์ของเราว่า กล้อง ไมโครโฟน internet connection ผ่านเกณฑ์ไหม ซึ่งควรเตรียมให้พร้อมก่อนวันสอบ
ในส่วนของวันและเวลาสอบ ต้องบอกว่ามีวันให้เลือกเยอะ และเวลาก็มีให้เลือก 24 ชั่วโมง ซึ่งตรงนี้ก็อาจจะเป็นอีกข้อดีของ home edition
พอถึงวันสอบ ก็กินข้าวกินน้ำให้เรียบร้อย อย่าลืมเตรียมบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตด้วย แล้วก่อนเวลานิดนึง ก็กดเข้า link ที่ได้จากเมลของ ETS กรอกรหัสให้เรียบร้อย พอถึงเวลาสอบเป๊ะ ๆ เราก็จะได้ยินเสียง proctor ทักทายมา (เขาเห็นเรา แต่เราไม่เห็นเขานะ 55) ให้เราแสดงบัตรประชาชน ให้ proctor ดู อันนี้ถ้ากล้องจับไม่ได้ เขาจะขอให้เราใช้มือถือถ่ายแล้วซูมให้เขาเห็นที่ละส่วนแทนค่ะ แล้วก็มีถ่ายรูป หลังจากนั้นก็จะให้เราแพนกล้องให้เขาเห็นสภาพห้อง ทั้งใต้โต๊ะ บนโต๊ะ มีทีวีก็ต้องหาผ้ามาคลุม แนะนำว่าควรเก็บห้องให้โล่งและสะอาดที่สุดจะได้ไม่ต้องมาเคลียห้องในวันสอบค่ะ พอเสร็จสิ้นขั้นตอน check in ก็จะถึงตอนสอบจริง โดย proctor เขาก็จะบอกว่าถึงเวลาสอบแล้ว หากมีปัญหาอะไรก็ให้แชทหรือส่งเสียงเรียกได้ โดยพอสอบส่วน reading และ listening เสร็จ proctor ก็จะมาบอกว่ามีเวลาพัก 10 นาที จะลุกไปเข้าห้องน้ำหรือทานของว่างก็ได้ เพราะระหว่างสอบ แม้จะสอบที่บ้านก็ไม่ให้ทานน้ำนะคะ แล้วก็กลับมาสอบอีก 2 part ต่อ คือ speaking และ writing ตามลำดับ แล้วก็เป็นอันเสร็จพิธี โดยระหว่างการสอบ เราไม่ได้มีปัญหาทางเทคนิคอะไร ไม่มีเน็ตกระตุกใด ๆ (อาจเพราะเลือกสอบแต่เช้าตรู่ สอบเสร็จแล้วไก่ยังไม่ขัน คนสอบก็เหมือนยังไม่ได้สติเช่นกัน 5555 พลาดที่เลือกเวลาเช้าไป เหมือนตื่นแต่กายหยาบ)
โดยรวมสำหรับเรา toefl home edition ถือเป็นทางเลือกที่ดี สะดวกและไร้กังวลเรื่องโควิด เหมาะสำหรับคนที่มีอุปกรณ์พร้อม มีห้องที่เงียบสงบ และมี internet ที่เสถียร แต่สิ่งหนึ่งที่เราไม่ค่อยชอบคือ ต้องคอยมาลบ white board ตลอดเวลา พื้นที่มันค่อนข้างจำกัด ไม่เหมือนการใช้กระดาษจริง ๆ และค่อนข้างเสียเวลา โดยเฉพาะ part listening ที่ต้องฟังรัว ๆ หลาย ๆ เรื่อง ทำให้เราจดไม่ค่อยทัน เพราะลบกระดานยังไม่ทันสะอาด ต้องใช้จำเอา T^T ส่วนคะแนนก็ประมาณอาทิตย์นึงค่ะ ก็จะทราบทางอีเมล หรือ app ของ ETS ค่ะ
ท้ายที่สุดนี้ กระทู้ของเราอาจจะไม่ได้แบ่งปันทริคหรือแทคนิคการสอบ เพราะกระทู้อื่น ๆ เขียนไว้อย่างละเอียด มีประโยชน์ และครบถ้วนมาก ๆ แต่เราอยากมาแบ่งปันประสบการณ์การสอบให้ทุกคนฟัง โดยเฉพาะการสอบในยุคโควิดนี้ และอยากจะให้กำลังใจคนที่กำลังเตรียมสอบ หรือวางแผนว่าจะสอบไม่ว่าจะเป็น ielts หรือ toefl ทุกคนนะคะ ถ้าวางแผนไว้แล้ว ขอให้อย่ายอมแพ้ และขอให้ทุกคนโชคดีในการสอบนะคะ
สู้ ๆ ค่ะ
แบ่งปันประสบการณ์การสอบ ielts และ toefl home edition ในช่วงโควิด
นี่เป็นครั้งแรกของการสอบทั้ง ielts และ toefl ของเราค่ะ จริง ๆ ตอนแรก เราไม่ได้คิดจะสอบ ielts เลย เพราะก่อนหน้านี้ เราซื้อคอร์ส Notefull ไว้ (ซึ่ง Pantip หลายกระทู้แนะนำไว้สำหรับคนที่เตรียมตัวสอบ toefl เองที่บ้าน) เราเลยแพลนว่าจะใช้เวลาเตรียมตัวประมาณสักราว ๆ 2 เดือน โดยกดเลือกวันสอบ toefl พร้อมจ่ายเงินเรียบร้อย สร้างแรงฮึดในการเริ่มอ่านอย่างจริงจัง เราเลือกวันสอบไว้ช่วงต้นเดือนกรกฎาคมค่ะ เพราะฉะนั้น ตั้งแต่พฤษภาคม - มิถุนายน เราก็ใช้ Notefull เป็นหลักในการเตรียมตัว ซึ่งจริง ๆ เป็นเว็ปที่ดีมาก เราซื้อคอร์สที่รวมการฝึกทุกทักษะ (ฟัง พูด อ่าน เขียน) มีทั้งคลิปการสอน ทริคในการสอบ และข้อสอบให้ลองฝึกทำ
จนมาถึงวันก่อนสอบ 1 วัน เราได้รับอีเมลจาก Prometric ใจความว่า "Please do not go to the test center." (ช่วงนั้นสถานการณ์โควิดระลอกใหม่กำลังพุ่งขึ้นค่ะ) และขอให้เรารอรับเมลจาก ETS ภายใน 1 วัน ให้กด reschedule ได้ 1 ครั้ง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เมื่อได้รับเมล วันที่จะเลื่อนได้เร็วที่สุด ก็คืออีก 2 อาทิตย์ถัดไป แต่เราลองคาดการณ์ว่าอีก 2 อาทิตย์ ถ้าเราเลือกศูนย์สอบในกรุงเทพฯ อีก ต้องไม่น่าได้สอบอีกแน่ ๆ คราวนี้เราเลยเปลี่ยนเป็นศูนย์ที่ชลบุรีเลยค่ะ ลองหาเบอร์โทรไปสอบถาม ก็ได้ความว่าศูนย์สอบยังเปิดอยู่ ระหว่าง 2 อาทิตย์นี้ เราก็ให้กำลังใจตัวเอง คิดว่าไม่เป็นไร ถือว่าได้มีโอกาสเตรียมตัวเพิ่ม ท่องศัพท์อีกสักหน่อย แต่สุดท้าย พอก่อนวันสอบอีก 3 วัน เราก็ได้รับอีเมลจาก Prometric เหมือนเดิม สรุปคือ เราก็ต้องเลื่อนวันสอบอีกเป็นครั้งที่ 2 ทีนี้เริ่มใจไม่ดีแล้ว กลัวว่าถ้าเลื่อนอีก แล้วได้คะแนนไม่ดี ถ้าจะสอบใหม่ กลัวจะได้คะแนนไม่ทันตามแพลนที่วางไว้ แล้วก็คาดเดาสถานการณ์โควิดไม่ได้ด้วย เลยเป็นจุดเริ่มต้นให้เราได้สอบ ielts ค่ะ ส่วน toefl เราก็ลองเลื่อนอีกครั้งเป็นครั้งที่ 3 T^T ก็เลือกศูนย์ชลบุรีเหมือนเดิม ได้วันสอบเป็นช่วงต้นเดือนสิงหาคม
การสอบ ietls
เราตัดสินใจสมัครสอบ ielts ทันทีที่รู้ว่ามีศูนย์สอบเปิด และเลือกวันที่เร็วที่สุด โดยเลือกสอบแบบ computer based ค่ะ (เรามีเวลาก่อนสอบแค่ 3 วัน เพราะกลัวสถานการณ์ไม่ดีแล้วจะไม่ได้สอบอีก และให้กำลังใจตัวเองเอาว่า ไม่เป็นไรอย่างน้อยก็พอจะเตรียมตัวสำหรับ toefl มาบ้าง) โดย 3 วันที่มีอยู่ เรายังคงใช้ Pantip เป็นหลักในการหาแนวทางในการเตรียมตัวเหมือนเดิม (ขอบคุณเจ้าของกระทู้ทุกคนจริง ๆ น้า <3) โดยเริ่มจากศึกษารูปแบบของข้อสอบ ฝึกทำข้อสอบเก่าจาก application ielts prep (สีแดง ๆ) ดูทริคต่าง ๆ จาก youtube (ส่วนตัวชอบช่อง E2 ielts โดยเฉพาะทริคของ part reading ซึ่งช่วยให้ประหยัดเวลาในการทำข้อสอบวันจริงของเราไปเยอะเลย) และก็เตรียมส่วนอื่รที่พอจะเตรียมได้ในระยะเวลาอันแสนสั้น เช่น part writing ก็ศึกษา template จากที่ต่าง ๆ แล้วก็พวกคำศัพท์ที่จะต้องใช้สำหรับการตอบ Question 1 ที่ต้องรู้คำศัพท์สำหรับบรรยาย graph chart ต่าง ๆ เป็นต้น นอกจากนั้น ก็สวดมนต์รัว ๆ 5555 เพราะไม่อยากโดนเลื่อนสอบอีกแล้ว
ส่วนตัว เราคิดว่าจริง ๆ แม้ข้อสอบ ielts จะวัด 4 ทักษะเหมือน toefl แต่รูปแบบของคำถามแต่ละ part ค่อนข้างแตกต่างกัน เช่น part listening ของ ielts จะมีส่วนคำตอบที่ต้องพิมพ์เติมคำ ในขณะที่ toefl เป็น multiple choices ทั้งหมด เป็นต้น และความแตกต่างที่ชัดที่สุดคงเป็น part speaking ที่ ietls เราจะได้พูดกับ examiner แต่ toefl ต้อง record กับคอมพิวเตอร์ (ซึ่งสำหรับเรา toefl ยากกว่ามาก ทั้งข้อจำกัดเรื่องเวลาและการต้องใช้ทักษะหลายอย่างเพื่อจะคิดคำตอบให้ทันและครบถ้วน)
ในเรื่องของศูนย์สอบ ต้องบอกว่าศูนย์สอบก็จัดมาตรการการเว้นระยะห่างอย่างดี ต้องใส่ mask ตลอด แม้แต่ตอนสอบ speaking ก็มีฉากกั้นและต้องสวม mask ตลอดเช่นกันค่ะ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นปัญหาอะไร รู้สึกคิดถูกที่เลือกสอบ ielts computer based ไป และยังรู้ผลเร็วมาก แค่ 3 วัน ก็ได้รับแจ้งทาง sms แล้ว (ผล ielts ออก เรายังไม่ได้สอบ toefl เลยค่ะตอนนั้น 5555)
การสอบ toefl home edition
จากที่เกริ่นไปข้างต้นว่าเราเลื่อนสอบ toefl เป็นครั้งที่ 3 สุดท้ายพอครั้งที่ 3 ก็ยังได้รับอีเมลเลื่อนอีกจริง ๆ ทำให้เราตัดสินใจเลือกสอบแบบ home edition แทน ทั้งที่ไม่อยากเลือกสอบที่บ้าน เพราะอ่านรีวิวมา บางคนมีปัญหากับ internet connection ติดต่อ proctor ไม่ได้ เป็นต้น แต่สุดท้ายก็คิดว่า ชะตาฟ้าลิขิต คงจะไม่ได้ไปสอบที่ศูนย์สอบเร็ว ๆ นี้ เลยคิดว่าก็คงต้อง home edition แล้วแหละ
สำหรับอุปกรณ์การเตรียมสอบ toefl home edition ก็คือ แน่นอนต้องมีคอมพิวเตอร์ จะเป็น desktop หรือ notebook ก็ได้ แต่ต้องมีกล้อง (ใน website ETS เขียนว่าต้อง 360 องศา ก็อุตส่าห์สั่งกล้องมาติด แต่สุดท้าย proctor ให้แกะออก ใช้กล้องที่ติดกับโน้ตบุ้ค เพราะชัดกว่า แล้วตอนโชว์รอบ ๆ ห้องก็ใช้วิธียก notebook หมุนรอบตัวเองเอา 555) และมีไมโครโฟนติดกับตัวเครื่อง เพราะวันสอบห้ามใช้หูฟัง แล้วก็ต้องมีกระดาน whiteboard ที่ลบได้ หรือจะใช้ซองใสใส่กระดาษ A4 ไว้ข้างในแทนก็ได้ เพื่อใช้แทนกระดาษทดในการสอบ โดยเมื่อสอบเสร็จเราต้องแสดงให้ proctor เห็นว่าเราลบทุกอย่างที่โน้ตไว้หมดแล้ว นอกจากนี้ ก็ต้องอย่าลืมโหลด software มาติดตั้ง (ใน website ETS เลยค่ะ) และลองทดสอบคอมพิวเตอร์ของเราว่า กล้อง ไมโครโฟน internet connection ผ่านเกณฑ์ไหม ซึ่งควรเตรียมให้พร้อมก่อนวันสอบ
ในส่วนของวันและเวลาสอบ ต้องบอกว่ามีวันให้เลือกเยอะ และเวลาก็มีให้เลือก 24 ชั่วโมง ซึ่งตรงนี้ก็อาจจะเป็นอีกข้อดีของ home edition
พอถึงวันสอบ ก็กินข้าวกินน้ำให้เรียบร้อย อย่าลืมเตรียมบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตด้วย แล้วก่อนเวลานิดนึง ก็กดเข้า link ที่ได้จากเมลของ ETS กรอกรหัสให้เรียบร้อย พอถึงเวลาสอบเป๊ะ ๆ เราก็จะได้ยินเสียง proctor ทักทายมา (เขาเห็นเรา แต่เราไม่เห็นเขานะ 55) ให้เราแสดงบัตรประชาชน ให้ proctor ดู อันนี้ถ้ากล้องจับไม่ได้ เขาจะขอให้เราใช้มือถือถ่ายแล้วซูมให้เขาเห็นที่ละส่วนแทนค่ะ แล้วก็มีถ่ายรูป หลังจากนั้นก็จะให้เราแพนกล้องให้เขาเห็นสภาพห้อง ทั้งใต้โต๊ะ บนโต๊ะ มีทีวีก็ต้องหาผ้ามาคลุม แนะนำว่าควรเก็บห้องให้โล่งและสะอาดที่สุดจะได้ไม่ต้องมาเคลียห้องในวันสอบค่ะ พอเสร็จสิ้นขั้นตอน check in ก็จะถึงตอนสอบจริง โดย proctor เขาก็จะบอกว่าถึงเวลาสอบแล้ว หากมีปัญหาอะไรก็ให้แชทหรือส่งเสียงเรียกได้ โดยพอสอบส่วน reading และ listening เสร็จ proctor ก็จะมาบอกว่ามีเวลาพัก 10 นาที จะลุกไปเข้าห้องน้ำหรือทานของว่างก็ได้ เพราะระหว่างสอบ แม้จะสอบที่บ้านก็ไม่ให้ทานน้ำนะคะ แล้วก็กลับมาสอบอีก 2 part ต่อ คือ speaking และ writing ตามลำดับ แล้วก็เป็นอันเสร็จพิธี โดยระหว่างการสอบ เราไม่ได้มีปัญหาทางเทคนิคอะไร ไม่มีเน็ตกระตุกใด ๆ (อาจเพราะเลือกสอบแต่เช้าตรู่ สอบเสร็จแล้วไก่ยังไม่ขัน คนสอบก็เหมือนยังไม่ได้สติเช่นกัน 5555 พลาดที่เลือกเวลาเช้าไป เหมือนตื่นแต่กายหยาบ)
โดยรวมสำหรับเรา toefl home edition ถือเป็นทางเลือกที่ดี สะดวกและไร้กังวลเรื่องโควิด เหมาะสำหรับคนที่มีอุปกรณ์พร้อม มีห้องที่เงียบสงบ และมี internet ที่เสถียร แต่สิ่งหนึ่งที่เราไม่ค่อยชอบคือ ต้องคอยมาลบ white board ตลอดเวลา พื้นที่มันค่อนข้างจำกัด ไม่เหมือนการใช้กระดาษจริง ๆ และค่อนข้างเสียเวลา โดยเฉพาะ part listening ที่ต้องฟังรัว ๆ หลาย ๆ เรื่อง ทำให้เราจดไม่ค่อยทัน เพราะลบกระดานยังไม่ทันสะอาด ต้องใช้จำเอา T^T ส่วนคะแนนก็ประมาณอาทิตย์นึงค่ะ ก็จะทราบทางอีเมล หรือ app ของ ETS ค่ะ
ท้ายที่สุดนี้ กระทู้ของเราอาจจะไม่ได้แบ่งปันทริคหรือแทคนิคการสอบ เพราะกระทู้อื่น ๆ เขียนไว้อย่างละเอียด มีประโยชน์ และครบถ้วนมาก ๆ แต่เราอยากมาแบ่งปันประสบการณ์การสอบให้ทุกคนฟัง โดยเฉพาะการสอบในยุคโควิดนี้ และอยากจะให้กำลังใจคนที่กำลังเตรียมสอบ หรือวางแผนว่าจะสอบไม่ว่าจะเป็น ielts หรือ toefl ทุกคนนะคะ ถ้าวางแผนไว้แล้ว ขอให้อย่ายอมแพ้ และขอให้ทุกคนโชคดีในการสอบนะคะ
สู้ ๆ ค่ะ