มุมมองของเด็กอายุ 15 ต่อการศึกษาไทย

กระทู้สนทนา
กระทู้นี้ไม่ใช่ว่าจะถูกเสมอไป แต่มันเป็นในมุมมองของผม ทุกคนมีสิทธิที่จะคิดต่าง และผมพร้อมจะรับฟัง
ผมไม่ใช่คนที่เด่นดีด้านการศึกษา ผมอาจจะไม่ได้รู้ลึกเกี่ยวกับการศึกษา แต่ผมก็เป็นนักเรียนที่เรียนหลักสูตรไทยถึง ม ปลายแล้วอายุก็ 15และ
ผมเลยคิดว่าผมก็มีโอกาสที่จะแสดงความคิดเห็นได้บ้าง

ผมคิดว่าการศึกษาไทยสอนซึ่งที่ไร้ประโยชน์มากเกินไป มากๆ ส่วนใหญ่เนื้อหาโอกาสใช้ในชีวิตประจำวันไม่ได้เลย การศึกษาควรจะเป็นสื่งที่อบรบสิ่งที่เราจะได้ใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่หรอ มันควรจะสอนการใช้ชีวิต เช่น เรื่องเงิน เรื่องอนาคตของตัวเรา และอีกมากมาย แต่ดันไม่สอน ดันไปสอนอะไรก็ไม่รู้
หนําซ้ําเวลาทั้งหมดที่นักเรียนต้องใช้ศึกษาหลักสูตรอะไรแบบนี้ที่มันก็เยอะมาก เพื่อความรู้ไร้ประโยชน์
ทุกความรู้มีประโยชน์ของมัน ใช่ว่าทุกคนจะต้องการมัน
เรื่องบ้างเรื่องมันจะไม่มีปัญหาถ้าเขาสอนให้เป็น fact เล็กๆน้อยๆ แต่คุณดันเก็บคะแนนกับมันเนี้ยนะ??

ซึ่งคะแนนมีความสำคัญมากๆ ได้เกรดที่ดีขึ้น ได้เข้าสถานศึกษาที่มีชื่อเสียง แล้วได้เข้าทำงานที่มีรายได้ดี สื่งคะแนนได้มาจากการเรียนรู้ความรู้ส่วนใหญ่ที่เราจะไม่ได้ใช้อีก แล้วเราจะเสียเวลา เสียเงินทำไหม?
ก็มีประโยชน์อยู่แค่นั้น แล้วได้เอามาใช้ในชีวิตประจำวันไหมละ บ้างอย่าง คนนี้ก็อาจจะได้ใช้ในงานที่เขาทำ หรือบ้างคนก็ไม่ต้องการเลย

คิดภาพนะ สอนวิชาไทย ใช่มันได้ใช้แน่ๆเพราะมันคือภาษาของประเทศ ถึงแม่ว่าจะเป็นภาษาที่ยากเป็นอันดันต้นๆของโลก แต่มันเป็นความภูมิใจของชาติ
คนรุ่นก่อนได้สร้างมาเพื่อชาติ แต่เรื่องบ้างเรื่องนี้ทำไหมต้องสอน เช่น
กลอน คุณคิดว่าคุณจะได้ใช้ในชีวิตประจำวันไหม ผมเคยโดนด่าโดนตี เพียงเพราะผมออกเสียงได้ไม่ ไพเราะ
วรรณคดี เช่น พระอภัยมณี บ้างครั้งก็สนุก แต่ก็ไม่ได้ใช้ในชีวิตประจำวันแม้แต่นิดเดียว

คณิต วิชาที่ได้ใช้ในชีวิตประจำตลอด ใช้ทุกประเทศ มีความสำคัญต่อชีวิตประจำวันมากๆ
แต่ก็ยังมีการแทรกเนื้อหาที่โคตรไร้ประโยชน์ แต่ละสูตรที่หาโอกาสไม่ได้เลยถ้าไม่ใช่สายงานนั้น
"ผมจะได้ใช้สูตร พีทาโกรัสในชีวิตกระจำวันไหมครับ??"

วิชาประวัติศาสตร์ ก็เหมือนวรรณคดีแต่เป็นเหตุการที่เกิดขึ้นจริง แต่เราจะได้ไรจากมันบ้างไหม นอกจากคะแนน
ต้องจำประวัติของอะไรบ้างก็ไม่รู้เพื่อมาสอนทำคะแนนเพื่อได้เกรดที่ดีขึ้น แล้วก็หมดประโยชน์

สุขศึกษา เรื่องอนามัย ได้ใช้ในชีวิตประจำวันไม่มีปัญหาแต่ กีฬา
ว่ายน้ำเป็นกีฬาเดียวที่ควรสอน เพราะมันอาจจะได้ช่วยชีวิตใครสักคนไม่ตัวเราก็ใครบ้างคน แต่ก็ไม่ควรจะเก็บคะแนนจากมันอยู่ดี ไม่ใช่ทุกคนจะว่ายน้ำได้ตามที่คุณต้องการ ไหนจะ ปิงปอง แบดมินตัน และกีฬาอีกหลายประเภท ที่นักเรียนต้องไปหาซื้ออุปกรณ์ มาเรียน ไม่ใช่ทุกคนจะมีเงินพอจะซื้อได้

วิทยาศาสตร์ แต่ละเรื่องที่สอนมาละเอียดอ่อนมากๆ เช่น ต้องจำตารางธาตุ มาเพื่อคะแนนแล้วก็หมดประโยชน์
และเนื้ออื่นส่วนใหญ่ที่หาโอกาสใช้ได้ยาก แต่ก็ยังหาโอกาสได้บ้างไม่เหมือนหัวข้อที่กล่าวมาส่วนใหญ่
แต่คุณดันเก็บคะแนนจากมัน

จากที่กล่าวมาทั้งหมดถึงตอนนี้เกี่ยวกับหลักสูตร ที่บังคับให้นักเรียนมีความรู้ที่เขาไม่ได้ใช้ในอนาคตของเขา เพื่อเป็นเกรด
ตอนนี้ผมเข้าใจว่า เกรด = คะแนนความรู้ที่นักเรียนมีเกี่ยวกับเรื่องส่วนใหญ่ที่ไม่มีประโยชน์
แล้วคนเราก็ชอบระบุความฉลาดจากเกรด ระบุความฉลาดจากเรื่องแบบนี้เนี้ยนะ

แน่นอนว่าทุกวิชามีบ้างอย่างที่ได้ใข้ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว ทุกความรู้มีประโยชน์ของมัน ใช่ว่าทุกคนจะต้องการมัน
ไทย เน้นเรื่องพื้นฐานไว้ดีกว่า คนสมัยนี้จะมีสักกี่ % ของคนที่เรียนจบ ป.6 ที่ท่อง ก-ฮ ได้ ถ้าเขาต้องการ/อยากรู้ เนื้อหาอันไหนก็ค่อยสอนเขาไป
คณิต สอนแค่ บวก ลบ คูณ หาร ก็เพียงพอแล้วสำหรับคนที่ไม่ได้ทำงานที่ต้องใข้ คณิต ขั้นสูง
ประวัติ ต้องเป็นงานที่เจาะจงมากๆถึงจะได้ใช้ ถึงเวลาจะใช้จริงๆก็ค่อยศึกษาได้อยู่ดี
สุขศึกษา เหมือนที่กล่าวไปข้างต้น มีแค่การว่ายน้ำที่สำคัญกับการใช้ชีวิตจริงๆ
วิทยาศาสตร์ ก็เหมือนประวัติ ต้องเป็นงานที่เจาะจงมากๆถึงจะได้ใช้

จากที่กล่าวมาทั้งหมดผมรู้สึกว่าไม่เคยผิดที่จะสอนอะไรเลย แต่เพียงแค่ว่า คุณบังคับ คุณต้องการให้นักเรียนทุกคนเป็นแบบนี้ 
ผมไม่รู้ว่าการศึกษาที่อื่นเป็นยังไงแต่ซึ่งที่ตัวผมต้องการคือ การที่จะได้เรียนในสื่งที่ต้องการ หรือซึ่งที่จำเป็นในอนาคตของตัวผมเอง
และผมเชื่อว่าคนวัยเรียนหลายๆคนก็คงต้องการแบบเดียวกัน ไม่มีนักเรียนคนไหนต้องการเรียนในซึ่งที่เขาจะไม่ได้ใช้ในอนาคตหรอก ถ้าเกิดไม่มีการเก็บคะแนนจากส่วนนั้นเขาก็ไม่เสียเวลาไปเรียนหรอก
แต่คุณทั้งเก็บคะแนน บังคับ ถ้าทำไม่ได้อย่างที่ต้องการบ้างครั้งก็จะมีการทำโทษจากบุคคลที่อ้างตนว่าเป็น "ครู"
ไม่ว่าจะเป็นการตีด้วยของแข็ง การด่าทอต่างๆนาๆ

มาอีกเรื่องที่ค่อนข้างขึ้นอยู่กับสถานศึกษาที่แต่ละคนอยู่ "ครู"
ปกติแล้วครูคือ ผู้ให้อนาคต ผู้สอน ผู้ให้ความรู้ ผู้ให้คำปรึกษา ผู้เป็นที่รักของนักเรียน ผู้ชี้นำนักเรียนไปในทางที่ดี นั้นคือ ครู ที่ผมเข้าใจ
แต่ไม่ใข่ในหลายๆที่ในสถานศึกษาประเทศไทย ที่เหมือนจะเป็นขั่วตรงข้ามกับที่ผมเข้าใจคำว่า ครู
ผู้ทำลายอนาคตนักเรียน ผู้เป็นที่เกลียดชังจากนักเรียน [ขึ้นอยู่กับสถานศึกษา]
นักเรียนบ้างคนฆ่าตัวตายเพราะ ครู
บ้างคนจิตใจย่ำแย่เพราะ ครู
บ้างคนโดนลวนลามโดย ครู
และอีกมากมาย ที่มีสาเหตุมาจากครู

แน่นอนว่าก็ยังมีครูที่ดี รับฟังเด็กอยู่แต่หายากสะเหลือเกิน
ผมรู้สึกว่าครูสมัยนี้ที่ผมเจอส่วนใหญ่สอนเพราะ เงิน สั้งงานไม่เคยละเอียดแล้วก็มาด่า
แล้วยิ่งช่วงเรียน online มีครูท่านหนึ่งที่ไม่เคยสอนในเวลาที่เขากำหนดมา อยากสอนตอนไหนก็สอนแม้ว่าจะเป็นเวลาคาบครูท่านอื่น

การศึกษาไทยก็ยังมีปัญหาหลักมาจากหลักสูตรอยู่ดี
หลักสูตรที่ให้ความรู้สึกเป็นภาระมากกว่าความรู้
ยกตัวอย่าง นักเรียนที่ต้องการเป็นนักวาด เขาได้ฝึกวาดรูปอยู่ทุกวัน โดยแบกภาระตั้งแต่เด็กที่เรียกว่า การศึกษาไทย
ผมเคยบ่นกับทางครอบครัว แล้วเขาก็ตอบมาว่า "บ่นไร เรียนอะง่ายแล้ว ทำงานอะเหนื่อยกว่าเยอะ" 
ผมก็ไม่ได้ไม่เห็นด้วยนะแต่ผมเหนื่อยใจ
ทำงาน เหนื่อยจริง แต่ได้เงิน
เรียน นั้งเรียนความรู้ที่ส่วนใหญ่ไร้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน เสียเงินเพื่อจะได้เรียนอะไรแบบนี้ เสียเวลา แล้วซึ่งที่ได้มาคืออะไร? ความรู้ที่ไม่อยากจะรู้
ทุกความรู้มีประโยชน์ของมัน ใช่ว่าทุกคนจะต้องการมัน

สรุป การศึกษาไทยสอนเนื้อหาที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการ ไม่เน้นสอนที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน

ผมอาจจะพิมพ์คำบ้างคำผิดไป + ผมพิมพ์คำว่า ไร้ประโยชน์ ไว้เยอะพอสมควร แต่มันเป็นคำที่ผมคิดว่าเหมาะที่สุด
นี้เป็นครั้งแรกที่ผมใช้ pantip ผมอาจจะใส่ tag ผิด หรืออะไรบ้างอย่างที่ผมไม่รู้ว่าผิด ขอกล่าวขอโทษไว้ตรงนี้ หรือผมไม่ควรลงความคิดเห็นแบบนี้ที่นี้ด้วยซ้ำแต่ผมคิดหาที่อื่นลงไม่ได้

ทุกความรู้มีประโยชน์ของมัน ใช่ว่าทุกคนจะต้องการมัน  นี้เป็นคำที่ผมอยากจะสื่อออกมาหลายๆครั้งมากๆกับการศึกษาแบบนี้

อย่างสุดท้ายผมไม่ได้คิดว่าตัวเองถูกเสมอ นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผม ผมพร้อมที่จะรับฟังความคิดของคนอื่น เพื่อแนวคิดที่สมบูรณ์กว่าเดิม

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่