ลืม
# มักชั่ว มั่วชาย หมายชังมัก
พล่านนัก พักหน่าย ไพล่หนีพล่าน
นานแม้ แน่มา น่าไม่นาน
เธอหวาน ท่านว่า ถ้าวอนเธอ
# อ่านเกม เอมเกื้อ เอื้อกลอ่าน
เผลอปัด ผลัดปาน พลันปากเผลอ
เธอซ้ำ ทำเศร้า เท่าซบเธอ
เมาใกล้ ไหมเกลอ เหม่อแกล้งเมา
# ชั่วดี ชี้ใด้ ใช่ดึงชั่ว
เขลากลัว ขั้วกรรม ขำแกมเขลา
เมาเหล้า เมารัก มักลืมเมา
คนเรา เขารอ ขอร้อยคน
# หนึ่งหญิง นิ่งอยู่ หนูยืนหนึ่ง
ผลเจอ เพ้อจึง พึงแจ้งผล
ยลสอง ย่องซ้ำ ย้ำส่องยล
ลาฟ้า ลาฝน หล่นฝากลา
# พบจึง พึงจาก พรากจวบพบ
คว้าแล้ว แคล้วหลบ ครบลืมคว้า
ลาอร หล่อนเอ๋ย เลยอำลา
ใครช้ำ ครำชา คร่าเฉือนใคร
# คิดลบ คบแล้ว แคล้วเลิกคิด
ไหวจิต หวิดจร วอนจัดไหว
ใจเข็ด เจ็ดครั้ง จังขอบใจ
ลืมด่วน ล้วนได้ ไล่ดักลืม
#"Kamol Pholpasee"
4 กันยายน 2564
"กลบท ฟักพันร้าน"
ข้อบัญญัติ : ให้วางเขียนเป็น "กลอนเจ็ด" โดยแบ่งช่วงจังหวะ (๒-๒-๓)
๑.) ให้ซ้ำคำ "คำแรกต้นวรรค" กับ "คำท้ายปลายวรรค" (คำที่ ๑ กับ๗)
เ ๒.) สัมผัสอักษรสลับกันไปตลอดสามช่วงของวรรคกลอน (กข-กข-กขก) ของทุกวรรค
๓.) ภายในวรรคให้มีสัมผัสสระชิดระหว่าง "ช่วงแรก กับ ช่วงกลาง" (คำที่ ๒-๓) และ "ช่วงกลาง กับ ช่วงท้าย" (๔-๕)
* อ้างอิง : กลบทนี้มีปรากฏที่มาเฉพาะตำรากลบท"จารึกวัดพระเชตุพนฯ"
ลืม (กลบท ฟักพันร้าน)
พล่านนัก พักหน่าย ไพล่หนีพล่าน
นานแม้ แน่มา น่าไม่นาน
เธอหวาน ท่านว่า ถ้าวอนเธอ
เผลอปัด ผลัดปาน พลันปากเผลอ
เธอซ้ำ ทำเศร้า เท่าซบเธอ
เมาใกล้ ไหมเกลอ เหม่อแกล้งเมา
เขลากลัว ขั้วกรรม ขำแกมเขลา
เมาเหล้า เมารัก มักลืมเมา
คนเรา เขารอ ขอร้อยคน
ผลเจอ เพ้อจึง พึงแจ้งผล
ยลสอง ย่องซ้ำ ย้ำส่องยล
ลาฟ้า ลาฝน หล่นฝากลา
คว้าแล้ว แคล้วหลบ ครบลืมคว้า
ลาอร หล่อนเอ๋ย เลยอำลา
ใครช้ำ ครำชา คร่าเฉือนใคร
ใจเข็ด เจ็ดครั้ง จังขอบใจ
ลืมด่วน ล้วนได้ ไล่ดักลืม
4 กันยายน 2564
เ ๒.) สัมผัสอักษรสลับกันไปตลอดสามช่วงของวรรคกลอน (กข-กข-กขก) ของทุกวรรค
๓.) ภายในวรรคให้มีสัมผัสสระชิดระหว่าง "ช่วงแรก กับ ช่วงกลาง" (คำที่ ๒-๓) และ "ช่วงกลาง กับ ช่วงท้าย" (๔-๕)