สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเรา เราอยากจะเขียนขึ้นมาให้คนนึงที่เรายังคง "คิดถึง" เขาอยู่เสมอ.....
เริ่มเรื่องเลยนะคะ ขอย้อนกลับไปเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว เรารู้จักกับเขาผ่านแอปพิเคชั่น (ผึ้งน้อยสีเหลือง) ถ้าจำไม่ผิดเราเป็นคนทักเขาไปก่อน (เราจำได้ว่าวันนั้นคือวันที่ 12 เมษา จำพ.ศ.ไม่ได้ละ) เราเล่นแอปผึ้งน้อยนี้มานานพอสมควร คุยกับผู้ชายในแอปนี้มาก็เยอะ แต่มีแค่คนนี้แหละที่เราคุยด้วยแล้วเรารู้สึกชอบ
เราเป็นคนคุยสนุก ตลก เฮฮา มีมุก มีหยอดไปเรื่อย ซึ่งเขาก็เป็นเพียงผู้ชายคนเดียวที่ทันมุกเรา ตอบกลับมุกได้เราโบ๊ะบ๊ะ ทำให้เรายิ้มได้ตลอด
เขาเป็นรุ่นน้องเราค่ะ เขาเกิดพ.ศ.2538 ส่วนเราเกิดพ.ศ.2535 เราจำได้ว่าวันแรกที่คุยกัน คุยกันถึงตี 4 (แรกๆก็พิมพ์คุย หลังๆก็เรื่มโทรคุยกัน โทรในแอปผึ้งน้อยนั้นแหละ) ก็คุยกันเรื่อยเปื่อยทั่วไป เขาอยู่พุทธมณฑลสาย 4 ส่วนเราอยู่ปิ่นเกล้าค่ะ เราก็ถามเขาว่าเขาเลิกกะแฟนมานานยัง? คำตอบคือพึ่งเลิกเมื่อวาน 55555. (เอาจริงคือเรียกว่าทะเลาะมากกว่าป่ะ!!!) แต่ตอนนั้นเราไม่ได้สนใจเลยว่าเขาจะกลับไปคืนดีกับแฟนเขามั้ย หรือจะยังไงอะไรต่อ ตอนนั้นเราโฟกัสแค่เราคุยกะเขาแล้วเรามีความสุข (นี่แค่คุยกันวันเดียวนะ) เราเป็นคนชอบคนง่าย ตกหลมรักคนง่าย ยิ่งมาเจอคนที่เข้ากะเราได้แบบนี้ เรานี่แพ้เลยอ่ะ เราคุยกันถึงตี 4 เขาก็ขอตัวไปนอนเพราะตอนเช้าต้องตื่นไปเอาชุดครุย จบ ปวส. ที่โรงเรียนและตอนเช้าให้เราโทรไปปลุกเขาด้วย และเขาก็ทิ้งเบอร์โทรให้เราโทรไปปลุก ส่วนเราเช้าก็ต้องตื่นไปทำงานซึ่งตอนนั้นเราทำงานอยู่บางปะกอก(โซนๆเกือบพระปะแดง) แต่คือเช้านั้นเราตื่นมาคือ happy มากกกก ตื่นมาคือสดใส ไม่งัวเงีย และเราก็โทรไปปลุกเขา แต่คือเขาก็ไม่ได้สาย เราก็โทรไปเรื่อยๆแหละ แต่ก็ไม่มีการตอบรับ เราก็เลยทักไปในแอปผึ้งน้อยว่า ยังไม่ตื่นหรอ? ไม่ไปเอาชุดครุยหรอ? เราโทรจนเลิกโทรปลุกเพราะคิดว่าเขาคงไม่ตื่นง่ายๆแน่ เราก็เลยทำงานตามปกติ แล้วอยู่ๆก็มีไลน์เด้งมาว่า "จ๊ะเอ๋" มันก็คือไลน์ของเขาแหละทักมา (ก็คือพึ่งตื่นนอน) จากนั้นก็เปลี่ยนมาคุยไลน์กัน เราจำได้ว่าเรานัดเจอกับเขาวันที่ 14 เมษาแล้วคือก็ไปค้างบ้านเขาเลย ช่วงสงกรานต์พ่อ-แม่เขากลับต่างจังหวัด เราก็เลยขอไปค้างบ้านเขา เขาก็ขับรถมารับเราหลังจากเราเลิกงานกลับห้อง ก็นัดกับเขาว่าให้มารับที่ป้ายรถเมล์ ปอ.กุ้งเผา ปิ่นเกล้า พอเขามาถึงป้ายรถเมล์ (ขี่มอไซค์มารับนะคะทุกคนนนน) เขาก็ตะโกนเรียกชื่อเรา ...... เราก็วิ่งขึ้นไปคล่อมรถเขา แล้วเราก็ถามว่ารู้ได้ไงว่าเป็นเรา? เขาก็ตอบกลับว่า จำหน้าได้ ก็คือระหว่างทางก่อนจะเข้าบ้านเขา เราก็เลยแวะหาของกินที่สายใต้ แล้วก็เข้าบ้านกันค่ะ พอถึงบ้านเราก็มานั่งดูยูทูปแก้เขิน ส่วนเขาก็ขอเล่นเกมส์แปบนึง ระหว่างเล่นเกมส์เขาก็พูดกะเรา (เรียกชื่อเรา....เราขอสมมุติชื่อเรานะคะว่า "บี") บีพรุ่งนี้ไปเล่นน้ำกับอามนะ เนี้ยเพื่อนอามมันชวน เราก็ตอบกลับว่า บีไม่ไปอ่า ไม่ชอบเล่นน้ำ ไม่ชอบคนเยอะๆ เขาก็รบเร้าอยู่สักพัก แต่เราก็ยืนยันว่าไม่ไปนะอาม จนสุดท้ายเราก็เข้านอนกัน จำได้ว่าเข้านอนกันตอนประมาณ ตี 2-3 แล้วเราก็ตื่นก่อนโดยตื่นมาล้างจาน และรดน้ำต้นไม้ให้เขา แล้วเราก็เข้าไปนอนต่อ พอเขาตื่นมาเราก็ขอให้เขาไปส่งเราที่ห้อง ** เรากับเขาไม่ได้มีอะไรกันนะคะ มันอาจจะเชื่อยาก แต่มันคือเรื่องจริงค่ะ เขาขอเรามีอะไรด้วย แต่เราปฎิเสธไปค่ะ แล้วก็เขาก็ไม่ได้ขืน หรือบังคับเราให้มีอะไรกับเขานะคะ ** เรื่องราวของเรากับเขามันมีอะไรที่ซับซ้อน ลึกซึ้งและผิดกว่านี้เยอะค่ะ เราอยากจะมาเล่าคร่าวๆ และอยากให้มันเป็นความทรงจำของเรา
หากเขาได้มาอ่าน.......อยากจะบอกว่า "ก็ยังคิดถึงและยังอยากคุยด้วยเหมือนเดิมนะ ความรู้สึกที่มีให้อาม ก็ยังมีให้เหมือนเดิม ขอโทษถ้าที่ผ่านทำอะไรให้ไม่พอใจ หรือรำคาญ จะยังจดจำเรื่องราวของอามไว้เป็นความทรงจำดีๆตลอดไป"
แค่อยากจะบอกยัง "คิดถึง" เหมือนเดิมนะ
เริ่มเรื่องเลยนะคะ ขอย้อนกลับไปเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว เรารู้จักกับเขาผ่านแอปพิเคชั่น (ผึ้งน้อยสีเหลือง) ถ้าจำไม่ผิดเราเป็นคนทักเขาไปก่อน (เราจำได้ว่าวันนั้นคือวันที่ 12 เมษา จำพ.ศ.ไม่ได้ละ) เราเล่นแอปผึ้งน้อยนี้มานานพอสมควร คุยกับผู้ชายในแอปนี้มาก็เยอะ แต่มีแค่คนนี้แหละที่เราคุยด้วยแล้วเรารู้สึกชอบ
เราเป็นคนคุยสนุก ตลก เฮฮา มีมุก มีหยอดไปเรื่อย ซึ่งเขาก็เป็นเพียงผู้ชายคนเดียวที่ทันมุกเรา ตอบกลับมุกได้เราโบ๊ะบ๊ะ ทำให้เรายิ้มได้ตลอด
เขาเป็นรุ่นน้องเราค่ะ เขาเกิดพ.ศ.2538 ส่วนเราเกิดพ.ศ.2535 เราจำได้ว่าวันแรกที่คุยกัน คุยกันถึงตี 4 (แรกๆก็พิมพ์คุย หลังๆก็เรื่มโทรคุยกัน โทรในแอปผึ้งน้อยนั้นแหละ) ก็คุยกันเรื่อยเปื่อยทั่วไป เขาอยู่พุทธมณฑลสาย 4 ส่วนเราอยู่ปิ่นเกล้าค่ะ เราก็ถามเขาว่าเขาเลิกกะแฟนมานานยัง? คำตอบคือพึ่งเลิกเมื่อวาน 55555. (เอาจริงคือเรียกว่าทะเลาะมากกว่าป่ะ!!!) แต่ตอนนั้นเราไม่ได้สนใจเลยว่าเขาจะกลับไปคืนดีกับแฟนเขามั้ย หรือจะยังไงอะไรต่อ ตอนนั้นเราโฟกัสแค่เราคุยกะเขาแล้วเรามีความสุข (นี่แค่คุยกันวันเดียวนะ) เราเป็นคนชอบคนง่าย ตกหลมรักคนง่าย ยิ่งมาเจอคนที่เข้ากะเราได้แบบนี้ เรานี่แพ้เลยอ่ะ เราคุยกันถึงตี 4 เขาก็ขอตัวไปนอนเพราะตอนเช้าต้องตื่นไปเอาชุดครุย จบ ปวส. ที่โรงเรียนและตอนเช้าให้เราโทรไปปลุกเขาด้วย และเขาก็ทิ้งเบอร์โทรให้เราโทรไปปลุก ส่วนเราเช้าก็ต้องตื่นไปทำงานซึ่งตอนนั้นเราทำงานอยู่บางปะกอก(โซนๆเกือบพระปะแดง) แต่คือเช้านั้นเราตื่นมาคือ happy มากกกก ตื่นมาคือสดใส ไม่งัวเงีย และเราก็โทรไปปลุกเขา แต่คือเขาก็ไม่ได้สาย เราก็โทรไปเรื่อยๆแหละ แต่ก็ไม่มีการตอบรับ เราก็เลยทักไปในแอปผึ้งน้อยว่า ยังไม่ตื่นหรอ? ไม่ไปเอาชุดครุยหรอ? เราโทรจนเลิกโทรปลุกเพราะคิดว่าเขาคงไม่ตื่นง่ายๆแน่ เราก็เลยทำงานตามปกติ แล้วอยู่ๆก็มีไลน์เด้งมาว่า "จ๊ะเอ๋" มันก็คือไลน์ของเขาแหละทักมา (ก็คือพึ่งตื่นนอน) จากนั้นก็เปลี่ยนมาคุยไลน์กัน เราจำได้ว่าเรานัดเจอกับเขาวันที่ 14 เมษาแล้วคือก็ไปค้างบ้านเขาเลย ช่วงสงกรานต์พ่อ-แม่เขากลับต่างจังหวัด เราก็เลยขอไปค้างบ้านเขา เขาก็ขับรถมารับเราหลังจากเราเลิกงานกลับห้อง ก็นัดกับเขาว่าให้มารับที่ป้ายรถเมล์ ปอ.กุ้งเผา ปิ่นเกล้า พอเขามาถึงป้ายรถเมล์ (ขี่มอไซค์มารับนะคะทุกคนนนน) เขาก็ตะโกนเรียกชื่อเรา ...... เราก็วิ่งขึ้นไปคล่อมรถเขา แล้วเราก็ถามว่ารู้ได้ไงว่าเป็นเรา? เขาก็ตอบกลับว่า จำหน้าได้ ก็คือระหว่างทางก่อนจะเข้าบ้านเขา เราก็เลยแวะหาของกินที่สายใต้ แล้วก็เข้าบ้านกันค่ะ พอถึงบ้านเราก็มานั่งดูยูทูปแก้เขิน ส่วนเขาก็ขอเล่นเกมส์แปบนึง ระหว่างเล่นเกมส์เขาก็พูดกะเรา (เรียกชื่อเรา....เราขอสมมุติชื่อเรานะคะว่า "บี") บีพรุ่งนี้ไปเล่นน้ำกับอามนะ เนี้ยเพื่อนอามมันชวน เราก็ตอบกลับว่า บีไม่ไปอ่า ไม่ชอบเล่นน้ำ ไม่ชอบคนเยอะๆ เขาก็รบเร้าอยู่สักพัก แต่เราก็ยืนยันว่าไม่ไปนะอาม จนสุดท้ายเราก็เข้านอนกัน จำได้ว่าเข้านอนกันตอนประมาณ ตี 2-3 แล้วเราก็ตื่นก่อนโดยตื่นมาล้างจาน และรดน้ำต้นไม้ให้เขา แล้วเราก็เข้าไปนอนต่อ พอเขาตื่นมาเราก็ขอให้เขาไปส่งเราที่ห้อง ** เรากับเขาไม่ได้มีอะไรกันนะคะ มันอาจจะเชื่อยาก แต่มันคือเรื่องจริงค่ะ เขาขอเรามีอะไรด้วย แต่เราปฎิเสธไปค่ะ แล้วก็เขาก็ไม่ได้ขืน หรือบังคับเราให้มีอะไรกับเขานะคะ ** เรื่องราวของเรากับเขามันมีอะไรที่ซับซ้อน ลึกซึ้งและผิดกว่านี้เยอะค่ะ เราอยากจะมาเล่าคร่าวๆ และอยากให้มันเป็นความทรงจำของเรา
หากเขาได้มาอ่าน.......อยากจะบอกว่า "ก็ยังคิดถึงและยังอยากคุยด้วยเหมือนเดิมนะ ความรู้สึกที่มีให้อาม ก็ยังมีให้เหมือนเดิม ขอโทษถ้าที่ผ่านทำอะไรให้ไม่พอใจ หรือรำคาญ จะยังจดจำเรื่องราวของอามไว้เป็นความทรงจำดีๆตลอดไป"