“ไปดูผีเสื้อที่ห้องเรามั้ย?”
คำนี้ดังไปทั่วประเทศ แต่หลายคนอาจจะไม่ทราบว่ามาจากซีรีส์เกาหลียอดนิยมเรื่อง
“Nevertheless”
ที่นำแสดงโดย หนุ่มหล่อสุดฮอตดาวรุ่ง
“ซงคัง” และนางเอกสาวสวยมาดเท่ห์
“ฮันโซฮี”
โดยเป็นเรื่องราวความรักของหนุ่มสาววัยรุ่นที่ต้องเผชิญกับความกล้าและความกลัวในการที่จะจริงจังกับความรัก
จนต้องเสียความรู้สึกกันไปกันมาหลายครั้ง จนคำว่า “
Move On (ก้าวต่อไป)” ถูกหยิบยกมาใช้บรรยายหลายสถานการณ์ของซีรีส์
และเป็นที่นิยมไม่แพ้กับคำว่า
“ไปดูผีเสื้อที่ห้องเรามั้ย?”
English After Noonz ในฐานะผู้ที่พร้อมแนะนำและแบ่งปันภาษาอังกฤษจากบทเพลงยอดนิยม
ก็ไม่พลาดที่จะหยิบยกเพลงจากซีรีส์เรื่องนี้มาแกะกล่องความหมายให้ได้เข้าใจเพื่ออินเนอร์โดนๆ
ที่จะทำให้การดูสนุกมากยิ่งขึ้นด้วย โดยบทเพลงที่หยิบยกมาคือเพลง
“Love Me Like That” ที่ขับร้องโดย
“Sam Kim”
นักร้องนักแต่งเพลงชาวเกาหลี-อเมริกันที่เคยเข้าแข่งขันในรายการ
K-POP STAR 3
โดยที่ตอนนั้นเขาอายุเพียง 15 ปีเท่านั้น เรียกได้ว่ามากความสามารถและมั่นใจคุณภาพได้แน่นอน
สำหรับเพลง
“Love Me Like That” นี้เป็นเพลงภาษาอังกฤษล้วน 100%
แม้จะเป็นเพลงประกอบซีรีส์เกาหลี แต่ก็ทำให้บรรยากาศของซีรีส์สวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ
และ
English After Noonz ก็ได้แกะภาษาอังกฤษที่น่าสนใจ
สำหรับอินเนอร์โดนๆ ไว้อย่างละเอียดใน
JOOX Podcast (
กดฟังได้เลยที่ลิงก์นี้) แล้ว
แต่ในที่นี้ เราจะหยิบยกบางส่วนที่น่าสนใจมาแชร์ให้ได้อ่านกัน จะมีประโยคไหนน่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลย!
“I get defensive and insecure. My own worst critic”
- Defensive (Adj.) = ตั้งการ์ดอยู่ตลอด ป้องกันตัวเอง
- Insecure (Adj.) = ไม่มั่นคง ไม่มั่นใจ หวาดหวั่น
- Critic (N.) = คนที่วิจารณ์/ตัดสินคนอื่น
>>> แค่เริ่มเพลงก็อธิบายถึงตัวพระเอกได้อย่างครบถ้วน
ที่ภายในกลัวการผูกมัดเลยต้องแสดงออกภายนอกเป็นคนเจ้าชู้เปลี่ยนผู้หญิงไปเรื่อย
"Behind a closing door, I'm fragile and fractured, that's for sure. I burned myself down to the ground"
- Fragile (Adj.) = เปราะบาง แตกง่าย
- Fracture (V.) = แตก ร้าว
- Burn (down) to the ground (phrase) = พังทลายไม่เหลือชิ้นดี เผาไหม้จนหมดสิ้น
>>> ตรงนี้ขยายความเป็นพระเอกภายในว่าจริงๆ แล้วเป็นคนเปราะบางแค่ไหน
นั่นยิ่งเป็นเหตุผลให้ตัวเองแสดงออกว่าเป็นคนเจ้าชู้
"I'll just keep repeating it. In case you didn't catch me. Ooh, can you love me like. Can you love me like"
- Catch (V.) = ฟังเข้าใจ
>>> จุดนี้น่าสนใจตรงที่เป็นจุดของการตัดสินใจครั้งใหญ่ที่พระเอกจะบอกกับนางเอกว่า
หากตนเองยอมเปิดใจ นางเอกจะสามารถทำให้เขาไม่เป็นคนแบบเดิมด้วยการรักและถนุถนอมเขาอย่างดีได้หรือไม่
และหากนางเอกยัง “ฟังไม่เข้าใจ” เขาจะคอยพูดถามอยู่อย่างนั้นว่า “เธอสามารถรักฉันแบบนั้นได้ไหม?”
ความหมายดีแค่ไหน แต่ถ้ายิ่งอ่านประกอบกับการฟังเพลงไปด้วย จะยิ่งรู้สึกถึงความสวยงามแต่หน่วงในใจที่นักร้องต้องการจะสื่อได้สุดๆ
และอย่าลืมติดตามการแปลความหมายเวอร์ชั่นเต็มได้เพื่ออรรถรสที่เต็มเปี่ยม
คิดถึงผีเสื้อกันมั้ย? มาฟัง Love Me Like That แบบอินทุกคำ ทุกความหมาย ส่งท้ายสัปดาห์ที่ไม่มี Nevertheless กัน
ที่นำแสดงโดย หนุ่มหล่อสุดฮอตดาวรุ่ง “ซงคัง” และนางเอกสาวสวยมาดเท่ห์ “ฮันโซฮี”
โดยเป็นเรื่องราวความรักของหนุ่มสาววัยรุ่นที่ต้องเผชิญกับความกล้าและความกลัวในการที่จะจริงจังกับความรัก
จนต้องเสียความรู้สึกกันไปกันมาหลายครั้ง จนคำว่า “Move On (ก้าวต่อไป)” ถูกหยิบยกมาใช้บรรยายหลายสถานการณ์ของซีรีส์
และเป็นที่นิยมไม่แพ้กับคำว่า “ไปดูผีเสื้อที่ห้องเรามั้ย?”
English After Noonz ในฐานะผู้ที่พร้อมแนะนำและแบ่งปันภาษาอังกฤษจากบทเพลงยอดนิยม
ก็ไม่พลาดที่จะหยิบยกเพลงจากซีรีส์เรื่องนี้มาแกะกล่องความหมายให้ได้เข้าใจเพื่ออินเนอร์โดนๆ
ที่จะทำให้การดูสนุกมากยิ่งขึ้นด้วย โดยบทเพลงที่หยิบยกมาคือเพลง “Love Me Like That” ที่ขับร้องโดย “Sam Kim”
นักร้องนักแต่งเพลงชาวเกาหลี-อเมริกันที่เคยเข้าแข่งขันในรายการ K-POP STAR 3
โดยที่ตอนนั้นเขาอายุเพียง 15 ปีเท่านั้น เรียกได้ว่ามากความสามารถและมั่นใจคุณภาพได้แน่นอน
สำหรับเพลง “Love Me Like That” นี้เป็นเพลงภาษาอังกฤษล้วน 100%
แม้จะเป็นเพลงประกอบซีรีส์เกาหลี แต่ก็ทำให้บรรยากาศของซีรีส์สวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ
และ English After Noonz ก็ได้แกะภาษาอังกฤษที่น่าสนใจ
สำหรับอินเนอร์โดนๆ ไว้อย่างละเอียดใน JOOX Podcast (กดฟังได้เลยที่ลิงก์นี้) แล้ว
แต่ในที่นี้ เราจะหยิบยกบางส่วนที่น่าสนใจมาแชร์ให้ได้อ่านกัน จะมีประโยคไหนน่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลย!
“I get defensive and insecure. My own worst critic”
- Defensive (Adj.) = ตั้งการ์ดอยู่ตลอด ป้องกันตัวเอง
- Insecure (Adj.) = ไม่มั่นคง ไม่มั่นใจ หวาดหวั่น
- Critic (N.) = คนที่วิจารณ์/ตัดสินคนอื่น
>>> แค่เริ่มเพลงก็อธิบายถึงตัวพระเอกได้อย่างครบถ้วน
ที่ภายในกลัวการผูกมัดเลยต้องแสดงออกภายนอกเป็นคนเจ้าชู้เปลี่ยนผู้หญิงไปเรื่อย
"Behind a closing door, I'm fragile and fractured, that's for sure. I burned myself down to the ground"
- Fragile (Adj.) = เปราะบาง แตกง่าย
- Fracture (V.) = แตก ร้าว
- Burn (down) to the ground (phrase) = พังทลายไม่เหลือชิ้นดี เผาไหม้จนหมดสิ้น
>>> ตรงนี้ขยายความเป็นพระเอกภายในว่าจริงๆ แล้วเป็นคนเปราะบางแค่ไหน
นั่นยิ่งเป็นเหตุผลให้ตัวเองแสดงออกว่าเป็นคนเจ้าชู้
"I'll just keep repeating it. In case you didn't catch me. Ooh, can you love me like. Can you love me like"
- Catch (V.) = ฟังเข้าใจ
>>> จุดนี้น่าสนใจตรงที่เป็นจุดของการตัดสินใจครั้งใหญ่ที่พระเอกจะบอกกับนางเอกว่า
หากตนเองยอมเปิดใจ นางเอกจะสามารถทำให้เขาไม่เป็นคนแบบเดิมด้วยการรักและถนุถนอมเขาอย่างดีได้หรือไม่
และหากนางเอกยัง “ฟังไม่เข้าใจ” เขาจะคอยพูดถามอยู่อย่างนั้นว่า “เธอสามารถรักฉันแบบนั้นได้ไหม?”