สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ตอนนี้ เรากำลังเปรียบเทียบคนละด้าน
ที่วงการ healthcare ไทย มีชื่อเพราะการรักษาเฉพาะทาง และค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับประเทศย่านอื่น ถือว่าอยู่ในระดับที่ถูกกว่า เมื่อเดินทางมารักษา ค่าครองชีพก็ถูก ประเทศก็สงบ อาหารมีได้ทุกชาติ ฉลองมันทุกเทศกาล อยากไปหาอะไรกินตี 1 ยังไปหาอะไรได้สบาย ไม่เงียบเป็นป่าช้าเหมือนบางประเทศ ไม่กีดกันศาสนาไหน ๆ ยิ้มให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม ไม่ต้องกลัว ว่าพลาดจะถูกโบยด้วยหวาย
เราคือแบบอย่าง ของหนึ่งในประเทศ service mind
(โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มใหญ่ ที่ทำให้เรามีชื่อ คือจากตะวันออกลาง)
นี่คือการ "ให้บริการทางการแพทย์"
แต่เราเอาไปเปรียบเทียบอันดับ "นวัตกรรมด้านวิศวกรรม" หรือถ้ามองในกระบวนการย่อยที่ใช้สิ่งที่มองเห็นคือ R&D ไปเปรียบเทียบกับการมีชื่อคนละแง่มุมกับการแพทย์
ลองไปนั่งหาข้อมูลเรื่อง R&D ในวงการแพทย์สิ ไม่มีชื่อในเวทีนานาชาติเหมือนกัน ไม่ติดอันดับใด ๆ เลย
ยิ่งเครื่องมือแพทย์นี่ เทคโนโลยีที่ใช้ไปตามรพ.ไหน ที่ว่าเก่ง ๆ ในการรักษา เครื่องมือแพทย์หลักนำเข้าทั้งนั้น ไม่มีอันดับอะไรให้พูดถึงเลย เพราะในวงการแพทย์ ไทยเราก็เป็นแค่คนซื้อของมาใช้เหมือนกันกับอุตสาหกรรมอื่น มีแต่อุปกรณ์ย่อย ๆ เท่านั้น อย่างถุงมือยาง หลอดฉีดยา ที่ไม่ต้องทำ R&D
ไม่มีบริษัททางการแพทย์ไทยแห่งไหน ให้ชาวโลกได้ยินชื่อเลย
พูดสรุปคือ ที่เราว่าเรามีชื่อ คือเรื่องเดียว คือด้านการบริการ ที่ทำให้ต้นทุนต่ำกว่า แล้วอาศัยประโยชน์จาก momentum ผูกโยงจากการลงทุนเรื่องโปรโมทอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสำเร็จอีกด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
บอกว่าไทยเรามีชื่อ อย่าเอาแค่ความรู้สึก ช่วยเอาหลักฐานการจัดอันดับระดับโลกยืนยันหน่อย เอาด้านนวัตกรรมเหมือนกันนะครับ
หรือเอาชื่อเสียงก็ได้ หรือบอกว่ามีบุคลาการเก่ง จะเอารายบุคคล ยกตัวย่างมีหมอไทยคนไหน ที่นานาชาติรู้จักบ้าง?
หรือ ม.ไทยทางการแพทย์ มีแห่งไหนติดอันดับต้น top 10 top 20 ของโลกหรือ?
ที่วงการ healthcare ไทย มีชื่อเพราะการรักษาเฉพาะทาง และค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับประเทศย่านอื่น ถือว่าอยู่ในระดับที่ถูกกว่า เมื่อเดินทางมารักษา ค่าครองชีพก็ถูก ประเทศก็สงบ อาหารมีได้ทุกชาติ ฉลองมันทุกเทศกาล อยากไปหาอะไรกินตี 1 ยังไปหาอะไรได้สบาย ไม่เงียบเป็นป่าช้าเหมือนบางประเทศ ไม่กีดกันศาสนาไหน ๆ ยิ้มให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม ไม่ต้องกลัว ว่าพลาดจะถูกโบยด้วยหวาย
เราคือแบบอย่าง ของหนึ่งในประเทศ service mind
(โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มใหญ่ ที่ทำให้เรามีชื่อ คือจากตะวันออกลาง)
นี่คือการ "ให้บริการทางการแพทย์"
แต่เราเอาไปเปรียบเทียบอันดับ "นวัตกรรมด้านวิศวกรรม" หรือถ้ามองในกระบวนการย่อยที่ใช้สิ่งที่มองเห็นคือ R&D ไปเปรียบเทียบกับการมีชื่อคนละแง่มุมกับการแพทย์
ลองไปนั่งหาข้อมูลเรื่อง R&D ในวงการแพทย์สิ ไม่มีชื่อในเวทีนานาชาติเหมือนกัน ไม่ติดอันดับใด ๆ เลย
ยิ่งเครื่องมือแพทย์นี่ เทคโนโลยีที่ใช้ไปตามรพ.ไหน ที่ว่าเก่ง ๆ ในการรักษา เครื่องมือแพทย์หลักนำเข้าทั้งนั้น ไม่มีอันดับอะไรให้พูดถึงเลย เพราะในวงการแพทย์ ไทยเราก็เป็นแค่คนซื้อของมาใช้เหมือนกันกับอุตสาหกรรมอื่น มีแต่อุปกรณ์ย่อย ๆ เท่านั้น อย่างถุงมือยาง หลอดฉีดยา ที่ไม่ต้องทำ R&D
ไม่มีบริษัททางการแพทย์ไทยแห่งไหน ให้ชาวโลกได้ยินชื่อเลย
พูดสรุปคือ ที่เราว่าเรามีชื่อ คือเรื่องเดียว คือด้านการบริการ ที่ทำให้ต้นทุนต่ำกว่า แล้วอาศัยประโยชน์จาก momentum ผูกโยงจากการลงทุนเรื่องโปรโมทอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสำเร็จอีกด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
บอกว่าไทยเรามีชื่อ อย่าเอาแค่ความรู้สึก ช่วยเอาหลักฐานการจัดอันดับระดับโลกยืนยันหน่อย เอาด้านนวัตกรรมเหมือนกันนะครับ
หรือเอาชื่อเสียงก็ได้ หรือบอกว่ามีบุคลาการเก่ง จะเอารายบุคคล ยกตัวย่างมีหมอไทยคนไหน ที่นานาชาติรู้จักบ้าง?
หรือ ม.ไทยทางการแพทย์ มีแห่งไหนติดอันดับต้น top 10 top 20 ของโลกหรือ?
ความคิดเห็นที่ 6
เอาเป็นภาพรวมนะ
วิศวะจบ ป. ตรี เรียนแค่วิชาพื้นฐาน ยังไม่สามารถนำเอาคววามรู้ไปใช้งานจริงได้ แต่เนื่องจากไทยไม่ใช่อุตสาหกรรมต้นน้ำจึงใช้วิศวะไปทำงานที่อยู่ระหว่างช่างกับวิศวะ ไม่ได้เป็นวิศวะเต็มตัวเลยไม่เกิดปัญหามาก เราเลยได้ยินวิศวะพูดบ่อยๆว่า "เรียนไปก็ไม่ได้ใช้" เพราะเขาเรียนไม่ลึกพอที่เอาศาสตร์เหล่านั้นไปใช้ได้จริงๆ แต่ที่หนักกว่านั้นเขาไม่มีเวทีให้ใช้มันจริงๆเหมือนวงการหมอที่เหมือนอยู่ในแหล่งวิจัยตลอดเวลา
ในประเทศอุตสาหกรรมต้นน้ำ วิศวะจะเรียนต่อสูงขึ้นเพื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางถึงจะมีความรู้มากพอที่จะนำไปประยุกต์กับของจริงได้
ผมเคยไปดูงานที่หน่วย R&D ของอุตสาหกรรมชนิดหนึ่งที่ Minneapolis เมกา เวลาวิศวะที่นั่นคุยกัน บรรยากาศเหมือนแลปวิจัยในมหาวิทยาลัยต่างประเทศเลย มีการพูดถึงทฤษฎีเชิงลึก มีการพูดถึง design การพัฒนาต้นแบบ ฯลฯ แต่พอมาที่บริษัทลูกที่ไทยวิศวะจะคุยแต่เรื่องการผลิตและการบริหารจัดการ เรียกว่าอยู่กันคนละโหมดเลย
วิศวะจบ ป. ตรี เรียนแค่วิชาพื้นฐาน ยังไม่สามารถนำเอาคววามรู้ไปใช้งานจริงได้ แต่เนื่องจากไทยไม่ใช่อุตสาหกรรมต้นน้ำจึงใช้วิศวะไปทำงานที่อยู่ระหว่างช่างกับวิศวะ ไม่ได้เป็นวิศวะเต็มตัวเลยไม่เกิดปัญหามาก เราเลยได้ยินวิศวะพูดบ่อยๆว่า "เรียนไปก็ไม่ได้ใช้" เพราะเขาเรียนไม่ลึกพอที่เอาศาสตร์เหล่านั้นไปใช้ได้จริงๆ แต่ที่หนักกว่านั้นเขาไม่มีเวทีให้ใช้มันจริงๆเหมือนวงการหมอที่เหมือนอยู่ในแหล่งวิจัยตลอดเวลา
ในประเทศอุตสาหกรรมต้นน้ำ วิศวะจะเรียนต่อสูงขึ้นเพื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางถึงจะมีความรู้มากพอที่จะนำไปประยุกต์กับของจริงได้
ผมเคยไปดูงานที่หน่วย R&D ของอุตสาหกรรมชนิดหนึ่งที่ Minneapolis เมกา เวลาวิศวะที่นั่นคุยกัน บรรยากาศเหมือนแลปวิจัยในมหาวิทยาลัยต่างประเทศเลย มีการพูดถึงทฤษฎีเชิงลึก มีการพูดถึง design การพัฒนาต้นแบบ ฯลฯ แต่พอมาที่บริษัทลูกที่ไทยวิศวะจะคุยแต่เรื่องการผลิตและการบริหารจัดการ เรียกว่าอยู่กันคนละโหมดเลย
แสดงความคิดเห็น
ทำไมด้านวิศวะในเมืองไทยถึงไม่มีชื่อเสียงเท่าด้านการแพทย์ ทั้งที่หลายคนพูดว่าสมัยก่อนคะแนนสอบ Ent เข้าวิศวะสูงมาก ?
แต่ทำไมในระดับโลก แทบไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของวงการวิศวกรไทยเลย ? วิศวกรสมัยก่อนที่ว่าเก่งๆ นี่เก่งขนาดไหนหรือครับ ? ถ้าเก่งขนาดทำไมไม่เห็นสร้างเทคโนโลยีอะไรได้เลยสักอย่าง
ต่างจากด้านการแพทย์ที่มีชื่อเสียงค่อนข้างมาก ในด้านการรักษา ( แม้ว่าด้านงานวิจัยจะน้อยกว่าในประเทศพัฒนาแล้ว )
และการแพทย์ไทยติดอันดับโลกในหลายๆ เรื่อง อย่าง รพ. บำรุงราษ นี่ก็ติดอันดับโลก
แต่ด้านวิศวกรรมศาสตร์ในไทยมีอะไรที่มีชื่อเสียง ติดอันดับโลกแบบด้านการแพทย์บ้างครับ ?