หลังจากที่รอมาพักหนึ่ง ในที่สุด คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงชาวโปรตุกีสก็สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเตะชายที่ทำประตูในเกมระดับทีมชาติได้มากที่สุดแต่เพียงผู้เดียวได้แล้วหลังจบเกม ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป ที่เขาช่วยให้ทีมชาติโปรตุเกสเอาชนะ สาธารณรัฐไอร์แลนด์ 2-1 เมื่อวันพุธที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา เพราะในเกมดังกล่าว โรนัลโด้ เหมาคนเดียว 2 ลูกจนทำให้จำนวนประตูกับเกมทีมชาติอยู่ที่ 111 ประตู



ที่จริงก่อนหน้านี้ โรนัลโด้ ก็เป็นเจ้าของสถิตินี้อยู่แล้ว เพียงแต่ตอนนั้นเป็นการครองสถิติร่วมกับ อาลี ดาอี ตำนานดาวเตะชาวอิหร่าน จากการที่ยิงไป 109 ลูกเท่ากัน ซึ่งในเมื่อเราเคยทำเกร็ดยกย่องเขาตอนที่ยิงในทีมชาติเกินหลัก 100 ลูกไปแล้วนั้น หนนี้เราก็เลยมีเกร็ดเกี่ยวกับการทำลายสถิติด้านจำนวนประตูในนามทีมชาติของ โรนัลโด้ มานำเสนอกันสักหน่อย

- เหยื่อรายแรก



หลายคนอาจจะลืมกันไปแล้ว ดังนั้นก็ต้องขอย้อนถึงจุดเริ่มต้นสำหรับสถิติอันน่าทึ่งครั้งล่าสุดของ โรนัลโด้ สักหน่อย โดยประตูแรกในนามทีมชาติชุดใหญ่ของเขาเกิดขึ้นในเกม ยูโร 2004 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ นัดที่ โปรตุเกส เจอกับ กรีซ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ปี 2004

ทั้งนี้ โปรตุเกส เป็นเจ้าภาพในหนนั้นด้วย แต่ประตูของ โรนัลโด้ ในวันนั้นก็ไม่มีค่าอะไรกับพลพรรค "ฝอยทอง" มากนัก เพราะมันเป็นเพียงประตูที่ทำให้ โปรตุเกส ไล่มาเป็น 1-2 ก่อนที่จะแพ้ไปด้วยสกอร์ดังกล่าว แถมลูกนั้นยังเกิดขึ้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งหลังอีก นอกจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว โปรตุเกส ยังไปแพ้ กรีซ ในรอบชิงชนะเลิศเพิ่มอีก

- อาวุธร้าย



จากจำนวน 111 ประตูที่ โรนัลโด้ ทำได้กับทีมชาติโปรตุเกสนั้น มีถึง 58 ลูกที่มาจากการยิงด้วยเท้าขวาของเขา ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องแปลกมากนักเพราะเท้าขวา

เป็นเท้าข้างถนัดของเขาอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ใช่ว่าเท้าซ้ายของเขาจะถึงขั้นทำการไม่ได้ เพราะเขาใช้เท้าข้างนั้นผลิตสกอร์ให้บ้านเกิดได้ 25 ครั้งด้วยกัน นอกจากนี้ ด้วยความที่ โรนัลโด้ ขึ้นชื่อลือชาเรื่องการกระโดดได้สูงอยู่บ่อยๆ ทำให้เขาทำประตูจากลูกโหม่งได้ทั้งหมด 28 ครั้งกับการเล่นให้ทีมชาติโปรตุเกส

- ช่วงที่ร้อนแรงที่สุด



การที่ โรนัลโด้ ทำประตูในนามทีมชาติไปถึง 111 ประตู นั่นหมายความว่าเขาสามารถทำประตูได้ในหลายเกม และมีบางครั้งที่เขาทำประตูได้หลายนัดติดต่อกันด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่มีช่วงไหนอีกแล้วที่เขาจะฟอร์มฮอตมากไปกว่าระหว่างวันที่ 7 กันยายน ปี 2019 จนถึงวันที่ 8 กันยายน ปี 2020

 ทำไมน่ะหรือ ? นั่นก็เพราะว่าในช่วงนั้น โรนัลโด้ ยิงประตูให้กับทีมชาติได้ครบทุกนัดจากการลงเล่นให้ทีมชาติ 7 เกม โดยในจำนวนนั้นมีการซัดไป 4 ประตูในเกมที่ชนะ ลิทัวเนีย 4-1 เมื่อวันที่ 10 กันยายน ปี 2019 และการทำแฮตทริกใส่ ลิทัวเนีย เจ้าเดิม ในวันที่ 14 พฤศจิกายนของปีเดียวกันรวมอยู่ด้วย ซึ่งนั่นก็เป็นช่วงที่ โรนัลโด้ ทำประตูในนามทีมชาติได้ติดต่อกันมากที่สุด

สำหรับช่วงฮอตรองลงมาของ โรนัลโด้ นั้น ได้แก่ระหว่างวันที่ 7 ตุลาคม ปี 2016 จนถึงวันที่ 9 มิถุนายน ปี 2017 เพราะตอนนั้นเขายิงได้ 6 นัดติดต่อกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการทำ 4 ประตู จนพา โปรตุเกส ไล่ถล่ม อันดอร์ร่า 6-0 นั่นเอง

- ผลงานจากลูกนิ่ง



การทำประตูนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับจังหวะโอเพ่นเพลย์แค่อย่างเดียว จังหวะลูกนิ่งเองก็สามารถเป็นโอกาสดีที่จะทำประตูได้เช่นกัน ซึ่งจากจำนวน 111 ประตูที่ โรนัลโด้ ทำได้กับทีมชาติ มันมี 14 ลูกที่มาจากการยิงลูกจุดโทษเข้าประตูได้โดยตรง ส่วนจากการปั่นฟรีคิกนั้นเขาเปลี่ยนให้เป็นประตูได้ 14 หนด้วยกัน

- แฮตทริกกระจาย



ในวงการฟุตบอลนั้นการทำแฮตทริกให้ได้สัก 1 ครั้งก็ถือว่ายากพอตัวอยู่แล้ว แต่สำหรับ โรนัลโด้ แล้วนั้น มันไม่ใช่ปัญหามากนัก เพราะเขาสามารถทำแฮตทริกในสีเสื้อของ โปรตุเกส ได้มากถึง 9 ครั้งด้วยกัน โดยครั้งแรกที่เขาทำแฮตทริกในนามทีมชาติได้นั้นเกิดขึ้นในนัดที่ชนะ ไอร์แลนด์เหนือ 4-2 เมื่อวันที่ 6 กันยายน ปี 2013

สำหรับอีก 8 หนหลังจากนั้นที่ โรนัลโด้ ทำแฮตทริกกับทีมชาติได้นั้น ประกอบด้วยนัดชนะ สวีเดน 3-2 เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ปี 2011, เกมเฉือน อาร์เมเนีย 3-2 ในวันที่ 13 มิถุนายน ปี 2015, นัดถล่ม อันดอร์ร่า 6-0 เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ปี 2016, เกมไล่ต้อนหมู่เกาะแฟโร 5-1 เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ปี 2017, นัดเสมอ สเปน 3-3 ในวันที่ 15 มิถุนายน ปี 2018, การเหมาทั้ง 3 ประตูในนัดชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 3-1 เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ปี 2019, เกมพิชิต ลิทัวเนีย 5-1 ในวันที่ 10 กันยายน ปี 2019 และนัดไล่ถล่ม ลิทัวเนีย 6-0 เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ปี 2019

credit : www.siamsport.co.th