คุณต้องแยกแยะประเด็นออกมานะครับ

ฝากถอนโอนเงิน เงินเดือนเข้าออก

กับ

ธุรกิจบัตรเครดิต มันคนละส่วนกัน ไม่เกี่ยวข้องกันครับ

ถ้าหากธุรกิจบัตรเครดิต เอาเรื่องฝากถอนเงิน เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
มันจะเกิดเหตุการณ์

หลอกเดินบัญชี เอาเงินมาเข้า แล้วก็หลอกว่า มีเครดิต ที่สินเชื่อจะต้องปล่อยให้

ทั้งๆที่แท้ที่จริงแล้ว เงินเข้า ธนาคารเขาก็ไม่ได้ตามเช็ดแหล่งที่มาของเงินฝากเข้ามา
เช่นวันนี้เราฝากเข้า 1 ล้านบาท ธนาคารเขาไม่รู้ได้หรอก
เอ๊ะ 1 ล้านนี้ รายได้จากงานอะไร แล้วก็ไม่มีสิทธิ์ไป ละลาบละล้วง เรื่องส่วนตัวของเจ้าของบัญชีด้วย
ธนาคาร มีหน้าที่แค่รับฝาก ก็ฝากไปเฉยๆ

แต่การทำบัตรเครดิต เป็น Request ที่ลูกค้า ต้องการกู้เงิน หรือขอสินเชื่ออย่างนึง
พอลูกค้า Request มา
ธนาคารจึงขอความร่วมมือ แสดงแหล่งที่มาของรายได้ด้วย

จากที่ธนาคารไม่อยากจะก้าวก่าย แหล่งที่มาของรายได้ ที่คนทั่วไปเอามาฝาก
กลับกลายเป็นว่า เอ๊ะ ต้องเรียนขอตรวจสอบแหล่งที่มาของรายได้ประจำของคุณหน่อยแล้ว

ฉะนั้นจากที่กล่าวมาข้างต้น คือ
เงินฝาก จะเข้าจะออกอย่างไร จึงไม่สามารถใช้ ยืนยันแหล่งที่มาของรายได้ได้

เมื่อไหร่ที่คุณจะขอสินเชื่อ ธนาคาร และ สินเชื่อ จึงจำเป็นต้องขอให้คุณ แสดงหลักฐาน รายได้ของคุณด้วย

เช่น สลิปเงินเดือน รายการเดินบัญชีย้อนหลัง บางทีขอถึงขนาด เบอร์โทรที่ทำงานก็มี
เพราะว่า ธนาคาร เขาจะโทรไปที่ทำงานคุณ ถามว่า
“สวัสดีค่ะ เรียนสอบถามว่า คุณ ……. เป็นพนักงานในบริษัทใช่ไหมคะ?”
ถ้าหากที่ทำงานคุณตอบมาว่า
“อ๋อ เขาลาออกไปแล้วค่ะ”

คุณก็กินแห้วทันที

บอกแล้วไง ธนาคารจะไม่ยุ่ง เงินที่ลูกค้าเอามาฝาก
ตราบใดที่คุณลูกค้า ไม่ได้มาขอสินเชื่อกับธนาคารเอง ธนาคารจึงจะขอตรวจสอบนิดนึงเพื่อความชัวร์

ไม่ได้มั่วนิ่มหลอกเดินบัญชี ต้มยำกุ้งธนาคาร