🧡มาลาริน/ท่านเป็นนักการทหารและเป็นนักปกครอง รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะรัอยครั้ง..ดร.เสรียันมองบวก IO เขาทำกันทั้งนั้น

"รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง” ประโยคคุ้นหู...นานาโอเค

มาจากตำราพิชัยสงครามของซุนวู ที่ถูกยกย่องให้เป็นปราชญ์

จริงๆแล้วประโยคนี้เกิดจากการรวมประโยคคำสอนของซุนวูที่กล่าวว่า....👇
 
“การชนะทั้งร้อยมิใช่วิธีการอันประเสริฐแท้ แต่ชนะโดยไม่ต้องรบเลย จึ่งถือว่าเป็นวิธีการอันวิเศษยิ่ง” และ “หากรู้เขา รู้เรา แม้นรบกันตั้งร้อยครั้งก็ไม่มีอันตรายอันใด ถ้าไม่รู้เขาแต่รู้เพียงเรา แพ้ชนะย่อมก้ำกึ่งอยู่ หากไม่รู้ในตัวเขาตัวเราเสียเลย ก็ต้องปราชัยทุกครั้งที่มีการยุทธ์นั้นแล”

ท่านดร.เสรี มองบวกเหมือนดิฉัน  ท่านว่า....✏

👉IO (information Operation) คือการปฏิบัติการด้านการข่าวที่ประเทศต่างๆทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเขาทำกันทั้งนั้น เพราะเราเป็นสังคมข่าวสาร (Information Socity) 

ดิฉันคิดว่า  รัฐบาลจำเป็นต้องรู้การทำ IO เพื่อนำมาใช้ในความมั่นคง  การปกครอง พัฒนาสังคม สารพัดประโยชน์ ใครๆเขาก็ทำ ตามหน่วยงานยังมีฝ่ายประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดี เผยแพร่ข้อมูล สร้างความเข้าใจให้ตรงกัน  จัดเก็บข้อมูล นำมาประเมินผลการทำงาน ตรวจสอบจุดดีจุดบกพร่อง นำเสนอแก้ไข  เป็นฝ่ายที่สำคัญของทุกงาน



https://www.thaipost.net/main/detail/115378

เพี้ยนลุยส่วนลุงตู่นั้น ท่านเป็นนักการทหาร และนักปกครองในรัฐบาล  ท่านจึงต้องรู้เขารู้เราทั้งในและนอกสภา ทั้งในพรรคนอกพรรค ทั้งในประเทศและนอกประเทศ  เรียกว่าท่านรู้ตำราพิชัยสงครามของซุนวู  เป็นอย่างดี

การมีผู้นำรอบรู้ จึงเป็นความมั่นคงของประเทศชาติบ้านเมือง และความสงบสุขของประชาชน

ท่านเป็นนนายกฯมา 7 ปี ท่านรู้ดีเหนือใครในยุคปัจุบัน

การอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ ท่านรู้กึ๋นฝ่ายค้านหมดไส้พุง  ท่านรู้ความเป็นไปในพรรคและพรรคร่วม  ท่านจึงเอาอยู่

เรียบร้อยโรงเรียนลุงตู่ตามเคยค่ะ....
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 14
รัฐบาลแก้ปัญหาโควิด-19 ตามเหตุผล และความจำเป็น เดินหน้าปฏิรูปการศึกษาของไทยในช่วงสถานการณ์โควิด-19
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
รัฐบาลแก้ปัญหาโควิด-19 ตามเหตุผล และความจำเป็น เดินหน้าปฏิรูปการศึกษาของไทยในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 16 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ณ  ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร อาคารรัฐสภา วันที่ 2 กันยายน 2564

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
รัฐบาลปรับกลยุทธ์รับมือโควิดอย่างต่อเนื่อง
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/1248528238946313 (มีคลิป)

รัฐบาลทำทุกวิถีทางเพื่อติดต่อขอซื้อวัคซีน
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
รัฐบาลทำทุกวิถีทาง เพื่อติดต่อขอซื้อวัคซีนจากผู้ผลิตมาโดยตลอดในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 16 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ณ  ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร อาคารรัฐสภา วันที่ 2 กันยายน 2564

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ไทยฉีดวัคซีนคืบหน้าไปแล้วกว่า 30 ล้านโดส
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/1248529455612858 (มีคลิป)

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
นายกรัฐมนตรีชูภาพรวมความสำเร็จในการรับมือโควิด
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/1248530275612776 (มีคลิป)

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
นายกฯ ยืนยันสัญญาจัดซื้อเรือดำน้ำแบบ G2G ไม่มีการทุจริตเดินหน้าปฏิรูปตำรวจต่อเนื่อง
https://web.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/1248703198928817 (มีคลิป)

นายกฯ แจงการปฏิรูปการบริหารองค์กรตำรวจ - การบริการประชาชนได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
นายกรัฐมนตรี แจงการปฏิรูปการบริหารองค์กรตำรวจ - การบริการประชาชนได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสำเร็จแล้วในหลายเรื่อง ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 16 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ณ  ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร อาคารรัฐสภา วันที่ 2 กันยายน 2564

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
นายกฯ เปิดผลงานคดียาเสพติดลดลงต่อเนื่อง ในช่วง 3 ปีย้อนหลัง
https://web.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/1248722878926849 (มีคลิป)

นายกฯ ชูผลงานการจัดอันดับประเทศไทยในเวทีโลก โดยอยู่ในอันดับต้น ๆ ในหลายด้าน
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
นายกรัฐมนตรี ชูผลงานการจัดอันดับประเทศไทยในเวทีโลก โดยอยู่ในอันดับต้น ๆ ในหลายด้าน ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 16 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ณ  ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร อาคารรัฐสภา วันที่ 2 กันยายน 2564

นายกฯ ยืนยัน “ผมไม่เคยเรียกรับผลประโยชน์ และจะตรวจสอบให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดการทุจริต”
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
นายกรัฐมนตรี ยืนยัน “ผมไม่เคยเรียกรับผลประโยชน์ และจะตรวจสอบให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดการทุจริต” ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 16 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ณ  ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร อาคารรัฐสภา วันที่ 2 กันยายน 2564


ที่ผมยืน และ กล้าพูดตรงนี้
เพราะผมไม่ทุจริต
ไม่ได้เป็นอย่างที่กล่าวหา
https://web.facebook.com/PMOCNEWS/posts/618575789527747


ในเวที #อภิปรายไม่ไว้วางใจ วันนี้

นายกฯ ยืนยันไม่เคยเรียกผลประโยชน์หรือจัดคนมาเพื่อเรียกรับผลประโยชน์ให้กับตนเอง และจะพยายามตรวจสอบในเรื่องนี้ให้ดีที่สุดเพื่อให้ไม่เกิดการทุจริตขึ้นได้
https://web.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/1248650885600715


นายกฯ ยืนยันการแก้ปัญหาโควิด-19 เป็นไปตามสถานการณ์ เหตุผลความจำเป็น การตัดสินใจทุกเรื่องอยู่บนข้อมูล ข้อเท็จจริง

วันนี้ (2 ก.ย. 64) นายกรัฐมนตรีชี้แจงในเวทีการประชุมสภาฯ ถึงการดำเนินงานของรัฐบาลในประเด็นสถานการณ์โควิด-19 ดังนี้

1. การปรับกลยุทธ์ด้านสาธารณสุขเพื่อรับมือกับโรคโควิดสายพันธุ์เดลตา ทั้งมาตรการภาพรวมและมาตรการระดับบุคคล ทำให้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้

2. การรับมือกับโรคโควิดมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 63 พร้อมการคิดค้นสูตรฉีดวัคซีน “ไขว้ชนิด” และการฉีดบูสเตอร์โดสให้บุคลากรด่านหน้า - กลุ่มเสี่ยง

3. มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึง Factory Sandbox เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในโรงงาน ช่วยแรงงานภาคการส่งออกกว่า 3 ล้านคน ให้สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศต่อไปได้

4. การเร่งจัดหาวัคซีนให้เพียงพอ ซึ่งรัฐบาลได้ทำทุกวิถีทางและติดต่อขอซื้อวัคซีนจากผู้ผลิตมาโดยตลอด โดยขณะนี้ได้ฉีดวัคซีนให้ประชาชนแล้วกว่า 30 ล้านโดส คิดเป็นอันดับที่ 25 ของโลก

5. การไม่เข้าร่วม COVAX ไม่ใช่การตัดสินใจที่ผิดพลาด แต่เป็นการพิจารณาอย่างรอบคอบถึงผลได้ผลเสียต่อประเทศชาติโดยรวม ทำให้ไทยได้รับวัคซีนแอสตร้าฯ จากบริษัทโดยตรงแล้ว 13.8 ล้านโดส ซึ่งสูงกว่าหลายประเทศที่ได้รับจาก COVAX

6. รัฐบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจเรื่องการรับมือไวรัสกลายพันธุ์ คณะแพทย์และผู้เชี่ยวชาญจึงได้ศึกษาหาแนวทางการฉีดวัคชีน “แบบไขว้” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และฉีดในระยะเวลาที่เร็วขึ้น

7. เหตุผลที่รัฐบาลยังใช้ซิโนแวค เนื่องจาก WHO ย้ำเสมอว่าวัคซีนทุกชนิดมีประสิทธิภาพ “กันป่วย – กันตาย” และซิโนแวคเป็นวัคซีนเชื้อตาย และมีผลข้างเคียงน้อยอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้

8. ขอให้ระมัดระวังการด้อยค่าวัคซีน เพราะอาจกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

9. ความสำเร็จในการรับมือ “เดลตา” โดยช่วงที่ผ่านมามีผู้หายป่วยกลับบ้านสูงขึ้นกว่าผู้ป่วยรายใหม่ ยอดผู้ป่วยรักษาตัวใน รพ. ลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลดีกับระบบสาธารณสุข

10. ประเทศไทยรับมือการระบาดระลอกนี้ได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก และยอดการฉีดวัคซีนก็ไม่ได้ล่าช้าที่สุด หรือฉีดให้ประชาชนได้น้อยที่สุดอย่างที่ถูกกล่าวอ้าง

อ่านเพิ่มเติม คลิก https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/45445
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/1248489725616831


หนึ่งในการดำเนินการด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลในการให้ความช่วยเหลือด้านสังคมที่มีผลกระทบจากโควิด-19

• รัฐบาลไทยได้ขยายมาตรการการให้ความช่วยเหลือทางสังคมแบบก้าวกระโดด
• เป็นมาตรการขนาดที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ และมีความโดดเด่นเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ
• จาก 0.8% ของ GDP ในปี 2562
• เป็น 3.2% ของ GDP ในปี 2563
• เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดจากโควิด-19
https://www.facebook.com/PMOCNEWS/posts/618308699554456


นายกฯ แจงสภา รับมือโควิดได้ดี ย้ำ! ซื้อซิโนแวคมาใช้ฉีดไขว้รับมือเดลต้า

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงเหตุผลที่รัฐบาลยังใช้วัคซีนซิโนแวค เพราะ WHO ย้ำเสมอว่าวัคซีนทุกชนิด มีประสิทธิภาพ “กันป่วย - กันตาย” ซิโนแวคเป็น “วัคซีนเชื้อตาย” ที่มั่นใจได้ว่า “ผลข้างเคียงน้อย” อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ สั่งซื้อแล้ว “พร้อมส่ง” ตามจำนวน เวลาที่ต้องการ นำมาใช้ในการฉีดไขว้กับแอสตราเซเนก้า เพื่อสร้างภูมิต้านทาน เนื่องจากไวรัสสายพันธุ์เดลด้าแพร่กระจายง่ายและเร็ว

ขออย่าด้อยค่าวัคซีน เพราะอาจกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ ในภาพรวมระยะเวลา 1 ปี 8 เดือน นับว่าไทยรับมือการระบาดระลอกนี้ได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก ตัวเลขของประเทศไทย อัตราการติดเชื้อ และสัดส่วนการตายของไทย “ต่ำกว่า” ค่าเฉลี่ยของโลก มีอัตราการติดเชื้ออยู่ที่ 1.8% สัดส่วนการตายอยู่ที่ 0.96% กล่าวคือคนไทย 100 คน จะมีโอกาสติดเชื้อประมาณ 1.8 คน และคนที่ติดเชื้อ 100 คน จะมีโอกาสเสียชีวิตไม่ถึง 1 คน สรุปได้ว่าไทยมีอัตราการตาย “ต่ำมาก” ประเทศหนึ่งในโลก เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของทั้งโลก

เมื่อเปรียบเทียบประเทศในบริบทใกล้เคียงกัน ทั้งในเชิงภูมิศาสตร์ สังคม และเศรษฐกิจอย่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน ก็พบว่าประเทศไทยไม่ได้มีอัตราการติดเชื้อและอัตราการตายสูงที่สุดในอาเซียน รวมทั้งในด้านการฉีดวัคซีนประเทศไทยก็ไม่ได้ดำเนินการล่าช้าที่สุด หรือฉีดให้กับประชาชนได้น้อยที่สุดอย่างที่ถูกกล่าวอ้าง
https://www.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/6752215434803919
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  การเมือง รัฐบาล ฝ่ายค้าน นักการเมือง สภาผู้แทน
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่