เด็กหนุ่มสู้ชีวิต พ่อแม่แยกทางตอนอายุ 17 เลี้ยงไม่ไหว ต้องเร่ร่อนเป็นคนไร้บ้านแต่สู้ชีวิตจนมีบริษัทมูลค่า 2 ร้อยล้าน

กระทู้คำถาม
จากการเปิดเผยของเว็บไซต์ ladbible.com นำเสนอเรื่องราวชีวิตที่พลิกผันของ แฮร์รี่ แซนเดอร์ส หนุ่มวัย 23 ปี จากเมืองเมลเบิร์น ออสเตรเลีย
ชีวิตของเขายิ่งกว่าละคร เมื่อเด็กหนุ่มที่จะต้องเจอมรสุมชีวิตตั้งแต่เด็ก ธุรกิจของคุณพ่อพัง เนื่องด้วยบริษัทของพ่อเขาทำเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตเรือ ซึ่งบริษัทของพ่อเขาทุ่มใช้บริการของบริษัท SEO ผู้ซึ่งให้บริการทางด้านมาร์เก็ตติ้งออนไลน์เพื่อเว็บไซต์ธุรกิจของเขาได้ขึ้นเป็นอันดับต้นๆ บนการคนหาเพื่อให้มีโอกาสที่ลูกค้าจะได้เห็นและมาใช้บริการธุรกิจของพ่อเขามาขึ้น แต่กลับเป็นว่าไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร จนทำให้ในที่สุดธุรกิจก็ไปไม่รอด  แฮร์รี่ แซนเดอร์ส  จึงได้ทุ่มเวลาในการศึกษาเองในการทำ SEO เพื่อให้ธรุกิจของพ่ออยู่รอด แต่สุดท้ายก็เงินจมไปไม่รอด 
ซ้ำร้าย พ่อกับแม่เขาต้องแยกทางกัน และเลี้ยงดู  แฮร์รี่ แซนเดอร์ส ไม่ไหว สุดท้ายเขาก็ต้องไปเร่ร่อนเป็นคนไร้บ้าน บ้างก็ไปอาศัยอยู่กับเพื่อนเป็นครั้งคราว
รวมถึงเขาก็ต้องไปหาทึ่นอนตามใต้สะพาน 
จุดเปลี่ยนของชีวิตเมื่อ  แฮร์รี่ แซนเดอร์ส  กลับมารับงานทำ SEO ฟรีแลนซ์ให้ลูกค้าอีกครั้ง และเสนอให้ลูกค้าว่าจะช่วยทำให้พวกเขาติดอันดับการค้นหาสูง ๆ ไปแบบฟรี ๆ เลย แล้วค่อยจ่ายเงินค่าจ้างให้เขาหลังจากนั้น ซึ่งเพื่อให้ได้เงินมาแซนเดอร์สยอมใช้เวลาสัปดาห์ละ 100 ชั่วโมงเพื่อทำให้เว็บไซต์ของลูกค้าติดอันดับสูง ๆ
 หลังจาก 1 ปีแห่งความเหน็ดเหนื่อยผ่านไป ลูกค้าของเขาเริ่มมากขึ้น และขยับขยายจ้างพนักงานเพิ่มขึ้น จนในที่สุดเติบใหญ่ขึ้นมากจนคาดว่าบริษัทดังกล่าวน่าจะมีมูลค่าอยู่ราว 5.83 ล้านปอนด์ (ราว 261 ล้านบาท) ในปี 2565 โดยปัจจุบันบริษัทมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ในสังกัดกว่า 50 คน พร้อมด้วยลูกค้ากว่า 300 เจ้า แถมแซนเดอร์สยังได้รับรางวัล 2019 SEMrush Agency of the Year รวมถึงรางวัลอื่น ๆ ด้วย

หลังจากที่เขาประสบความสำเร็จแล้ว แต่เขาก็ยังใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายสมถะเหมือนเดิม ไม่ได้กินหรูอยู่แพงใช้เงินอย่างบ้าคลั่งแต่อย่างใด 
แซนเดอร์ส เคยกล่าวไว้ว่า "การหาเงินเหล่านี้ได้ในตอนนี้ช่างยอดเยี่ยม แต่ผมยังไม่รู้สึกว่ามันเป็นความจริงสักเท่าไหร่ ผมมีบริษัทมูลค่าหลายล้านแล้ว แต่บางครั้งผมยังคงไม่สบายใจกับการหยิบเบเกิลราคา 3 เหรียญ และยังถามตัวเองว่าผมต้องการสิ่งนี้จริง ๆ หรือไม่" 
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่