สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิป วันนี้ผมจะมาทำการรีวิวความรู้สึกส่วนตัวในการครอบครองนาฬิกาแบรนด์ Rolex ในสาย Sport ซึ่งจริงๆแล้ว Rolex ในโมเดล Sport มีหลายรุ่นมากๆ แต่ผมจะเน้นเจาะเป็นในตัวของ Submariner Date นะครับ ซึ่งจะเป็นการรีวิวแบบที่เข้าใจง่าย ส่วนทั้งหมดนั้นจะเป็นความรู้สึกการวิเคราะห์ส่วนตัวล้วนๆเลยนะครับ ผิดพลาดยังไงต้องขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยนะครับ
มาเริ่มกันเลย เพื่อนๆเคย
สงสัยไหมครับว่าทำไมนาฬิกาแบรนด์ Hi-end ต่างๆถึงมีราคาสูง ถ้าเทียบจริงๆฟั้งชั้น กลไก วัสดุต่างๆ แบรนด์ในตลาดบางรุ่นยังทำได้ดีกว่าด้วยซ้ำ หรือว่า ณ ปัจจุบันโลกเรามีนาฬิกา Smart Watch แล้วบอกข้อมูลได้ตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบเลย รู้ทุกอย่างจริงๆ ราคาหลักพันก็เป็นเจ้าของได้แล้ว
แต่ทำไมนาฬิกาในคลาส Hi-end ก็ยังมีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่น แบรนด์ต่างๆก็ยังขายได้แบบเทน้ำเทท่า แถมมีแนวโน้มที่จะเป็นที่ต้องการมากขึ้นด้วยซ้ำ วันนี้เราจะมาไขข้อกระจ่างประเด็นนี้กันครับ
ตัวนนี้เป็น Submariner Date 126610LV ในวงการจะเรียกว่า Starbuck ด้วยความที่มีสีเขียวดำ
ส่วนอุปกรณืที่มีให้มานะครับ จะเป็นกล่อง 3 ชั้น ใบรับประกัน ซองหนัง คู่มือ และก็เหรียญแท็คตัวนาฬิกา
ตัวนี้เป็นนาฬิกาที่ออกมาปี 2021 ก็ถือว่าใหม่มากครับ (ราคานาฬิกาความแพงที่เราหาซื้อในตลาดนั้น จะสูงหรือต่ำส่วนใหญ่จะอยู่ที่ปีที่ผลิตเป็นสำคัญครับ)
ขออนุญาติเล่าประวัติตัวนี้ Submariner ให้ฟังคร่าวๆซักนิดนะครับ นาฬิกา Submariner เป็นนาฬิกาที่ Rolex ผลิตมาเพื่อวัตถุประสงค์สำหรับการดำน้ำ ลูกเปิดตัวครั้งแรกช่วง 1950s ซึ่งก็นั่นแหละเป็นที่ฮืออาเป็นอย่างมาก ลองจินตนาการดูว่าเทคโนโลยีสมัยช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นช่วงที่เป็นยุคของการฟื้นฟูของเศรษฐกิจ หลายประเทศหรือบริษัทต่างๆต้องเร่งพัฒนาอุปโรค บริโรค เพื่อกระตุ้นเศษรฐกิจ
ซึ่งนาฬิกาหลากหลายแบรนด์ก็แข่งกันพัฒนาศักยภาพทางด้านต่างๆออกมาเพื่อครองตลาด
ส่วนตัว Rolex Submariner ตัวนี้เป็นนาฬิกาที่โดดเด่นในเรื่องของการดำน้ำนะครับ ก็ฟังชั้นหลักๆคือนาฬืกาที่ใช้ดำน้ำได้ 30bar หรือ 300 เมตร และอีกจุดนึงคือการที่ตัวเบเซล หรือขอบนาฬิกานั้น สามารถหมุนทวนเข็มนาฬิกาเพื่อสำหรับจับเวลา เมื่อเราดำลงไปอยู่ใต้น้ำ
วัสดุสำหรับตัวเรือนนี้จะเป็นสเตนเลสนะครับ เกรด 904I หรือเกรดสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมการแพทย์ ส่วนเครื่องหรือกลไกนั้น เป็นกลไกที่สำรองพลังงานได้ 70hours และตัวเรื่องนาฬิกานั้นถูก Certified หรือได้รับการรับรอง Superlative Chronometer หรือมีความแม่นยำและเที่ยงตรงสูง +-2 ต่อวัน
ก็เป็นรีวิวสั้นๆหรือเป็นการเกริ่นเกี่ยวกับตัวนาฬิกาในแบรนด์นี้นะครับ ซึ่ง!!!! จริงๆแล้ว topicที่ผมจะมาคลายข้อสงสัยจริงๆคือเรื่อง ที่เป็นที่ถกเถียงกันมาอย่างยาวนานในสังคม เช่น ผมเคยได้ยินว่าใส่นาฬิกาแพงๆ’’เมิงงงมีเวลาในชีวิตเพิ่มขึ้นไหม’’ ใส่ของปลอมดีกว่าดูไม่ออกหรอก ซื้อนาฬิกาแพงๆมาก็เหมือนเป็นเสษเหล็กดีๆนี่แหละเมื่อระยะเวลาผ่านไป หรือคำถามหรือคำสบประมาทต่างๆนาๆ ซึ่งวันนี้ผมอยากจะมาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในมุมมองของนาฬิการะดับหลักแสนถึงล้าน
อาจจะต้องตั้งคำถามก่อนว่าทำไม นาฬิกาหรูแบรนด์ต่างๆที่เห็นกันอยู่ในตลาดนั้นสามารถตั้งราคาที่สูงกัน เช่น Rolex, AP, Patek, Philippe, Panerai
แบรนด์ต่างๆพวกนั้นให้ขายกันเป็นหลักแสนหลักล้าน คนก็ยังตามหาหรือของก็ยังหมดจากตลาดตลอดเวลา??
เหตุผลที่สั้นและเข้าใจง่าย
-ประวัติความเป็นมาที่ยาวนานระดับร้อยปี หรือมี Story
-บุคคลที่มีชื่อเสียงให้การยอมรับ หรือก็คือ Story นั่นแหละ เช่น นาฬิกาที่ Paul Newman ใส่ในการลงแข็งรถรายการ 24 of Daytona ก็คือ Rolex Daytona ลองเปรียบเทียบเหตุการง่ายๆในยุคปัจจุบัน ที่เมื่อไหร่เราเห็นศิลปินหรือนักแสดงที่เราชื่นชอบ ใช้สิ่งของจำพวกนั้น หรือผลิตสินค้าจำพวกนั้นออกมาขาย แฟนคลับก็พร้อมจะซื้อหรือซัพพอตเสมอ เป็นที่มาของบัตรคอนเสิร์ต BlackPink ที่มาแสดงในไทยขายหมดภายในไม่กี่นาที ไม่ว่าจะหลักหมื่นหลักแสน
-วัสดุที่เลือกใช้ เป็นวัสดุที่ทั่วโลกให้การยอมรับว่ามีค่า เช่น ทองคำ, Rose Gold, White Gold, หรือ แพลตตินัม อันนี้เข้าใจไม่ยาก (บางคนก็ตั้งคำถามอีกแล้วสเตนเลส หละทำไมแพงอ่ะก็ต้องย้อนกลับไปที่หัวข้อ Story อีก)
-Brand Positioning เมื่อแบรนด์นาฬิกาวางรากฐานลูกค้าจนติดตลาด ทุกคนต้องการนาฬิกาพวกนั้น เพื่อเป็นการบ่งบอกฐานะในสังคม บ่งบอกถึงความสำเร็จ หรือกระทั้งสะสมเพื่อเติมเต็มความต้องการส่วนตัว
แต่สินค้าถูกผลิตออกมาน้อยก็เป็นบ่อเกิดของกลไกของตลาด นั่นก็คือเรื่อง Demand กับ Supply ของน้อยคนต้องการเยอะจึงการเป็นสินค้าที่ไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือยอีกต่อไป มันกลายเป็นสินทรัพย์อย่างนึงที่คล้ายคลึงกับ แร่จำพวกทองที่ปัจจัยของมันคือ คนต้องการมากแต่ของน้อย แล้วก็แร่ทองคำถูกพิศุจย์มาตลอดระยะเวลา 5,000 ปี ว่าทั่วโลกให้การยอมรับทองคำ นาฬิกาก็เช่นกัน
ทั้ง 2 รุ่นในภาพคือ Submariner ซ้ายคือSubDateหน้าดำ ขวาคือSubDateStarbuck หน้าตาสองตัวนี้หลักๆที่แตกต่างกันคือ เบเซลตรงขอบนาฬิกาที่เป็นสีดำและเขียว ราคา 2 รุ่นนี้ถ้าเราซื้อออกช้อปอย่างเป็นทางการของ Rolex จะอยู่ที่ราวๆ 300,000 บาท ซึ่ง 2 รุนนี้ราคาจะแตกต่างกันอยู่ที่หลักหมื่นบาท แต่ด้วยจำนวนการผลิตและ Marketing ล้วนๆของแบรนด์ทำให้เมื่อนาฬิกา 2 รุ่นนี้ออกมาขายในตลาดResell มีราคาแตกต่างทางช่องกำไรถึง 400,000 บาท
ลองนึกดูสิถ้าคุณได้ออกมาจากช้อปแล้วทำกำไรจากนาฬิกาหรูพวกนี้ได้ถึง 400,000 บาท ใครจะไม่สนใจ
หรือเป็นรุนที่ยอดนิยมอีกรุ่นนึงคือ GMT Master II ตัวนี้ในวงการเรียกว่า Pepsi ราคาออกจากช้อปอย่างเป็นทางการของ Rolex ตัว GMT Master II จะถูกว่า Starbuck แต่เมื่ออกมาที่ตลาด Resell ณ ปัจจุบันราคา GMT จะแพงกว่า Submariner กว่า 100,000 บาท เป็นที่น่าสนใจเหมือนกันกับการทำ Marketing ของแบรนด์เองที่ตัวราคาถูกในแบรนด์ไม่จำเป็นต้องผลิตออกมาเยอะกว่า
มาถึงหัวข้อสุดท้ายที่สำคัญและอาจจะคลายข้อสงสัย และทำให้เพื่อนๆร้อง "อ๋ออออ" เป็นอย่างนี้นี่เอง
ถ้าที่กล่าวมาทั้งหมดเพื่อนๆไม่สามารถเก็ทได้เลย เพราะฉันไม่อินอะ ฉันเป็นคนที่ไม่สนใจสินค้าฟุ่มเฟือย ไม่ได้มีความสุขกับการซื้อของจำพวกนี้ ไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือยกับอะไรพวกนั้น ไม่แต่งตัว ไม่อยู่หรู ไม่สนใจรูปลักษณ์ภายนอก มาฟังข้อนี้กันครับ
หลายๆคนที่ผมรู้จักเป็นคนแบบนี้กัน แต่ถ้าถามว่าสินทรัพย์นี้สร้างความมั่งคังให้คุณได้มากกว่าฝากเงินแล้วรับดอกเบี้ยจากธนาคารหละ คุณยังจะไม่อยากฟังผมอธิบายอยู่ไหม?
ใช่ครับใครๆไม่ว่าจะมีไลฟ์สไตล์แบบไฮโซหรือติดดิน แต่ทุกคนก็ล้วนอยากมีความมั่งคั่งหรือนำเงินไปต่อเงินให้งอกเงิยกันอยู่แล้วหละ ซึ่งการลงทุนทั้งในสินทรัพย์เช่น ทองคำแท่ง, Crypto Currency, อสังหาฯ หรือการลงทุนในหุ้นก็ดี อะไรก็ได้ที่ได้ผลตอบแทนมากกว่าค่าเงินที่เฟ้อขึ้นทุกปี ซึ่งก็เป็นเรื่องที่คนทั่วโลกความสนใจ
ซึ่งนาฬิกาหรูก็เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่สามารถทำกำไรให้เราได้น่าประหลาดใจ แม้คุณจะไม่สนใจแต่ถ้ามันทำกำไรให้คุณได้หละ ใครๆก็หันกลับมาแล้วพร้อมฟังอธิบายกันทั้งนั้น
คนรู้จักรอบตัวผมไม่ใช่คนที่บ้าหรือสนใจในเรื่อง accessories ไม่ได้สนใจเรื่องการแต่งตัว แต่เนื่องจากนาฬิกาสามารถทำกำไรให้เค้าได้ เค้าเลือกที่จะศึกษาข้อมูล เลือกรุ่นที่มีความนิยมและซื้อเก็บใส่เซฟ ไม่เคยหยิบออกมาดูไม่เคยใส่ เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงจุดที่พอใจในกำไรก็นำออกมาขาย เพราะของที่ผลิตออกมาน้อยมากไม่เคยพอกับความต้องการของคนทั้งโลกอยู่แล้ว จึงทำให้สินทรัพย์จำพวกนี้ พ่อค้าหรือคนที่เห็นช่องทางจากมัน ไม่เคยหยุดที่จะทำกำไรจากมันได้เลยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ทั้งหมดนี้เป็นมุมมองที่ผมมีต่อสินค้าจำพวกนาฬิกาหรู และ Accessory อื่นๆ ที่ต้องการนำมาแบ่งปัน และอธิบายในอีกมุมนึง ซึ่งสินค้าจำพวกนี้ถูกตีตราว่าคือสินค้าฟุ่มเฟือย ไม่มีประโยชน์อะไร ทำได้มากที่สุดแค่ดูเวลา...
ส่วนเพื่อนๆมีความคิดเห็นบทความนี้ยังไง รบกวนมาแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้กันนะครับ
บทความนี้ไม่ใช่โฆษณาชักชวนในการลงทุนนะครับ ผู้ลงทุนควรศึกษาก่อนตัดสินใจลงทุน
รบกวนฝากผลงานข่าวสารความรู้ต่างๆในสินทรัพย์ประเภทนี้ และคลิปรีวิวนาฬืการุ่นอื่นๆในช่อง ArchLife61
[SR] รีวิว เคยสงสัยกันไหมครับว่าทำไมนาฬิกาถึงราคาแพง ทั้งๆที่คุณภาพแบบเดียวกันราคาต่างกันเป็นแสนนน!
มาเริ่มกันเลย เพื่อนๆเคยสงสัยไหมครับว่าทำไมนาฬิกาแบรนด์ Hi-end ต่างๆถึงมีราคาสูง ถ้าเทียบจริงๆฟั้งชั้น กลไก วัสดุต่างๆ แบรนด์ในตลาดบางรุ่นยังทำได้ดีกว่าด้วยซ้ำ หรือว่า ณ ปัจจุบันโลกเรามีนาฬิกา Smart Watch แล้วบอกข้อมูลได้ตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบเลย รู้ทุกอย่างจริงๆ ราคาหลักพันก็เป็นเจ้าของได้แล้ว
แต่ทำไมนาฬิกาในคลาส Hi-end ก็ยังมีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่น แบรนด์ต่างๆก็ยังขายได้แบบเทน้ำเทท่า แถมมีแนวโน้มที่จะเป็นที่ต้องการมากขึ้นด้วยซ้ำ วันนี้เราจะมาไขข้อกระจ่างประเด็นนี้กันครับ
ตัวนนี้เป็น Submariner Date 126610LV ในวงการจะเรียกว่า Starbuck ด้วยความที่มีสีเขียวดำ
ส่วนอุปกรณืที่มีให้มานะครับ จะเป็นกล่อง 3 ชั้น ใบรับประกัน ซองหนัง คู่มือ และก็เหรียญแท็คตัวนาฬิกา
ตัวนี้เป็นนาฬิกาที่ออกมาปี 2021 ก็ถือว่าใหม่มากครับ (ราคานาฬิกาความแพงที่เราหาซื้อในตลาดนั้น จะสูงหรือต่ำส่วนใหญ่จะอยู่ที่ปีที่ผลิตเป็นสำคัญครับ)
ขออนุญาติเล่าประวัติตัวนี้ Submariner ให้ฟังคร่าวๆซักนิดนะครับ นาฬิกา Submariner เป็นนาฬิกาที่ Rolex ผลิตมาเพื่อวัตถุประสงค์สำหรับการดำน้ำ ลูกเปิดตัวครั้งแรกช่วง 1950s ซึ่งก็นั่นแหละเป็นที่ฮืออาเป็นอย่างมาก ลองจินตนาการดูว่าเทคโนโลยีสมัยช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นช่วงที่เป็นยุคของการฟื้นฟูของเศรษฐกิจ หลายประเทศหรือบริษัทต่างๆต้องเร่งพัฒนาอุปโรค บริโรค เพื่อกระตุ้นเศษรฐกิจ
ซึ่งนาฬิกาหลากหลายแบรนด์ก็แข่งกันพัฒนาศักยภาพทางด้านต่างๆออกมาเพื่อครองตลาด
ส่วนตัว Rolex Submariner ตัวนี้เป็นนาฬิกาที่โดดเด่นในเรื่องของการดำน้ำนะครับ ก็ฟังชั้นหลักๆคือนาฬืกาที่ใช้ดำน้ำได้ 30bar หรือ 300 เมตร และอีกจุดนึงคือการที่ตัวเบเซล หรือขอบนาฬิกานั้น สามารถหมุนทวนเข็มนาฬิกาเพื่อสำหรับจับเวลา เมื่อเราดำลงไปอยู่ใต้น้ำ
วัสดุสำหรับตัวเรือนนี้จะเป็นสเตนเลสนะครับ เกรด 904I หรือเกรดสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมการแพทย์ ส่วนเครื่องหรือกลไกนั้น เป็นกลไกที่สำรองพลังงานได้ 70hours และตัวเรื่องนาฬิกานั้นถูก Certified หรือได้รับการรับรอง Superlative Chronometer หรือมีความแม่นยำและเที่ยงตรงสูง +-2 ต่อวัน
ก็เป็นรีวิวสั้นๆหรือเป็นการเกริ่นเกี่ยวกับตัวนาฬิกาในแบรนด์นี้นะครับ ซึ่ง!!!! จริงๆแล้ว topicที่ผมจะมาคลายข้อสงสัยจริงๆคือเรื่อง ที่เป็นที่ถกเถียงกันมาอย่างยาวนานในสังคม เช่น ผมเคยได้ยินว่าใส่นาฬิกาแพงๆ’’เมิงงงมีเวลาในชีวิตเพิ่มขึ้นไหม’’ ใส่ของปลอมดีกว่าดูไม่ออกหรอก ซื้อนาฬิกาแพงๆมาก็เหมือนเป็นเสษเหล็กดีๆนี่แหละเมื่อระยะเวลาผ่านไป หรือคำถามหรือคำสบประมาทต่างๆนาๆ ซึ่งวันนี้ผมอยากจะมาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในมุมมองของนาฬิการะดับหลักแสนถึงล้าน
อาจจะต้องตั้งคำถามก่อนว่าทำไม นาฬิกาหรูแบรนด์ต่างๆที่เห็นกันอยู่ในตลาดนั้นสามารถตั้งราคาที่สูงกัน เช่น Rolex, AP, Patek, Philippe, Panerai
แบรนด์ต่างๆพวกนั้นให้ขายกันเป็นหลักแสนหลักล้าน คนก็ยังตามหาหรือของก็ยังหมดจากตลาดตลอดเวลา??
เหตุผลที่สั้นและเข้าใจง่าย
-ประวัติความเป็นมาที่ยาวนานระดับร้อยปี หรือมี Story
-บุคคลที่มีชื่อเสียงให้การยอมรับ หรือก็คือ Story นั่นแหละ เช่น นาฬิกาที่ Paul Newman ใส่ในการลงแข็งรถรายการ 24 of Daytona ก็คือ Rolex Daytona ลองเปรียบเทียบเหตุการง่ายๆในยุคปัจจุบัน ที่เมื่อไหร่เราเห็นศิลปินหรือนักแสดงที่เราชื่นชอบ ใช้สิ่งของจำพวกนั้น หรือผลิตสินค้าจำพวกนั้นออกมาขาย แฟนคลับก็พร้อมจะซื้อหรือซัพพอตเสมอ เป็นที่มาของบัตรคอนเสิร์ต BlackPink ที่มาแสดงในไทยขายหมดภายในไม่กี่นาที ไม่ว่าจะหลักหมื่นหลักแสน
-วัสดุที่เลือกใช้ เป็นวัสดุที่ทั่วโลกให้การยอมรับว่ามีค่า เช่น ทองคำ, Rose Gold, White Gold, หรือ แพลตตินัม อันนี้เข้าใจไม่ยาก (บางคนก็ตั้งคำถามอีกแล้วสเตนเลส หละทำไมแพงอ่ะก็ต้องย้อนกลับไปที่หัวข้อ Story อีก)
-Brand Positioning เมื่อแบรนด์นาฬิกาวางรากฐานลูกค้าจนติดตลาด ทุกคนต้องการนาฬิกาพวกนั้น เพื่อเป็นการบ่งบอกฐานะในสังคม บ่งบอกถึงความสำเร็จ หรือกระทั้งสะสมเพื่อเติมเต็มความต้องการส่วนตัว
แต่สินค้าถูกผลิตออกมาน้อยก็เป็นบ่อเกิดของกลไกของตลาด นั่นก็คือเรื่อง Demand กับ Supply ของน้อยคนต้องการเยอะจึงการเป็นสินค้าที่ไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือยอีกต่อไป มันกลายเป็นสินทรัพย์อย่างนึงที่คล้ายคลึงกับ แร่จำพวกทองที่ปัจจัยของมันคือ คนต้องการมากแต่ของน้อย แล้วก็แร่ทองคำถูกพิศุจย์มาตลอดระยะเวลา 5,000 ปี ว่าทั่วโลกให้การยอมรับทองคำ นาฬิกาก็เช่นกัน
ทั้ง 2 รุ่นในภาพคือ Submariner ซ้ายคือSubDateหน้าดำ ขวาคือSubDateStarbuck หน้าตาสองตัวนี้หลักๆที่แตกต่างกันคือ เบเซลตรงขอบนาฬิกาที่เป็นสีดำและเขียว ราคา 2 รุ่นนี้ถ้าเราซื้อออกช้อปอย่างเป็นทางการของ Rolex จะอยู่ที่ราวๆ 300,000 บาท ซึ่ง 2 รุนนี้ราคาจะแตกต่างกันอยู่ที่หลักหมื่นบาท แต่ด้วยจำนวนการผลิตและ Marketing ล้วนๆของแบรนด์ทำให้เมื่อนาฬิกา 2 รุ่นนี้ออกมาขายในตลาดResell มีราคาแตกต่างทางช่องกำไรถึง 400,000 บาท
ลองนึกดูสิถ้าคุณได้ออกมาจากช้อปแล้วทำกำไรจากนาฬิกาหรูพวกนี้ได้ถึง 400,000 บาท ใครจะไม่สนใจ
หรือเป็นรุนที่ยอดนิยมอีกรุ่นนึงคือ GMT Master II ตัวนี้ในวงการเรียกว่า Pepsi ราคาออกจากช้อปอย่างเป็นทางการของ Rolex ตัว GMT Master II จะถูกว่า Starbuck แต่เมื่ออกมาที่ตลาด Resell ณ ปัจจุบันราคา GMT จะแพงกว่า Submariner กว่า 100,000 บาท เป็นที่น่าสนใจเหมือนกันกับการทำ Marketing ของแบรนด์เองที่ตัวราคาถูกในแบรนด์ไม่จำเป็นต้องผลิตออกมาเยอะกว่า
มาถึงหัวข้อสุดท้ายที่สำคัญและอาจจะคลายข้อสงสัย และทำให้เพื่อนๆร้อง "อ๋ออออ" เป็นอย่างนี้นี่เอง
ถ้าที่กล่าวมาทั้งหมดเพื่อนๆไม่สามารถเก็ทได้เลย เพราะฉันไม่อินอะ ฉันเป็นคนที่ไม่สนใจสินค้าฟุ่มเฟือย ไม่ได้มีความสุขกับการซื้อของจำพวกนี้ ไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือยกับอะไรพวกนั้น ไม่แต่งตัว ไม่อยู่หรู ไม่สนใจรูปลักษณ์ภายนอก มาฟังข้อนี้กันครับ
หลายๆคนที่ผมรู้จักเป็นคนแบบนี้กัน แต่ถ้าถามว่าสินทรัพย์นี้สร้างความมั่งคังให้คุณได้มากกว่าฝากเงินแล้วรับดอกเบี้ยจากธนาคารหละ คุณยังจะไม่อยากฟังผมอธิบายอยู่ไหม?
ใช่ครับใครๆไม่ว่าจะมีไลฟ์สไตล์แบบไฮโซหรือติดดิน แต่ทุกคนก็ล้วนอยากมีความมั่งคั่งหรือนำเงินไปต่อเงินให้งอกเงิยกันอยู่แล้วหละ ซึ่งการลงทุนทั้งในสินทรัพย์เช่น ทองคำแท่ง, Crypto Currency, อสังหาฯ หรือการลงทุนในหุ้นก็ดี อะไรก็ได้ที่ได้ผลตอบแทนมากกว่าค่าเงินที่เฟ้อขึ้นทุกปี ซึ่งก็เป็นเรื่องที่คนทั่วโลกความสนใจ
ซึ่งนาฬิกาหรูก็เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่สามารถทำกำไรให้เราได้น่าประหลาดใจ แม้คุณจะไม่สนใจแต่ถ้ามันทำกำไรให้คุณได้หละ ใครๆก็หันกลับมาแล้วพร้อมฟังอธิบายกันทั้งนั้น
คนรู้จักรอบตัวผมไม่ใช่คนที่บ้าหรือสนใจในเรื่อง accessories ไม่ได้สนใจเรื่องการแต่งตัว แต่เนื่องจากนาฬิกาสามารถทำกำไรให้เค้าได้ เค้าเลือกที่จะศึกษาข้อมูล เลือกรุ่นที่มีความนิยมและซื้อเก็บใส่เซฟ ไม่เคยหยิบออกมาดูไม่เคยใส่ เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงจุดที่พอใจในกำไรก็นำออกมาขาย เพราะของที่ผลิตออกมาน้อยมากไม่เคยพอกับความต้องการของคนทั้งโลกอยู่แล้ว จึงทำให้สินทรัพย์จำพวกนี้ พ่อค้าหรือคนที่เห็นช่องทางจากมัน ไม่เคยหยุดที่จะทำกำไรจากมันได้เลยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ทั้งหมดนี้เป็นมุมมองที่ผมมีต่อสินค้าจำพวกนาฬิกาหรู และ Accessory อื่นๆ ที่ต้องการนำมาแบ่งปัน และอธิบายในอีกมุมนึง ซึ่งสินค้าจำพวกนี้ถูกตีตราว่าคือสินค้าฟุ่มเฟือย ไม่มีประโยชน์อะไร ทำได้มากที่สุดแค่ดูเวลา...
ส่วนเพื่อนๆมีความคิดเห็นบทความนี้ยังไง รบกวนมาแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้กันนะครับ
บทความนี้ไม่ใช่โฆษณาชักชวนในการลงทุนนะครับ ผู้ลงทุนควรศึกษาก่อนตัดสินใจลงทุน
รบกวนฝากผลงานข่าวสารความรู้ต่างๆในสินทรัพย์ประเภทนี้ และคลิปรีวิวนาฬืการุ่นอื่นๆในช่อง ArchLife61
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้