.
เริ่มเลยนะคะ สวัสดีค่ะเราเป็นนักศึกษา กำลังจะหาร้านตัดผม แล้วก็ได้ร้านแห่งหนึ่ง (ร้าน ป.) แถวถนนนวลแก้ว อ.หาดใหญ่ สงขลา เราทักไปที่เพจของร้านนี้เพื่อสอบถามราคา ตัด+สระไดร์ ทางร้านให้เรทราคามาอยู่ที่ 300-350 บาท เลยตัดสินใจจะเข้าไปใช้บริการเวลา 10 โมงของวันรุ่งขึ้น พอไปถึงที่ร้านน้าเจ้าของร้านทักมาว่ายืดด้วยเลยมั้ยคะ ซึ่งเราก็ตอบปฏิเสธไปเพราะจะมาตัดอย่างเดียว หลังจากนั้นเค้าก็เคลมให้เรายืดบอกว่าผมเราสวยแต่ฟูถ้ายืดก็จะดูดี ด้วยความงงๆ+ไม่คิดให้รอบคอบ+ปากเร็วพาซวย เลยตอบตกลงไป โดยไม่ได้ถามราคาอย่างตรงไปตรงมาและ เค้าก็ไม่ได้ดิวราคากับเราว่า"ราคาเท่านี้นะน้องไหวมั้ย" (เจ้าของร้านน่าจะรู้อยู่แล้วว่าเราเป็นนักศึกษาเพราะคงได้ข้อมูลจากการส่องเฟซของเรา) เพราะคิดว่าถ้าราคา1500-2000เราสามารถรับมือไหวอยู่ .....พอทำไปได้ครึ่งขั้นตอนเราขอโอนเงินก่อน เขาก็หยิบเครื่องคิดเลขมากดให้เราดู ยืด 3500+(ทรีเมนต์+ตัด 1200) รวม 4800 บาท!!! เห็นราคาแล้วช็อคเลย เราก็นิ่งไปสักพัก เขาก็พยายามขายเซรั่มให้เราต่อ เราก็บอกว่าไม่เอาค่ะ ที่จริงวันนี้ก็ไม่ได้เตรียมใจมาเสีย 4800 อยู่แล้ว เพราะโดนพวกพี่ป้ายยา เจ้าของร้านเข้าก็พูดอารมณ์กึ่งขบขันประมาณว่า "พี่วางกับดักไว้แล้วน้องหนีไม่รอดหรอก" แล้วก็ขำกันกับช่าง..แต่ในใจเราไม่ขำไง จะโทษใครได้ก็ต้องโทษตัวเองนี่แหละที่ทำอะไรไม่คิด วันนั้นก็ไม่ได้พาคุณอาไปด้วยอย่างน้อยถ้าจะทำอะไรก็จะได้มีคนห้ามบ้าง
เราก็อยากจะแชร์เรื่องนี้ไว้เป็นบทเรียนราคาแพงนะคะ ถ้าเข้าร้านพยายามใจแข็ง คิดถึงแต่มิชชั่นที่ตัวเองต้องทำเท่านั้น คิดให้มาก ถามให้ชัวร์ จะได้ไม่เป็นเหมือนเรา แต่เศรษฐกิจช่วงนี้ก็เข้าใจว่าเงินมันต้องหา แต่ก็อยากให้ทางร้านดิวกับเราก่อน ถามตรงๆถ้าอยากขายก็ว่ามา แล้วเรายังเป็นเด็ก ถ้าวันนั้นไม่มีเงินจ่ายทำยังไง ...คุณได้เงิน แต่เราต้องอดข้าว3เดือนเพื่อเก็บเงิน... อยากให้เห็นใจบ้าง แต่ก็นะจะโทษร้านไม่ได้ โทษที่เรานี่แหละที่สติมีไม่มากพอ
ขอบคุณค่ะ....
จะตัดผม 300 ดันเสีย 4800!!!
เริ่มเลยนะคะ สวัสดีค่ะเราเป็นนักศึกษา กำลังจะหาร้านตัดผม แล้วก็ได้ร้านแห่งหนึ่ง (ร้าน ป.) แถวถนนนวลแก้ว อ.หาดใหญ่ สงขลา เราทักไปที่เพจของร้านนี้เพื่อสอบถามราคา ตัด+สระไดร์ ทางร้านให้เรทราคามาอยู่ที่ 300-350 บาท เลยตัดสินใจจะเข้าไปใช้บริการเวลา 10 โมงของวันรุ่งขึ้น พอไปถึงที่ร้านน้าเจ้าของร้านทักมาว่ายืดด้วยเลยมั้ยคะ ซึ่งเราก็ตอบปฏิเสธไปเพราะจะมาตัดอย่างเดียว หลังจากนั้นเค้าก็เคลมให้เรายืดบอกว่าผมเราสวยแต่ฟูถ้ายืดก็จะดูดี ด้วยความงงๆ+ไม่คิดให้รอบคอบ+ปากเร็วพาซวย เลยตอบตกลงไป โดยไม่ได้ถามราคาอย่างตรงไปตรงมาและ เค้าก็ไม่ได้ดิวราคากับเราว่า"ราคาเท่านี้นะน้องไหวมั้ย" (เจ้าของร้านน่าจะรู้อยู่แล้วว่าเราเป็นนักศึกษาเพราะคงได้ข้อมูลจากการส่องเฟซของเรา) เพราะคิดว่าถ้าราคา1500-2000เราสามารถรับมือไหวอยู่ .....พอทำไปได้ครึ่งขั้นตอนเราขอโอนเงินก่อน เขาก็หยิบเครื่องคิดเลขมากดให้เราดู ยืด 3500+(ทรีเมนต์+ตัด 1200) รวม 4800 บาท!!! เห็นราคาแล้วช็อคเลย เราก็นิ่งไปสักพัก เขาก็พยายามขายเซรั่มให้เราต่อ เราก็บอกว่าไม่เอาค่ะ ที่จริงวันนี้ก็ไม่ได้เตรียมใจมาเสีย 4800 อยู่แล้ว เพราะโดนพวกพี่ป้ายยา เจ้าของร้านเข้าก็พูดอารมณ์กึ่งขบขันประมาณว่า "พี่วางกับดักไว้แล้วน้องหนีไม่รอดหรอก" แล้วก็ขำกันกับช่าง..แต่ในใจเราไม่ขำไง จะโทษใครได้ก็ต้องโทษตัวเองนี่แหละที่ทำอะไรไม่คิด วันนั้นก็ไม่ได้พาคุณอาไปด้วยอย่างน้อยถ้าจะทำอะไรก็จะได้มีคนห้ามบ้าง
เราก็อยากจะแชร์เรื่องนี้ไว้เป็นบทเรียนราคาแพงนะคะ ถ้าเข้าร้านพยายามใจแข็ง คิดถึงแต่มิชชั่นที่ตัวเองต้องทำเท่านั้น คิดให้มาก ถามให้ชัวร์ จะได้ไม่เป็นเหมือนเรา แต่เศรษฐกิจช่วงนี้ก็เข้าใจว่าเงินมันต้องหา แต่ก็อยากให้ทางร้านดิวกับเราก่อน ถามตรงๆถ้าอยากขายก็ว่ามา แล้วเรายังเป็นเด็ก ถ้าวันนั้นไม่มีเงินจ่ายทำยังไง ...คุณได้เงิน แต่เราต้องอดข้าว3เดือนเพื่อเก็บเงิน... อยากให้เห็นใจบ้าง แต่ก็นะจะโทษร้านไม่ได้ โทษที่เรานี่แหละที่สติมีไม่มากพอ
ขอบคุณค่ะ....