Yuji Nishida นักกีฬาที่ตัวไม่สูงแต่กระโดดสูงของทีมชาติญี่ปุ่น

“ผมอยากเป็นนักกีฬาที่ดี และพยายามแก้ไขข้อผิดพลาด ที่เคยทำไม่ดีไว้ในอดีต เพื่อที่จะเป็นนักกีฬาที่ทรงอิทธิพล”



Yuji Nishida
30 มกราคม 2000 อายุ 21 ปีบริบูรณ์
ส่วนสูง 186
ตำแหน่ง ตัวตบหัวเสา
บ้านเกิด มิเอะ ประเทศญี่ปุ่น
ครอบครัว 5 คน พ่อ แม่ พี่สาว พี่ชาย นิชิดะเป็นลูกชายสุดท้อง (น้องเล็กของบ้าน)
พี่สาวอายุมากกว่า 8 ปี และพี่ชายอายุมากกว่า 6 ปี





“ผมมีพี่ชายและพี่สาว ผมสนิทกับทั้งคู่มาก มันก็มีบางครั้งที่พี่ชอบแกล้งให้ผมร้องไห้ ถ้าโดนพี่แกล้งผมก็จะฟ้องพ่อแม่ ครับ ฮ่าฮ่า” นิชิดะกล่าว

“พี่ทั้ง 2 ใจดีกับผมมาก มีบ่อยครั้งที่ผมมักเอาแต่ใจ (ก็น้องคนเล็กอะนะ) และผมก็มีความโลภมากเกินไปและเอาเปรียบพี่น้อง พอมองย้อนกลับไปก็รู้สึกว่าเป็นนิสัยที่ไม่ดีเอาเสียเลย”

“ในตอนที่อยู่ รร ผมเป็นคนที่เห็นแก่ตัว ไม่รู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น และมีความทะเยอทะยานอย่างสูง”

“พอผมย้อนกลับไปในอดีต และเห็นพฤติกรรมที่แย่ก็รู้สึกเกลียดตัวเอง “

“เมื่อผมติดทีมชาติและมาเล่นในสโมสร Jtekt ผมได้รับแรงสนับสนุนมากมายจากแฟนๆ ผมรู้สึกอยากขอบคุณอย่างสุดซึ้ง และอยากเป็นนักกีฬาที่ดี เป็นแบบอย่างให้กับเยาวชน ผมจะพยายามแก้ไขนิสัยที่ไม่ดีของตัวเอง ให้เป็นคนที่ดีขึ้น ครับ “

“ผมอยากเป็นนักกีฬาที่ทรงอิทธิพลอย่าง ผู้เล่น อิชิกาว่า และ ยานากิดะ ครับ”



ซึ่งเขาได้ตระหนักสิ่งนี้ว่า การจะเป็นนักกีฬาที่ทรงอิทธิพลต้องเป็นนักกีฬาที่ยอดเยี่ยม และวางตัวดีมาก ซึ่งเขาได้ยึดถือผู้เล่นอย่าง ยูกิ อิชิกาว่าเป็นแบบอย่าง (ทั้งฝีมือการเล่นในสนาม+ การวางตัว+ บุคลิกภาพ)

“เขาเติบโตขึ้น ลูกชายของแม่ โตเป็นผู้ใหญ่แล้วจริงๆ ฮ่าฮ่า “ คุณแม่ของเขากล่าว

พ่อแม่ของเขาเป็นแฟนตัวยง พวกเขาจะติดตามลูกชายไปเชียร์ในสนามทุกแมตท์ แม้แต่ลูกชายไปแข่งที่ต่างประเทศ พ่อ แม่ พี่สาว พี่ชาย จะมารวมตัวกันหน้าจอทีวี เพื่อเชียร์เขา ไม่ว่าจะแข่งดึกแค่ไหน ครอบครัวก็จะคอยเชียร์

ถึงแม้พ่อแม่จะสนับสนุนให้ลูกเป็นนักกีฬาตามที่ฝัน แม่ของเขาก็อดห่วงเรื่อง และกังวลกลัวลูกบาดเจ็บในสนาม จนต้องกระชับกับลูกว่า

“ดูแลตัวเองให้ดีๆนะ อย่าให้บาดเจ็บล่ะ  “ แม่เขากล่าว

“ฉันเคยเห็นลูกชายบาดเจ็บและร้องครวญครางในสนามต่อหน้าต่อตา ตอนสมัยเรียน ฉันเป็นกังวลมาก ว่าจะเขาจะเป็นอะไรมากหรือป่าว เขาใช้พลังงานเยอะในการกระโดดขึ้นตบ ฉันก็จะเตือนให้เขาระมัดระวัง” คุณแม่กล่าว






นิชิดะเริ่มเล่นวอลเลย์บอลเพราะพี่ชายและพี่สาว

“ผมเคยไปสนามวอลเลย์บอลตั้งแต่ยังเป็นเด็ก และเริ่มเล่นวอลเลย์บอลเมื่อตอนที่ผมยังเป็นรุ่นพี่ในโรงเรียนอนุบาล”

“ตอนที่ผมเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของ Daian Junior High School ในเมือง Inabe ผมได้รับเลือกให้เข้าร่วมการแข่งขันวอลเลย์บอลระดับมัธยมศึกษาตอนต้นของจังหวัดมิเอะ ได้รับความสนใจมากมายที่นั่น และผมได้รับเชิญจากโรงเรียนมัธยมเซโจในจังหวัดไอจิ ซึ่งเป็นโรงเรียนเก่าของรุ่นพี่ยูกิ อิชิกาวะ นักกีฬาทีมชาติญี่ปุ่นคนปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม โรงเรียนมัธยมปลายที่ผมเข้าเรียนหลังจากจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นคือ "โรงเรียนมัธยมไคเซ" ในบ้านเกิดของผมที่จังหวัดมิเอะ ผมเลือกโรงเรียนมัธยมไคเซเพราะคิดว่าผมชอบบ้านเกิดของผม”





อย่างไรก็ตาม โรงเรียนมัธยมไคเซเป็นโรงเรียนมัธยมสำหรับเด็กชายเพียงแห่งเดียวในจังหวัดมิเอะ

“โรงเรียนมัธยมไคเซเป็นทีมที่ไม่เคยปรากฏตัวเลยทั่วประเทศ ดังนั้นผมจึงต้องการพารุ่นพี่และเพื่อนร่วมทีมขึ้นไปบนเวที และตัวผมเองก็มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะไป นั่นอาจเป็นช่วงเวลาที่ผมพบกับความพ่ายแพ้มากที่สุดที่ผมเคยมี หลังจากพ่ายแพ้ครั้งนั้น ผมไม่ได้เปลี่ยนตัวเองด้วยสไตล์การเล่น แต่ด้วยวิธีการฝึกฝน การควบคุมอาหาร ฯลฯ "

นิชิดะเริ่มไปออกกำลังกายที่โรงยิมสาธารณะแม้ในวันที่เขาไม่ได้ทำกิจกรรมของสโมสร เมื่อก่อนกินแต่เนื้อที่ตัวเองชอบก็เลยเริ่มคิดว่าจะกินอะไรสารอาหารหลัก 5 อย่าง ก็เลยเริ่มกินผัก ที่มีประโยชน์ตามหลักโภชนาการ



ในเดือนเมษายน 2015 นิชิดะเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมไคเซ (เมืองยกไคจิ จังหวัดมิเอะ) ซึ่งเขาเข้าร่วมการฝึกหัดตอนที่เขาเรียนมัธยมต้น ในสโมสรวอลเลย์บอล เขาเข้าสู่เกมทันทีและมีส่วนสนับสนุนรองชนะเลิศของการแข่งขันวอลเลย์บอลฤดูใบไม้ผลิของโรงเรียนมัธยมประจำจังหวัดมิเอะที่จัดขึ้นในเดือนเมษายน

ผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมไคเซย์ในขณะนั้นคือมาซาโนบุ โอนิชิ ผู้สอนนิชิดะกับทีมสโมสร "NFO Ocean Star" ในโรงเรียนมัธยมต้น โอนิชิคิดว่านิชิดะซึ่งเขาเคยชักชวน จะเป็นเซ็ตเตอร์หรือลิเบโรให้เล่นในระดับที่สูงขึ้นในอนาคต นิชิดะสูง 180 ซม. เมื่อเข้าโรงเรียนมัธยม มีความเป็นไปได้ที่เขาจะยังคงสูงขึ้น แต่เขาไม่สูงเท่านักสำหรับตัวตบหัวเสา Onishi ไม่คาดคิดว่าเขาจะเติบโตเป็นนักกีฬาที่โดดเด่นใน V-League หรือตัวรุกของทัวร์นาเมนต์ระดับนานาชาติอย่างที่เขาทำในตอนนี้ เป็นเรื่องที่น่าทึ่งและมหัศจรรย์ยิ่งนัก




U-19 และ U-14 ก่อตั้งขึ้นในญี่ปุ่น และ Nishida ตัดสินใจเข้าร่วมในกิจกรรมของสโมสรที่โรงเรียนมัธยม Kaisei และการฝึกซ้อมของทีม U-19 ผู้จัดการทั่วไปของ Viatain Mie คือ Satoshi Nakao ผู้ซึ่งร่วมกับ Onishi เป็นโค้ชให้กับ Nishida ในโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นที่ NFO Ocean Star

บางครั้งทีม U-19 ฝึกซ้อมร่วมกับสโมสรวอลเลย์บอลมหาวิทยาลัย Tenri แต่กล่าวกันว่า Nishida เล่นได้ดีพอๆ กับนักศึกษามหาวิทยาลัย

ในเดือนมิถุนายน เขาชนะการแข่งขันวอลเลย์บอลชายรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ของการแข่งขันวอลเลย์บอลและชนะการแข่งขันระดับชาติในเดือนกันยายน ในทัวร์นาเมนต์นั้น เขาได้รับรางวัล "รางวัลสหพันธ์วอลเลย์บอลเยาวชนแห่งประเทศญี่ปุ่น" ในฐานะผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม หลังการแข่งขัน เขาให้ความเห็นว่า

"วอลเลย์บอลไม่สามารถทำคะแนนคนเดียวได้ แต่ผมคิดว่าสิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือทุกคนสามารถแบ่งปันความสุขเมื่อพวกเขาทำคะแนนได้" นิชิดะกล่าว

“ผมไม่เคยเข้าร่วมการแข่งขัน All Japan High School Volleyball Championship เพราะผมไม่ได้เรียนในโรงเรียนที่เข้มแข็ง เหมือนโรงเรียนมัธยม Seijo”

ว่ากันว่าเดินทางจากบ้านหนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งเป็นระยะทาง 56 กม. เมื่อเดินทางไปโรงเรียน และเขาไปสถานีที่ใกล้ที่สุดด้วยจักรยานและไปจากสถานีหนึ่งไปยังอีกโรงเรียนหนึ่งโดยรถไฟ

มีอยู่ช่วงหนึ่ง เขาเล่าว่าเคยมีประสบการณ์การขี่จักรยานไปโรงเรียนโดยไม่ได้นั่งรถไฟมาก่อน และเขาสงสัยว่า

"ถ้าผมปั่นจักรยานทุกวันกล้ามจะขึ้นไหมนะ”

แม้ว่าเขาจะเล่นในการแข่งขัน Inter-High School Championships ในปี 2017 แต่เขาก็พลาดการเข้าร่วม Haruko ในเดือนมกราคม 2018 แต่ได้รับเลือกเข้าสู่ทีมชาติญี่ปุ่นของ Asian Youth Championship U-19
(ถึงแม้จะมีบทบาทไม่มากนัก เพราะรายการนี้เขาไม่ค่อยได้ลงตัวจริง)

“ผมรู้สึกเศร้าที่ไม่ได้ถูกเลือกในชุดเยาวชนไปแข่งในรายการชิงแชมป์โลก”

เขาเข้าร่วมในเกมอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในฐานะนักเรียนมัธยมปลายในเกม Sakai Blazers เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2018 และได้บันทึกอัตราการบุกที่พุ่งสูงขึ้นถึง 70%

วันรุ่งขึ้นเขาเข้าร่วมในรายชื่อผู้เล่นตัวจริงกับ JT Thunders และทำคะแนนได้ 26 คะแนนมากที่สุดในทีม

“ความฝันที่ผมเขียนในคอลเล็กชั่นรับปริญญามัธยมต้นของผมคือ "อยากกลายเป็นผู้เล่นที่ได้รับการคัดเลือกจากจังหวัด"

ความฝันสอง "ผมต้องการเล่นวอลเลย์บอลกับ Yuki Ishikawa"

หลังจากจบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยม Kaisei ในเดือนเมษายน 2018 เขาได้เข้าร่วม "JTEKT STINGS" วอลเลย์บอลชายในวีลีก ในฐานะผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลาย


เหตุผลที่เขาเลือก JTEKT STINGS เพราะพี่ชายของเขาทำงานที่นี้และพี่ชายก็ผลักดันให้น้องมาอยู่กับทีมนี้

ตอนนั้น นิชิดะรู้สึก "ไม่อยากเรียนมหาลัยแล้ว"

หลังจากนั้น เมื่ออายุได้ 18 ปี เขาได้ผ่านการคัดเลือกจำนวนมากในฐานะตัวแทนของญี่ปุ่นและได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกวอลเลย์บอลเวิลด์คัพครั้งนี้ด้วย





ปี 2017 ผู้ชนะการแข่งขัน All-Star Dream Match ของ All Japan Junior All-Star ครั้งที่ 14

ปี 2017 ติดชุดเยาวชน U19 ไปแข่งที่พม่า ญี่ปุ่นได้เหรีญทอง

ปี 2018 เขาติดทีมชาติญี่ปุ่นชุดใหญ่ได้มาแข่งรายการ VNL ครั้งแรก และโชว์ฟอร์มดีมากอย่างโดดเด่น สามารถเอาชนะทีมจากอิตาลี และเกือบเอาชนะทีมจากอเมริกาได้

ปี 2018 เขาได้ไปแข่งรายการชิงแชมป์โลกที่ประเทศอิตาลี -บัลแกเรีย น่าเสียดายที่แมตท์เปิดสนามเขาไม่ได้ลงเล่นเพราะอาการป่วย (เห็นว่าเป็นไข้) ญี่ปุ่นไม่ผ่านเข้ารอบ รอบตัดเชือกแพ้อาเจน (ชนะ) 3-2

“หลังจากปีแรกของทีมชาติ ประสบการณ์ในการแข่งขัน Nations League และ World Championships  เป็นผลดีต่อผมอย่างยิ่ง ในเวลาเดียวกันกับที่ผมคิดว่าไม่ผิดเลยที่ผมเดินไปตามเส้นทางสู่วอลเลย์บอล ผมเริ่มต้องการที่จะพัฒนาระดับของตัวเองในฐานะผู้เล่น ส่วนสูงของผม(186 ซม.) เป็นจุดเริ่มต้นที่ไม่ดีในระดับโลกของวอลเลย์บอลชาย เพื่อที่จะเล่นกับผู้เล่นชั้นนำของโลกอย่างจริงจังและแข่งขันในระดับนี้ คุณต้องมีสภาพแวดล้อมที่คุณสามารถมีสมาธิกับวอลเลย์บอลเพียงอย่างเดียว ผมรู้สึกแบบนั้น”




ปี 2018-2019 ในวีลีก เขาได้รับรางวัลผู้เล่นหน้าใหม่  Best Rookie of the Year Award

ปี 2019 ไปแข่งรายการชิงแชมป์เอเชียที่ประเทศอิหร่าน ญี่ปุ่นจบอันดับ 3 เหรียญ ทองแดง นิชิดะขึ้นอันดับ 1 เสริฟยอดเยี่ยม

ปี 2019 ในรายการ WC 2019 เขาโชว์ฟอร์มดีมาก มีส่วนพาทีมจบอันดับที่ 4 และในแมตท์สุดท้ายปิดทัวร์นาเม้นท์กับทีมแคนาดา เขาฟาดคนเดียวไป 7 แต้มรวด ยอดไอจีพุ่งทะลุ และจังหวะเสริฟเอส 6 แต้มรวด volleyballworld ตัดคลิปอัพโหลดในโซเชี่ยล ยอดวิว เกือบ 40 ล้านวิว ได้รางวัลหัวเสายอดเยี่ยมและเบสเสริฟ รับรางวัลเคียงคู่ ยูกิ อิชิกาว่า ไอดอลของเขา





และยังเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าดังของญี่ปุ่นด้วย




JTEKT ในฤดูกาล 2019-2020 ซึ่งเป็นปีที่สองของการเข้าร่วมทีมเขานำทีมไปสู่ชัยชนะครั้งแรกด้วยความสำเร็จในฐานะ MVP สร้างประวัติศาสตร์ครั้งแรก





ปี 2021 V League Japan Record Award ประเภทคะแนนสูงสุด เสริฟ

“ความฝันของผมคือ แชมป์วีลีก และติดโอลิมปิกเล่นในบ้านตัวเอง เป็นความฝันที่ยิ่งใหญ่ของนักกีฬาวอลเลย์บอลเลยครับ “


ปี 2021 เขามีรายชื่อติดโอลิมปิกเป็นครั้งแรก แต่ทีมญี่ปุ่นจบแค่รอบ 8 ทีม แพ้ทีมบราซิล 3-0

จบรายการ ชชอ เขาจะไปเล่นอิตาลีกับทีม Callipo Sport
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่