น้องกุมารทองบอก ว่า เหงา

กระทู้คำถาม
เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงๆ อาจจะไม่น่ากลัว อ่านแล้วงงๆบ้าง เจ้าของกระทู้ก็ขออภัย เพิ่งเคยเขียนลงพันทิปครั้งแรก พร้อมรับคำติชมนะคะ


        แล้วแต่ความเชื่อส่วนบุคคล ย้อนกลับไป เมื่อประมาน4-5 ปีก่อน เราคบกับผู้ชายคนนึง สมมติว่าชื่อ สอง เราพักอาศัยอยู่ที่หอแถวจรัญสนิทวงศ์ ซึ่งเป็นเรื่องบังเอิญที่เพื่อนของสองก็พักอยู่หอเดียวกับเราอยู่ห้องข้างกัน ก็เลยมีโอกาส นั่งดื่มสังสรรค์ ในวันนั้นมีประมาน 6-7 คน โดยเจ้าของห้องเป็นรุ่นน้องผู้ชายของสอง เราก็รู้จักสนิทในระดับนึง  
        เรื่องมันเกิดขึ้นน่าจะช่วง เลยเที่ยงคืนไปแล้ว อยู่ดีๆ เราก็ถาม น้องเจ้าของห้อง สมมติว่าชื่อ เอ ปกติ เอจะอาศัยอยู่กับแฟน แต่วันนั้นแฟนเอกลับบ้านที่ ตจว.  วันนั้นในขณะที่นั่งดื่มกันไปจนเวลาล่วงเลยไปพักใหญ่ๆ อยู่ๆ เราก็เอ่ยถามเอว่า  “ในห้องมีอะไรรึเปล่าเรารู้สึกอึดอัดแปลกๆ”  เรารู้สึกอยู่ไม่สุขไม่สบายตัว  ตอนแรกเอก็บอกไม่มีอะไร  ผ่านไปสักพัก จากที่นั่งล้อมวงดื่มกัน เราก็ลุกมานั่งท่าเทพธิดาเขยิบมาอยู่กลางวง แล้วก็งอแงเหมือนเด็กขอเปลี่ยนเพลง ไม่ชอบเพลงที่เปิดอยู่ อยากฟังเพลงเก่า เพลงลูกกรุง ลูกทุ่มเก่าๆ  เรารู้สึกตัวนะจำคำพูดที่พูดออกไปได้หมด แต่ไม่รุ้ทำไมถึงพูดหรือแสดงกิริยาท่าทางแบบนั้น ทุกคนในห้องก็คิดว่าเมา แต่คือเราคอแข็งมากอ่ะ บอกเลย เรื่องดื่มนี่ อันดับต้นของแก๊งค์
    ผ่านไปได้สักแปปนึง เราถามเอ ย้ำอีกว่า
“เอ็งเลี้ยงไรในห้องป้ะวะ น้องเค้าเหงาอ่ะ  หิวด้วย “
พอเราพูดจบ เอทำหน้างง ๆละเหมือนนึกขึ้นได้ก็หันไปมองที่หัวเตียง ซึ่งตอนแรกที่เข้ามา ทุกคนไม่สนใจข้าวของต่างๆในห้อง บนหัวเตียงมีตุ๊กตารูปปั้นเป็นเด็กผมจุกยืนเท้าเอวนุ่งโจงกระเบนตั้งอยู่ ใช่ค่ะน้องกุมารทอง เอเลยบอกว่า แฟนนางเลี้ยงกุมารทอง 2 องค์  (เราจำชื่อไม่ได้)  แต่แฟนเอาไปด้วย1 อีก1 ให้อยู่ห้อง ช่วยเฝ้าดูแลเอ  บีรยากาศต้อนนั้นคือ  ทั้งห้องเงียบ  ไม่มีใครพูดอะไร มีแต่เสียงเพลงลูกกรุงที่เราเลือกเปิดไว้ เราเลยพูดต่อประมานว่า  “ เค้าไม่ได้มาให้เห็น หรือมาบอกนะ แต่เราแค่รู้สึก แล้วก็พูดตามที่รู้สึก”   เอก็ยอมรับ ว่าไม่เคยไหว้ ไม่เคย เอาของเล่นให้เลย วันนั้นเรากับเอเลย ลงไปซื้อขนมหวานและน้ำแดงที่ร้านสะดวกซื้อ เอก็จัดการจุดธูป เอาขนมไหว้น้องกุมาร ทุกคนก็คิดว่าเรื่องน่าจะจบแล้ว เลยพยายามคลายบรรยากาศแล้ว นั่งดื่มกันต่อโดยนั่งดื่มไม่ถึงครึ่ง ชม . รุ่นน้องอีกคน ชื่อ มัช มัชเป็นคนแบบมีองค์ มีของ หนุมาน ถ้าจำไม่ผิด อยู่ๆนางของขึ้น มองเราตาขวางเลย  หายใจเหนื่อยหอบ แบบอดกลั้น แฟนมัชเลยหันมามองเรา สองก็เดินมาดูมัช มาช่วยจับตัวมัช แล้วอยู่ดีๆ เราก็เอามือไปดันหน้าผาก แล้วก็ทำหน้ากวนตีนใส่มัช คือตอนนั้นแบบ มองหน้าท้าทายมากปากยิ้มแบบกวนตีน แต่ตานี่มองจ้อง เหมือนเรากับมัชทะเลาะท้าทายกัน เรารู้ตัวนะว่าทำอะไร แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงทำแบบนั้น จนแฟนมัชเลยต้องพากลับบ้าน สองก็แยกพาเรากลับมาที่ห้อง  ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ โดยสองก็ขอตัวกลับบ้านบอกเราว่า รู้สึกไม่ค่อยดีแปลกๆ สองเองก็เป็นพวกบ้าของขลัง พระเครื่องนี่เต็มคอเลย คืนนั้นก็ผ่านไปแบบงงๆ กลัวตัวเองด้วย
       เรื่องผ่านมา ได้สักพัก นานกี่วันจำไม่ได้ บังเอิญเจอมัชที่ร้านเหล้า ตอนบังเอิญเจอกันคือมัช ยืนนิ่ง จ้องหน้าเราก่อน สักแปปนึง ละพูดว่า
“ไม่เอาแบบวันนั้นแล้วนะพี่ ผมเหนื่อย เกือบตาย”
เราก็ยังยืนยันกับน้องนะว่า ไม่รู้ทำไม  ถึงทำแบบนั้น คือรู้ตัว แต่หาเหตุผลไม่ได้ ทำไมถึงทำท่าทางแบบนั้น  เรื่องราวผ่านไป เราได้มีโอกาสไปเที่ยวทะเลกับสอง ขากลับมีแวะไหว้พระ จำชื่อวัดไม่ได้แล้ว แต่ที่วัดมีสังขารแม่ชีใส่โลงแก้วไว้ ตอนเข้าไปถึงบริเวณที่มีแม่ชีอยู่ เราก็รู้สึกว่าไม่ค่อยดีหายใจไม่ออก เวียนหัวแบบมึนๆ รับรู้ถึงแรงกดดันจะเป็นลม เลยขอไปนั่งรอในรถแทน ทั้งเราทั้งแฟนก็ไม่เข้าใจถึงอาการนี้ ทุกครั้งที่ไปวัดผ่านงานศพ ตำหนักหรือร่างทรงพิธีครอบครู บายศรีต่างๆ เราจะรู้สึกแย่ๆมากๆ ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวกับการที่เราเคยไปครอบครูรึเปล่า สมัยเรียนเราอยู่ชมรมดนตรีไทย ก็จะมีการจัดงานไหว้ครู ครอบเศียรพ่อแก่ต่างๆ ปัจจุบันนี้เราเลิกกับสองไปแล้ว อาการต่างๆ ก็มีแวะเวียนมาบ้าง แต่ก็ไม่ได้หนักเท่าสมัยก่อน
     เรื่องก็จบเพียงเท่านี้ ยังมีเหตุการณ์อื่นๆอีกประปราย ที่เคยสัมผัสแต่หาข้อพิสูจน์ไม่ได้ โดยส่วนตัวก็ไม่ได้งมงายแต่ไม่เคยลบหลู่ความเชื่อของใคร ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดสุดทายนะคะ มีโอกาสพบกันใหม่เรื่องหน้าค่ะ 🥰
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่