เรากับแฟนเช่าอพาร์ทเมนท์ ช่วยกันออกค่ามัดจำคนล่ะครึ่ง แต่ส่วนค่าใช้จ่ายค่าห้องค่าน้ำค่าไฟ เราเป็นคนจ่ายทุกเดือน เราเป็นคนที่ค่อนข้างประหยัด เซฟค่าใช้จ่ายให้มากที่สุด เพราะเราโดนผลกระทบโควิค เงินเดือนเราลดลง ค่าใช้จ่ายเรา 2คนแบ่งภาระหน้าที่กันไป จนมาเดือนนี้ น้องชายแฟนเรามาขออาศัยอยู่ด้วย เหตุผลเพราะทะเลาะกับแฟน จึงขอมาอาศัยอยู่ด้วย น้องชายแฟนเรา เจ้าชู้มาก คิดง่ายๆคือยังรักสนุกอยู่ จึงไม่ค่อยซีเรียสกับอนาคตเท่าไร น้องชายแฟนเรามาอาศัยอยู่ได้เกือบ 3อาทิตย์ ระหว่างที่น้องชายแฟนเราอยู่ เราก็มีซักผ้าให้น้องชายแฟนเรานะ เพราะน้องมันเอาเสื้อผ้ามาใส่ถังซักผ้าเพื่อรอเราซัก ของใช้ในบ้านจากที่เคยใช้ชนเดือนกับไม่ถึงเดือน ไฟในห้องเปิดทุกดวง แล้วความส่วนตัวของเราไม่มี เราเป็นผู้หญิง เราอยากมีความส่วนตัว จนเราไปพูดกับแฟนว่าน้องชายตัวเองจะอยู่ถึงเมื่อไหร่ เราต้องการความส่วนตัว และเซฟค่าไฟด้วย ตั้งแต่น้องมาอยู่เปิดไฟ 2ทุ่ม-เที่ยงคืน บางวันตี1 ซึ้งรายจ่ายของเราไราไม่ได้มีแค่ห้องอย่างเดียว ภาระเรามี ค่าแอร์ ค่าเครื่องซักผ้า ค่ารถ ที่เราต้องจ่าย แฟนเราไม่เข้าใจในสิ่งที่เราพูด พูดมาแค่ว่า เวลาคนลำบาก เราต้องช่วยเหลือ นี้น้องเค้า แฟนเราบอกว่าถ้าเราอึดอัดให้เราไปเปิดห้องใหม่ เราก็บอกว่านี้ก็ห้องเรา เราจ่าย ค่ามัดจำเราออก แต่เราต้องไปเปิดห้องใหม่เพื่อ? เราเลยไม่คุยกับแฟนเรา จนเวลาผ่านมาอีก 1วัน เราWFH ทำงานที่บ้าน เราทำงานของเราปกติ ทั้งวันนั้นเราก็ไม่คุยกัน จนมาตอนกลางคืนน้องชายแฟนเรากลับมาที่ห้อง มาคุยกับเราว่าจะอยู่ถึงสิ้นเดือนนะ เราก็บอกว่าโอเค น้องบอกว่า ตอนนี้กำลังคุยกับแฟนอยู่ว่า ขออยู่รวมกัน 3คนได้มั้ย คือจะเอากิ๊กไปอยู่ด้วย เราเลยพูดว่า ไม่มีผู้หญิงคนไหนรับได้หรอก แล้วเหมือนแฟนของเราอาจได้ยินและเข้าใจผิดคิดว่าเราไปคุยอะไรกับน้องชายเค้า ซึ่งเราไม่ได้คุยอะไรเลย โพสต์เฟสบุ๊คลงสตอรี่ ว่า ถ้ารับครอบครัวเค้าไม่ได้ ก็ไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ มีอะไรทำไมไม่คุย แต่ใช้คำพูด กูนะ แล้วทุบคอม แล้วก็เดินออกจากห้องไป ซึ่งเรางงมาก เราควรจะทำยังไงดี ขนาดแฟนเรายังไม่เคยเอาครอบครัวเราเลย เรายังไม่เคยพูด แต่ที่เราอยู่เพราะเราอยู่เพื่อลูก เราพูดได้เต็มปากครอบครัวเค้าเราให้เต็ม100 ซึ่งต่างจากเค้ามากที่ไม่เคยคิดถึงแม้กระทั่งครอบครัวเรา เราควรจะทำไงดี เราอึดอัดมาก