สวัสดีครับ วันนี้จะขอแบ่งปันประสบการณ์ การมองหาการเรียนต่อปริญญาโท สายบริหารธุรกิจครับ กระทู้นี้ขอเลือกหยิบสถาบันที่ผมเลือกว่าจะเรียนต่อมาเล่าให้ฟังนะครับ ก็คือที่วิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ College of Management Mahidol University (CMMU) นั่นเองครับ ที่ผมเริ่มสนใจที่นี่เหตุผลแรกเลย คือ มหาวิทยาลัยมหิดล อย่างที่รู้กันว่ามหาวิทยาลัยมหิดลเป็นสถาบันการศึกษาอันดับหนึ่งของประเทศไทยในหลาย ๆ ด้าน จากนั้นก็ลองเข้าไปหาข้อมูลต่าง ๆ ทั้งหลักสูตร วิธีการสอน อาจารย์ผู้สอน ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แล้วก็เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเขามีจัดงาน Open House พอดี แบบออนไลน์นะครับตามสถานการณ์ของช่วงนี้ ก็ฟังจากที่บ้านเลย ลืมบอกไปว่าผมอยากเรียนหลักสูตรไทยนะครับ ในงานมีให้ทดลองเรียนด้วย ผมก็ไปทดลองมาครับ พอได้ฟังข้อมูล ได้คุยได้ถามกับอาจารย์โดยตรงบวกกับข้อมูลที่หามาเองก่อนหน้านี้ สรุปได้เลยว่าที่นี่ตอบโจทย์ความต้องการเรียนต่อของผมมาก ๆ และล่าสุดผมเพิ่งอ่านเจอว่าอาจารย์ที่สอนที่นี่แต่ละท่านคือได้รับรางวัลระดับโลก เรียกว่าอยู่อันดับต้น ๆ ของประเทศไทยรวมอยู่ที่นี่ทั้งนั้น มั่นใจเลยว่าจะได้เรียนกับคนเก่งแน่นอน ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัด ๆ ในความคิดผม ก็คือ เหมือนได้เรียนเทควันโดกับน้องเทนนิส ที่ได้เหรียญทองโอลิมปิกเลยครับ ฮ่าๆๆ เห็นภาพชัดขึ้นมั้ยครับ
เอาละครับสำหรับการเรียน ป โท ที่ จขกท ต้องการคือเน้นการเรียนรู้แบบได้ลงมือทำจริง ไม่อยากเรียนแบบยุคเก่าที่เรียนแต่ในตำรา ท่องจำไปเฉยๆ แบบนั้นไม่เอาครับ ซึ่งจากการเข้าร่วมฟังกิจกรรม Open House ผมคิดว่าการเรียนที่นี่น่าจะตอบโจทย์ได้ดีเลย เพราะที่นี่เน้นวิธีการเรียนการสอนแบบ Practical Learning และจำนวนผู้เรียนต่อห้องไม่มากเกินไป ทำให้ทุกคนจะมีโอกาสมีส่วนร่วมในคลาส อาจารย์ก็น่าจะดูแลได้ทั่วถึง ทั้งนี้ จขกท ได้สรุปข้อดี และจุดเด่นของที่นี่ จากที่เข้าร่วมฟัง Open House และที่หาข้อมูลเองไว้คร่าว ๆ ประมาณนี้ เผื่อใครกำลังมองหาที่เรียนต่ออยู่เหมือนกันนะครับ
ประการแรก ดูจากเรื่องชื่อหลักสูตร ตอนแรกผมตั้งใจจะเรียนบริหารธุรกิจ แต่ที่นี่ใช้ชื่อปริญญาบัตรว่า การจัดการมหาบัณฑิต (Master of Management) ไม่ใช่บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต หรือ MBA ที่เราคุ้นหูกันครับ ก็เลยไปหาข้อมูลมาว่า MM กับ MBA ต่างกันอย่างไง? ได้คำตอบมาว่าถ้าเป็น MBA จะเน้นเรียนภาพกว้าง เรียนภาพรวมของการบริหาร แต่ MM หรือการจัดการ จะเน้นเรียนแบบเจาะลึกในสาขาวิชานั้น ๆ ไปเลยมากกว่า คือผมมองว่าคนที่เรียน ป.โท ส่วนใหญ่ก็ต้องการเติบโตในสายงานตัวเอง เพื่อเป็นผู้บริหาร หรือเป็นเจ้าของกิจการเอง ก็จะรู้อยู่แล้วว่าต้องการความรู้ด้านไหน ไม่จำเป็นต้องเรียนภาพกว้างเยอะ จขกท เองก็เลยเปลี่ยนความคิดเป็นเลือกเรียนการจัดการแทน เพราะตอบโจทย์ได้มากกว่าครับ
ผมแคปรูปจากงาน Open House มาประกอบด้วย เพราะดูแล้วเข้าใจง่ายดี ซึ่งรายวิชาพื้นฐาน (สีฟ้า) จะได้เรียนเหมือนกันในทุกสาขา เหมือนเรียนภาพกว้างครับ จากนั้นจึงเรียนวิชาเฉพาะของแต่ละสาขาซึ่งจะแตกต่างกันไปตามที่เลือกเรียนครับ โดยในรูปเป็นของสาขาภาวะผู้ประกอบการและนวัตกรรมครับ
ประการที่สองอันนี้เรื่องสำคัญครับ ได้ศึกษาและเปรียบเทียบค่าเทอมและค่าใช้จ่ายของการเรียนทั้งหมด จขกท เข้าไปดูที่เว็บไซต์ของ CMMU พบว่าค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตรไทยประมาณ 3 แสนบาท เมื่อคำนวณเฉลี่ยเป็นเทอมแล้ว จะประมาณเทอมละ 6 หมื่นบาท ซึ่ง จขกท บอกเลยว่าไม่แตกต่างกับที่อื่นเท่าไหร่ และคิดว่าเป็นราคาที่ไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับสิ่งที่จะได้รับกลับมา แล้วผมก็ได้ถามกับเจ้าหน้าที่มา พี่เขาบอกว่าสามารถจ่ายด้วยเครดิตการ์ดก็ได้นะครับ
อีกอย่างคือ จขกท มองว่าการลงทุนในการศึกษาต่อ เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า และควรค่าแก่การลงทุนมาก เพราะจะได้เพิ่มความรู้ความสามารถ พัฒนาทักษะด้านต่างๆ เป็นการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้ตัวเองด้วย อีกทั้งเรื่องของการที่จะได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงของอาจารย์ หรือวิทยากรผู้เชี่ยวชาญที่ประสบความสำเร็จในโลกธุรกิจ ซึ่งผมคิดว่าถ้าไม่ลงเรียนก็คงหาจากที่ไหนไม่ได้ แล้วยังได้รู้จักเพื่อน รวมถึงรุ่นพี่ที่เป็นศิษย์เก่า ซึ่งมีหลากหลายวงการธุรกิจมาก ที่นี่ยังมีการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างสัมพันธ์ระหว่างกันอยู่เสมออีกด้วย เชื่อว่าเรื่อง connection ที่จะได้รับจากที่นี่ต้องดีมากแน่นอน
ประการที่สาม เริ่มเปรียบเทียบ ข้อดีและข้อเสียของที่นี่ กับที่อื่น ที่ตั้งของ CMMU อยู่ตรงถนนวิภาวดี-ดินแดง ใกล้อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ใกล้สยาม ใกล้ลาดพร้าว ใกล้พระราม9อีกด้วย คืออยู่ใจกลางเมืองเลย ทำให้สะดวกต่อการเดินทาง ถ้ามาทางรถยนต์ส่วนตัว คือลงทางด่วนดินแดงก็ถึงเลย ที่ตึกมีที่จอดรถให้ฟรีด้วย หรือถ้าเป็นรถไฟฟ้า ก็มีรถตู้รับส่งฟรีจากสถานีสนามเป้าด้วยนะครับ ที่สำคัญอีกอย่างคือเรื่องเวลาเรียน คนที่ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยไม่ต้องกังวลเลยครับ ที่นี่จัดการเรียนการสอนในช่วงเย็นของวันธรรมดา และวันเสาร์-อาทิตย์ โดยจะเรียนแค่ 3 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น ไม่ต้องกลัวว่าจะเหนื่อยเกินไป หรือจะไม่มีเวลาพักเลยครับ และใช้เวลาเรียนทั้งหมดแค่ 18 เดือนเอง
ประการที่สี่ มีเครือข่ายศิษย์เก่าที่เข้มแข็ง ที่ประกอบธุรกิจที่หลากหลายทั้งภาครัฐ และเอกชนในหลายสาขาอาชีพ ที่ผมถามมาก็มีทั้งหมอ ดารา นักกีฬาก็มีนะครับ ผมคิดว่าเรื่องนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสการต่อยอดในสายอาชีพ ในหน้าที่การงาน หรือในการทำธุรกิจของตัวเองในอนาคตได้อย่างแน่นอน ผมได้ฟังสัมภาษณ์จากศิษย์เก่าคนหนึ่ง เล่าไว้ว่าเริ่มทำธุรกิจตั้งแต่ยังเรียนอยู่ที่ CMMU โดยมีอาจารย์เป็นที่ปรึกษาให้ จนปัจจุบันธุรกิจก็เติบโตอย่างดี และก็ยังสามารถขอคำปรึกษาจากอาจารย์ได้อยู่เสมออีกด้วย
นอกจากหลักสูตรไทยแล้ว CMMU ยังมีหลักสูตรนานาชาติอีกด้วยนะครับ ซึ่งก็จะมีนักศึกษาต่างชาติจากหลากหลายประเทศเลยที่มาเรียน อาจารย์ชาวต่างชาตินี่คือมีประสบการณ์การสอนที่สถาบันดัง ๆระดับโลกมาแล้วทั้งนั้น และเหมือนจะมีหลักสูตร 2 ปริญญาด้วยนะครับ ที่เรียนครั้งเดียวรับ 2 ปริญญาเลย แต่ จขกท อยากเรียนหลักสูตรไทยเลยไม่ได้ดูรายละเอียดมาเยอะนะครับ ถ้าใครสนใจก็ไปดูในเพจ CMMU Mahidol ได้ครับ หรือที่หน้าเว็ปไซต์ก็ได้
ในกิจกรรม Open House หลักสูตรไทยมีการแนะนำจุดเด่นของแต่ละสาขาวิชา ทั้ง 8 สาขา เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจสำหรับผู้ที่สนใจเรียนต่อปริญญาโท ทางด้านการจัดการ ผมสรุปมาให้คร่าว ๆตามนี้
1.สาขาการตลาด การสร้างกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ เสริมทักษะในการคิดและวิเคราะห์ลูกค้า การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ การทำตลาดค้าปลีก การทำการตลาดดิจิทัล การแสวงหาช่องทางการตลาดใหม่ ๆ การสร้างแบรนด์ การสื่อสารที่เข้าถึงตลาดและผู้บริโภค ผู้เรียนได้ทดลองปฏิบัติจริงผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อให้สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง
2.สาขาการเงิน เป็นสาขาที่เกี่ยวข้องกับการนำทฤษฎีทางการเงินไปประยุกต์ใช้งานทางธุรกิจในด้านต่าง ๆ เช่น การบริหารทางการเงิน การลงทุนและการบริหารความเสี่ยง การวิเคราะห์หลักทรัพย์ เป็นต้น หลักสูตรเน้นการนำทฤษฎี ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงระดับสูงมาประยุกต์ใช้งานจริง โดยการใช้แบบจำลองทางการเงิน (Financial Models) และซอฟต์แวร์ทางการเงิน
3.สาขาทุนมนุษย์และการจัดการองค์กร ที่นี่ให้ความสำคัญกับคนว่า เป็นหุ้นส่วนทางกลยุทธ์ และหุ้นส่วนของความสำเร็จ อันนำไปสู่การจัดการองค์การที่จะประสบผลสำเร็จ จึงจัดการเรียนการสอนโดยเน้นว่ามนุษย์เป็นทุนหรือสินทรัพย์อย่างหนึ่งที่มีคุณค่า ต้องพัฒนาและต่อยอดองค์ความรู้ต่าง ๆ ตลอดจนวิธีการรักษาคนดี คนเก่งให้อยู่ในองค์กร เน้นให้ผู้เรียนเป็นเลิศด้านการบริหารจัดการ และเป็นตัวจริงในการบริหารงานภายในองค์กร
4.สาขาการจัดการและกลยุทธ์ เน้นพัฒนาทักษะการบริหารเชิงกลยุทธ์โดยตรง จะเหมาะกับคนที่ต้องการเติบโตและขึ้นมาเป็นผู้บริหารองค์กร คนที่ต้องการทำงานสายที่ปรึกษา consult สาย Business Development หรือสาย Business Analytics และคนที่ต้องการจะพัฒนาต่อยอดธุรกิจที่มีให้เติบโต เช่น ขยายสาขา หรือ ส่งออก
5.สาขาการจัดการธุรกิจอาหาร เน้นสร้าง Foodpreneur ที่เข้าใจทั้งศาสตร์วิทยาการอาหาร และศิลป์ในการจัดการธุรกิจอาหารสมัยใหม่ โครงสร้างหลักสูตรยังเจาะลึกในด้าน การวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารให้มีความครีเอทีฟ ต่างจากสินค้าเดิมที่เคยมีอยู่ในตลาด การควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร การออกแบบโภชนาการตอบโจทย์ตลาดเฉพาะกลุ่ม การบริหารธุรกิจร้านอาหารอย่างมืออาชีพ เข้าใจกระบวนการจัดการทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน การจัดการสต็อก รวมถึงกฎหมายนำเข้าส่งออกและข้อบังคับอาหารระดับชาติและนานาชาติ
6.สาขาภาวะผู้ประกอบการและนวัตกรรม เหมาะสำหรับผู้ที่ที่ต้องการสร้างกิจการใหม่และอยากสืบทอดกิจการเก่าด้วยมุมมองใหม่ องค์ความรู้ในสาขาถูกออกแบบมาสำหรับผู้ที่เชื่อว่า การสร้างโอกาสใหม่ ๆ ด้วยนวัตกรรมควบคู่กับการบริหารธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพนั้นคือ ความสำคัญของการเป็นผู้ประกอบการในยุคปัจจุบัน ผู้เรียนจะได้ฝึกการใช้ความคิดอย่างสร้างสรรค์ สร้างนวัตกรรม และนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้
7.สาขาการจัดการธุรกิจสุขภาพ ที่แรกและที่เดียวของประเทศไทย ที่ผสมผสานองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ ซึ่งเป็นจุดแข็งของมหาวิทยาลัยมหิดล และองค์ความรู้ด้านการบริหารธุรกิจในยุคดิจิทัล ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ 3 องค์ประกอบสำคัญในการประกอบธุรกิจสุขภาพ ทั้ง “ความรู้เฉพาะด้านการจัดการธุรกิจ” เช่น การจัดการการเงิน การตลาด “ความรู้เชิงลึกด้านการจัดการธุรกิจสุขภาพ” ไม่ว่าจะเป็นการบริหาร Logistic และ Supply Chain เช่น ยา เวชภัณฑ์ อุปกรณ์การแพทย์ ที่มีความซับซ้อนและละเอียดอ่อนสูง การวิจัยสินค้าและบริการสุขภาพใหม่ๆ และ “การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล” ใช้ประโยชน์จาก AI Big Data Analytics เพื่อพัฒนารูปแบบของธุรกิจให้มีความแตกต่าง
8.สาขาการจัดการธุรกิจ ผู้เรียนจะได้พัฒนาองค์ความรู้ และทักษะที่สำคัญของผู้ประกอบการในทุกมิติ ทั้ง soft and hard skills การมีวิสัยทัศน์ และสร้างกลยุทธ์อย่างยั่งยืน เข้าใจงานบริหารในทุกมิติ รวมไปถึงปัจจัยที่จะนำไปสู่ความสำเร็จอื่นๆ เช่น การทำงานเป็นทีม การเจรจาต่อรอง เป็นต้น ผ่านการเรียนการสอน และการลงมือปฏิบัติจริง สำหรับผู้ที่พร้อมเปิดโลกทัศน์จากคนธรรมดา กลายเป็นผู้นำองค์กร/ผู้บริหารที่มีความสามารถที่ “แตกต่าง โดดเด่น และ เก่งรอบด้าน”
และจากที่เล่าไปตอนต้นว่าผมเข้าไปร่วมทดลองเรียนด้วย เป็นวิชา Design Thinking อยากบอกว่าการสอนของอาจารย์สนุกมาก ไม่น่าเบื่อเลย อธิบายแบบเข้าใจง่าย และเนื้อหาก็สามารถเอาไปปรับใช้ได้จริงด้วย โดยผมค้นพบว่าการเรียนออนไลน์จริง ๆ ไม่ได้แตกต่างกับการเรียนในห้องเรียนเท่าไหร่นัก ทั้งด้านการมีปฏิสัมพันธ์กับอาจารย์ และเพื่อนร่วมคลาส รวมไปถึงการถามตอบข้อสงสัย และไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็เรียนได้ครับ
หลังจากที่ จขกท ได้เปรียบเทียบข้อมูลหลายๆที่ ก็ตัดสินใจที่จะสมัครเรียนที่ CMMU รอบนี้เลยครับ บางคนถามว่าช่วงโควิดทำไมยังอยากลงเรียน ผมมองว่าเป็นโอกาสดีที่ผมจะใช้เวลาว่างช่วง WFH มาพัฒนาศักยภาพตัวเอง เพิ่มทักษะที่จำเป็นในการทำงาน หาโอกาสใหม่ๆให้ตัวเอง เพื่อที่เมื่อกลับสู่สถานการณ์ปกติจะสามารถแข่งขันกับคนอื่นได้ เชื่อว่าเมื่อถึงตอนนั้นการแข่งขันในโลกธุรกิจต้องเข้มข้นมากแน่นอนครับ การเตรียมพร้อมไว้ก่อนจึงเป็นสิ่งที่ผมเลือกครับ
สุดท้ายก่อนจบหากเพื่อนๆ มีคำถามอะไรถามได้ครับ เผื่อตกหล่นตรงไหนไปครับ
เรียนต่อป.โทบริหารที่ไหนดี?
เอาละครับสำหรับการเรียน ป โท ที่ จขกท ต้องการคือเน้นการเรียนรู้แบบได้ลงมือทำจริง ไม่อยากเรียนแบบยุคเก่าที่เรียนแต่ในตำรา ท่องจำไปเฉยๆ แบบนั้นไม่เอาครับ ซึ่งจากการเข้าร่วมฟังกิจกรรม Open House ผมคิดว่าการเรียนที่นี่น่าจะตอบโจทย์ได้ดีเลย เพราะที่นี่เน้นวิธีการเรียนการสอนแบบ Practical Learning และจำนวนผู้เรียนต่อห้องไม่มากเกินไป ทำให้ทุกคนจะมีโอกาสมีส่วนร่วมในคลาส อาจารย์ก็น่าจะดูแลได้ทั่วถึง ทั้งนี้ จขกท ได้สรุปข้อดี และจุดเด่นของที่นี่ จากที่เข้าร่วมฟัง Open House และที่หาข้อมูลเองไว้คร่าว ๆ ประมาณนี้ เผื่อใครกำลังมองหาที่เรียนต่ออยู่เหมือนกันนะครับ
ประการแรก ดูจากเรื่องชื่อหลักสูตร ตอนแรกผมตั้งใจจะเรียนบริหารธุรกิจ แต่ที่นี่ใช้ชื่อปริญญาบัตรว่า การจัดการมหาบัณฑิต (Master of Management) ไม่ใช่บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต หรือ MBA ที่เราคุ้นหูกันครับ ก็เลยไปหาข้อมูลมาว่า MM กับ MBA ต่างกันอย่างไง? ได้คำตอบมาว่าถ้าเป็น MBA จะเน้นเรียนภาพกว้าง เรียนภาพรวมของการบริหาร แต่ MM หรือการจัดการ จะเน้นเรียนแบบเจาะลึกในสาขาวิชานั้น ๆ ไปเลยมากกว่า คือผมมองว่าคนที่เรียน ป.โท ส่วนใหญ่ก็ต้องการเติบโตในสายงานตัวเอง เพื่อเป็นผู้บริหาร หรือเป็นเจ้าของกิจการเอง ก็จะรู้อยู่แล้วว่าต้องการความรู้ด้านไหน ไม่จำเป็นต้องเรียนภาพกว้างเยอะ จขกท เองก็เลยเปลี่ยนความคิดเป็นเลือกเรียนการจัดการแทน เพราะตอบโจทย์ได้มากกว่าครับ
ผมแคปรูปจากงาน Open House มาประกอบด้วย เพราะดูแล้วเข้าใจง่ายดี ซึ่งรายวิชาพื้นฐาน (สีฟ้า) จะได้เรียนเหมือนกันในทุกสาขา เหมือนเรียนภาพกว้างครับ จากนั้นจึงเรียนวิชาเฉพาะของแต่ละสาขาซึ่งจะแตกต่างกันไปตามที่เลือกเรียนครับ โดยในรูปเป็นของสาขาภาวะผู้ประกอบการและนวัตกรรมครับ
ประการที่สองอันนี้เรื่องสำคัญครับ ได้ศึกษาและเปรียบเทียบค่าเทอมและค่าใช้จ่ายของการเรียนทั้งหมด จขกท เข้าไปดูที่เว็บไซต์ของ CMMU พบว่าค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตรไทยประมาณ 3 แสนบาท เมื่อคำนวณเฉลี่ยเป็นเทอมแล้ว จะประมาณเทอมละ 6 หมื่นบาท ซึ่ง จขกท บอกเลยว่าไม่แตกต่างกับที่อื่นเท่าไหร่ และคิดว่าเป็นราคาที่ไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับสิ่งที่จะได้รับกลับมา แล้วผมก็ได้ถามกับเจ้าหน้าที่มา พี่เขาบอกว่าสามารถจ่ายด้วยเครดิตการ์ดก็ได้นะครับ
อีกอย่างคือ จขกท มองว่าการลงทุนในการศึกษาต่อ เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า และควรค่าแก่การลงทุนมาก เพราะจะได้เพิ่มความรู้ความสามารถ พัฒนาทักษะด้านต่างๆ เป็นการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้ตัวเองด้วย อีกทั้งเรื่องของการที่จะได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงของอาจารย์ หรือวิทยากรผู้เชี่ยวชาญที่ประสบความสำเร็จในโลกธุรกิจ ซึ่งผมคิดว่าถ้าไม่ลงเรียนก็คงหาจากที่ไหนไม่ได้ แล้วยังได้รู้จักเพื่อน รวมถึงรุ่นพี่ที่เป็นศิษย์เก่า ซึ่งมีหลากหลายวงการธุรกิจมาก ที่นี่ยังมีการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างสัมพันธ์ระหว่างกันอยู่เสมออีกด้วย เชื่อว่าเรื่อง connection ที่จะได้รับจากที่นี่ต้องดีมากแน่นอน
ประการที่สาม เริ่มเปรียบเทียบ ข้อดีและข้อเสียของที่นี่ กับที่อื่น ที่ตั้งของ CMMU อยู่ตรงถนนวิภาวดี-ดินแดง ใกล้อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ใกล้สยาม ใกล้ลาดพร้าว ใกล้พระราม9อีกด้วย คืออยู่ใจกลางเมืองเลย ทำให้สะดวกต่อการเดินทาง ถ้ามาทางรถยนต์ส่วนตัว คือลงทางด่วนดินแดงก็ถึงเลย ที่ตึกมีที่จอดรถให้ฟรีด้วย หรือถ้าเป็นรถไฟฟ้า ก็มีรถตู้รับส่งฟรีจากสถานีสนามเป้าด้วยนะครับ ที่สำคัญอีกอย่างคือเรื่องเวลาเรียน คนที่ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยไม่ต้องกังวลเลยครับ ที่นี่จัดการเรียนการสอนในช่วงเย็นของวันธรรมดา และวันเสาร์-อาทิตย์ โดยจะเรียนแค่ 3 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น ไม่ต้องกลัวว่าจะเหนื่อยเกินไป หรือจะไม่มีเวลาพักเลยครับ และใช้เวลาเรียนทั้งหมดแค่ 18 เดือนเอง
ประการที่สี่ มีเครือข่ายศิษย์เก่าที่เข้มแข็ง ที่ประกอบธุรกิจที่หลากหลายทั้งภาครัฐ และเอกชนในหลายสาขาอาชีพ ที่ผมถามมาก็มีทั้งหมอ ดารา นักกีฬาก็มีนะครับ ผมคิดว่าเรื่องนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสการต่อยอดในสายอาชีพ ในหน้าที่การงาน หรือในการทำธุรกิจของตัวเองในอนาคตได้อย่างแน่นอน ผมได้ฟังสัมภาษณ์จากศิษย์เก่าคนหนึ่ง เล่าไว้ว่าเริ่มทำธุรกิจตั้งแต่ยังเรียนอยู่ที่ CMMU โดยมีอาจารย์เป็นที่ปรึกษาให้ จนปัจจุบันธุรกิจก็เติบโตอย่างดี และก็ยังสามารถขอคำปรึกษาจากอาจารย์ได้อยู่เสมออีกด้วย
นอกจากหลักสูตรไทยแล้ว CMMU ยังมีหลักสูตรนานาชาติอีกด้วยนะครับ ซึ่งก็จะมีนักศึกษาต่างชาติจากหลากหลายประเทศเลยที่มาเรียน อาจารย์ชาวต่างชาตินี่คือมีประสบการณ์การสอนที่สถาบันดัง ๆระดับโลกมาแล้วทั้งนั้น และเหมือนจะมีหลักสูตร 2 ปริญญาด้วยนะครับ ที่เรียนครั้งเดียวรับ 2 ปริญญาเลย แต่ จขกท อยากเรียนหลักสูตรไทยเลยไม่ได้ดูรายละเอียดมาเยอะนะครับ ถ้าใครสนใจก็ไปดูในเพจ CMMU Mahidol ได้ครับ หรือที่หน้าเว็ปไซต์ก็ได้
ในกิจกรรม Open House หลักสูตรไทยมีการแนะนำจุดเด่นของแต่ละสาขาวิชา ทั้ง 8 สาขา เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจสำหรับผู้ที่สนใจเรียนต่อปริญญาโท ทางด้านการจัดการ ผมสรุปมาให้คร่าว ๆตามนี้
1.สาขาการตลาด การสร้างกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ เสริมทักษะในการคิดและวิเคราะห์ลูกค้า การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ การทำตลาดค้าปลีก การทำการตลาดดิจิทัล การแสวงหาช่องทางการตลาดใหม่ ๆ การสร้างแบรนด์ การสื่อสารที่เข้าถึงตลาดและผู้บริโภค ผู้เรียนได้ทดลองปฏิบัติจริงผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อให้สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง
2.สาขาการเงิน เป็นสาขาที่เกี่ยวข้องกับการนำทฤษฎีทางการเงินไปประยุกต์ใช้งานทางธุรกิจในด้านต่าง ๆ เช่น การบริหารทางการเงิน การลงทุนและการบริหารความเสี่ยง การวิเคราะห์หลักทรัพย์ เป็นต้น หลักสูตรเน้นการนำทฤษฎี ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงระดับสูงมาประยุกต์ใช้งานจริง โดยการใช้แบบจำลองทางการเงิน (Financial Models) และซอฟต์แวร์ทางการเงิน
3.สาขาทุนมนุษย์และการจัดการองค์กร ที่นี่ให้ความสำคัญกับคนว่า เป็นหุ้นส่วนทางกลยุทธ์ และหุ้นส่วนของความสำเร็จ อันนำไปสู่การจัดการองค์การที่จะประสบผลสำเร็จ จึงจัดการเรียนการสอนโดยเน้นว่ามนุษย์เป็นทุนหรือสินทรัพย์อย่างหนึ่งที่มีคุณค่า ต้องพัฒนาและต่อยอดองค์ความรู้ต่าง ๆ ตลอดจนวิธีการรักษาคนดี คนเก่งให้อยู่ในองค์กร เน้นให้ผู้เรียนเป็นเลิศด้านการบริหารจัดการ และเป็นตัวจริงในการบริหารงานภายในองค์กร
4.สาขาการจัดการและกลยุทธ์ เน้นพัฒนาทักษะการบริหารเชิงกลยุทธ์โดยตรง จะเหมาะกับคนที่ต้องการเติบโตและขึ้นมาเป็นผู้บริหารองค์กร คนที่ต้องการทำงานสายที่ปรึกษา consult สาย Business Development หรือสาย Business Analytics และคนที่ต้องการจะพัฒนาต่อยอดธุรกิจที่มีให้เติบโต เช่น ขยายสาขา หรือ ส่งออก
5.สาขาการจัดการธุรกิจอาหาร เน้นสร้าง Foodpreneur ที่เข้าใจทั้งศาสตร์วิทยาการอาหาร และศิลป์ในการจัดการธุรกิจอาหารสมัยใหม่ โครงสร้างหลักสูตรยังเจาะลึกในด้าน การวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารให้มีความครีเอทีฟ ต่างจากสินค้าเดิมที่เคยมีอยู่ในตลาด การควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร การออกแบบโภชนาการตอบโจทย์ตลาดเฉพาะกลุ่ม การบริหารธุรกิจร้านอาหารอย่างมืออาชีพ เข้าใจกระบวนการจัดการทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน การจัดการสต็อก รวมถึงกฎหมายนำเข้าส่งออกและข้อบังคับอาหารระดับชาติและนานาชาติ
6.สาขาภาวะผู้ประกอบการและนวัตกรรม เหมาะสำหรับผู้ที่ที่ต้องการสร้างกิจการใหม่และอยากสืบทอดกิจการเก่าด้วยมุมมองใหม่ องค์ความรู้ในสาขาถูกออกแบบมาสำหรับผู้ที่เชื่อว่า การสร้างโอกาสใหม่ ๆ ด้วยนวัตกรรมควบคู่กับการบริหารธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพนั้นคือ ความสำคัญของการเป็นผู้ประกอบการในยุคปัจจุบัน ผู้เรียนจะได้ฝึกการใช้ความคิดอย่างสร้างสรรค์ สร้างนวัตกรรม และนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้
7.สาขาการจัดการธุรกิจสุขภาพ ที่แรกและที่เดียวของประเทศไทย ที่ผสมผสานองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ ซึ่งเป็นจุดแข็งของมหาวิทยาลัยมหิดล และองค์ความรู้ด้านการบริหารธุรกิจในยุคดิจิทัล ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ 3 องค์ประกอบสำคัญในการประกอบธุรกิจสุขภาพ ทั้ง “ความรู้เฉพาะด้านการจัดการธุรกิจ” เช่น การจัดการการเงิน การตลาด “ความรู้เชิงลึกด้านการจัดการธุรกิจสุขภาพ” ไม่ว่าจะเป็นการบริหาร Logistic และ Supply Chain เช่น ยา เวชภัณฑ์ อุปกรณ์การแพทย์ ที่มีความซับซ้อนและละเอียดอ่อนสูง การวิจัยสินค้าและบริการสุขภาพใหม่ๆ และ “การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล” ใช้ประโยชน์จาก AI Big Data Analytics เพื่อพัฒนารูปแบบของธุรกิจให้มีความแตกต่าง
8.สาขาการจัดการธุรกิจ ผู้เรียนจะได้พัฒนาองค์ความรู้ และทักษะที่สำคัญของผู้ประกอบการในทุกมิติ ทั้ง soft and hard skills การมีวิสัยทัศน์ และสร้างกลยุทธ์อย่างยั่งยืน เข้าใจงานบริหารในทุกมิติ รวมไปถึงปัจจัยที่จะนำไปสู่ความสำเร็จอื่นๆ เช่น การทำงานเป็นทีม การเจรจาต่อรอง เป็นต้น ผ่านการเรียนการสอน และการลงมือปฏิบัติจริง สำหรับผู้ที่พร้อมเปิดโลกทัศน์จากคนธรรมดา กลายเป็นผู้นำองค์กร/ผู้บริหารที่มีความสามารถที่ “แตกต่าง โดดเด่น และ เก่งรอบด้าน”
และจากที่เล่าไปตอนต้นว่าผมเข้าไปร่วมทดลองเรียนด้วย เป็นวิชา Design Thinking อยากบอกว่าการสอนของอาจารย์สนุกมาก ไม่น่าเบื่อเลย อธิบายแบบเข้าใจง่าย และเนื้อหาก็สามารถเอาไปปรับใช้ได้จริงด้วย โดยผมค้นพบว่าการเรียนออนไลน์จริง ๆ ไม่ได้แตกต่างกับการเรียนในห้องเรียนเท่าไหร่นัก ทั้งด้านการมีปฏิสัมพันธ์กับอาจารย์ และเพื่อนร่วมคลาส รวมไปถึงการถามตอบข้อสงสัย และไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็เรียนได้ครับ
หลังจากที่ จขกท ได้เปรียบเทียบข้อมูลหลายๆที่ ก็ตัดสินใจที่จะสมัครเรียนที่ CMMU รอบนี้เลยครับ บางคนถามว่าช่วงโควิดทำไมยังอยากลงเรียน ผมมองว่าเป็นโอกาสดีที่ผมจะใช้เวลาว่างช่วง WFH มาพัฒนาศักยภาพตัวเอง เพิ่มทักษะที่จำเป็นในการทำงาน หาโอกาสใหม่ๆให้ตัวเอง เพื่อที่เมื่อกลับสู่สถานการณ์ปกติจะสามารถแข่งขันกับคนอื่นได้ เชื่อว่าเมื่อถึงตอนนั้นการแข่งขันในโลกธุรกิจต้องเข้มข้นมากแน่นอนครับ การเตรียมพร้อมไว้ก่อนจึงเป็นสิ่งที่ผมเลือกครับ
สุดท้ายก่อนจบหากเพื่อนๆ มีคำถามอะไรถามได้ครับ เผื่อตกหล่นตรงไหนไปครับ