สวัสดีค่ะเพื่อนๆทุกคน ก่อนอื่นเราขอแนะนำตัวแบบคร่าวๆละกันเนาะ ตอนนี้เราอายุ 21 ปี จะว่ายังเป็นวัยรุ่นอยู่ก็ได้เพราะอายุก็เพิ่งจะ 21 เราเป็นวัยรุ่นคนหนึ่งที่จะว่าใจแตกก็ว่าได้เพราะเราเจอปัญหาเรื่องครอบครัวแตกแยกตั้งแต่เกิดเลยก็ว่าได้(ไม่ใช่ว่าทุกคนที่ครอบครัวแตกแยกแล้วจะเป็นแบบเรานะคะอันนี้เรายกตัวอย่างว่าเราเป็นแบบนี้) แม่เราเป็นคนอีสานคะ ส่วนพ่อแท้ๆ รู้ข้อมูลแค่ว่าเป็นคน สปป.ลาว เพราะว่าแม่กับพ่อเลิกกันกันตั้งแต่เรายังอยู่ในท้อง แม่อุ้มท้องเรามาเกิดที่ลำปาง(ก็ไม่รู้ว่ามาโพล่ที่นี้ได้ไง555) สาเหตุที่พ่อกับแม่แยกทางกันเพราะแม่เราติดเล่นการพนันหนัก(มารู้ตอนโตเพราะยายเล่าให้ฟัง) หลังจากที่เราเกิดได้ประมาน 2 เดือน แม่เราก็เจอกับพ่อน้าของเราเป็นคนลำปาง แม่กับพ่อน้าเลยสร้างบ้านใหม่อยู่กันที่ลำปาง พ่อน้าเราเป็นคนใจดีมาก ไม่เคยตี แต่จะดุบ้างถ้าเราทำผิด พ่อน้าของเรามีอาชีพที่ต้องเดินทางต่างจังหวัดบ่อยๆ แม่ของเราก็ต้องไปด้วยเพราะเดินทางไกล เราก็เลยอยู่กับพี่ชาย2 คน (ลืมบอกเรามีพี่ชาย1คน) พี่ชายชอบพาเราไปร้านเกมส์สมัยนั้นยังเป็นเกมส์จอยอยู่เลย หลังเลิกเรียนทุกๆวันเรา 2 คนจะอยู่แต่ร้านเกมส์ ใช้ชีวิตแบบนี้จนอายุเราได้ 14 ปี อยู่ๆวันหนึ่ง พ่อน้ากับแม่ทะเลาะกันหนักแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน สาเหตุเพราะแม่เราเอาเงินที่ขายรถไปเล่นพนันจนหมด วันนั้นพ่อน้ากับแม่เราก็เลิกกัน ต่างคนต่างไปเลยทีนี้ แม่เราก็หายออกจากบ้านไม่รู้ว่าเสียใจหรืออะไร พ่อน้าก็กลับไปอยู่บ้านปู่กับย่า ตอนนั้นเรารู้สึก งง ไปหมดกับเหตุการณ์ที่เกิดเพราะมันไวมาก ตอนนั้นเราเพิ่งจะเรียนอยู่ ม.2 แม่ขาดการติดต่อหายเงียบ ส่วนพี่ชายเราตอนนั้นเรียนอยู่ ปวช. พักอยู่ในตัวเมืองไม่ค่อยได้กลับบ้าน เราเลยต้องอยู่บ้านคนเดียว ตอนนั้นคือไม่มีเงินไปโรงเรียนไม่มีเงินกินข้าว เราเลยไปทำงานที่ร้านอาหาร(คาราโอเกะ)นั้นแหละคือจุดเปลื่ยนของชีวิตเราเลย เราทำงานกลางคืนเป็นเด็กเสริฟอาหาร เข้างาน 6 โมงเย็น จนถึง เที่ยงคืน ได้วันละ 100 บาท ก็พอที่จะเลี้ยงตัวเองได้ ก็ทำงานที่นั้นเรื่อยมา จนจะจบ ม.3 วันหนึ่งมี ลูกค้า ผช. อายุตอนนั้น 34 ปี มานั่งกินที่ร้าน ผช.คนนั้นก็ประมาณว่าจีบเรา ตอนนั้นเราก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะเขาอายุห่างเราหลายปี จากนั้น ผช.คนนี้ก็มาที่ร้านทุกวันๆ จนวันหนึ่งเราก็เลยใจอ่อนเด็กด้วยไงตอนนั้น เลยตัดสินใจลองคบกับ ผช. คนนี้ เขาเป็นคนดีไม่เคยให้เราต้องลำบาก เราอยากได้อะไรเขาก็ตามใจทุกอย่าง เขาบอกให้เราเลิกไปทำงานแต่เราบอกเขาว่าถ้าเราเลิกทำงานแล้วที่ร้านใครจะช่วย ถ้าไม่มีร้านนี้เราก็คงต้องแย่แน่ๆ เขาเลยตามใจแต่ก็มีไม่พอใจอยู่บ้าง คบกันจนเราขึ้น ปี 1 มีอีกเรื่องหนึ่งถ้าเราย้อนเวลากลับไปได้เราจะไปบอกกับตัวเองว่าอย่าเข้าไป ยุ่ง!!! ช่วงนั้นเด็กเสริฟที่ร้านเหลืออยู่ 2 คน อีกคนจะเป็นคนที่โตกว่าเราอายุน่าจะ 25 ปี วันนึงแขกเยอะมาก เรากลัวว่าพี่อีกคนจะเสริฟไม่ทันเราเลยอยู่ช่วยจนร้านปิด พอเรากำลังจะกลับบ้าน จข.ร้านก็เรียกเราเข้าไปในห้องครัวซึ่งแกนั่งอยู่กับพี่เด็กเสริฟอีกคนนั้นแหละ เราก็นึกว่ามีธุระ พีค!!! คือ แกกำลังจะเสพยากับพี่อีกคน เราก็อึ้งๆถามไปว่านี้ทั้งสองเสพยากันด้วยหรอ จข.ร้านเลยเรียกเราไปนั่งข้างๆชวนเราเสพด้วย ตอนแรกเราก็ปฎิเสธว่าเรากลัวติด แกบอกเราว่าครั้งเดียวไม่ติดหรอก เราก็นั่งนิ่งไปสักพัก ดูสองคนทำภารกิจกัน จากนั้น จข.ร้าน แกก็ให้เราคาบหลอดแล้วแกก็สอนเราว่าทำแบบนี้ๆ เราเลยคิดในใจว่าครั้งเดียวคงไม่ติด แต่ไม่เลยค่ะ สรุปคือ ติด แล้วก็ติดหนักด้วย ช่วงนั้นแฟนเราก็ไปทำงานเลยไม่ค่อยได้เจอกัน เราก็จะอยู่กับ จข.ร้านทั้งวันทั้งคืน(จข.ร้านเป็นผู้หญิง) แต่ถึงเวลาไปเรียนก็ไปเรียน เราเป็นเด็กห้อง 1ค่ะ ตอนแรกก็ถือว่าเรียนพอใช้ได้แต่หลังจากที่เสพยาก็เรียนไม่ค่อยจะรู้เรื่อง บางทีก็ไปหลับในคาบเรียนเพราะน็อคยา เกรดเริ่มตก เราเริ่มเห็นตัวเองลดเริ่มรู้สึกไม่อนากเรียนแต่ก็พยายามไปถึงปี 3 เทมอ 1 นศ.ต้องฝึกงาน ตอนนั้นเราได้ฝึกงานที่วิลัยเพราะอาจารย์อยากให้มีเวลาไปแก้ ร แก้ 0
เรา เกเรหนักมากช่วงปี 2 ติด ร ทุกวิชา แต่อาจารย์ทุกคนใจดีมากพยายามช่วยเราแต่เราตอนนั้นคือไม่สนอะไรแล้ว เราเริ่มรู้จักเอเย่นรายใหญ่มากขึ้นๆ และที่พีคกว่านั้นคือแฟนคนที่เราคบตอนนั้นก็เป็นเอเย่นซึ่งเราไม่เคยรู้ว่าเขาทำงานอะไร เราก็ไม่เคยถามเขาด้วย เราเริ่มถลำลึกไปเรื่อยๆ ตอนนั้นเราเป็นคนเก็บเงินให้กับแฟนเราเวลาเขาได้มาเราก็เก็บแล้วก็มีหน้าที่เอาไปให้เจ้าของยาอีกที ตอนนั้นเราเลยตัดสินใจดรอปเรียนเลยทั้งๆทีอีก 1 เทมอก็จะจบแล้วไม่รู้ว่าตอนนั้นตัวเองคิดอะไรอยู่
มีอยู่วันนึงเราไปทำงานเหมือนเดิม แล้วเราลืมของไว้ที่บ้าน ประมาณทุ่มกว่าๆ เราเลยเดินกลับไปบ้านเพื่อจะไปเอาของ(ที่ทำงานกับบ้านแฟนไกล้ๆกัน) ภาพที่เราเห็นคือ แฟนเรานั่งดื่มกับ ผช.+ผญ. 2 คน ตอนแรกเขาคิดว่าเป็น ลค.หรือไม่ก็เพื่อน เราเลยโทรหาแฟนเรา แฟนเรารับสายแล้วก็พูดกับเราว่า มีอะไรคับเจ้ถึงโทรมา? เราก็งงว่าทำไมแฟนเราถึงพูดแบบนี้ เราก็เลยถามว่าเรียกเราว่าอะไรนะ? แล้ว ผญ. คนนั้นก็ถามแฟนเราว่าใครโทรมา แฟนเราก็ตอบ ผญ.คนนั้นว่า เพื่อนโทรมา ตอนนั้นเราก็ยืนมองพวกเขาอยู่นะ เราหน้าชา สับสน งงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เรากดตัดสายแล้วก็เดินกลับไปที่ร้าน ไปถึงร้านเราก็ไม่ได้พูดอะไร จนเพื่อนของแฟนเรามาซื้อบุหรี่ เราเลยถามไปว่า ผญ.คนนั้นคือใคร เพื่อนแฟนเราก็ อ้ำอึ้งๆ เขาก็บอกกับเราว่า ผญ.คนนั้นเป็นแฟนอีกคนของแฟนเรา ซึ่งที่ผ่านมาเราไม่เคยรู้เลยจริงๆว่าเขามีแฟนอยู่แล้ว ผญ.คนนั้นอายุเยอะกว่าแฟนเรา ผญ.42 แฟนเรา 34 ส่วนเราตอนนั้น18 เราเสียใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น เราบล็อคทุกอย่างที่เกี่ยวกับเขา กินเหล้าหนักทุกวัน วันนึงพี่ที่รู้จักพา ผช. คนนึงมานั่งกินที่ร้าน เขาก็แนะนำให้เรารู้จัก ไม่รู้ว่าเพราะอะไรจะว่าบังเอิญก็ไม่ใช่ ผช.ที่พี่เราแนะนำให้เรารู้จักก็เป็นเอเย่นอีก รู้สึกจะหนียังไงก็ไม่พ้นจริงๆ พัวพันกันไปหมด ตอนนั้นเราเริ่มเอายามาขายเองจากผช.ที่พี่เรา แนะนำแหละ ช่วงนั้นแฟนเราก็มาง้อ ตอนแรกเราก็ไม่ได้ใจอ่อนเพราะคิดว่ายังไงก็จะตัดให้ขาด แต่แฟนเราตามไปกวนทุกๆคนที่เราไปอยู่ด้วย จนพี่ๆเขาบอกเราว่าคืนดีกันเถอะ เพราะกลัวจะเกิดเรื่อง เราเลยกลับไปคุยด้วยแต่ไม่ได้ไปอยู่ด้วย เราก็อยู่ที่บ้านเรา เขาก็ตามมาอยู่ด้วยอีก ส่วน ผญ.คนนั้นบ้านเขาอยู่อีกอำเภอต้องกลับบ้านเพราะมีลูกติดกับสามีเก่า นานๆจะมาครั้ง ทุกๆครั้งที่ ผญ.คนนั้นมา แฟนเราก็จะกลับบ้าน ทุกครั้งที่ ผญ.คนนั้นมา เรา 2 คน ก็จะทะเลาะกันทุกครั้ง เป็นแผลที่คอยย้ำๆเราอยู่ตลอดจนทุกวันนี้ เพื่อนๆอาจจะสงสัยทำไมเราถึงไม่เลิกให้เด็ดขาด ตอนนั้นเรารักเขามาก และก็มีเขาแค่คนเดียวที่ทำให้เรรมีความสุขได้ถ้าไม่นับเรื่อง ผญ.นะ เขาดีทุกๆอย่าง คบกันได้ 3 ปี วันนึงแฟนเราโดนจับ วันนั้นวันที่ 8 ธ.ค. 61 ตัดสิน 2 ปี 10 เดือน ช่วงแรกๆที่เขาเราร้องไห้ทุกวัน กินเหล้าเมาจนหลับพอตื่นก็กินใหม่เป็นแบบนั้นเกือบๆเดือน ประกันตัวออกมาได้แค่2 เดือนก็ต้องกลับเข้าไปอยู่ดี หมดเงินเช่าหลักทรัพย์ไปเป็นแสนเพื่อซื้อเวลาแค่ 2 เดือน พอถึงเวลาที่ต้องไปเข้าไปจริงๆเงินหมด เราเลยตัดสินใจต่องาน แต่ตอนนั้นเราไม่ได้ขาย เจ้านายของแฟนเราติดต่อมาให้เราเป็นคนเก็บงานให้ ตอนแรกเราก็กลัวเพราะคำว่าเก็บมันก็คงไม่ใช่น้อยๆ แต่เราก็ทำเพราะจะหาเงินส่งแฟนเรา ตอนนั้นคือเรา บูม มาก เงินไม่เคยขาดมือ เริ่มมีคนมาตามเยอะ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนที่เขาเคยอยู่กับแฟนเราซึ่งเราก็รู้จักอยู่แล้ว ตอนนั้นคือเราเป็นเด็ก ผญ.คนเดียวในหมู่ชาย ฉกรรจ์ เลยก็ว่าได้ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรตอนนั้นอำนาจอยู่ที่เรา เราสามารถคุมได้ทุกคน เรามีทั้งเงินทั้งยา มันมีความสุขนะ แต่เป็นความสุขที่แปลกๆ เราเป็นคนที่ไม่ค่อยจะมีเพื่อนเพราะว่าเราเป็นแบบนี้ไง พ่อแม่เพื่อนรุ่นเดียวกันเขาก็ไม่อยากให้คบด้วย จริงๆแล้วเราอยากมีเพื่อนรุ่นเดียวกัน ไปเที่ยวด้วยกัน แต่ก็นั้นแหละ ไม่มีใครกล้าคบ ทำงานแบบนี้มันไม่ได้สบายอย่างที่ใครๆคิดนะ เหนื่อยมาก เหนื่อยใจ เหนื่อยหลายๆอย่าง ในกลุ่มที่อยู่ด้วยกันตอนนั้นจะมี ผช.คนนึงก็คือเพื่อนแฟนเรานั้นแหละเราดูออกว่าเขาชอบเราแต่ตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไรเลยแกล้งแซวเล่นๆไป อยู่วันนึงเขาก็มาบอกเราว่าเขารักเรารักมานานแล้วก่อนที่เราจะเจอกับแฟนเราสะอีก แต่เราไม่ได้คิดอะไรกับเขาเราเลยปฎิเสธไปตรงๆ จากวันนั้นเขาก็หายไปจากกลุ่มเลย เราก็ไม่ได้สนใจอะไร จนวันนึงเราโดน ตร.ไล่จับ วันนั้นเราหนีได้แต่ ตร.เห็นหน้าแล้ว เราไม่รู้จะทำยังไงเลยลองโทรหาเพื่อนแฟนคนนั้น เราเลยไปหาเพื่อนแฟนเพราะเราไม่รู้จะไปที่ใหนในตอนนั้น เวลาผ่านไปเรากับเพื่อนแฟนเราก็คบกันแบบงงๆ เราไม่มีความรู้สึกรักเลย รูปหน้าจอมือถือก็ยังเป็นรูปแฟน สถานะในเฟสบุ้คก็ยังขึ้นกับแฟน เราไม่เคยแคร์ ผช.คนนั้นเลย เวลาผ่านไปประมาณเกือบ 1 ปี เวลาของเราก็มาถึง เราโดน ตร.ตามมาจับ เราช่วยปัดให้ ผช.คนนั้น เขาได้ปล่อยตัวกลับบ้าน ส่วนเราตัดสิน 2 ปี 9 เดือน ตอนที่เราติดตอนนั้นอายุกำลัง 19 จะ 20 อนาคตที่มีเหลืออยู่น้อยนิดก็ดับวูบเลย แม่เราก็เพิ่งจะมาโพล่ตอนนี้แหละตอนที่เราโดนจับ รถ เงิน ทอง เราก็ให้แม่เราเก็บไว้ให้ คิดว่าเวลาผ่านมาหลายปีแล้วแม่ก็คงเลิกเล่นพนันแล้ว แม่ก็คือแม่ แต่ไม่ใช่แบบนั้นเลย แม่เป็นแบบเดิมเป๊ะ!! ทุกอย่างที่เราฝากไว้หมดภายใน 2 เดือน ไวมาก ตอนเราอยู่ข้างในเราลำบากมากกกกกกกก ระยะเวลาปีกว่าๆเราได้ใช้เงินไม่ถึง 10000 บาท เราทั้งจุกและเจ็บกับสิ่งที่ต้องเจอ ได้แต่คิดว่าทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย ตอนอยู่ข้างในไม่มีวันใหนที่เราหยุดคิดได้เลย ปกติเราเป็นคนที่เวลามีปัญหาก็จะไม่ค่อยเล่าให้ใครฟังอยู่แล้ว พอเข้าไปอยู่ข้างใน รู้สึกอาการยิ่งหนักขึ้น เวลารู้อยากจะระบายกับใคร ปากมันพูดไม่ออก แต่ใจอยากจะพูด บางทีเราเคยคิดอย่างหลับๆไปแบบไม่ตื่น ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นซึมเศร้าหรือป่าว บางทีอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา คนที่มีความรู้ช่วยบอกทีนะคะ เราพึ่งออกมาจาก รจ.ได้ประมาน 2 เดือน แม่เราก็อยู่ด้วยตอนนี้ แต่ทำไมเรารู้สึกอึดอัด เมื่อก่อนเคยมีทุกอย่าง แต่ตอนนี้มันหายไปหมดแล้ว จะหางานทำก็ไม่มีใครรับ ยิ่งช่วงนี้โควิคระบาดอีก เรารู้สึกเหนื่อยมาก คำว่าเหนื่อยบางทีไม่ใช่เพราะทำหนัก ทำมาก ทำเยอะ แต่เป็นเพราะว่าไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไรต่างหาก สิ่งที่แย่ที่สุดไม่ใช่การไม่มี แต่คือการที่เคยมีต่างหาก เราเครียดมากไม่รู้จะคุยกับใครดี อภิบายไม่ถูกเลยความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้ แต่เราไม่มีความคิดที่จะกลับไปเดินทางเดิมอีกแล้วเพราะกว่าจะออกมาได้ ชีวิตเราเสียไปหลายอย่างมาก เราต้องแลกมันมาด้วยอนาคตของเราทั้งชีวิต ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะกลับไปมีความสุขแบบคนทั่วๆไปได้ ไม่รู้ต้องใช้เวลาแค่ใหน แต่เราก็จะพยายามผ่านมันไปให้ได้
ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร? แต่ข้างในรู้สึกเหนื่อย รู้สึกเศร้าไปหมดเลย
เรา เกเรหนักมากช่วงปี 2 ติด ร ทุกวิชา แต่อาจารย์ทุกคนใจดีมากพยายามช่วยเราแต่เราตอนนั้นคือไม่สนอะไรแล้ว เราเริ่มรู้จักเอเย่นรายใหญ่มากขึ้นๆ และที่พีคกว่านั้นคือแฟนคนที่เราคบตอนนั้นก็เป็นเอเย่นซึ่งเราไม่เคยรู้ว่าเขาทำงานอะไร เราก็ไม่เคยถามเขาด้วย เราเริ่มถลำลึกไปเรื่อยๆ ตอนนั้นเราเป็นคนเก็บเงินให้กับแฟนเราเวลาเขาได้มาเราก็เก็บแล้วก็มีหน้าที่เอาไปให้เจ้าของยาอีกที ตอนนั้นเราเลยตัดสินใจดรอปเรียนเลยทั้งๆทีอีก 1 เทมอก็จะจบแล้วไม่รู้ว่าตอนนั้นตัวเองคิดอะไรอยู่
มีอยู่วันนึงเราไปทำงานเหมือนเดิม แล้วเราลืมของไว้ที่บ้าน ประมาณทุ่มกว่าๆ เราเลยเดินกลับไปบ้านเพื่อจะไปเอาของ(ที่ทำงานกับบ้านแฟนไกล้ๆกัน) ภาพที่เราเห็นคือ แฟนเรานั่งดื่มกับ ผช.+ผญ. 2 คน ตอนแรกเขาคิดว่าเป็น ลค.หรือไม่ก็เพื่อน เราเลยโทรหาแฟนเรา แฟนเรารับสายแล้วก็พูดกับเราว่า มีอะไรคับเจ้ถึงโทรมา? เราก็งงว่าทำไมแฟนเราถึงพูดแบบนี้ เราก็เลยถามว่าเรียกเราว่าอะไรนะ? แล้ว ผญ. คนนั้นก็ถามแฟนเราว่าใครโทรมา แฟนเราก็ตอบ ผญ.คนนั้นว่า เพื่อนโทรมา ตอนนั้นเราก็ยืนมองพวกเขาอยู่นะ เราหน้าชา สับสน งงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เรากดตัดสายแล้วก็เดินกลับไปที่ร้าน ไปถึงร้านเราก็ไม่ได้พูดอะไร จนเพื่อนของแฟนเรามาซื้อบุหรี่ เราเลยถามไปว่า ผญ.คนนั้นคือใคร เพื่อนแฟนเราก็ อ้ำอึ้งๆ เขาก็บอกกับเราว่า ผญ.คนนั้นเป็นแฟนอีกคนของแฟนเรา ซึ่งที่ผ่านมาเราไม่เคยรู้เลยจริงๆว่าเขามีแฟนอยู่แล้ว ผญ.คนนั้นอายุเยอะกว่าแฟนเรา ผญ.42 แฟนเรา 34 ส่วนเราตอนนั้น18 เราเสียใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น เราบล็อคทุกอย่างที่เกี่ยวกับเขา กินเหล้าหนักทุกวัน วันนึงพี่ที่รู้จักพา ผช. คนนึงมานั่งกินที่ร้าน เขาก็แนะนำให้เรารู้จัก ไม่รู้ว่าเพราะอะไรจะว่าบังเอิญก็ไม่ใช่ ผช.ที่พี่เราแนะนำให้เรารู้จักก็เป็นเอเย่นอีก รู้สึกจะหนียังไงก็ไม่พ้นจริงๆ พัวพันกันไปหมด ตอนนั้นเราเริ่มเอายามาขายเองจากผช.ที่พี่เรา แนะนำแหละ ช่วงนั้นแฟนเราก็มาง้อ ตอนแรกเราก็ไม่ได้ใจอ่อนเพราะคิดว่ายังไงก็จะตัดให้ขาด แต่แฟนเราตามไปกวนทุกๆคนที่เราไปอยู่ด้วย จนพี่ๆเขาบอกเราว่าคืนดีกันเถอะ เพราะกลัวจะเกิดเรื่อง เราเลยกลับไปคุยด้วยแต่ไม่ได้ไปอยู่ด้วย เราก็อยู่ที่บ้านเรา เขาก็ตามมาอยู่ด้วยอีก ส่วน ผญ.คนนั้นบ้านเขาอยู่อีกอำเภอต้องกลับบ้านเพราะมีลูกติดกับสามีเก่า นานๆจะมาครั้ง ทุกๆครั้งที่ ผญ.คนนั้นมา แฟนเราก็จะกลับบ้าน ทุกครั้งที่ ผญ.คนนั้นมา เรา 2 คน ก็จะทะเลาะกันทุกครั้ง เป็นแผลที่คอยย้ำๆเราอยู่ตลอดจนทุกวันนี้ เพื่อนๆอาจจะสงสัยทำไมเราถึงไม่เลิกให้เด็ดขาด ตอนนั้นเรารักเขามาก และก็มีเขาแค่คนเดียวที่ทำให้เรรมีความสุขได้ถ้าไม่นับเรื่อง ผญ.นะ เขาดีทุกๆอย่าง คบกันได้ 3 ปี วันนึงแฟนเราโดนจับ วันนั้นวันที่ 8 ธ.ค. 61 ตัดสิน 2 ปี 10 เดือน ช่วงแรกๆที่เขาเราร้องไห้ทุกวัน กินเหล้าเมาจนหลับพอตื่นก็กินใหม่เป็นแบบนั้นเกือบๆเดือน ประกันตัวออกมาได้แค่2 เดือนก็ต้องกลับเข้าไปอยู่ดี หมดเงินเช่าหลักทรัพย์ไปเป็นแสนเพื่อซื้อเวลาแค่ 2 เดือน พอถึงเวลาที่ต้องไปเข้าไปจริงๆเงินหมด เราเลยตัดสินใจต่องาน แต่ตอนนั้นเราไม่ได้ขาย เจ้านายของแฟนเราติดต่อมาให้เราเป็นคนเก็บงานให้ ตอนแรกเราก็กลัวเพราะคำว่าเก็บมันก็คงไม่ใช่น้อยๆ แต่เราก็ทำเพราะจะหาเงินส่งแฟนเรา ตอนนั้นคือเรา บูม มาก เงินไม่เคยขาดมือ เริ่มมีคนมาตามเยอะ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนที่เขาเคยอยู่กับแฟนเราซึ่งเราก็รู้จักอยู่แล้ว ตอนนั้นคือเราเป็นเด็ก ผญ.คนเดียวในหมู่ชาย ฉกรรจ์ เลยก็ว่าได้ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรตอนนั้นอำนาจอยู่ที่เรา เราสามารถคุมได้ทุกคน เรามีทั้งเงินทั้งยา มันมีความสุขนะ แต่เป็นความสุขที่แปลกๆ เราเป็นคนที่ไม่ค่อยจะมีเพื่อนเพราะว่าเราเป็นแบบนี้ไง พ่อแม่เพื่อนรุ่นเดียวกันเขาก็ไม่อยากให้คบด้วย จริงๆแล้วเราอยากมีเพื่อนรุ่นเดียวกัน ไปเที่ยวด้วยกัน แต่ก็นั้นแหละ ไม่มีใครกล้าคบ ทำงานแบบนี้มันไม่ได้สบายอย่างที่ใครๆคิดนะ เหนื่อยมาก เหนื่อยใจ เหนื่อยหลายๆอย่าง ในกลุ่มที่อยู่ด้วยกันตอนนั้นจะมี ผช.คนนึงก็คือเพื่อนแฟนเรานั้นแหละเราดูออกว่าเขาชอบเราแต่ตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไรเลยแกล้งแซวเล่นๆไป อยู่วันนึงเขาก็มาบอกเราว่าเขารักเรารักมานานแล้วก่อนที่เราจะเจอกับแฟนเราสะอีก แต่เราไม่ได้คิดอะไรกับเขาเราเลยปฎิเสธไปตรงๆ จากวันนั้นเขาก็หายไปจากกลุ่มเลย เราก็ไม่ได้สนใจอะไร จนวันนึงเราโดน ตร.ไล่จับ วันนั้นเราหนีได้แต่ ตร.เห็นหน้าแล้ว เราไม่รู้จะทำยังไงเลยลองโทรหาเพื่อนแฟนคนนั้น เราเลยไปหาเพื่อนแฟนเพราะเราไม่รู้จะไปที่ใหนในตอนนั้น เวลาผ่านไปเรากับเพื่อนแฟนเราก็คบกันแบบงงๆ เราไม่มีความรู้สึกรักเลย รูปหน้าจอมือถือก็ยังเป็นรูปแฟน สถานะในเฟสบุ้คก็ยังขึ้นกับแฟน เราไม่เคยแคร์ ผช.คนนั้นเลย เวลาผ่านไปประมาณเกือบ 1 ปี เวลาของเราก็มาถึง เราโดน ตร.ตามมาจับ เราช่วยปัดให้ ผช.คนนั้น เขาได้ปล่อยตัวกลับบ้าน ส่วนเราตัดสิน 2 ปี 9 เดือน ตอนที่เราติดตอนนั้นอายุกำลัง 19 จะ 20 อนาคตที่มีเหลืออยู่น้อยนิดก็ดับวูบเลย แม่เราก็เพิ่งจะมาโพล่ตอนนี้แหละตอนที่เราโดนจับ รถ เงิน ทอง เราก็ให้แม่เราเก็บไว้ให้ คิดว่าเวลาผ่านมาหลายปีแล้วแม่ก็คงเลิกเล่นพนันแล้ว แม่ก็คือแม่ แต่ไม่ใช่แบบนั้นเลย แม่เป็นแบบเดิมเป๊ะ!! ทุกอย่างที่เราฝากไว้หมดภายใน 2 เดือน ไวมาก ตอนเราอยู่ข้างในเราลำบากมากกกกกกกก ระยะเวลาปีกว่าๆเราได้ใช้เงินไม่ถึง 10000 บาท เราทั้งจุกและเจ็บกับสิ่งที่ต้องเจอ ได้แต่คิดว่าทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย ตอนอยู่ข้างในไม่มีวันใหนที่เราหยุดคิดได้เลย ปกติเราเป็นคนที่เวลามีปัญหาก็จะไม่ค่อยเล่าให้ใครฟังอยู่แล้ว พอเข้าไปอยู่ข้างใน รู้สึกอาการยิ่งหนักขึ้น เวลารู้อยากจะระบายกับใคร ปากมันพูดไม่ออก แต่ใจอยากจะพูด บางทีเราเคยคิดอย่างหลับๆไปแบบไม่ตื่น ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นซึมเศร้าหรือป่าว บางทีอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา คนที่มีความรู้ช่วยบอกทีนะคะ เราพึ่งออกมาจาก รจ.ได้ประมาน 2 เดือน แม่เราก็อยู่ด้วยตอนนี้ แต่ทำไมเรารู้สึกอึดอัด เมื่อก่อนเคยมีทุกอย่าง แต่ตอนนี้มันหายไปหมดแล้ว จะหางานทำก็ไม่มีใครรับ ยิ่งช่วงนี้โควิคระบาดอีก เรารู้สึกเหนื่อยมาก คำว่าเหนื่อยบางทีไม่ใช่เพราะทำหนัก ทำมาก ทำเยอะ แต่เป็นเพราะว่าไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไรต่างหาก สิ่งที่แย่ที่สุดไม่ใช่การไม่มี แต่คือการที่เคยมีต่างหาก เราเครียดมากไม่รู้จะคุยกับใครดี อภิบายไม่ถูกเลยความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้ แต่เราไม่มีความคิดที่จะกลับไปเดินทางเดิมอีกแล้วเพราะกว่าจะออกมาได้ ชีวิตเราเสียไปหลายอย่างมาก เราต้องแลกมันมาด้วยอนาคตของเราทั้งชีวิต ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะกลับไปมีความสุขแบบคนทั่วๆไปได้ ไม่รู้ต้องใช้เวลาแค่ใหน แต่เราก็จะพยายามผ่านมันไปให้ได้