ยูฟ่ามอบรางวัล 'เคียร์-ทีมแพทย์' ช่วยชีวิตอิริคเซนในยูโร 2020
ยูฟ่ามอบรางวัลเกียรติยศให้กัปตันทีมโคนมและทีมแพทย์ที่ช่วยชีวิต คริสเตียน อิริคเซน ในศึกยูโร 2020
สหพันธ์ลูกหนังยุโรป หรือ ยูฟ่า มอบรางวัลเกียรติยศ 'ยูฟ่า เพรสซิเดนท์ส อวอร์ด' ให้กับ ซิมง เคียร์ กัปตันทีมชาติเดนมาร์ก และบรรดาทีมแพทย์ที่มีส่วนช่วยชีวิต คริสเตียน อิริคเซน ในศึกยูโร 2020
อิริคเซน หมดสติล้มลงจากอาการหัวใจวายระหว่างเกมกับ ฟินแลนด์ ในศึกยูโร 2020 เมื่อวันที่ 12 มุนายนที่ผ่านมา โดยตอนนั้น เคียร์ เป็นคนแรกที่เข้าถึงตัวเพื่อนร่วมทีมและทำการจัดท่าทางให้เหมาะสมและปั้มหัวใจ ก่อนที่ทีมแพทย์จะเข้ามารับช่วงต่อและช่วยชีวิตกองกลางจาก อินเตอร์ มิลาน ได้สำเร็จ
นอกจากนี้กัปตันทีมโคนมยังเป็นคนที่นำลูกทีมยืนล้อม อิริคเซน ระหว่างที่แพทย์ทำการปฐมพยาบาล เพื่อไม่ให้มีภาพไม่เหมาะสมหลุดออกไป จนได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมาก
โดยนอกจาก เคียร์ แล้ว ยูฟายังมอบรางวัลเกียรติยศให้แก่ทีมแพทย์ทีมชาติเดนมาร์ก, แพทย์ประจำสนาม และ แพทย์ของยูฟ่า ด้วยเช่นกัน
รายชื่อผู้ได้รับรางวัล ยูฟ่า เพรสซิเดนท์ส อวอร์ด
ทีมแพทย์ประจำสนาม
โมเกนส์ ครอยต์ซเฟลด์ต
เฟรเดริค เฟรนสเตด
อันเดอร์ส โบเซน
เปเดอร์ เออร์สการ์ด
ทีมแพทย์ของยูฟ่า
เยนส์ ไคลเนเฟลด์
วาเลติน เวลิคอฟ
ทีมแพทย์ทีมชาติเดนมาร์ก
มอร์เทน สโคลดาเกอร์
มอร์เทน โบเซน
ซิมง เคียร์ (กัปตันทีม)
credit : www.goal.com/th
ยูฟ่ามอบรางวัลเกียรติยศ 'เคียร์, ทีมแพทย์' ช่วยชีวิต 'อิริคเซ่น'
ไซม่อน เคียร์ และทีมแพทย์ของของเดนมาร์กจะได้รับรางวัลเกียรติยศจากยูฟ่า ภายหลังช่วยชีวิตของ คริสเตียน อิริคเซ่น ไว้ในศึกยูโรที่ผ่านมา
อิริคเซ่น ล้มฟุบและพบอาการหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันในเกมที่เดนมาร์กพบกับฟินแลนด์ แต่ด้วยการช่วยเหลือของ เคียร์ และทีมแพทย์ทำให้เขากลับมามีสติอีกครั้ง
เคียร์ กัปตันทีมชาติเดนมาร์กได้รับรางวัลจากการกระทำและความเป็นผู้นำที่แสดงให้เห็นในช่วงเวลาดังกล่าว เพราะไม่ใช่เพียงแค่การจัดร่างกาย อิริคเซ่น ให้อยู่ในท่าที่เหมาะสมและเริ่มปั้มหัวใจ แต่เขายังให้นักเตะยืนบังเพื่อให้แฟนสาวของ อิริคเซ่น ไม่วิตกกังวลมาเกินและป้องกันสื่อเห็นภาพที่ไม่ควรเห็น
ทีมแพทย์ของเดนมาร์กที่ประกอบไปด้วย มอร์เท่น โชลดาเกอร์ และ มอร์เท่น โบเซ่น ก็จะได้รับรางวัลจากทางยูฟ่าด้วย
นอกจากนี้แพทย์ประจำสนามอย่าง โมเกนส์ ครอยท์เฟลด์ท, เฟรเดริค เฟลนสเตด, อันเดอร์ส โบเซ่น, เปเดอร์ เออร์สการ์ด และเจ้าหน้าที่ฝ่ายการแพทย์ของ
ยูฟ่าอย่าง เยนส์ ไคลเนอเฟลด์ กับ วาเลนติน เวลิคอฟ ก็จะได้รับรางวัลเช่นกัน
"ผมอยากขอบคุณ มอร์เท่น โชลดาเกอร์, มอร์เท่น โบเซ่น และทีมแพทย์ที่ช่วยผมในวันที่ 12 มิถุนายน พวกคุณทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมมากและช่วยชีวิตผมไว้" เอริคเซ่น กล่าว
"ขอขอบคุณ ไซม่อน เพื่อนและกัปตันทีมของผมด้วย รวมถึงเพื่อนๆทีมชาติเดนมาร์กที่เป็นกำลังใจให้ทั้งในวันที่ 12 มิถุนายนและหลังจากนั้น"
"ขอบคุณแฟนบอลทุกคนที่ส่งข้อความมาหาผมกับครอบครัว มันมีความหมายเป็นอย่างมากและช่วยเป็นกำลังใจกับมอบความแข็งแกร่งให้เรา ขอบคุณครับ"
เคียร์ เองถ่อมตัวโดยบอกว่าเขาทำในสิ่งที่เขาจำเป็นต้องทำในเวลานั้น
"นี่เป็นสิ่งที่จะอยู่กับเราไปตลอดทั้งชีวิตที่เหลือ ทีมตอบสนองร่วมกันเป็นทีม, เราพยายามอย่างที่สุดเพื่อเป็นหนึ่งเดียวกันและพยายามผ่านสถานการณ์นั้นไปและช่วยเหลือให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" เคียร์ กล่าว
"ผมพยายามที่จะเป็นผู้นำทีมทั้งในและนอกสนาม, ในทุกด้านของชีวิต, ในฐานะนักเตะ, เมื่อเราอยู่ด้วยกัน ผมคิดว่านั่นเป็นหนึ่งในเกียรติยิ่งใหญ่ที่สุดที่ผมมีในเส้นทางอาชีพของผม"
"ผมรู้จัก คริสเตียน มานานหลายปี เขามีครอบครัวที่ยอดเยี่ยม, มีเพื่อนมากมาย, เพื่อนร่วมทีมหลายคนที่หวังให้เขาพบกับสิ่งที่ดีที่สุด ตราบเท่าที่เขาแฮปปี้และครอบครัวของเขารู้สึกดี ผมก็แฮปปี้"
credit : www.soccersuck.com
ยูฟ่ามอบรางวัล'เคียร์-ทีมแพทย์'ช่วยชีวิตอิริคเซนในยูโร2020 & ยูฟ่ามอบรางวัลเกียรติยศ'เคียร์,ทีมแพทย์ช่วยชีวิต'อิริคเซ่น'
ยูฟ่ามอบรางวัลเกียรติยศให้กัปตันทีมโคนมและทีมแพทย์ที่ช่วยชีวิต คริสเตียน อิริคเซน ในศึกยูโร 2020
สหพันธ์ลูกหนังยุโรป หรือ ยูฟ่า มอบรางวัลเกียรติยศ 'ยูฟ่า เพรสซิเดนท์ส อวอร์ด' ให้กับ ซิมง เคียร์ กัปตันทีมชาติเดนมาร์ก และบรรดาทีมแพทย์ที่มีส่วนช่วยชีวิต คริสเตียน อิริคเซน ในศึกยูโร 2020
อิริคเซน หมดสติล้มลงจากอาการหัวใจวายระหว่างเกมกับ ฟินแลนด์ ในศึกยูโร 2020 เมื่อวันที่ 12 มุนายนที่ผ่านมา โดยตอนนั้น เคียร์ เป็นคนแรกที่เข้าถึงตัวเพื่อนร่วมทีมและทำการจัดท่าทางให้เหมาะสมและปั้มหัวใจ ก่อนที่ทีมแพทย์จะเข้ามารับช่วงต่อและช่วยชีวิตกองกลางจาก อินเตอร์ มิลาน ได้สำเร็จ
นอกจากนี้กัปตันทีมโคนมยังเป็นคนที่นำลูกทีมยืนล้อม อิริคเซน ระหว่างที่แพทย์ทำการปฐมพยาบาล เพื่อไม่ให้มีภาพไม่เหมาะสมหลุดออกไป จนได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมาก
โดยนอกจาก เคียร์ แล้ว ยูฟายังมอบรางวัลเกียรติยศให้แก่ทีมแพทย์ทีมชาติเดนมาร์ก, แพทย์ประจำสนาม และ แพทย์ของยูฟ่า ด้วยเช่นกัน
รายชื่อผู้ได้รับรางวัล ยูฟ่า เพรสซิเดนท์ส อวอร์ด
ทีมแพทย์ประจำสนาม
โมเกนส์ ครอยต์ซเฟลด์ต
เฟรเดริค เฟรนสเตด
อันเดอร์ส โบเซน
เปเดอร์ เออร์สการ์ด
ทีมแพทย์ของยูฟ่า
เยนส์ ไคลเนเฟลด์
วาเลติน เวลิคอฟ
ทีมแพทย์ทีมชาติเดนมาร์ก
มอร์เทน สโคลดาเกอร์
มอร์เทน โบเซน
ซิมง เคียร์ (กัปตันทีม)
credit : www.goal.com/th
ยูฟ่ามอบรางวัลเกียรติยศ 'เคียร์, ทีมแพทย์' ช่วยชีวิต 'อิริคเซ่น'
ไซม่อน เคียร์ และทีมแพทย์ของของเดนมาร์กจะได้รับรางวัลเกียรติยศจากยูฟ่า ภายหลังช่วยชีวิตของ คริสเตียน อิริคเซ่น ไว้ในศึกยูโรที่ผ่านมา
อิริคเซ่น ล้มฟุบและพบอาการหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันในเกมที่เดนมาร์กพบกับฟินแลนด์ แต่ด้วยการช่วยเหลือของ เคียร์ และทีมแพทย์ทำให้เขากลับมามีสติอีกครั้ง
เคียร์ กัปตันทีมชาติเดนมาร์กได้รับรางวัลจากการกระทำและความเป็นผู้นำที่แสดงให้เห็นในช่วงเวลาดังกล่าว เพราะไม่ใช่เพียงแค่การจัดร่างกาย อิริคเซ่น ให้อยู่ในท่าที่เหมาะสมและเริ่มปั้มหัวใจ แต่เขายังให้นักเตะยืนบังเพื่อให้แฟนสาวของ อิริคเซ่น ไม่วิตกกังวลมาเกินและป้องกันสื่อเห็นภาพที่ไม่ควรเห็น
ทีมแพทย์ของเดนมาร์กที่ประกอบไปด้วย มอร์เท่น โชลดาเกอร์ และ มอร์เท่น โบเซ่น ก็จะได้รับรางวัลจากทางยูฟ่าด้วย
นอกจากนี้แพทย์ประจำสนามอย่าง โมเกนส์ ครอยท์เฟลด์ท, เฟรเดริค เฟลนสเตด, อันเดอร์ส โบเซ่น, เปเดอร์ เออร์สการ์ด และเจ้าหน้าที่ฝ่ายการแพทย์ของ
ยูฟ่าอย่าง เยนส์ ไคลเนอเฟลด์ กับ วาเลนติน เวลิคอฟ ก็จะได้รับรางวัลเช่นกัน
"ผมอยากขอบคุณ มอร์เท่น โชลดาเกอร์, มอร์เท่น โบเซ่น และทีมแพทย์ที่ช่วยผมในวันที่ 12 มิถุนายน พวกคุณทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมมากและช่วยชีวิตผมไว้" เอริคเซ่น กล่าว
"ขอขอบคุณ ไซม่อน เพื่อนและกัปตันทีมของผมด้วย รวมถึงเพื่อนๆทีมชาติเดนมาร์กที่เป็นกำลังใจให้ทั้งในวันที่ 12 มิถุนายนและหลังจากนั้น"
"ขอบคุณแฟนบอลทุกคนที่ส่งข้อความมาหาผมกับครอบครัว มันมีความหมายเป็นอย่างมากและช่วยเป็นกำลังใจกับมอบความแข็งแกร่งให้เรา ขอบคุณครับ"
เคียร์ เองถ่อมตัวโดยบอกว่าเขาทำในสิ่งที่เขาจำเป็นต้องทำในเวลานั้น
"นี่เป็นสิ่งที่จะอยู่กับเราไปตลอดทั้งชีวิตที่เหลือ ทีมตอบสนองร่วมกันเป็นทีม, เราพยายามอย่างที่สุดเพื่อเป็นหนึ่งเดียวกันและพยายามผ่านสถานการณ์นั้นไปและช่วยเหลือให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" เคียร์ กล่าว
"ผมพยายามที่จะเป็นผู้นำทีมทั้งในและนอกสนาม, ในทุกด้านของชีวิต, ในฐานะนักเตะ, เมื่อเราอยู่ด้วยกัน ผมคิดว่านั่นเป็นหนึ่งในเกียรติยิ่งใหญ่ที่สุดที่ผมมีในเส้นทางอาชีพของผม"
"ผมรู้จัก คริสเตียน มานานหลายปี เขามีครอบครัวที่ยอดเยี่ยม, มีเพื่อนมากมาย, เพื่อนร่วมทีมหลายคนที่หวังให้เขาพบกับสิ่งที่ดีที่สุด ตราบเท่าที่เขาแฮปปี้และครอบครัวของเขารู้สึกดี ผมก็แฮปปี้"
credit : www.soccersuck.com