เปิดเหตุผล ทำไม? ช่อง7 ยอมปล่อยนักแสดงหลุดมือ

กระทู้คำถาม
ช่วงที่ผ่านมา ข่าวการย้ายช่อง เปลี่ยนสังกัดของนักแสดงจากช่องใหญ่ โดยเฉพาะช่อง 7 มักเป็นข่าวฮือฮาเสมอ



ย้อนกลับไป ไม่นานมากนัก การรับแสดงละครให้ช่อง Gmm25 เรื่อง 'ร่านดอกงิ้ว' นอกชายคาช่อง 7 ของ ‘ยุ้ย-จีรนันท์’ นางเอกที่อยู่กับช่อง 7 มายาวนาน ซึ่งหากจะบอกว่า เธอเป็นทั้งลูกหม้อ และลูกรักของช่องก็ไม่ผิดเพี้ยนนัก

เนื่องเพราะหากจะนับละครที่ยุ้ยมีผลงานกับช่องนั้น นอกจากจะหลายเรื่องแล้ว ยังหลากหลายบทบาท แถมแต่ละบทที่ได้รับล้วนแต่เปิดโอกาสให้ยุ้ยได้โชว์ฝีมือ แสดงศักยภาพทางการแสดงได้อย่างเต็มที่





ซึ่งทันทีที่มีข่าวนี้หลุดลอดออกมา หัวข้อนี้จึงกลายเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ทั้งที่ไม่น่าจะเป็นเรื่องผิดแผก เพราะยุ้ยหมดสัญญากับทางช่องนานแล้วก็ตาม

ทว่าเนื่องจากยุ้ยคือภาพจำ คล้ายเป็นโลโก้ของช่อง ฉะนั้นการตกเป็นข่าวโด่งดังเช่นนี้ จึงเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้

หรืออย่างล่าสุด กับการตัดสินใจไปเป็นนักแสดงสังกัดช่อง 3 ของ โบว์-เมลดา ก็ทำเอาเป็นข่าวเกรียวกราวเลยทีเดียว แถมการไปครั้งนี้ของโบว์ คือไม่ธรรมดา เพราะได้แสดงกับค่ายใหญ่อย่างบริษัท แอคอาร์ต ของ อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ แถมได้ประกบกับพระเอกระดับซูเปอร์สตาร์ ณเดชน์ คูกิมิยะ

หลายคนตั้งคำถาม ว่าเกิดอะไรขึ้นกับช่อง 7 ช่องที่รั้งตำแหน่งเรตติ้งอันดับ 1 มาอย่างยาวนาน โดยไม่มีทีท่าว่าจะมีช่องไหนสามารถโค่นแชมป์ได้

และหลายคนสงสัย ว่าทำไมช่อง 7 ถึงปล่อยให้นักแสดงเหล่านี้หลุดมือไป

ทั้งนี้ เชื่อว่าช่อง 7 ที่เปรียบเสมือนโรงเรียนอันดับ 1 ของประเทศ ที่ผ่านการปั้น และสร้างคนมาประดับวงการมาแล้ว นับไม่ถ้วน เรียกว่าปั้นดินให้กับดาวมาแล้วมากมาย

ฉะนั้นการออกไปของนักแสดง ที่มีอายุมากขึ้น ที่อาจอยากออกไปเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ นับเป็นสิทธิอันชอบธรรมหลังพ้นสัญญา และการเจรจาพูดคุย ซึ่งก็ถือว่าเป็นการจากกันด้วยดีด้วยกันทั้งสองฝ่าย และไม่ได้ส่งผลกระทบใด หรือสร้างความเสียหาย ทางช่องจึงไม่มีความจำเป็นต้องเหนี่ยวรั้ง

เพราะมีความเชื่อมั่น และศักยภาพมากพอ ที่จะปั้นนักแสดงใหม่ๆ ที่จ่อรออยู่มากมาย ขึ้นมาแทนที่คนที่ออกไป ให้โลดแล่น กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ ได้อย่างไม่ยากเย็น เหมือนอย่างที่ทำมาโดยตลอด

ต่อให้มีข่าว สมองไหล หรือเลือดจะไหลไม่หยุด ใครจะไป หรือใครจะมา อย่างไรก็ตาม ช่อง 7 ก็ยังเป็นช่อง ที่ยังมีซูเปอร์สตาร์ อั้ม พัชราภา และ เวียร์ ศุกลวัฒน์ ที่เพิ่งจรดปากกาต่อสัญญา ไม่นับรวมนักแสดงตัวท็อปอีกเพียบ ที่พร้อมจะมอบความสุขให้กับแฟนละครช่อง 7


และยังคงเป็นช่องที่ยืนหยัด ครองเรตติ้งอันดับ 1 อย่างมั่นคง เนิ่นนานต่อเนื่อง อย่างไม่หวั่นเกรง หรือสั่นคลอนกับมรสุมใด
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
อาจจะกลับมาที่คำว่า เรตติ้งสำคัญที่สุดจริงๆเหรอ? ถ้าเราเป็นนักแสดง เราอยากได้บทที่ดี ได้โชว์ฝีมือ หรือเรตติ้งดี แต่บทซ้ำๆ

นาดาวหรือ GMMTV ทำซีรีย์และละครหลากหลาย บางเรื่องเรตติ้งไม่ถึงหนึ่ง แต่ใส่ใจในการเขียนบท มีการจัดแสง ถ่ายภาพที่มีมิติและมีรายละเอียดในเนื้องานสูง อยู่ได้ด้วยกระแสและรายได้จากแฟนไทยและต่างชาติสบายๆ ไม่ต้องนับซีรีย์วายที่แฟน ตปท เยอะกว่าประชากรวายไทยไปอีก

ช่องสามที่เป็นคู่แข่งกันมานาน อาจจะเทียบไม่ได้ในเรื่องเรตติ้ง แต่โปรดักชั่นของช่องสามก็ดี ที่ต้องแก้คือบท แต่ที่ดีลกับ netflix (โดยปกติแบบฉายสดทั่วเอเชียและอาเซียนจะตกขั้นต่ำ 100 ล้านไปจนถึงหลัก 1000 ล้าน) ช่องขายไปหกเรื่อง ไม่นับ platform อื่นๆ อย่าง viu หรือ wetv ที่ได้เพิ่มขึ้นไปอีก แน่นอนว่าต่อไปเพื่อให้ขายได้มากขึ้นไปอีก เราจะเห็นช่องสามบ้งน้อยลง พล็อตแปลกใหม่มากขึ้น เห็นได้ชัดว่าช่องนี้แทบไม่ทำผัวๆเมียๆตบกันแย่งชิงระยะหลังๆ ถ้าทำมาก็พัง มันไม่ถูกจริตคนดูช่องสามส่วนใหญ่ในยุคนี้แล้ว

ในยุคที่คนดูทีวีน้อยลงๆทุกวัน ช่องเจ็ดควรทำละครให้ดีกว่านี้ (พูดในภาพใหญ่ ถ้าอยากขาย ตปท ให้ได้เยอะๆหรือลง NF เหมือนอีกช่อง) พล็อตเรื่องนี่สำคัญมาก รีเมคแบบวงเวียนหัวใจนี่พักเหอะ หลายๆค่ายเก่าดึกดำบรรษ์ในช่องนี้ควรปรับหลายๆอย่างก่อนที่จะสายเกินไป
ความคิดเห็นที่ 11
ส่วนตัวคิดว่าการเซ็นสัญญากับช่องอื่นๆมันก็คือการเพิ่มประสบการณ์ให้กับตัวนักแสดงมากกว่าค่ะ อย่างการได้ร่วมงานกับคนอื่นๆที่เราไม่เคยร่วม มันก็เหมือนการแรกเปลี่ยนประสบการณ์ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่