วันนี้จะมาพูดเรื่องสำคัญใกล้ตัวที่มักมองข้ามกัน... ก็คือกฎแห่งโลกของทุนนิยม!
กราฟในตำรายังเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา.. ปัจจุบันโลกปี 2020 ใครมัวดูกราฟยุค 80 90 คงไม่ต้องบอกนะว่าจะรวยไหม...
เช่นกัน สายลงทุน fundamental หรือ สายเทคนิคที่ดูตัวเลขประกอบ ก็ต้องอัพเดทกันบ้าง เช่น ค่าPE ของตลาดและหุ้น ..!!
...
ในอดีตหลายสิบปีก่อนนั้น pe ต่ำ 10 คือราคาถูก หาเจอง่าย มีให้เลือกมาก
ปัจจุบัน >>>
หุ้นโตช้า ต้อง pe แถวๆ +-20
หุ้นโตกลาง pe 30-40
หุ้นโตเร็ว ที่พื้นฐานดี pe 40-80
หุ้นปั่นแปะ pe 100-1000
...
เพราะอะไร...??
ตลาดหุ้นก็เหมือนตลาดสินทรัพย์ทั่วไป เวลาผ่านไปค่าของเงินเฟ้อและเงินที่ล้นระบบ ทำให้ราคาเพิ่มมากขึ้น แม้มูลค่าเท่าเดิม
ทำไมบ้าน ที่ดิน ยิ่งผ่านไปราคาสูงขึ้น
ทำไมโลหะมีค่า ทองคำ ยิ่งผ่านไปราคาสูงขึ้น
ทำไมสินค้าต่างๆ เช่น ก๋วยเตี๋ยว สมัยก่อน 30บาท สมัยนี้ 40-50 ถือว่าปกติ ทั้งที่คุณภาพก๋วยเตี๋ยวเท่าเดิม...
นั่นเพราะ กาลเวลาที่ผ่านไป เงินเพิ่มขึ้น เงินเฟ้อมากขึ้น ยิ่งทำให้มูลค่าเพิ่มขึ้นนั่นเอง ยิ่งของไหนมีจำกัด ราคาก็จะต้องสูงขึ้นในระยะยาว เป็นกฎของโลกทุนนิยม...
แล้วจำนวนหุ้นมีจำกัดไหม ถ้ามีจำกัด ราคาก็จะต้องเพิ่มขึ้นในระยะยาว แบบบ้านและที่ดิน เช่นกัน..!!
แต่คนเราถือหุ้นมักอ่อนไหว ตกใจ และขี้กลัว เพราะ หุ้นมีราคาวิ่งขึ้นลง ให้เห็นทุกวัน.. ล่อตาล่อใจให้นักลงทุนเข้าไปในวงโคจรของการbet ซื้อๆขายๆ
ลองไปดูบ้านที่ดินสิ ไม่มีจอ ทีวี ตัวเลขวิ่งให้ดูรายวันหรอก ใครจะมาสนใจ วันนี้ราคาลง10000 พรุ่งนี้ราคาขึ้น 10000 ..จะขายบ้านหรือที่ดินวันนี้แล้วพรุ่งนี้ซื้อกลับดีไหม คงตลกพึลึก! แต่เขาสนใจแค่ในระยะยาวราคามันจะเพิ่มแน่นอน บางที 5ปี 10ปี ค่อยเช็คดูราคาครั้งนึง
หุ้นก็เช่นกัน ยิ่งเวลาผ่านไป peเฉลี่ยยิ่งต้องสูงขึ้น ทั้งpeตลาด และ peตัวหุ้นเอง ดังเช่นค่าเฉลี่ยในปัจจุบันที่สูงกว่าในอดีตมาก!
ฉะนั้น ถ้ามีหุ้นพื้นฐานดี ก็แค่ถือไปเรื่อยๆ ผ่านวันเวลาไป ใช้ชีวิตชิลๆ วันนึงหันกลับมามอง คุณก็จะตกใจกับพลังแห่งโลกของทุนนิยม..!! !!
โชคดี
/// เตือนนักลงทุนทุกสาย อัพเดททันโลก..!! อย่ามัวหลงตำราเก่าหลายทศวรรษ... <<ชินจัง talk talk>>
กราฟในตำรายังเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา.. ปัจจุบันโลกปี 2020 ใครมัวดูกราฟยุค 80 90 คงไม่ต้องบอกนะว่าจะรวยไหม...
เช่นกัน สายลงทุน fundamental หรือ สายเทคนิคที่ดูตัวเลขประกอบ ก็ต้องอัพเดทกันบ้าง เช่น ค่าPE ของตลาดและหุ้น ..!!
...
ในอดีตหลายสิบปีก่อนนั้น pe ต่ำ 10 คือราคาถูก หาเจอง่าย มีให้เลือกมาก
ปัจจุบัน >>>
หุ้นโตช้า ต้อง pe แถวๆ +-20
หุ้นโตกลาง pe 30-40
หุ้นโตเร็ว ที่พื้นฐานดี pe 40-80
หุ้นปั่นแปะ pe 100-1000
...
เพราะอะไร...??
ตลาดหุ้นก็เหมือนตลาดสินทรัพย์ทั่วไป เวลาผ่านไปค่าของเงินเฟ้อและเงินที่ล้นระบบ ทำให้ราคาเพิ่มมากขึ้น แม้มูลค่าเท่าเดิม
ทำไมบ้าน ที่ดิน ยิ่งผ่านไปราคาสูงขึ้น
ทำไมโลหะมีค่า ทองคำ ยิ่งผ่านไปราคาสูงขึ้น
ทำไมสินค้าต่างๆ เช่น ก๋วยเตี๋ยว สมัยก่อน 30บาท สมัยนี้ 40-50 ถือว่าปกติ ทั้งที่คุณภาพก๋วยเตี๋ยวเท่าเดิม...
นั่นเพราะ กาลเวลาที่ผ่านไป เงินเพิ่มขึ้น เงินเฟ้อมากขึ้น ยิ่งทำให้มูลค่าเพิ่มขึ้นนั่นเอง ยิ่งของไหนมีจำกัด ราคาก็จะต้องสูงขึ้นในระยะยาว เป็นกฎของโลกทุนนิยม...
แล้วจำนวนหุ้นมีจำกัดไหม ถ้ามีจำกัด ราคาก็จะต้องเพิ่มขึ้นในระยะยาว แบบบ้านและที่ดิน เช่นกัน..!!
แต่คนเราถือหุ้นมักอ่อนไหว ตกใจ และขี้กลัว เพราะ หุ้นมีราคาวิ่งขึ้นลง ให้เห็นทุกวัน.. ล่อตาล่อใจให้นักลงทุนเข้าไปในวงโคจรของการbet ซื้อๆขายๆ
ลองไปดูบ้านที่ดินสิ ไม่มีจอ ทีวี ตัวเลขวิ่งให้ดูรายวันหรอก ใครจะมาสนใจ วันนี้ราคาลง10000 พรุ่งนี้ราคาขึ้น 10000 ..จะขายบ้านหรือที่ดินวันนี้แล้วพรุ่งนี้ซื้อกลับดีไหม คงตลกพึลึก! แต่เขาสนใจแค่ในระยะยาวราคามันจะเพิ่มแน่นอน บางที 5ปี 10ปี ค่อยเช็คดูราคาครั้งนึง
หุ้นก็เช่นกัน ยิ่งเวลาผ่านไป peเฉลี่ยยิ่งต้องสูงขึ้น ทั้งpeตลาด และ peตัวหุ้นเอง ดังเช่นค่าเฉลี่ยในปัจจุบันที่สูงกว่าในอดีตมาก!
ฉะนั้น ถ้ามีหุ้นพื้นฐานดี ก็แค่ถือไปเรื่อยๆ ผ่านวันเวลาไป ใช้ชีวิตชิลๆ วันนึงหันกลับมามอง คุณก็จะตกใจกับพลังแห่งโลกของทุนนิยม..!! !!
โชคดี