ตอนนี้ผมพึ่งขึ้น ม. ปลาย สายวิทย์ มาได้ 1-2 เดือน มันเริ่มมาจากว่าปิดเทอมโควิดมันยาวมากๆ ผมเลยได้เล่นเกมจนเบื่อ เเล้วก็ได้ไปสนใจการเขียนโค้ด เเล้วผมก็เริ่มเขียนมาจนถึงตอนนี้ก็ 5 เดือนเเล้ว เเล้วผมสนใจมันมากๆ ถึงขนาดนั่งเขียน/ศึกษาทั้งวัน เเทบไม่เล่นเกม เเต่พอผมเปิดเทอม ม ปลาย ผมก็มีเวลาศึกษาการเขียนโค้ดน้อยลง เพราะต้องเรียนทั้งวัน + เคลียร์การบ้าน จนหลังๆมานี้ผมเริ่มรู้สึกไม่อยากเรียนสุดๆ เพราะผมเริ่มคิดว่าเนื้อหาที่เรียนมันเยอะไป เเล้วก็ไร้ประโยชน์สุดๆ
ตัวอย่างเช่น วิชาเคมี ต้องจำตารางธาตุ สูตรหาการจัดเรียงอิเล็กตรอน ธาตุโลหะ/อโลหะ เเละอื่นๆอีกมากมาย วิชาชีวะ การลำเลียงสาร เซลล์ในร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกัน วิชาฟิสิกส์ projectile motion คลื่นสั่นสะเทือน วิชาดาราศาสตร์ วิวัฒนาการดาว โครงสร้างพระอาทิตย์ ประเภทกล้องส่องทางไกล ดาวเทียมต่างๆ วิชาภาษาไทย ศึกษาวรรณคดีเรื่องอิเหนาตอนศึกกระหมังกุหนิง ท่องทำนองเสนาะ เเต่งกลอนสี่สุภาพ วิชาคอมพิวเตอร์ การจัดเรียงรูปเเบบต่างๆ อัลกอริทึม flowchart
วิชาคอมผมได้ใช้จริง เเต่คนอื่นเขาอยากรู้ที่ไหนละครับ คนที่อยากเป็นหมอ ทำไมต้องมาจัดเรียงข้อมูล เเล้วทำไมคนอยากเป็นโปรเเกรมเมอร์ต้องเรียนชีวะละเอียดๆด้วยหละ? ของเเบบนี้เปิดเป็นวิชาเลือกเสรีให้นักเรียนเลือกตามความสนใจดีกว่ามั้ย?
เนื้อหาที่ผมบอกมานี่คือไม่ใช่ทั้งหมดนะครับยังมีอีกหลายอย่าง เเต่ลองคิดดูว่าตื่นเช้ามาเเล้วมีความรู้ที่ยังไงก็ไม่ได้ใช้ยัดเข้ามาในหัวตลอดเวลา เเล้วยังต้องจำอีก
ผมเข้าสายวิทย์เพราะอยากเรียนต่อ Computer Science เเต่ดูสิ่งที่ผมกำลังเรียนตอนนี้สิครับ ถ้าเกิดคิดว่าบางอย่างที่ผมเรียนก็มีอาชีพที่ต้องใช้ เเต่ประเด็นคือทุกคนที่เรียนสายวิทย์เขาไม่ได้อยากเป็นนักเคมี นักดาราศาสตร์ นักคณิตศาสตร์ หรือโปรเเกรมเมอร์ กันหมดไงครับ ถ้าจะเอาวิชาที่มีอาชีพที่ต้องใช้ มาสอนเด็กสายวิทย์ทุกคนเเบบนี้ คนออกเเบบหลักสูตรเขาคิดยังไงของเขาครับ เเทนที่จะให้เด็กเอาเวลาไปค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบ หรือทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ กลับเอาเวลาหลายปีในชีวิตของเด็กมาทำอะไรไร้สาระเเบบนี้มันใช่หรอครับ ตอนนี้ผมไม่มีกำลังใจในการเรียน หรือท่องจำอะไรพวกนี้เลย ถ้าเกิดโควิดไม่มา เเล้วปิดเทอมไม่ได้ยาวกว่าปกติเพราะโควิด ผมก็อาจจะไม่เบื่อการเล่นเกมไปวันๆ เเล้วก็ไม่มีวันได้ลองเขียนโค้ดเลยก็ได้
เห็นต่างยังไงเเสดงความคิดเห็นได้ครับ เผื่อผมคิดพลาดตรงไหนไป
ทำไมระบบการศึกษาไทยถึงเป็นเเบบนี้? ควรเรียนต่อไปไหม?
ตัวอย่างเช่น วิชาเคมี ต้องจำตารางธาตุ สูตรหาการจัดเรียงอิเล็กตรอน ธาตุโลหะ/อโลหะ เเละอื่นๆอีกมากมาย วิชาชีวะ การลำเลียงสาร เซลล์ในร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกัน วิชาฟิสิกส์ projectile motion คลื่นสั่นสะเทือน วิชาดาราศาสตร์ วิวัฒนาการดาว โครงสร้างพระอาทิตย์ ประเภทกล้องส่องทางไกล ดาวเทียมต่างๆ วิชาภาษาไทย ศึกษาวรรณคดีเรื่องอิเหนาตอนศึกกระหมังกุหนิง ท่องทำนองเสนาะ เเต่งกลอนสี่สุภาพ วิชาคอมพิวเตอร์ การจัดเรียงรูปเเบบต่างๆ อัลกอริทึม flowchart
วิชาคอมผมได้ใช้จริง เเต่คนอื่นเขาอยากรู้ที่ไหนละครับ คนที่อยากเป็นหมอ ทำไมต้องมาจัดเรียงข้อมูล เเล้วทำไมคนอยากเป็นโปรเเกรมเมอร์ต้องเรียนชีวะละเอียดๆด้วยหละ? ของเเบบนี้เปิดเป็นวิชาเลือกเสรีให้นักเรียนเลือกตามความสนใจดีกว่ามั้ย?
เนื้อหาที่ผมบอกมานี่คือไม่ใช่ทั้งหมดนะครับยังมีอีกหลายอย่าง เเต่ลองคิดดูว่าตื่นเช้ามาเเล้วมีความรู้ที่ยังไงก็ไม่ได้ใช้ยัดเข้ามาในหัวตลอดเวลา เเล้วยังต้องจำอีก
ผมเข้าสายวิทย์เพราะอยากเรียนต่อ Computer Science เเต่ดูสิ่งที่ผมกำลังเรียนตอนนี้สิครับ ถ้าเกิดคิดว่าบางอย่างที่ผมเรียนก็มีอาชีพที่ต้องใช้ เเต่ประเด็นคือทุกคนที่เรียนสายวิทย์เขาไม่ได้อยากเป็นนักเคมี นักดาราศาสตร์ นักคณิตศาสตร์ หรือโปรเเกรมเมอร์ กันหมดไงครับ ถ้าจะเอาวิชาที่มีอาชีพที่ต้องใช้ มาสอนเด็กสายวิทย์ทุกคนเเบบนี้ คนออกเเบบหลักสูตรเขาคิดยังไงของเขาครับ เเทนที่จะให้เด็กเอาเวลาไปค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบ หรือทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ กลับเอาเวลาหลายปีในชีวิตของเด็กมาทำอะไรไร้สาระเเบบนี้มันใช่หรอครับ ตอนนี้ผมไม่มีกำลังใจในการเรียน หรือท่องจำอะไรพวกนี้เลย ถ้าเกิดโควิดไม่มา เเล้วปิดเทอมไม่ได้ยาวกว่าปกติเพราะโควิด ผมก็อาจจะไม่เบื่อการเล่นเกมไปวันๆ เเล้วก็ไม่มีวันได้ลองเขียนโค้ดเลยก็ได้
เห็นต่างยังไงเเสดงความคิดเห็นได้ครับ เผื่อผมคิดพลาดตรงไหนไป