เขายังรัก หรือคิดถึงเราอยู่ไหมครับ ? ทั้ง ๆ ที่เค้ากำลังจะคบหาดูใจกับคนใหม่แล้ว

ต้องท้าวความก่อนว่า เราเริ่มคบกันตั้งแต่อายุ 13  (เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตอนนี้ผม 24 ปีล่ะครับ) เราอายุเท่ากัน แต่เธอเกิดต้นปี เลยได้เข้าเรียนก่อน ช่วงเวลานั้นอยู่ด้วยกันทุกวัน ผู้ใหญ่รับรู้ด้วยกันทั้งสองฝ่ายอยู่ในสายตาผู้ใหญ่ตลอดการคบหากัน ตลอดเวลาที่คบหากัน เธอตั้งใจเรียนมากเป็นเด็กเรียนดี และเรียนเก่งมากๆ กิจกรรมก็เด่นมาตลอด ส่วนผมเรียนกลางๆ พอไปได้เล่นดนตรีซ่ะมากกว่า เด็กกิจกรรมด้านวงโยธวาทิตของ รร. เราเจอกันเพราะเป็นเด็กกิจกรรมด้วยกัน ทุกเวลาแทบจะตัวติดกันตลอด ทั้งส่งเธอไปเรียนพิเศษ รับกลับบ้าน เวลาซ้อมวงดนตรีเพื่อไปแข่งทักษะต่างๆ ของ รร. มีจะมีผมอยู่รับหน้าที่ตรงนั้นเสมอ พ่อแม่รับรู้ทุกเรื่องและทุกอย่าง เรียนได้ว่าเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันเลยก็ว่าได้ เลิกเรียนตากฝนไปเรียนพิเศษ ตากฝนกลับบ้าน ตลอดทุกปีที่คบกัน ผ่านเรื่องราวทุกข์สุข ความลำบากต่างๆมาด้วยกัน เป็นเวลา 3 ปีเศษๆ ต้องบอกก่อนว่าเราสองคน จนมาก ครอบครัวยากจน จึงต้องผลักดันตัวเองทุกอย่าง ชยันเรียน ตั้งใจเรียน แต่ก็ต่างมีความฝันที่ต่างกัน ผมอยากเป็นครูสอน ส่วนเธอตอนแรกก็อยากเป็นครู วาดฝันไว้ด้วยกันหลายๆอย่าง แต่ทุกอย่างก็ดันมาจบลงเพราะพียงความคะนองของผมเอง ผมปิ๊งสาวอื่น 555 ใช่แล้วล่ะครับ ผมผิดเอง แต่อยากบอกก่อนว่าตอนนั้นผมจัดการกับอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ชอบ และรักในที่นี้คือ เหมือนเป็นแฟนติ่งเกาหลีอ่ะครับ แค่แว็บๆ หลงไหล ลึกๆในความรู้สึกนั้น ผมไม่อยากให้เธอรับรู้ กลัวเธอจะเสียใจ เลยเลิกที่จะไม่บอกเธอ แต่บอกเลิกเธอไปเลย 55555ดูความโง่ของผมสิ เธอเสียใจมาก พีคกว่านั้นคือ พ่อเธอพึ่งเสียชีวิตได้ เดือนกว่า ๆ  เพราะโรคตับ ตอนนั้นผมก็อยู่ช่วยงานทุกวัน ให้กำลังใจเธอทุกวัน ด้วยความเป็นเด็กทำอะไรก็ยังไม่รอบคอบทุกอย่างเลยกลายเป็นแบบนี้ เธอเสียใจที่พึ่งเสียพ่อ แล้วดันต้องมาเจอแฟนทิ้งอีก ผมมันเลวมากเลย เธอร้องให้เป็นเวลา 6 เดือน โดยมีแม่ปลอบ ตอนนั้นแม่เค้าก็โกรธเราเหมือนกันที่ทำแบบนี้ แม่ทำทุกอย่างที่เธออยากได้ เพื่อให้ลืมผม ทั้งให้เงินเยอะๆ ไปเที่ยว ไปเล่น ไปทำสิ่งที่ผมยังไม่เคยพาทำ 

จนเวลาผ่านไป 6 เดือน ผมคิดได้เลยไปขอโทษแม่เค้า ครอบครัวเค้า ผมยอมรับผิดทุกอย่างอยากจะโกรธหรือจะเกลียดก็แล้วแต่เลย ผมน้อมรับ แต่ทุกคนรู้ดีว่าตอนคบกันผมเป็นคนแบบใหน ครอบครัวเธอ พี่ป้าน้า อา ของเธอชอบนิสัยผมทุกคน ผมเลยตัดสินใจตามง้อเธอ ครอบครัวของเธอก็ยินดี และสนับสนุนเป็นกำลังใจช่วยทุกทาง เขาคงใจว่าเราเด็ก คงยังคิดอะไรไม่เป็น ไม่รอบคอบ แต่ก็ยังให้โอกาศผม แม่เธอนี้ตัวดีในการเชียร์เลย 555 "เอาให้ได้นะลูก ง้อเธอให้ได้ เค้าจะคบใคร แม่ก็ไม่ห้ามหรอก แล้วแต่เธอไป แต่แม่เชียร์เองน่ะ" นี้คือคำที่แม่เธอพูดกับผม 

ผมตามง้อเธอเป็นเวลา 2 ปี ทำทุกอย่างเหมือนเดิม แต่แค่น้อยลง ไม่เหมือนเมื่อก่อน ปกติถ้าไปเรียนพิเศษผมจะไปส่ง แต่เธอบางทีก็เดินไปเอง บางวันไปกับเพื่อนอาศัยรถเพื่อนไป บางทีไม่ไหวก็โทรให้ผมไปส่ง บางวันฝนตกก็โทรให้ผมรับกลับบ้าน บางทีเธอก็นั่งรถโดยสาร 2 แถวบ้าง ผมเคยขอคืนดีกับเธอแต่โดนปฏิเสธทุกครั้ง เป็นบ่อยจนเธอน่าจะรำคาญ จนกลายเป็นเกลียดเลยก็ว่าได้ เธอไม่คุย ไม่อยากเจอหน้า ไม่อยากให้มาที่บ้านเธออีก ขอให้ผมเลิกยุ่งกับเธอสักที ผมเสียใจมาก เป็นแบบนี้ประมาณ ปีที่2 จนเราอายุ 17  ตลอดเวลาที่เลิกกันเธอตั้งใจมากกว่าเดิม เพราะเธออยากเป็นแพทย์ เพราะเธอเสียพ่อไปเพราะโรค ความมุ่งมั่นนั้นทำเธอ โฟกัสแค่สิ่งเดียวคือเรียน เธอทำกิริยาที่ผมไม่เคยเห็นใส่ผมทุกครั้ง ไม่ว่าจะด่า ดึงหน้าไม่พอใจ หลบหน้า ใส่ผมตลอด มีมากกว่านี้ผมพูดไม่หมด แต่อยู่กับคนอื่นเธอจะปกติ พูดง่ายๆ ห้ามมีผมอยู่ในระยะ 50 เมตรเลยก็ว่าได้ 55555 จนผมทนการกระทำนั้นไม่ไหว เลยขอบายทุกอย่าง บอกครอบครัวเธอว่าผมทำไม่สำเร็จ ผมขอโทษพวกเค้าที่ผมทำไม่ได้ และขอทำตามที่เธอต้องการคือ ออกไปจากชีวิตเธอ ผมเลยบอกแม่เธอว่าผมจะไปล่ะนะ เลิกยุ่งกับเธอทุกอย่าง ไปทั้งๆที่ยังรักเค้า ไม่ส่องเฟสเค้า ไม่โทรหา ไม่ทำอะไรทั้งสิ้น เลิกที่จะปล่อยให้เธอได้เจอสิ่งที่ดีกว่า ผมแค่นักดนตรีๆ กระจอกๆ คนนึ่ง ตอนนั้นเธอ ม.6 กำลังจะสอบแพทย์ ม. มหิดล และก็ติดเป็นที่เรียบร้อย และเธอก็มีแฟนใหม่ก่อนไปเรียนที่ กรุงเทพฯ ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย จนเพื่อนมาถามว่า ง้อเค้าไปถึงใหนแล้ว ทำไมเห็นเค้าไปกับคนนั้นบ่อยจัง (แฟนใหม่เธอ) ผมด้วยความไม่รู้ก็เลยโทรไปหาแม่เธอว่าจริงไหมที่เธอมีแฟนใหม่ แม่ก็เลยบอกความจริงเรื่องนั้นกับผมทุกอย่าง โอเคผมเข้าใจล่ะ แต่ก็ไม่ได้โกรธหรือเกลียดอะไร ยินดีกับเค้าด้วย เวลาผ่านไป 2 ปี ผมไม่เคยยุ่งกับเธอเลย เธอมีความสุขกับแฟนใหม่มาก ครอบครัวเค้ารักเธอ พาเธอไปเที่ยว ลงรูปคู่ ซึ่งแฟนใหม่เค้า ครอบครัวเค้าเป็นครูหมดบ้านเลย คงดีใจที่จะได้สะใภ้หมอละมั้ง 555 เอาใจใหญ่เลย ผมก็อยู่เสียใจกับเรื่องนี้คนเดียว รักแต่ทำอะไรไม่ได้มาตลอด ได้แค่รับรู้แล้วก็นั่งเสียใจ จนผมได้เริ่มเล่นดนตรีกลางคืนมีงานทำตั้งแต่ 17 ปี เล่นตามร้านอาหารใน จ. และต่าง จ. ได้ 1 ปีกว่าๆ และเธอก็เลิกกับแฟนคนนี้ และเหตุการณืนี้ก็เริ่ม ขึ้น 

ผมมีแฟนใหม่ ตอนอายุ 18 ปี เป็นรุ่นน้อง เธอรับรู้และทักมาหาผมเลยว่าคบกับน้องคนนี้หรอ ซึ่งเธอรู้จักและสนิทกันเป็นอย่างดี ผมคิดว่าคงกลับไปหาเธอไม่ได้อีกตลอดไป ผมพยายามจะหนีออกจากชีวิตเธอ โดยการมีคนใหม่เพื่อให้ลืมคนเก่าซ่ะ  ไม่อยากเข้าไปยุ่งให้เธอลำบากใจ พอผมมีแฟนเหตุการณกลับพลิก เธอกลับมาคุยกับผมเป็นระยะๆ อาจจะเพราะเราโตขึ้น เลยมองเรื่องที่ผ่านมาว่าเด็กๆไปเลย ถามสารทุกข์ สุขดิบกันไป คบกับน้องเป็นไงบ้าง เราคุยกันดีๆ แบบงงๆ ทั้งที่ตอนผมตามง้อเธอ คำพูดของเธอนับคำได้เลย ไม่เคยเอ่ยแม้แต่ชื่อผม มีแต่คำว่ามัน มัน มัน อย่างเดียว เป็นแบบนี้ตลอกเวลาที่ผมคบกับน้องซึ่งทะเลาะกันเพราะเธอ บ่อยมาก น้องก็หึงเธอ ต้องบอกก่อนว่าผมพยายามหนี ผมไม่เคยทักหาเธอ โทรหาก็ไม่เคย น้องก็รับรู้ตลอดว่าผมไม่เคยทักหาเธอ หรือโทรหาเลย ผมบอกตลอดว่าเธอทักหาผมเอง จนสุดท้ายผมโดนทิ้ง เพราะน้องหาว่าผมยังไม่ลืมแฟนเก่า น้องไปมีคนใหม่ ผมถูกทิ้งให้อ้างว้างอีกครั้ง แต่เธอก็ยังทักมาถามว่า ทำไมเลิกกัน ? แล้วจะเอาไงต่อ เวลานั้นผมแทบไม่อยากคุยกับใครเลย ผมก็เกือบจะลืมเธอได้ล่ะ ผมรักน้องไปแล้ว น้องทำให้ผมมีความสุขมาก ตลอดเวลาที่คบกับน้อง 2 ปี แต่เลิกกันเพราะแฟนเก่า ผมเลยไม่บอกเธอว่าเธอกันกับน้องเพราะอะไร ไม่เสียให้เธอรู้สึกผิด เพราะลึกเรื่องราวที่ผมและเธอผ่านมาด้วยกันก็ยังไม่ลืม เรื่องราวดีๆที่มีให้กัน หลังจากนั้นเราก็คุยกันมาตลอดอีกครั้ง แต่ไม่ได้คบกันนะครับ ลึกๆผมก็หวังว่าจะได้คบกัน แต่ขอให้เธอเรียนจบก่อน เพราะเรียนแพทย์คงเรียนหนัก เดียวจะไปกสวนเวลาอ่านหหนังสือของเธอ นานๆ เราจะคุยกันที มีอะไรก็ช่วยเหลือกันตลอด เธอทำโครงการอะไรต่างๆที่เกี่ยวกับที่เรียน ต้องการคนผมก็ไปช่วย บางทีไปร้องเพลงตามงานต่างๆ ผมก็รับไปส่ง รับไปแต่งหน้า ผมทำงานได้บางทีเงินเหลือๆ ก็ซื้อของใช้ให้เธอ ทั้งเสื้อผ้า ชุด กระเป๋า รองเท้า ให้เธอมาตลอด 4 ปี ตอนเราคบกันเธออยากได้นั่นได้นี้ ผมไม่มีเงินเลยซื้อให้เธอไม่ได้เลย เพราะเราจนมากตอนมีงานทำเลยอยากชดใช้ความรู้นั้นให้เธอคืน ของใช้นี้ติดแบนด์นำทั้งนั้น ผมเรียนไปทำงานไปด้วย ก็พอได้ 20k - 30k ได้ครับ ส่งตัวเองเรียน ทำแบบนี้จนเธอเรียนจบ ผมเก็บความรู้สึกนี้ไม่ได้เลยขอเปิดใจกับเธอแบบผู้ใหญ่ คุยกันแบบผู้ใหญ่ที่โตขึ้น ผมบอกเธอไปว่า ผมยังรักเธออยู่ คิดถึงอยู่ ตลอดเวลาที่คบกับน้องก็เกือบลืมได้แล้ว แต่เธอกลับมาคุยกับเราทำไม เราไม่เข้าใจและผมก็ไม่เคยถาม เพราะเมื่อก่อนเธอเกลียดผมเข้าใส้เลย เห็นหน้ายังจะไม่ได้ ก็เลยถามเธอไปว่าว่าเธอคิดว่าไง เธอก็บอกว่าไม่ได้รู้สึกอะไรที่ผ่านมาก็ถือว่าเป็นเพื่อนกัน เลิกกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันได้ คุยกันได้ ผมก็เลยบอกความจริงทุกอย่างที่ผมรู้สึก ตั้งแต่เราคบกันจนเลิกกัน โดยไม่โกหกอะไรทั้งสิ้น และไม่อยากหลอกตัวเองไปตลอดว่ารักเค้าแต่ไม่พูด ผมเทหมดหน้าตักเลย สุดท้ายก็ล้มเหลวเหมือนเดิม เธอรับรู้เรื่องที่ผมทเลาะกับน้องเพราะเธอเป็นต้นเหตุ เธอขอโทษผม ผมก็ไม่ได้โกรธอะไร แต่ขอถ้าอยู่ในสถานะแบบนี้กับคนอื่นก็อย่าไปหาทำล่ะ จะกลายเป็นมือที่สามโดยไม่รู้ตัว และสุดท้ายเราเคลียร์ปัญหาทุกอย่างในชีวิตเราสองคนจนจบ จบกันด้วยดีไม่โกรธเคืองแค้นอะไร และผมขอเธอเป็นสิ่งสุดท้ายคือ 

ขอให้เราอย่าได้เจอกันอีกตลอดไป ให้เรากลายเป็นแค่คนเคยรู้จักกัน ไม่ต้องพบ พูดคุย ทุกอย่าง ถ้าบังเอิญเจอกันก็ไม่ต้องทักท้วงอะไรทั้งนั้น ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างไปเติบโตไป เธอก็ตอบตกลง ผมบอกไปว่าผมรักเธอ แต่ผมขอเวลาทำใจหน่อย สัก 5 ถึง10ปี อย่างพึ่งมาเจอกันเลย และอย่าเจอกันอีกตลอดไป เธอรับคำขอผมไป และเราจบกันด้วยดี 

ปีนี้ 2564 เธอเริ่มทำงานที่โรงพยาบาลวันแรก ผมก็ลองแอบๆไปส่องเฟสเค้า เค้าก็ยังใส่ชุดที่ผมซื้อให้ไปทำงานวันแรก ใส่รองเท้าที่ซื้อให้ และเธอก็กำลังดูใจกับคนคนนึ่งอยู่ น่าจะเจอกันตอนเรียน เค้าเรียนเภสัชกร ม.สารคาม คงเจอกันที่โคราชที่เธอเรียน Extern  

ผมเลยงงว่า สรุปแล้ว เธอไม่ได้คิดอะไรกับผมจริงๆใช่ไหม ทำไมยังใส่เสื้อตัวนั้น รองเท้าคู่นั้น หรือผมแค่คิดไปเอง ตอนนี้ผมก็ยังลืมเธอไม่ได้เลย บางวัน Down หนักมาก คิดถึงเค้าแต่ต้องทนเจ็บ และผ่านมันไปให้ได้ เค้าไม่ได้รักแล้วเราจะอยู่ทำไมให้เจ็บปวด ที่ผ่านมามันก็เจ็บปวดพอแล้ว แล้วผมจะหาทางผ่านเรื่องนี้ยังไงดี ตอนนี้งานก็ไม่ได้ทำเพราะโควิด เงินก็ไม่มี จมทุกทางเลย เตรียดทุกวัน คิดถึงเค้าก็ทำอะไรไม่ได้  ฝครช่วยผมได้ช่วยให้ผมผ่านความรู้สึกนี้ที
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่