อยากให้ตั้งชื่อเรื่องนี้หน่อยครับ

กระทู้สนทนา
เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 สค. 2564 นี้ ขณะผมกำลังขับรถอยู่บนถนนดินแดงมุ่งหน้าตรงไปทางสามเหลี่ยมดินแดงจะเอารถไปเติมน้ำมัน เพราะน้ำมันในถังมีไม่ถึงครึ่งขีด ขณะนั้นอยู่ๆ รถก็เข้าเกียรอื่นไม่ได้เข้าได้แต่เกียรเดินหน้าเกียรเดียว ขยับเปลี่ยนเกียรว่างเกียรถอยไรไม่ได้เลยคงค้างอยู่แต่ตรงเกียร D อย่างเดียว มารู้ก็ตอนรถติดมากๆ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างหน้า ดูข่าวก็เลยรู้ว่ามีม็อบตรงสามเหลี่ยมดินแดงทางที่จะไปนั่นล่ะห่างจากจุดม็อบไม่ถึง 100 เมตร น้ำมันก็กำลังจะหมด พะว้าพะวนมากเลยรีบโทรไปหาแฟนว่าจะสั่งเสีย เอ๊ย! ไม่ใช่... โทรศัพท์ก็ดันมารวนตอนนั้นพอดี เปิดเครื่องแล้วมันก็วูบดับไป เป็นอย่างนี้ตลอดหลายครั้งมาก อะไรจะมาเป็นตอนนี้นะ ผมก็เลยกดรีเซท ก็เลยกลับมาใช้ได้ เลยรีบโทรไปหาแฟน โทรติดแต่แฟนตัดสายทิ้งตลอด งอนอะไรอีกเนี่ย...มารู้ตอนหลังว่าใช้เบอร์ที่เล่นเน็ทโทรไปและแฟนก็จำเบอร์ไม่ได้ว่าเป็นเบอร์ผม และเคยบอกว่าถ้ามีเบอร์แปลกๆ อย่ารับเด็ดขาด แต่สักครู่แฟนก็โทรไลน์เข้ามา ประโยคแรกที่ถามคือ"ตุ้มโทรหาวรรณเหรอ" ผมก็บ่นว่าไปว่าทำไมไม่รับ และก็บอกว่ากำลังเจอเหตุอะไรบ้าง เธอก็บอกว่าจะไปหาที่จุดเกิดเหตุ ผมเลยบอกไม่ต้องมาหรอก ที่โทรไปก็แค่จะแจ้งให้รู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น ถ้ามาก็จะทำให้เป็นห่วงอีก เดี๋ยวจะหาทางเอาตัวรอดเอง และแล้วก็มาคิดว่าจะทำไงกับรถดี ถ้าดับเครื่องรถก็จะสตาร์ทไม่ได้เพราะเกียรมันเปลี่ยนไม่ได้ค้างอยู่ตรงเกียร D  ถ้าไม่ดับเครื่อง รถน้ำมันก็กำลังจะหมด แถมรถเข้าเกียรถอยไม่ได้อีก สักพักก็มีคนขี่มอไซค์มาเคาะหลังรถ ปัง ปัง ปัง ให้เลื่อนรถหน่อย ผมก็ลงมาบอกว่ารถมีปัญหาเข้าเกียรไม่ได้ เขาก็ขอโทษและก็เลยไป ผมมาคิดกับตัวเองในขณะนั้นว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับผมว่ะเนี่ย และแล้วก็นึกถึงแม่พระ และภาวนาขอท่านว่าขอให้ผ่านเหตุการนี้ไปด้วยดี ผมจะกลับไปฟังมิสซาออนไลน์หลังจากไม่ได้ฟังมา 3 อาทิตย์แล้ว สักครู่ผมก็มองไปข้างหน้าเห็นกลุ่มควันสีดำพวยพุ่งขึ้นฟ้าตรงบริเวณป้อมตำรวจตรงบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง น่าจะเป็นม็อบกำลังเผาแน่เลย และก็ได้ยินเสียงปืนหรือประทัดดังขึ้นตรงจุดบริเวณนั้นด้วย สักพักก็มีคนมาเคาะตัวถังรถอีกทั้งสองข้าง ผมก็เลยเปิดกระจกรถลง เขาบอกให้กลับรถไปทางเก่า ข้างหน้าไปไม่ได้แล้ว ผมก็เลยบอกว่าเปลี่ยนเกียรไม่ได้เลย เดินหน้าได้อย่างเดียว เขาก็เลยตะโกนบอกกัน มีพี่คนนึงแกคงเข้าใจเรื่องรถก็เลยให้ผมชิดซ้ายเข้าข้างทางแล้วจะได้หักเลี้ยวกลับโดยไม่ต้องเข้าเกียรถอย อีกข้างก็มีคนคอยโบกให้รถคันอื่นหลบให้ผมเลี้ยวกลับก่อน ผมก็เลยหักเลี้ยวขวาสุดและค่อยๆ เคลื่อนตัวเลี้ยวออกไป พอรถใกล้ถึงเลนสุดท้ายก็จะเป็นฟุตปาดเล็กๆแค่คนเดินได้แถมมีราวสะพานตรงอุโมงลอดจากสามเหลี่ยมดินแดงขึ้นมา ขณะนั้นผมลุ้นตัวโก่งว่าจะเลี้ยวพ้นมั๊ยเพราะมันเหลือระยะไม่ถึงหนึ่งฟุตถ้าไม่พันก็คงต้องครูดกับราวสะพานเพื่อเอารถกลับให้ได้ สุดท้ายสังเกตว่าล้อรถข้างซ้ายหน้าจะสัมผัสกับริมฟุตบาทตรงเกาะกลางหรือไม่ ปรากฏ… ไม่รู้สึกว่าสัมผัสเลย...และแล้ว รถผมก็ตั้งลำหันหน้ากลับอีกด้านโดยที่ไม่โดนอะไรเลย (ขอบคุณพระเจ้า) ผมเลยตะโกนขอบคุณคนที่ช่วยกันรถให้ แล้วผมก็รีบขับไปทางสามแยกประชาสงเคราะห์ หรือสามแยกโบสถ์แม่พระและเลี้ยวรถเข้าจอดที่จอดรถที่บ้าน อย่างปลอดภัย เรื่องเกียรรถเอาไว้ก่อนรีบดับเครื่องและโทรคุยกับแฟนว่าถึงบ้านแล้วนะ...

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
"ความเชื่อทำให้เจ้ารอด"

และในคืนวันนั้นหลังอาบน้ำกินข้าวเย็นเสร็จผมก็เปิดเฟสบุ๊ค ฟังมิสซาและสวดใช้โทษบาปเรียบร้อยตามที่ได้สัญญากับแม่พระแล้ว… อาแมน...

มีเรื่องประหลาดอีกเรื่องในช่วงวันสองวันก่อนเหตุการณ์นี้คือมีต่อมาทำรังตรงระเบียงหน้าบาน แต่แฟนผมแกสวดมูเตวู(ความเชื่อส่วนบุคคล)  เขาก็เลยขยับไปทำรังบ้านข้างๆกัน ไม่ถึงวันรังใหญ่โตมาก เกือบเมตร มองจากข้างนอกมาเหมือนยานแม่(UFO) กำลังลอยอยู่งั้นแหละ ก่อนผมออกไปเติมน้ำมัน ผมยังมองเขากำลังยั้วเยี้ยอยู่เลย พอกลับมาถึงบ้านตอนเย็นหลังผ่านเหตุการณ์เหลือเชื่อมาแล้ว แฟนก็บอกผมก่อนเข้าบ้านว่า "ยานแม่ไปแล้วนะ" ห๊า???..จริงหรือเนี่ย แล้วผมก็เห็นด้วยตาตัวเอง เพียงแค่ไม่ถึงสองชั่วโมง ยานแม่สลายตัวเองจากต่อนับหมื่นๆตัวเกาะทำรังอยู่ ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของยานเลย ไม่มีต่อเหลือแม้แต่ตัวเดียว คุณเชื่อหรือไม่?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่