สวัสดีค่ะ ผ่านมาเกือบครึ่งเทอมแล้วกับการเรียนออนไลน์ของเด็กๆ อยากจะมาแชร์ปสก. และปัญหาในด้านต่างๆ เผื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครอง และคุณครูที่กำลัง struggle อยู่ตอนนี้ หากมีจุดไหนที่เขียนผิด ต้องขออภัยด้วยนะคะ
ขออนุญาตเกริ่นก่อนนะคะ น้องที่ดูอยู่มี 2 คน เป็นพี่น้องกัน อยู่ประถมต้น (grade 1-3) ทั้งคู่ค่ะ นานาชาติคนนึง โรงเรียนไทยแบบ English program คนนึงค่ะ ซึ่งจะบอกว่าเป็นตัวอย่างของ worst case กับ better case เลยก็ว่าได้ เพราะระบบของโรงเรียนทั้งสองแบบ แตกต่างกันมากจริงๆค่ะ และจากเท่าที่เห็นหลายๆกระทู้บ่นว่าลูกไม่ทำการบ้านบ้าง ไม่ตั้งใจเรียน ไม่เข้าเรียนบ้าง หารู้ไม่ว่าปัญหาจริงๆแล้ว อาจไม่ได้อยู่ที่เด็กอย่างเดียวค่ะ อยากให้ใจเย็นๆและลองสังเกตการเรียนของน้องดูค่ะ
อย่างแรกเลยคือปัญหาอาจอยู่ที่ระบบการเรียนของน้องค่ะ ขออนุญาตเขียนเป็นข้อๆ และใส่สปอบไว้ เพื่อให้กระชับค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้1. คุณครูไม่ตรงต่อเวลา - จุดนี้สำคัญมาก และเป็นข้อแตกต่างสำคัญของเด็กทั้งสองคน น้องEP ในช่วงแรก คุณครูเข้าสอนเลทเกือบชั่วโมง หลังๆมาดีขึ้น เลท 10 นาทีบ้าง 20 นาทีบ้าง ซึ่งในวัยประถมแบบนี้ การที่น้องจะรับผิดชอบตัวเองได้ น้องต้องเรียนรู้ทุกอย่างให้เป็น routine ค่ะ การที่ครูเลทแค่ไม่กี่นาที ไม่ใช่ว่าเด็กจะสามารถนั่งรอคุณครูได้ค่ะ
2. มารยาทในการเรียนออนไลน์ - เด็กๆทุกคนต้อง ปิดไมค์ เปิดกล้อง “ทุก class” เพื่อให้คุณครูได้โฟกัสกับเด็กแต่ละคนได้ หากใครปิดกล้องต้องเรียก โทรหา ให้มี consequence ของการไม่ present ในคลาส และหากนักเรียนต้องการพูดต้องยกมือ (มีปุ่มให้ยกมือในโปรแกรม) แล้วรอให้คุณครูเรียกเพื่อพูดค่ะ เพราะปัญหาที่พบคือ เด็กๆแย่งกันพูด รวมถึงเสียงของผู้ปกครองที่แทรกเข้ามา ทำให้เด็กๆคนอื่นๆที่ไม่มีผู้ปกครองคุมอยู่ ไม่เข้าใจสิ่งที่คุณครูสอน และตามการบ้านไม่ทัน และที่ไม่เข้าใจคือ คุณครูเกิดอาการ “เกรงใจ” ไม่กล้าปิดไมค์เด็ก จะปิดทีก็ต้องพูดเยอะ ขู่ก่อนปิด ไม่เข้าใจจะพูดอะไรให้มากความ ซึ่งอาจจะเป็นเฉพาะครูคนนี้ก็ได้ค่ะ😅 (ขอบ่นนิดนึงค่ะ555)
3. โปรแกรมที่ใช้ - โปรแกรมที่แนะนำคือ google meet ค่ะ ไม่มีกำหนดเวลา ใช้งานง่าย ไอคอนหรือปุ่มค่อนข้าง simple และเสถียร ซึ่งในส่วนนี้ไม่ทราบว่าในมีแนวทางจากกระทรวงแนะนำมาบ้างมั้ย แต่จากที่เห็น เหมือน program zoom จะถูกใช้มากกว่า เราขอบอกเลยว่า zoom ไม่ใช่โปรแกรมฟรีค่ะ มีกำหนดให้ฟรี 40 นาทีเท่านั้น ดังนั้น น้องEP ที่เรียนวิชาละ 1 ชั่วโมง และทางโรงเรียนไม่ยอมจ่ายค่าโปรแกรม ก็จะเด้งออกเมื่อหมด 40 นาที และต้องเข้าใหม่ ทำให้น้อง งงและไม่รู้ว่าต้องเข้าใหม่หรือไม่ ต้องไลน์ถามกันตลอด บางครั้งน้องก็ไม่ได้สนใจที่จะเข้าใหม่ ซึ่งถ้าหากไม่มีคนช่วยดูอาจทำให้โดนเช็คขาดได้
4. การส่งงาน - ส่วนใหญ่อาจใช้วิธีการส่งไลน์ ซึ่งควรทำเป็นไลน์กลุ่มหรือแยกอัลบั้มไว้ให้ชัดเจน และหากเป็นไปได้ อยากให้คุณครูลองใช้แอพ google classroom หรือ seesaw ในการส่งงาน หรือโพสประกาศต่างๆ เพราะเป็นแอพที่สามารถใช้โทรศัพท์โหลดได้ จัดระเบียบวิชาได้ง่าย ไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ และแยกออกจากแอพในขีวิตประจำวัน หากมีคำสั่งหรือการบ้านอะไรก็จะหาได้ง่าย
5. สรุปการบ้านหลังเลิกเรียน - คุณครูประจำชั้นควรสรุปการบ้านแต่ละวิชาให้หลังเลิกเรียน “อย่างเป็นระเบียบ” ไม่ว่าจะใช้แอพไหน ควรเขียนเป็น note ให้เห็นชัดเจนว่าการบ้านวันนี้คืออะไร ส่งเมื่อไร และที่ไหน เพื่อให้ผู้ปกครองตามการบ้านทีหลังให้ได้ ดังนั้นระบบการส่งงานที่เป็นระบบเดียวกันทุกวิชาจะทำให้ทุกใ่ายทำงานง่ายขึ้นค่ะ
6. คุณครู และผู้ปกครอง ต้องเปิดใจเรียนรู้แอพใหม่ๆ เข้าใจค่ะว่าครูบางท่านค่อนข้างสูงวัยแล้ว แต่อยากให้รู้ว่าเด็กๆเองก็ต้องเรียนรู้ใหม่เหมือนกันค่ะ ทุกแอพที่แนะนำไปเป็นแอพสำหรับเด็ก และทำมาเพื่อการเรียน ดังนั้นการใช้งานแอพไม่ยากอย่างที่คิดค่ะ อยากให้เรียนรู้ไปด้วยกัน
จริงๆมีอีกหลายจุดที่อยากแชร์ค่ะ ทั้งการบริหารเวลาเรียน (60 นาทีสำหรับประถมนั้นมากไปค่ะ ควรแบ่งเป็น 2 กลุ่ม เรียนกลุ่มละ 30 นาที เน้นบทเรียนที่จำเป็นต่อวัยของน้อง) และอีกมากมาย แต่กลัวจะเยอะไป ขอเข้าเรื่องการเสนอแนะสำหรับผู้ปกครอง หรือใครที่ดูแลเด็กอยู่เลยนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้1. พยายามสร้างบรรยากาศเรียนให้น้อง - โต๊ะเรียนคือโต๊ะเรียน ห้ามย้ายที่ไปมา ห้ามเอาขนมมาวาง เพื่อป้องกันการถูกรบกวนด้วยขนมล่อตาล่อใจต่างๆ
2. ไม่รบกวนเด็กเวลาเรียน - ถึงเวลาคุณครูสอน ก็ให้คุณครูสอนไปค่ะ อย่าพยายามพูดแทรก หรือขัดอะไร เพราะต้องให้เด็กมีสมาธิที่สุดค่ะ ไม่งั้นน้องจะงงว่าต้องสนใจใครดี ฝึกให้น้องมีสมาธิด้วยตัวเอง อาจจะมีช้าบ้าง (เด็กอายุ 6-9 ขวบเองนะคะ) ก็ต้องรอค่ะ ยังไงเค้าก็จะตามทันในที่สุด ซึ่งในส่วนนี้การที่เพื่อนคนอื่นปิดไมค์จะมีผลมากเพราะเด็กๆจะได้ฟังคำสั่งครูรู้เรื่อง ไม่มีเสียงรบกวน หากเห็นว่าน้องไม่สนใจจริงๆจึงค่อยเริ่มเตือนค่ะ อาจจะแว้บมาดูบ้างเป็นช่วงๆ เมื่อเรียนเสร็จค่อยมาเช็คการบ้านกันอีกที
3. ตารางสอนเป็น link - ทางโรงเรียนควรใช้ google sheet หรือ excel ใส่ลิ้งค์แต่ละวิชาให้อยู่ในตารางสอนอย่างชัดเจน หากโรงเรียนไม่ได้ทำไว้ให้ ผู้ปกครองก็สามารถทำได้ไม่ยากค่ะ
4. ตั้งเวลา - ตั้งเวลาเริ่มเรียนของแต่ละวิชา เมื่อเสียงเตือนดังก็สอนให้น้องรีบเข้าลิ้งค์ของวิชาเรียน ซึ่งหลังจากนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของคุณครูที่จะต้องเข้าสอนให้ตรงเวลา หากไม่ตรงเวลาไม่ควรเช็คนักเรียนว่าขาดเรียนค่ะ
5. พูดดีๆ และกระชับ - เด็กยังไงก็คือเด็กค่ะ สมาธิยังน้อย และไม่สามารถโฟกัสกับประโยคยาวๆได้ เพราะฉะนั้นคุณครูและผู้ปกครอง ควรเรียบเรียงการพูดให้กระชับและเข้าใจ ไม่บ่นสาธยายยาวๆ เพราะเด็กจะจับใจความไม่ได้ค่ะ ส่วนตัวอยากแชร์ว่าเคยเห็นผู้ปกครอง ‘ด่า’ ลูกตอนคุณครูสั่งให้เปิดหนังสือเรียน และทำแบบฝึกหัด (ใช้คำว่าด่าเพราะคุณแม่ขึ้น กู กับน้องขณะที่เรียน บ่นยาวมาก แถมไม่ยอมปิดเสียง) คุณแม่ และเด็กๆทุกคนในคลาสได้เห็นพฤติกรรมนี้ และรู้สึกแย่แทนน้องคนนั้นมากๆ
6. จัดหนังสือเรียนสำหรับวันถัดไปหลังเลิกเรียน - ตรงตัวค่ะ ทำทุกอย่างให้เป็นระบบ พาเด็กทำแค่ 3-5 วันแรก หลังจากนั้นก็แค่คอยเช็คก็พอค่ะ เผลอๆเด็กเป็นคนเตือนเราเองเลยด้วยซ้ำว่าขอตั้งเวลาก่อนนนนนนนน ขอจัดหนังสือก่อนนนนนน😂
7. ชมเขาเมื่อทำดี ให้รางวัล - แล้วแต่บ้านเลยค่ะ เด็กๆชอบทำอะไร ชอบกินอะไร เล่นเกมอะไร ถือเป็นรางวัลเล็กๆน้อยๆสำหรับเค้า
8. เหนื่อยก็พัก - สอนให้น้องพูดค่ะ ถ้าเหนื่อยก็บอก บางโรงเรียนแค่เด็กประถมก็ให้เขียนหนังสือเป็นหน้าแล้ว ขอแค่เด็กพูดออกมา แล้วตั้งเวลาพัก 5-10 นาที ผู้ปกครองก็ได้พักสมองด้วย ไม่หงุดหงิด ไม่งอแงใส่กันค่ะ
หวังว่าจะมีประโยชน์นะคะ ถึงเวลามีประชุมผู้ปกครองก็ลองแนะนำทางโรงเรียนกันดูค่ะ ไม่รู้ว่าการเรียนออนไลน์จะยาวนานแค่ไหน เด็กๆต้องรอดค่ะ
หากใครมีประสบการณ์อะไรอยากแชร์ก็มาแชร์กันได้นะคะ เป็นกำลังใจให้คุณครูและผู้ปกครองทุกท่านค่ะ
แชร์ประสบการณ์ดูแลเด็กประถมเรียนออนไลน์
ขออนุญาตเกริ่นก่อนนะคะ น้องที่ดูอยู่มี 2 คน เป็นพี่น้องกัน อยู่ประถมต้น (grade 1-3) ทั้งคู่ค่ะ นานาชาติคนนึง โรงเรียนไทยแบบ English program คนนึงค่ะ ซึ่งจะบอกว่าเป็นตัวอย่างของ worst case กับ better case เลยก็ว่าได้ เพราะระบบของโรงเรียนทั้งสองแบบ แตกต่างกันมากจริงๆค่ะ และจากเท่าที่เห็นหลายๆกระทู้บ่นว่าลูกไม่ทำการบ้านบ้าง ไม่ตั้งใจเรียน ไม่เข้าเรียนบ้าง หารู้ไม่ว่าปัญหาจริงๆแล้ว อาจไม่ได้อยู่ที่เด็กอย่างเดียวค่ะ อยากให้ใจเย็นๆและลองสังเกตการเรียนของน้องดูค่ะ
อย่างแรกเลยคือปัญหาอาจอยู่ที่ระบบการเรียนของน้องค่ะ ขออนุญาตเขียนเป็นข้อๆ และใส่สปอบไว้ เพื่อให้กระชับค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จริงๆมีอีกหลายจุดที่อยากแชร์ค่ะ ทั้งการบริหารเวลาเรียน (60 นาทีสำหรับประถมนั้นมากไปค่ะ ควรแบ่งเป็น 2 กลุ่ม เรียนกลุ่มละ 30 นาที เน้นบทเรียนที่จำเป็นต่อวัยของน้อง) และอีกมากมาย แต่กลัวจะเยอะไป ขอเข้าเรื่องการเสนอแนะสำหรับผู้ปกครอง หรือใครที่ดูแลเด็กอยู่เลยนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หวังว่าจะมีประโยชน์นะคะ ถึงเวลามีประชุมผู้ปกครองก็ลองแนะนำทางโรงเรียนกันดูค่ะ ไม่รู้ว่าการเรียนออนไลน์จะยาวนานแค่ไหน เด็กๆต้องรอดค่ะ
หากใครมีประสบการณ์อะไรอยากแชร์ก็มาแชร์กันได้นะคะ เป็นกำลังใจให้คุณครูและผู้ปกครองทุกท่านค่ะ