ปัญหาตามที่กล่าวนั้นเกิดขึ้นในชุมนนบ้านนอกนะคะไม่ใช่ในตัวเมืองซึ่งปกติอาชีพคนในหมูบ้านส่วนใหญ่นี้จะทำเกษตรกรบางบ้านก็จะเลี้ยงควายหรือวัวไว้ค้าขายกัน แล้วกิจกรรมทุกๆวันคือตอนเช้าๆชาวบ้านจะจูงสัตว์เลี้ยงของตัวเองไปกินหญ้าที่นา และทางไปนานี้เป็นซอย ซึ่งเป็นซอยที่บ้านเราอาศัยอยู่เองแล้วก็บ้านของชาวบ้านคนอื่นๆอีก เป็นซอยเล็กๆยาวตรงไปจะกลายเป็นที่นาของชาวบ้าน ทำให้ทุกเช้าทุกเย็นตรงนี้จะเป็นที่ที่วัวควายเหล่านั้นขับถ่ายเป็นบริเวณนี้เป็นประจำ (และจะเป็นแค่บริเวณซอยนี้ซอยเดียวซอยอื่นที่วัวควายเดินมาตามทางจะไม่เป็นเหมือนมันเข้าใจไปแล้วว่าตรงนี้คือที่ขี้ของมัน) ซึ่งเป็นแบบนี้มานานจนกลายเป็นเรื่องปกติของที่นี้เพราะไม่มีใครรู้สึกว่าแปลก แต่เรากลับรู้สึกว่าสิ่งนี้ไม่ถูกต้อง เพราะสิ่งที่เราต้องเจอในทุกๆวันคือ
1.บริเวณถนนที่เต็มไปด้วยของเสียของสัตว์เหล่านั้นทั้ง ขี้ ฉี่ เต็มถนนไปหมด วันนึงรวมเช้าเย็นประมาณ 10 กอง++
2.ทุกครั้งที่ขับรถยนต์หรือมอเตอร์ไซต์ออกจากบริเวณซอยจะต้องเหยียบโดนขี้ควายแน่นอนไม่มีทางหลบหลีกได้ทำให้เปื้อนรถของตัวเอง
3.ทุกครั้งที่ฝนตกบริเวณถนนตรงนี้จะเหม็นสาปมากส่งกลิ่นที่สุด
4.ทุกครั้งที่ขับมอเตอร์ไซต์ออกไปซื้อข้าวกินจะต้องเจอสิ่งนี้ทั้งกลิ่น และ เห็นขี้ ทำให้ไม่อยากอาหารกันเลยทีเดียว บางครั้งขี้ควายที่อยู่บนถนนนั้นเริ่มแห้งแล้วเวลาขับรถก็จะเป็นฝุ่นกระเด็นเข้าตา
5.เสียทัศนียภาพกับผู้ที่ขับผ่านไปมา เช่น มีแขกมาหาเราที่บ้านก็ต้องพบเจอกับกองขี้ควายเปื้อนรถของแขก หรือคนหมู่บ้านอื่นขับผ่าน
ซึ่งปัญหานี้เป็นสิ่งเราต้องพบเจอทุกวันจนกลายเป็นปัญหาหนึ่งในชีวิต   และแม่เราเคยเสนอเรื่องนี้ออกมาแล้ว(แม่เราเป็นผู้นำหมู่บ้านค่ะ) ว่าหากวัวควายของใครขี้บนหน้าบ้านให้ตักแล้วนำไปทิ้งด้วย แต่กลุ่มคนที่เลี้ยงวัวควายกลับทำไม่พอใจตอว่าแม่ของเราและบอกว่าก็มันเป็นแบบนี้มาอยู่แล้วจะไปสร้างกฎอะไรน่ารำคาญ  ก็คือไม่เห็นด้วยกับที่เราเสนอค่ะ แล้วเราก็ต้องทนอยู่อย่างนี้ซึ่งเราไม่พอใจมากๆ พอจะมีวิธีไหนมั้ยคะที่จะทำให้ชาวบ้านเห็นด้วยว่าต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลง และให้ความสำคัญกับชุมชนตัวเองมากขึ้น ขอบคุณค่ะ