🧡มาลาริน/ตร.แถลงสรุปภาพรวม ‘ม็อบทะลุฟ้า’ เตือนเข้าร่วมครั้งหน้าคิดให้ดี มีผู้ชุมนุมถูกจับติดโควิดแล้ว/เฟคฯ ตร.ยัดประทัด

เพี้ยนแคปเจอร์ ตร.แถลงสรุปภาพรวม ‘ม็อบทะลุฟ้า’ เตือนเข้าร่วมครั้งหน้าคิดให้ดี มีผู้ชุมนุมถูกจับติดโควิดแล้ว

บช.น.แถลงสรุปภารวม ม็อบ 11 ส.ค. มีตำรวจเจ็บ 8 นาย อีก 2 นายกำลังกลับบ้าน ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่คฝ.ถูกลูกหลงด้วย โฆษก ตร. เผย เสียใจมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดกลางเมืองหลวง ระบุจำเป็นต้องขอคืนพื้นที่เพื่อรักษาความสงบ เตือนผู้ชุมนุมที่จะเข้าร่วมม็อบครั้งต่อไป เหตุมีมวลชนที่โดนจับกุมติดโควิดด้วย



พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า สรุปไทม์ไลน์เหตุการณ์ในวันนี้ กลุ่มทะลุฟ้าได้มีการประกาศเชิญชวนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ นัดหมายที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จากนั้นเวลา 14.45 น. มวลชนทยอยมาถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

เวลา 15.45 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเผาสิ่งของบนถนน บริเวณวงเวียนอนุสาวรีย์ฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาการอยู่บริเวณนั้น ได้เข้าไปรักษาความสงบเรียบร้อย



เวลา 16.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนตัวมาที่แยกสามเหลี่ยมดินแดง เจ้าหน้าที่ประกาศว่าการกระทำของผู้ชุมนุมมีความผิดนามกฎหมาย ขอให้ยุติการชุมนุม และแจ้งเตือนไม่ให้เข้าไปในพื้นที่หวงห้ามตามประกาศ เพื่อความปลอดภัยและไม่กระทบหรือกีดขวางการทำงานของตำรวจ แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่เชื่อฟัง พยายามฝ่าแนวกั้นของตำรวจ รื้อรั้วลวดหนาม และฝ่าแนวสิ่งกีดขวางที่ตำรวจวางไว้

เวลา 17.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้ทุบทำลายรถยนต์ของทางราชการ และเผารถยกของเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียหาย 2 คัน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้สั่งการให้สถานีตำรวจที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อเหตุและเกี่ยวข้องในครั้งนี้



และจากการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในครั้งนี้ เบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 8 นาย ส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกพลุไฟของกลุ่มผู้ชุมนุม นอกจากนี้ยังมีตำรวจจำนวน 2 นาย ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการรักษาความสงบเรียบร้อย ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมรุมทำร้ายขณะเดินทางกลับที่พัก

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีทวิตเตอร์ชื่อ “ออโต้” ได้โพสต์ข้อความว่า “ตำรวจเอาประทัดยักษ์ยัดใส่มือผู้ชุมนุมแล้วทำให้ประทัดยักษ์แตก เกินไปหรือเปล่า #ม็อบ11สิงหา” โดยมีภาพชายคนหนึ่ง ที่บริเวณมือข้างหนึ่งถูกระเบิดทำให้เนื้อหลุดหายไป ซึ่งขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงว่า กรณีดังกล่าวมีผู้ชุมนุมรายหนึ่งพยายามจุดประทัดยักษ์เพื่อจะขว้างใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ประทัดยักษ์ได้เกิดระเบิดเสียก่อนจนทำให้เจ้าตัวได้รับบาดเจ็บ ก็ขอแสดงความเสียใจกับผู้บาดเจ็บด้วย

ทั้งนี้ อยากฝากความห่วงใยไปยังผู้ปกครองของกลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งบางคนยังเป็นเยาวชน ซึ่งยังมีวุฒิภาวะยังน้อย อาจถูกชักจูงให้เป็นเครื่องมือทางการเมืองในการมาร่วมชุมนุม นอกจากนี้ ขอฝากเตือนไปยังผู้ที่พยายามนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเพื่อทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง จะมีความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์



โฆษก ตร. กล่าวเพิ่มเติมว่า ตำรวจขอเน้นย้ำว่า พวกเราเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่คิดว่าเหตุเหล่านี้จะเกิดขึ้นใจกลางเมืองหลวงของประเทศ อย่างไรก็ตาม ตำรวจจำเป็นต้องทำหน้าที่ปฏิบัติการเพื่อคืนพื้นที่ความสงบให้สังคม และดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำผิด สำหรับผู้กระทำผิดบางคนที่ถูกควบคุมตัวไปก่อนหน้านี้ เราตรวจพบเชื้อโควิด อยากฝากเตือนผู้ที่มาร่วมชุมนุมในครั้งต่อๆ ไปว่าอาจะไม่ค่อยปลอดภัยสำหรับตัวท่านในการมาร่วมชุมนุม

อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/news/150619/

เพี้ยนแคปเจอร์ยันข่าวตร.ยัดประทัดใส่ม็อบจนบึ้มมือเหวอะ เป็นเฟคนิวส์-คนเจ็บติดโควิดซ้ำ
รองโฆษก ตร. เผยข่าวตำรวจเอาประทัดยักษ์ยัดใส่มือม็อบ ก่อนบังคับให้กำประทัดจนระเบิดใส่มือ เป็นเฟคนิวส์ แจงผู้บาดเจ็บจุดเอง แต่เกิดพลาด แถมติดโควิดด้วย



เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร. กล่าวว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันจากศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ว่ามีการตรวจพบข่าวปลอมเพิ่มเติม 1 กรณี คือ กรณีตำรวจเอาประทัดยักษ์ยัดใส่มือม็อบ บังคับให้กำประทัดจนแตกใส่มือนั้น ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ตรวจสอบกับกองบัญชาการตกรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าเป็นข่าวปลอม

โดยทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า วันที่ 11 ส.ค.2564 ได้มีผู้ชุมนุมชื่อว่า ม็อบทะลุฟ้า มาชุมนุมกันที่บริเวณ แยกดินแดง เขตดินแดง ได้มีนายเอ (นามสมมุติ) อายุประมาณ 14 ปีเศษ สวมใส่เสื้อช็อปอาชีวะได้จุดประทัดยักษ์ แต่เกิดพลาดระเบิดใส่มือข้างซ้ายของตนเองทำให้ได้รับบาดเจ็บ

เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เอาประทัดยักษ์ยัดใส่มือแต่อย่างใด ปัจจุบันถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลรามาธิบดี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบที่โรงพยาบาลฯพบว่า ได้นอนรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ICU และแพทย์ได้ทำการตรวจหาเชื้อโควิด–19 ผลการตรวจเบื้องต้นพบว่า ติดเชื้อโควิด–19

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.metro.police.go.th/ หรือโทร. 0-2282-8209

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เอาประทัดยักษ์ยัดใส่มือแต่อย่างใด หนึ่งในผู้ชุมนุมเป็นผู้จุดประทัดยักษ์เองแต่เกิดพลาดระเบิดใส่มือข้างซ้ายของตนทำให้ได้รับบาดเจ็บ ปัจจุบันถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลรามาธิบดี และรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ICU
รองโฆษกตร. กล่าวอีกว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป

ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน 5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์@AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/news/150685/

เพี้ยนปักหมุดกฎหมายเข้มแข็ง บ้านเมืองสงบค่ะ

อย่าให้คนทำผิดลอยนวล

สนับสนุนการทำงานของตำรวจค่ะ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 30
ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก
กระทู้นี้ถูกลบโดยระบบอัตโนมัติทั้งนี้เพื่อเป็นการรักษาบรรยากาศการสนทนา ของเพื่อนสมาชิกโดยรวมค่ะ

ความคิดเห็นนี้ได้ถูก ppantip.com ลบออกไปจากระบบแล้ว หากเนื้อหาที่ถูกลบยังคงถูกนำไปแสดงใน application หรือเว็บไซต์ใดๆ
ทาง ppantip.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆด้วย การดำเนินการทางกฎหมายกรุณาติดต่อผู้พัฒนา application หรือเว็บไซต์นั้นๆโดยตรงค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่