ถ้าละครเรี่องนี้ถูกขึ้นมาในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นลองแคส(ในอนาคต)​

กระทู้คำถาม
1อตีตา                                               เรื่องย่อ                                                   ศิโรตม์ (ไมค์ ภัทรเดช) หนุ่มนักเรียนนอก วัย 25 ปี หัวสมัยใหม่ เพิ่งกลับมารับมรดก บริหารงาน ศิวะกรุ๊ป บริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการออแกไนเซอร์ของเมืองไทย ศิโรตม์พยายามสร้างสรรค์งานที่แปลกแตกต่าง ตามความคิดของคนรุ่นใหม่ แต่วิธีของศิโรตม์กลับขัดกันกับแนวการทำงานในวิธีเดิมๆ ของสองพ่อลูกผู้ภักดี อรรถ (ปราบ ยุทธพิชัย) และอรรถวิทย์ (ภาณุ สุวรรณโณ) ซึ่งทำงานให้กับบริษัทฯ มาตั้งแต่รุ่นบิดาของเขา

ระหว่างการเตรียมการจัดงานแสงสีเสียง ที่จังหวัดอยุธยา ศิโรตม์ได้พบกับ เมืองใจ (อ๋อม อรรคพันธ์) ซึ่งตอนแรกเขาเข้าใจว่า คือหนึ่งในนักแสดงประกอบในงานแสงสีเสียง ที่มีอาการความจำเสื่อม เพราะเมืองใจ พร่ำพูดถึงแต่การรบและข้าศึกที่กำลังบุก แต่แล้วศิโรตม์ก็ตัดสินใจพาเมืองใจกลับมาด้วย ภายหลังได้พบว่า เมืองใจ คือหนึ่งในวีรชนบางระจัน ที่ก้าวผ่านมิติของเวลามาสู่ยุคปัจจุบัน

เมืองใจ เป็นชาวบ้านวิเศษชัยชาญ เป็นลูกหลานของขุนนาง ในยามนั้นที่กรุงศรีอยุธยาเกิดศึกพม่าบุกรุกราน เมืองใจ ตัดสินใจติดตามบิดามาร่วมรบ สมทบกับชาวบ้านที่ค่ายบางระจัน เพื่อทำศึกปกป้องผืนแผ่นดิน การศึกเกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง แต่ค่ายบางระจัน ยังคงตรึงข้าศึกไว้ได้ แต่ด้วยกำลังของชาวบ้านที่มีเพียงน้อยนิด บางระจันจึงมิอาจจะต้านทานศึกครั้งนี้ต่อไปได้อีกนานนัก เมืองใจจึงจำต้องย้อนกลับอยุธยา ขอกำลังช่วยเหลือและปืนใหญ่ แต่ระหว่างทางนั้น เมืองใจ กลับเดินทางผ่านมิติของเวลา ข้ามมาสู่อีกสองร้อยปีต่อมา ซึ่งก็คือยุคปัจจุบัน ที่ทำให้เมืองใจ ได้พบกับศิโรตม์

ศิโรตม์ ไม่รู้ว่าเมืองใจทะลุมิติมาได้อย่างไร แม้ว่าเขาจะไม่สามารถหาปืนใหญ่ให้เมืองใจได้ แต่ ศิโรตม์ ก็รู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างผูกพันเขาทั้งสอง ความจริงเริ่มกระจ่าง เมื่อพระอาจารย์วิจิตรธรรมโชติ(สรพงศ์ ชาตรี) จากค่ายบางระจัน ได้ถอดจิตข้ามเวลามาพบคุณปานทิพย์ (เดือนเต็ม สาลิตุล) มารดาของศิโรตม์ คุณปานทิพย์ จึงรู้ว่า แท้ที่จริงแล้ว เมืองใจ คือบุตรชายของตนในอดีตชาติ

ศิโรตม์ พยายามปกปิดความจริง ไม่ต้องการให้เมืองใจรู้ว่า สุดท้ายแล้วค่ายบางระจันจำต้องแตก และทุกคนในค่ายล้วนเสียชีวิต ศิโรตม์พยายามทำทุกทางให้เมืองใจ ใช้ชีวิตอยู่ในโลกปัจจุบันให้ได้ แต่เขาก็แปลกใจที่ ลติกา (ปุ๊กลุค ฝนทิพย์) เพื่อนสาวของเขา กลับให้ความสนใจเมืองใจเป็นพิเศษ แต่แล้วมิติของเวลาได้ย้อนกลับอีกครั้ง ดึงทั้งศิโรตม์และเมืองใจ ให้กลับไปสู่ช่วงเวลาของค่ายบางระจัน

ศิโรตม์ ตกใจที่รู้ว่าตนเอง ตกมาอยู่ในเวลาแห่งสงคราม เขาได้พบกับ จันกะพ้อ (นาว ทิสานาฏ) ลูกสาวของนายจันหนวดเขี้ยว (วินัย ไกรบุตร) เจ้าจันหญิงสาวอายุ 20 ปี ที่ดูแข็งแกร่ง ปราดเปรียวและเด็ดเดี่ยว เดิมทีเจ้าจันไม่ชอบในท่าทางของศิโรตม์เท่าไหร่นัก เพราะไม่ว่าจะทำสิ่งใดก็ดูจะไม่เป็นท่าสักอย่าง เจ้าจันจึงสอนให้ศิโรตม์ ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตแบบวิถีชาวบ้าน ซึ่งไม่มีเทคโนโลยีใดๆ แต่ต้องอยู่ให้ได้ด้วยภูมิปัญญา

เมืองใจและนายจันหนวดเขี้ยว พาชาวบ้านบางระจัน ทำศึกกับพม่าอีก แม้จะรบชนะ แต่ก็มีชาวบ้านที่ออกรบได้รับบาดเจ็บและล้มตายจำนวนไม่น้อย ศิโรตม์นำความรู้ที่พอจำได้มาช่วยเจ้าจันรักษาผู้บาดเจ็บ และทำให้หลายคนรอดชีวิต เจ้าจัน จึงเริ่มศรัทธาในตัวศิโรตม์ และศิโรตม์เอง ก็เริ่มรู้สึกดีๆกับเจ้าจัน

ศิโรตม์ได้พบ กาหลง (ปุ๊คลุค ฝนทิพย์) ที่หน้าตาเรียกว่าเป็นพิมพ์เดียวกับลติกา เพื่อนสาวของเขา จึงทำให้เขาได้ฉุกคิดและได้คำตอบว่าเหตุใด ลติกาจึงสนใจเมืองใจยิ่งนัก นั่นก็เพราะลติกาในชาติก่อน คือ กาหลง สาวสวยแห่งบางระจัน ผู้มอบหัวใจรักให้แก่เมืองใจนั่นเอง แต่เมืองใจนั้นกลับมีจิตผูกพันกับจันกะพ้อ ความรักของคนทั้งสี่กลับสลับไขว้กันไปมาดังรักสี่เส้า แต่เรื่องราวความรักของคนทั้งสี่กลับไม่ใช่เรื่องใหญ่เกินกว่าการรักษาปกป้องแผ่นดินเกิด
ศิโรตม์ ค่อยๆ หลอมตนเองจนกลายเป็นชาวบางระจัน เขาช่วยเมืองใจและนายจันหนวดเขี้ยววางแผนกลยุทธ์บุกตีค่ายพม่า ชาวบ้านบางระจัน พากันสละทรัพย์สินเพื่อหลอมปืนใหญ่ สุดท้ายปืนใหญ่ก็ใช้การมิได้ ศิโรตม์แม้จะรู้ว่าในที่สุดแล้ว ค่ายบางระจันก็ต้องแตกพ่าย แต่อย่างไรเขาก็ต้องสู้

ศิโรตม์ได้ทิ้งความรักของเขาไว้ ท่ามกลางโศกนาฏกรรมความพ่ายแพ้ของค่ายบางระจัน ภาพเจ้าจันที่ออกรบสละชีวิต ภาพเจ้ากาหลงสาวงามที่ลุกขึ้นจับดาบต่อสู้ ภาพเมืองใจเพื่อนร่วมสาบานที่ฟาดฟันข้าศึก นี่ต่างหากเล่า คือ ภาพแห่งความรักที่ยิ่งใหญ่ แหละนี่คือการเสียสละ คือคุณค่าของการรักษาผืนแผ่นดินเกิด และคือคุณค่าชีวิตของเหล่าบรรพชน
ท่ามกลางเสียงประดาบและชีวิตที่ปลิดปลิว ศิโรตม์ได้ก้าวข้ามมิติแห่งเวลา หวนคืนกลับมาสู่การแสดงการสู้รบ

บนเวทีแสงสีเสียง ที่ศิวะบันเทิงเป็นผู้จัด และกลับคืนสู่อ้อมกอดของคุณปานทิพย์ ผู้เป็นมารดา แม้ศิโรตม์ จะหายจากการบาดเจ็บ แต่ความรู้สึกของเขาบาดเจ็บยิ่งกว่า เมื่อรู้ว่าตนมิอาจช่วยเหลือชีวิตคนรักและเพื่อนรัก ได้แม้แต่คนเดียว บางทีการเสียสละรักที่บางระจัน อาจจะทำให้ชีวิตของเขาต่อจากนี้ไปมีความหมายมากยิ่งขึ้นก็ได้ ที่สำคัญ สิ่งที่ศิโรตม์ได้เรียนรู้จากการที่ได้ย้อนอดีต จะทำให้เขาตระหนักได้ว่า ชีวิตในปัจจุบันของเขานั้นควรดำเนินต่อไปอย่างไร และอะไรคือสิ่งที่มีคุณค่าที่สุด ที่เขาจะต้องหวงแหนและรักษาดำรงไว้เท่าชีวิต

ติดตามเรื่องราวละครแห่งประวัติศาสตร์แบบเต็มอิ่มครบรส ทั้งเรื่องรบและเรื่องรัก​2ลูกผู้ชาย​ไม้​ตะพด​                                 เรื่อง​ย่อ                                                     ไม้ ถูกทิ้งไว้บนเบาะหลังของรถขนส่ง คนที่เก็บเขามาเลี้ยงคือ เมฆ คนขับรถร่วมบขส.ขาเป๋ มีข่าวลือว่าเมฆเคยเป็นนักเลงมาก่อน แต่หันหลังให้วงการแล้วอย่างสิ้นเชิง ไม้พยายามหาความจริงเรื่องอดีตเมฆ แต่เมฆไม่เคยปริปาก คนที่รู้ประวัติของ เมฆ คือ ผู้พันเทพ นายทหารนอกราชการเจ้าของวินรถตู้ที่ตั้งตนเป็นใหญ่ ขับทับเส้นสัมปทานรถร่วม บขส ของ เจ็กี เจ้าของสัมปทานอย่างไม่สนใจ

          ผู้พันเทพเป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงนักเลงหัวไม้ว่าเป็นผู้ครอบครอง ไม้ตะพดเลือด ที่ทำมาจากแก่นไม้จันพันปี ลากข้ามน้ำมาจากพม่า แต่เดิมเป็นของฤๅษีตาไฟองค์หนึ่งที่ใช้ไม้นี้เฆี่ยนเสือสมิงจนตายเมื่อคราวที่ท่านธุดงค์ปราบโอปาติกะเหล่าสัมภเวสีอยู่แถบเทือกเขาตะนาวศรี ว่ากันว่าหมาเฝ้าบ้านตัวที่ว่าดุแสนดุ เมื่อได้กลิ่นสาบเสือจากเนื้อไม้ ถึงกับวิ่งหางจุกตูดเลยทีเดียว

          ถึงแม้จะมีทั้งเงินทอง อำนาจบารมี แต่สิ่งที่ผู้พันเทพโหยหาอยู่ในใจตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา มันคือไม้ตะพดวิญญาณ จากตำราบนหนังเสือ ผู้พันเทพเห็นภาพการเอาไม้ตะพดสองอันมาเชื่อมต่อกันมันจะทรงอานุภาพ ธนูเป็นหมื่นดอกยังไม่สามารถยิงผ่านตะพดคู่ที่หมุนควงอยู่ได้ เป็นเกราะแก้วกำแพงเพชรคุ้มภัยผู้ครอบครอง

          ผู้พันเทพรู้มาว่าเมฆเป็นผู้ครอบครองไม้ตะพดวิญญาณ จึงมักส่งคนมาราวีเมฆอยู่เสมอ เมฆไม่สู้ และไม่ยอมรับว่าตนมีตะพดที่ว่านั่น เดือดร้อนถึง ศรนารายณ์ อดีตนักมวยที่เป็นเอเยนต์ส่งน้ำแข็งหลอดอยู่ละแวกนั้นต้องคอยช่วยเหลือเมฆ

          ไม้รู้สึกศรัทธาศรนารายณ์มาก เมฆเตือนไม้ว่าหนทางของนักเลงมีแต่ความเจ็บปวด ไม่อยากให้ไม้เลือกเดินเส้นทางนี้ แต่ไม้ก็ยังอยากเรียนมวยกับศรนารายณ์ เมฆขัดใจไม้อยู่เสมอ ต่างกับ อบเชย ลูกสาวจอมแก่นของศรนารายณ์ ที่อยากจะให้ไม้มาเรียนมวยกับพ่อของตน จะได้สร้างความใกล้ชิดผูกกันมากขึ้น

          ผู้พันเทพมีลูกสาวฝาแฝด ที่นิสัยต่างกันราวฟ้าดิน ชื่อว่า แพรวา กับ ราตรี แพรวาคนพี่มีนิสัยดีเรียบร้อยมีจิตใจเมตตาอารี ต่างจากราตรีจะมีนิสัยร้ายกาจไม่แพ้ผู้พันเทพผู้เป็นพ่อเลยทีเดียว แต่ราตรีที่ว่าร้ายยังไม่เท่ากับ ทิวา ลูกชายคนโตของผู้พันเทพ ที่ถอดแบบความเป็นนักเลงหัวไม้จากพ่อมาทุกกระเบียดนิ้ว

          ไม้ แอบชอบแพรวา แต่ไม่กล้าบอกใคร เพราะเจียมเนื้อเจียมตัวที่ตัวเองต้อยต่ำเป็นแค่ลูกคนขับรถ เทียบอะไรไม่ได้เลยกับ ไกร ลูกชายของเจ๊กี ที่เป็นคนดี และแอบหมายปองแพรวาอยู่เช่นกัน ผู้พันเทพออกอุบายยุให้แพรวาสนิทสนมกับไม้ เพื่อสืบความจริงเรื่องของเมฆว่าเป็นคนที่ครอบครองไม้ตะพดวิญญาณหรือเปล่า หลายครั้งที่ไม้เองก็สงสัยว่าทำไมแพรวาจึงให้ความสนิทสนมกับเขา อบเชย เตือนไม้อย่างน้อยใจอยู่บ่อย ๆ เรื่องแพรวา แต่ไม้ไม่ฟัง เข้าใจว่าอบเชยยังเด็กเอาแต่ใจตัวเองเป็นใหญ่

          นอกจากกลุ่มรถ บขส. ของเจ๊กี กับกลุ่มรถตู้ของผู้พันเทพแล้ว ที่ตัวอำเภอยังมีอีกกลุ่มที่ตั้งตนเป็นใหญ่ไม่แพ้กัน คือกลุ่มรถทัวร์ปรับอากาศของ เต็กกง ซึ่งคิดจะฮุบรวมกิจการขนส่งทั้งหมดในตัวจังหวัดเอาไว้เป็นของตนเอง จึงได้ให้ลูกชายหัวไม้คือ โจ พาพวกไปป่วนเจ๊กีอยู่บ่อย ๆ โดยหวังจะให้เจ๊กีขายสัมปะทานให้ตนเสีย จากนั้นเต็กกงก็จะไปจัดการกับผู้พันเทพทีหลัง

          บ่อยครั้งที่เต็กกงพาพวกมาตะลุมบอนกับพวกของเจ๊กี ก็มักจะมี ชายลึกลับปิดหน้าปิดตามาช่วย ไกร กับเจ๊กีอยู่เสมอ ไม้มั่นใจมากว่าชายลึกลับคนนั้นจะต้องเป็นศรนารายณ์ ไม่ใช่เมฆอย่างที่หลายคนสงสัย เพราะชายคนนั้นขาไม่เป๋เหมือนเมฆ และเหนืออื่นใด ชายคนนั้นใช้ไม้ตะพดวิญญาณเป็นอาวุธ

          ข่าวรู้ไปถึงหูของผู้พันเทพ จึงวางแผนเล่นงานไม้ เพราะต้องการให้ชายลึกลับที่ผู้พันเทพมั่นใจว่าต้องเป็นเมฆออกมาช่วยพร้อมตะพดในตำนาน แต่ปรากฏว่าไม่มีใครมาช่วย ไม้รอดตายอย่างสะบักสะบอมไปได้ ด้วยการแอบช่วยเหลือของแพรวา ที่รู้สึกดีกับความซื่อของไม้ขึ้นมา

          ทิวา มีใจให้กับอบเชย แต่อบเชยไม่สนใจ ทิวาคิดฉุดอบเชย แต่แพ้ทางมวยของศรนารายณ์ ทิวากลับบ้านไปเอาไม้ตะพดเลือดของผู้พันเทพมา ตีศรนารายณ์จนเสียมวยและฉุดอบเชยไป ไม้ใช้อุบายช่วยอบเชยมาได้ แต่อบเชยกลับคิดว่าเป็นไกรมาช่วย เลยพยายามตัดใจจากไม้มาชอบไกร

          ผู้พันเทพ คิดฮุบกิจการของเจ๊กีอีกทางนึง จึงส่งราตรีไปหลอกไกรว่าเป็นแพรวาและใช้มารยาหญิงปั่นหัวไกรอยู่บ่อย ๆ จากไกรคนดีของชาวบ้าน เขาก็เริ่มถูกด้านมืดครอบงำทีละน้อย ด้าน อบเชย แยกไม่ออกระหว่างราตรี กับ แพรวา เธอจึงเข้าใจว่า แพรวา พยายามแย่งผู้ชายทุกคนที่ตนชอบ แพรวารู้เรื่องจึงต่อว่าราตรีฝาแฝดของตน ราตรีบอกว่า อย่าว่าแต่ไกรเลย เธอจะแย่งไม้มาจากแพรวาด้วย

          เมฆล้มป่วย จังหวะเดียวกับที่ ไม้ ได้พบกับชายลึกลับ พร้อมไม้ตะพดวิญญาณ มาสอนวิชาการต่อสู้ให้เป็นประจำ ชายลึกลับขอข้อแม้เพียงข้อเดียวว่า อย่าให้ไม้ไปมีเรื่องกับใคร ไม้รับปาก แต่แล้วก็ผิดสัญญาจนได้ เมื่อพวกของโจ มารังแกแพรวา ไม้ต่อสู้ด้วยคันเกียร์ จนหลายคนอ้าปากค้าง จากนั้นไม้ที่ยังฝึกวิชาไม่สมบูรณ์ก็ไม่ได้เจอชายลึกลับอีกเลย เพราะไม้ผิดสัญญา

          ทิวาแอบเห็นการฝึกสอนของชายลึกลับที่สอนไม้ ด้วยพื้นฐานที่ทิวามี ทำให้เขาพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยที่ผู้พันเทพเองก็คิดไม่ถึง ทิวาเอาตะพดเลือดของพ่อ มาจัดการตีเมฆจนแขนหัก แล้วท่ารถในตลาดก็ลุกเป็นไฟ เมื่อรถบขส.ของเจ๊กีถูกวางเพลิง

          เจ๊กี เข้าใจผิดคิดว่า แก๊งผู้พันเทพเป็นคนมาเผารถตน เพราะการสร้างสถานการณ์ของเต็กกง เจ๊กีจึงไปจ้างแก๊งมอเตอร์ไซค์วิน ในฐานะนักรบรับจ้าง ไปจัดการกับผู้พันเทพ แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะผู้พันเทพเอาเงินฟาดแก๊งมอเตอร์ไซค์รับจ้างด้วยเงินที่มากกว่า ให้หวนกลับมาทำร้ายเจ๊กีแทบกระอักเลือด ดีแต่ว่าชายลึกลับมาช่วยเอาไว้อีก แต่คราวนี้ ชายคนนั้นก็ได้รับบาดเจ็บกลับไป

          ไม้เริ่มคิดว่าอาจเป็นเมฆที่ครอบครองตะพดวิญญาณเอาไว้ เขาพยายามหาจนทั่วบ้าน ทั่วรถคันที่เมฆขับก็ไม่เจอ กลับกลายเป็นว่าศรนารายณ์พยายามสร้างเรื่องว่าตนเองคือชายลึกลับคนนั้น เพราะอยากได้เจ๊กีเป็นเมีย  แต่ความเกิดแตก เพราะไม้ตะพดวิญญาณของปลอม เปราะบางเกินกว่าตะพดในตำนาน อบเชยอับอายที่พ่อของตนเป็นเช่นนั้น

          แล้วไม้ก็ได้รู้ความจริง ว่าเมฆนั่นเองคือชายลึกลับคนนั้น เมฆแกล้งเดินขาเป๋มาโดยตลอด และที่เมฆยอมสอนวิชาให้ไม้เพราะรู้ว่าตนกำลังจะตาย ไม้พบไม้ตะพดถูกซ่อนอยู่ในคันเกียร์รถ อยู่คู่มือของเมฆมาตลอด
ยี่สิบปีที่ผ่านมา เมฆจับด้ามตะพดเอาไว้ตลอด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่