คือหลังจากที่รัฐประกาศล็อคดาวน์ 14 วัน เราทำงานในห้างจึงต้องหยุดการทำงานไปด้วย พนักงานที่ร้านทุกคนหยุดอยู่บ้านกันทุกคนเนื่องจากแต่ละคนก็ค่อนข้างจะกลัวกับสถานการณ์แบบนี้ พอครบ14วันทุกคนมาทำงานตามปกติ ในวันอังคารที่ 3 สิงหาคม ขอบอกก่อนว่าเราทำงานร้านอาหาร มีพี่คนนึงมีอาการไม่สบายตั้งแต่วันแรกเลยที่เปิดล็อคดาวน์ มีอาการคันคอ คั้นเนื้อคั้นตัว พวกพี่ๆน้องๆก็ยังแซวกันอยู่เลยว่าติดป่าวเนี่ย ซึ่งทุกคนในร้านสนิทกันมากๆกับพี่คนนี้ พี่เขาเริ่มมีอาการตัวร้อนคันคอคั้นเนื้อคั้นตัวเป็นๆหายๆอยู่ประมาณ 4 วัน พอวันเสาร์เขาไปตรวจที่คลีนิคปรากฎว่าติดจริง พี่คนที่ติดแจ้งเรื่องให้ทางร้านตั้งแต่วันที่ไปตรวจ แต่ทางร้านบอกแค่ว่า” ไม่ต้องกลัว ๆกันนะเด็กๆ” พวกเราก็ถามกันว่าแล้วแบบนี้ต้องกักตัวด้วยมั้ย หัวหน้าร้านบอกว่า “ ต้องให้คนที่ติดมีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลเท่านั้นถึงจะกักตัวได้ “ เราก็เลยถามอีกว่า “ แล้วเขามาพ่นยาฆ่าเชื้อก่อนไม่ได้หรอครับ หรือต้องมีใบรับรองแพทย์อีกถึงจะพ่นได้ “ ซึ่งก็ถูกต้องครับ ต้อง”รอใบรับรองแพทย์”เท่านั้น คนในร้านก็แพร่เชื้อกันเอง ไม่รู้ใครติดไม่ติดบ้างเพราะคนในร้านค่อยข้างสนิทกับพี่คนที่ติดมากๆเลยครับ และทางร้านก็เปิดปกติทำเหมือนไม่มีอะไรก่อนขึ้น และวันนี้รู้ผลจากรพ.ว่าพี่คนนั้นติดจริง ทางร้านหรือบริษัทก็ดูเงียบๆนะครับ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนไม่อยากให้ปิดร้านเพราะกลัวเสียรายได้ แต่ไม่ห่วงสุขภาพลูกน้องเลยหรอครับ ล่าสุดหัวหน้าเรียกคุยแล้ว แต่หัวหน้าแจ้งว่า ทางบริษัทให้ลาได้แต่ต้องเป็นลาไม่รับค่าจ้าง และไม่มีการมาพ่นยาฆ่าเชื้อใดๆ เพราะกลัวห้างรู้และห้างสั่งปิดร้าน  แบบนี้เรามีสิทธิทำอะไรได้บ้างมั้ยครับเพราะ90%ของพนักยังไม่ได้ฉีดวัดซีนเลยครับแม้แต่เข็มเดียว