
🔫 💣 🧨
หลังจาก Suicide Squads ภาคแรกที่การตอบรับไม่ดีเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่นักแสดงในเรื่องเบอร์ใหญ่ทั้งนั้น แต่ด้วยทั้งเนื้อหหาหรือทั้งการเดินเรื่อง หรืออะไรก็ตาม ทำให้คนดูส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบ (แต่ผมชอบนะ) พอมาภาคนี้ ได้ James Gunn มากำกับ หลายคนก็ตั้งตารอดูว่าภาคนี้จะออกมาดีมั๊ย และดีกว่าแค่ไหน กับหนังที่มีความยาว 2 ชั่วโมงเศษๆ ซึ่งตอนนี้ฉายแล้วบน HBO Max (หาดูกันเอาเองนะ)

🔫 💣 🧨
เรื่องราวที่เกิดขึ้นใน “เบลรีฟ” คุกที่มีอัตราการตายของนักโทษสูงที่สุดในสหรัฐอเมริกา สถานที่สำหรับคุมขังสุดยอดวายร้ายที่พร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อได้ออกมาจากนรกแห่งนั้น และพวกมันก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อจะออกมาให้ได้ แม้ว่าจะต้องเข้าร่วมหน่วยงานลับสุดยอด หน่วยที่ซ่อนไว้ในเงามืดอย่าง “Task Force X” เพื่อปฏิบัติภารกิจที่ไม่ทำก็ตาย พวกเขาถูกคุมตัวไปปล่อยไว้ที่เกาะห่างไกลของของอาชญากรสุดชั่วร้าย “คอร์โต มัลทีซ” ทีมวายร้ายนี้จะต้องเข้าไปค้นหาและสังหารเป้าหมาย โดยมี “ผู้พันริค แฟล็ก” เป็นคนคอยคุมความประพฤติของพวกเขาอย่างใกล้ชิด โดยพวกเขาต้องใส่อุปกรณ์ของ “อแมนด้า วอลเลอร์” เจ้าหน้าที่ผู้คุมของ Task Force X ในหูเพื่อติดตามพวกเขาทุกย่างก้าว และถ้าก้าวผิดเพียงก้าวเดียว ก็ตาย

🔫 💣 🧨
เนื้อหาไม่ได้มีอะไรซับซ้อน มันคือการจับปูใส่กระด้งเหมือนภาคที่แล้ว เพื่อไปทำภารกิจอะไรบางอย่าง ซึ่งการเดินเรื่องก็ไม่ได้มีอะไรหวือหวามากมาย แต่กลับกลายเป็น James Gunn ทำสิ่งที่ยากอย่างการกระจายบทให้ตัวละครทุกตัวมีความเสมอภาคกัน ทำได้ดีเอามากๆ ตัวละครที่ออกมา (เอาเฉพาะตัวหลัก) มีบทบาทแยกความสำคัญไปในตัวเองเลย ต่างคนต่างมีหน้าที่ที่ต้องทำให้สำเร็จเพื่อให้ถึงเป้าหมายเดียวกัน ฟซึ่งจุดนี้แตกต่างจากภาคแรกที่การกระจายความสำคัญตัวละครไม่ค่อยดีเอาซะเลย ที่สำคัญภาคนี้ ฮาร์ลี่ย์ ควินน์ ยังคงความน่ารักไว้ได้เหมือนเดิม แต่ลดความบ้าคลั่งลงไปเยอะ

🔫 💣 🧨
แค่นั้นยังไม่พอ ความโดดเด่นขของตัวละครแต่ละตัว ยังมีบทที่เอาความเด่นมาบลัฟกันไปมาอย่างสนุกสนา สร้างรอยยอ้มให้กับคนดูและสร้างความน่าจดจำของตัวละครนั้นๆ ได้อีกด้วย ส่วนหารเดินเรื่องก็ฉับไวมาก เปิดมาก็ตรงเข้าประเด็นเลยทันทีโดยไม่ต้องยืดเยื้ออะไรให้มากความ มีเพียงแค่ต่อช่วงกลางๆ เรื่องที่อาจจะมีอืดนิดหน่อยพอให้พักหายใจหายคอ

🔫 💣 🧨
ภาคนี้ก็ยังคงติดเรทโหดอยู่พอสมควร เพราะฉากเลือดสาด หัวแปะยังเสิร์ฟให้อย่างไม่หยุดหย่อน ถือว่าเป็นหนังที่มีความรุนแรงอยู่ระดับนึงเลยทีเดียว แต่ในส่วนของ CG กลับน้อยกว่าหนัง Superheroes เรื่องอื่นอย่างเห็นได้ชัด มีแค่ตอนท้ายเรื่องที่สุดยอดตัวร้ายของเรื่องโผล่ออกมา แต่ก็ไม่ได้ถือว่าใช้ CG เยอะแยะอลังการอะไรมากมาย แต่ฉากนั้นก็ดูยิ่งใหญ่และดูสนุก นี่ถ้าได้ดูในโรงหนังหรือดู IMAX น่าจะเห็นความอลังมากกว่านี้

🔫 💣 🧨
ภาพรวมถือว่าเป็นหนังที่ตอบแทนการรอคอยได้เป็นอย่างดี ถึงมันอาจจะไม่ได้โดดเด่นอะไรมากมายในเรื่องเนื้อหาหรือเรื่อง CG แต่มันก็สามารถทำให้ The Suicide Squads เป็นหนัง Superheroes ที่ครองใจคนดูได้ในระดับหนึ่งล่ะครับ
ชอบอ่านรีวิวหนัง แวะมาพูดคุยกันได้นะครับ >>>
https://www.facebook.com/DooNangGunMai
[CR] [#Review] The Suicide Squads - James Gunn กลับมาทำให้หนังโหด มันส์ แถมฮากว่าเดิม
🔫 💣 🧨
หลังจาก Suicide Squads ภาคแรกที่การตอบรับไม่ดีเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่นักแสดงในเรื่องเบอร์ใหญ่ทั้งนั้น แต่ด้วยทั้งเนื้อหหาหรือทั้งการเดินเรื่อง หรืออะไรก็ตาม ทำให้คนดูส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบ (แต่ผมชอบนะ) พอมาภาคนี้ ได้ James Gunn มากำกับ หลายคนก็ตั้งตารอดูว่าภาคนี้จะออกมาดีมั๊ย และดีกว่าแค่ไหน กับหนังที่มีความยาว 2 ชั่วโมงเศษๆ ซึ่งตอนนี้ฉายแล้วบน HBO Max (หาดูกันเอาเองนะ)
🔫 💣 🧨
เรื่องราวที่เกิดขึ้นใน “เบลรีฟ” คุกที่มีอัตราการตายของนักโทษสูงที่สุดในสหรัฐอเมริกา สถานที่สำหรับคุมขังสุดยอดวายร้ายที่พร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อได้ออกมาจากนรกแห่งนั้น และพวกมันก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อจะออกมาให้ได้ แม้ว่าจะต้องเข้าร่วมหน่วยงานลับสุดยอด หน่วยที่ซ่อนไว้ในเงามืดอย่าง “Task Force X” เพื่อปฏิบัติภารกิจที่ไม่ทำก็ตาย พวกเขาถูกคุมตัวไปปล่อยไว้ที่เกาะห่างไกลของของอาชญากรสุดชั่วร้าย “คอร์โต มัลทีซ” ทีมวายร้ายนี้จะต้องเข้าไปค้นหาและสังหารเป้าหมาย โดยมี “ผู้พันริค แฟล็ก” เป็นคนคอยคุมความประพฤติของพวกเขาอย่างใกล้ชิด โดยพวกเขาต้องใส่อุปกรณ์ของ “อแมนด้า วอลเลอร์” เจ้าหน้าที่ผู้คุมของ Task Force X ในหูเพื่อติดตามพวกเขาทุกย่างก้าว และถ้าก้าวผิดเพียงก้าวเดียว ก็ตาย
🔫 💣 🧨
เนื้อหาไม่ได้มีอะไรซับซ้อน มันคือการจับปูใส่กระด้งเหมือนภาคที่แล้ว เพื่อไปทำภารกิจอะไรบางอย่าง ซึ่งการเดินเรื่องก็ไม่ได้มีอะไรหวือหวามากมาย แต่กลับกลายเป็น James Gunn ทำสิ่งที่ยากอย่างการกระจายบทให้ตัวละครทุกตัวมีความเสมอภาคกัน ทำได้ดีเอามากๆ ตัวละครที่ออกมา (เอาเฉพาะตัวหลัก) มีบทบาทแยกความสำคัญไปในตัวเองเลย ต่างคนต่างมีหน้าที่ที่ต้องทำให้สำเร็จเพื่อให้ถึงเป้าหมายเดียวกัน ฟซึ่งจุดนี้แตกต่างจากภาคแรกที่การกระจายความสำคัญตัวละครไม่ค่อยดีเอาซะเลย ที่สำคัญภาคนี้ ฮาร์ลี่ย์ ควินน์ ยังคงความน่ารักไว้ได้เหมือนเดิม แต่ลดความบ้าคลั่งลงไปเยอะ
🔫 💣 🧨
แค่นั้นยังไม่พอ ความโดดเด่นขของตัวละครแต่ละตัว ยังมีบทที่เอาความเด่นมาบลัฟกันไปมาอย่างสนุกสนา สร้างรอยยอ้มให้กับคนดูและสร้างความน่าจดจำของตัวละครนั้นๆ ได้อีกด้วย ส่วนหารเดินเรื่องก็ฉับไวมาก เปิดมาก็ตรงเข้าประเด็นเลยทันทีโดยไม่ต้องยืดเยื้ออะไรให้มากความ มีเพียงแค่ต่อช่วงกลางๆ เรื่องที่อาจจะมีอืดนิดหน่อยพอให้พักหายใจหายคอ
🔫 💣 🧨
ภาคนี้ก็ยังคงติดเรทโหดอยู่พอสมควร เพราะฉากเลือดสาด หัวแปะยังเสิร์ฟให้อย่างไม่หยุดหย่อน ถือว่าเป็นหนังที่มีความรุนแรงอยู่ระดับนึงเลยทีเดียว แต่ในส่วนของ CG กลับน้อยกว่าหนัง Superheroes เรื่องอื่นอย่างเห็นได้ชัด มีแค่ตอนท้ายเรื่องที่สุดยอดตัวร้ายของเรื่องโผล่ออกมา แต่ก็ไม่ได้ถือว่าใช้ CG เยอะแยะอลังการอะไรมากมาย แต่ฉากนั้นก็ดูยิ่งใหญ่และดูสนุก นี่ถ้าได้ดูในโรงหนังหรือดู IMAX น่าจะเห็นความอลังมากกว่านี้
🔫 💣 🧨
ภาพรวมถือว่าเป็นหนังที่ตอบแทนการรอคอยได้เป็นอย่างดี ถึงมันอาจจะไม่ได้โดดเด่นอะไรมากมายในเรื่องเนื้อหาหรือเรื่อง CG แต่มันก็สามารถทำให้ The Suicide Squads เป็นหนัง Superheroes ที่ครองใจคนดูได้ในระดับหนึ่งล่ะครับ
ชอบอ่านรีวิวหนัง แวะมาพูดคุยกันได้นะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้