คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 13
กระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 10 สิงหาคม 2564 เวลา 13.30 น.
แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ณ กระทรวงสาธารณสุข
วันที่ 10 สิงหาคม 2564
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันอังคารที่ 10 สิงหาคม 2564
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/383418716609792
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19
ณ วันอังคารที่ 10 สิงหาคม 2564
ประเทศไทย
วันนี้มีผู้ติดเชื้อ 19,843 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 795,951 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯเพิ่มขึ้น 14,832 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 398 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น 21 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกวันนี้ 4,592 ราย (ยอดผู้ติดเชื้อสะสมจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกอยู่ที่ 185,562 ราย)
เสียชีวิตรวม 6,588 ราย(วันนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 235 ราย)
รักษาหายป่วยแล้ว 578,140 ราย (มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 22,806 ราย)
รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 211,223 ราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศ (ไม่รวมเรือนจำ) 19,424 ราย มีรายละเอียดดังนี้ จากกรุงเทพฯ(4,226) ปริมณฑล (4,641) จังหวัดอื่น ๆ (10,557)
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ เพิ่มขึ้นในวันนี้ 21 ราย และเข้า Quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพฯ(3) ตาก(3) ปัตตานี(3) และ เชียงราย(12) มีรายละเอียดดังนี้
- จากประเทศมาเลเซีย 3 ราย
- จากประเทศเมียนมา 17 ราย
- จากประเทศโอมาน 1 ราย
สถานการณ์โลกในวันนี้
- ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก 204.1 ล้านราย มีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมกว่า 4.3 ล้านราย(คิดเป็นร้อยละ 2.11 ของจำนวนผู้ติดเชื้อ) ในขณะที่ผู้รักษาหายมีจำนวน 183.3 ล้านราย (คิดเป็นร้อยละ 89.80)
- สหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ 102,375 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 1 ของโลก อยู่ที่ 633,799 ราย
- อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 31.9 ล้านรายแล้ว โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 27,429 ราย ทั้งนี้ยอดผู้รักษาหายในอินเดียอยู่ที่ 31.1 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 97.3
- ไทยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่อันดับ 36 และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 59 ของโลก
สถานการณ์อาเซียนในวันนี้
- เมียนมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 333,127 ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยในรอบ 7 วันที่ผ่านมาอยู่ที่ 3,824 ราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 12,014 ราย
- มาเลเซีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 1,279,776 ราย โดยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ อยู่ที่ 17,236 ราย
- กัมพูชา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 82,399 ราย มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 1,585 ราย
- ลาว ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 8,561 ราย โดยกำลังรักษาอยู่ 4,461 ราย
- เวียดนาม ผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 9,340 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสม 3,757 ราย
ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนาสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
https://web.facebook.com/nrctofficial/posts/4049887928470082
แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ณ กระทรวงสาธารณสุข
วันที่ 10 สิงหาคม 2564
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันอังคารที่ 10 สิงหาคม 2564
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/383418716609792
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19
ณ วันอังคารที่ 10 สิงหาคม 2564
ประเทศไทย
วันนี้มีผู้ติดเชื้อ 19,843 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 795,951 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯเพิ่มขึ้น 14,832 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 398 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น 21 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกวันนี้ 4,592 ราย (ยอดผู้ติดเชื้อสะสมจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกอยู่ที่ 185,562 ราย)
เสียชีวิตรวม 6,588 ราย(วันนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 235 ราย)
รักษาหายป่วยแล้ว 578,140 ราย (มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 22,806 ราย)
รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 211,223 ราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศ (ไม่รวมเรือนจำ) 19,424 ราย มีรายละเอียดดังนี้ จากกรุงเทพฯ(4,226) ปริมณฑล (4,641) จังหวัดอื่น ๆ (10,557)
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ เพิ่มขึ้นในวันนี้ 21 ราย และเข้า Quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพฯ(3) ตาก(3) ปัตตานี(3) และ เชียงราย(12) มีรายละเอียดดังนี้
- จากประเทศมาเลเซีย 3 ราย
- จากประเทศเมียนมา 17 ราย
- จากประเทศโอมาน 1 ราย
สถานการณ์โลกในวันนี้
- ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก 204.1 ล้านราย มีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมกว่า 4.3 ล้านราย(คิดเป็นร้อยละ 2.11 ของจำนวนผู้ติดเชื้อ) ในขณะที่ผู้รักษาหายมีจำนวน 183.3 ล้านราย (คิดเป็นร้อยละ 89.80)
- สหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ 102,375 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 1 ของโลก อยู่ที่ 633,799 ราย
- อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 31.9 ล้านรายแล้ว โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 27,429 ราย ทั้งนี้ยอดผู้รักษาหายในอินเดียอยู่ที่ 31.1 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 97.3
- ไทยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่อันดับ 36 และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 59 ของโลก
สถานการณ์อาเซียนในวันนี้
- เมียนมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 333,127 ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยในรอบ 7 วันที่ผ่านมาอยู่ที่ 3,824 ราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 12,014 ราย
- มาเลเซีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 1,279,776 ราย โดยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ อยู่ที่ 17,236 ราย
- กัมพูชา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 82,399 ราย มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 1,585 ราย
- ลาว ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 8,561 ราย โดยกำลังรักษาอยู่ 4,461 ราย
- เวียดนาม ผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 9,340 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสม 3,757 ราย
ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนาสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
https://web.facebook.com/nrctofficial/posts/4049887928470082
แสดงความคิดเห็น
🇹🇭มาลาริน💗10ส.ค.หายป่วยมากกว่าป่วยใหม่2,963คน เสียชีวิต235คน ฉีดวัคซีน501,330โดส/คนไข้หลอกขอยา/ชุดตรวจโควิดด้วยน้ำลาย
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 19,843 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 19,445 ราย และผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 398 ราย ยอดติดเชื้อรวมระลอกเมษายน 767,088 ราย รวมยอดติดเชื้อสะสม 795,951 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 235 ราย เสียชีวิตสะสม 6,567 ราย หายป่วยเพิ่ม 22,806 ราย รวมหายป่วยระลอกเมษายน 550,714 ราย ผู้ป่วยกำลังรักษา 211,223 ราย
รายละเอียดผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 19,843 ราย มีดังนี้....👇
1.ผู้ป่วยรายใหม่ จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 14,832 ราย
2.ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 4,592 ราย
3.จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 398 ราย
4.เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้า State Quarantine 21 ราย
ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 8 สิงหาคม 2564 มีผู้รับวัคซีน สะสมทั้งหมด จำนวน 21,171,110 โดส
วันที่ 9 สิงหาคม 2564 มีผู้รับการฉีดวัคซีน ดังนี้
เข็มที่ 1 : 350,389 ราย
เข็มที่ 2 : 104,484 ราย
เข็มที่ 3 : 46,457 ราย
https://www.sanook.com/news/8424110/
หมอแฉผู้ป่วยหลอกยังไม่ได้ ขอ‘ฟาวิพิราเวียร์’ซ้ำ ก่อนปล่อยขายตลาดมืด
วันอังคาร ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2564, 07.50 น.
10 สิงหาคม 2564 นพ.สุรเวช น้ำหอม แพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ที่ผ่านมา ผ่านเฟซบุ๊ก “Dr.Surawej Numhom นายแพทย์สุรเวช น้ำหอม” เกี่ยวกับประเด็นการให้ยาฟาวิพิราเวียร์กับผู้ป่วยโควิดที่กักตัวที่บ้าน มีเนื้อหาดังนี้...👇
#เพราะการรักษาโควิดการได้ยาFavipiravirเร็วนั้นสำคัญมาก
ในตอนนี้การรับมือกับการระบาดของโควิดในกรุงเทพ เราไม่มีเตียงจะให้คนไข้ทุกคนรักษาในโรงพยาบาลแล้ว การรักษาแบบ Home isolation จึงสำคัญมาก ในเวลาที่คนไข้ติดเชื้อมากมายในแต่ละวัน ทีมแพทย์และเภสัชพยายามจะรีบส่งยา Favipiravir ให้เร็วที่สุดเพื่อให้คนไข้ได้ยาทานก่อนที่อาการจะเป็นมาก ซึ่งแน่นอนว่าการพยายามส่งให้เร็วและจำนวนมาก การตรวจสอบก็จะไม่ได้มีขั้นตอนที่ละเอียดหรือซับซ้อนมากเพื่อความรวดเร็ว และในเวลานี้เรายังส่งยาได้ไม่เร็วพอเลยด้วยซ้ำ
#ตอนนี้มีคนไข้ที่ได้ยาไปแล้วกลับบอกว่าไม่ได้
แต่ในความพยายามที่จะทำให้เร็ว ก็มีคนไข้บางคนที่ได้ยาไปแล้วกลับบอกว่ายังไม่ได้ เพื่อจะให้ทีมแพทย์ส่งยา Favipiravir ไปให้อีกครั้ง จุดประสงค์เพื่อนำยาไปขายต่อ เพราะตอนนี้ราคายา Favipiravir ในตลาดมืดมีราคาสูงมาก เพราะคนกลัวว่าหากการระบาดยังมากขนาดนี้ ยาอาจจะมีไม่พอ จึงมีความต้องการยา Favipiravir มากและแน่นอนว่าการนำไปขายแบบนี้จะมีคนซื้อทันที
#หากเราต้องสร้างระบบตรวจสอบหลายขั้นทุกอย่างจะยิ่งช้า
ดังนั้นหากมีเหตุการณ์ที่คนไข้ได้ยาแล้วแต่บอกว่ายังไม่ได้ เช่นตอนนี้ก็สามารถจับได้หลายเคสแล้วที่ทำแบบนี้ และหากมีมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะทำให้เกิดความระแวงว่ายาจะรั่วไหล จะทำให้ต้องมีระบบการตรวจสอบที่เข้มข้นขึ้น ซึ่งก็จะเพิ่มทั้งเวลาในการตรวจสอบและต้อง double check ทุกครั้งที่คนไข้บอกว่าไม่ได้ยา ซึ่งจะทำให้คนไข้ที่ไม่ได้ยาจริงยิ่งได้รับช้าขึ้นไปอีก
#เราได้ยาแล้วแต่ยังมีคนอื่นที่ยังไม่ได้ยาอีกมาก
จึงต้องขอว่าในเวลาที่วิกฤติแบบนี้ ทุกคนเดือดร้อนและลำบากกันหมด แค่ส่งยา Favipiravir ให้ถึงมือคนไข้ทุกคนให้ทันเวลาก็ยากแล้ว หากคนไข้ท่านใดที่แจ้งว่าไม่ได้ยาแล้วเราต้องมาตรวจสอบก่อนว่ามีหลักฐานการได้ยาไปแล้วหรือยัง ก็ต้องใช้เวลา ต้องสร้างระบบตรวจสอบ ต้องเพิ่มขั้นตอนในการทำงาน ซึ่งสุดท้ายทุกอย่างก็จะล้าช้าไปหมด
ระบบราชการช้าและซ้ำซ้อนด้วยตัวเองอยู่แล้ว อย่าทำให้ช้าเพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ของตัวเองเลย เวลานี้คนไข้และทีมแพทย์และทีมรักษาต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อให้เรารักษาคนให้ได้มากที่สุดและเร็วที่สุด เพราะเราจะต้องรอดไปด้วยกันจากวิกฤติครั้งนี้นะครับ
https://www.naewna.com/local/593871
ถึงไทยแล้ว! ‘VIRASPEC’ ชุดตรวจโควิด-19 ด้วยตัวเอง ชนิดตรวจจากน้ำลาย
วันอังคาร ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2564, 13.48 น.
“ถึงไทยแล้ว!! “VIRASPEC” ชุดตรวจโควิด-19 ด้วยตัวเอง ชนิดตรวจจากน้ำลาย ใช้ง่ายกับทุกเพศทุกวัย SARS-CoV-2 Antigen Rapid Test Cassette (Saliva) นำเข้าจาก สวีเดน คุณภาพระดับมาตรฐานยุโรป พร้อมกระจายผ่าน Morhello (หมอฮัลโหล) แพลตฟอร์มเพื่อสุขภาพและการแพทย์ ทั่วประเทศ
10 สิงหาคม 2564 บริษัท ณุศาศิริ (มหาชน) บริษัทชั้นแนวหน้าในวงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดตัวบริษัท JP WORLD MEDICAL เพื่อรองรับธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์ทางด้านดูแลสุขภาพและการแพทย์ โดยขณะนี้ได้รับความไว้วางใจจากบริษัท Thyrolytics AB จากประเทศสวีเดน ให้เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายชุด Antigen rapid test kit ชนิดตรวจหาเชื้อจากน้ำลาย ชื่อ“VIRASPEC” SARS-CoV-2 Antigen Rapid Test Cassette (Saliva) ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรองคุณภาพระดับมาตรฐานยุโรป โดยบริษัท JP WORLD MEDICAL ยังได้รับความไว้วางใจจากบริษัท Thyrolytics AB ประเทศสวีเดน ให้เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายถึง 16 ประเทศในแถบอาเซียน อาทิ ไทย เวียดนาม พม่า ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ บรูไน ลาว พม่า มาเลเซีย กัมพูชา ออสเตรเลีย อินเดีย บังคลาเทศ ญี่ปุ่น ปากีสถาน ศรีลังกา
ได้รับการเปิดเผยจาก บริษัทเจพีฯ ว่า เมื่อวันที่8 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยตัวเองแบบโฮมยูส “VIRASPEC” ชนิดตรวจหาเชื้อจากน้ำลาย SARS-CoV-2 Antigen Rapid Test Cassette (Saliva) ล็อตแรกจำนวน1,000,000 ชุด ได้รับการจัดส่งถึงประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว พร้อมเร่งกระจายแก่ประชาชนไทยทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยตัวเองได้อย่างรวดเร็ว หวังช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อภายในประเทศลงได้ ซึ่งชุดตรวจแบบโฮมยูสนี้จะช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าสู่กระบวนการแยกกักตัวตนเองจากครอบครัว และผู้ใกล้ชิดได้อย่างทันท่วงที ก่อนเข้ารับการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ต่อไป
บริษัท JP ของเรา ได้รับการอนุมัติการขึ้นทะเบียน Rapid Antigen Test (ชุดตรวจโควิด 19 ด้วยตัวเองแบบโฮมยูส (Home Use) ชนิดตรวจหาเชื้อจากน้ำลาย จาก อย. ไทยเรียบร้อยแล้ว ซึ่งชุด Rapid Antigen Test kitชนิดตรวจหาเชื้อจากน้ำลายของ“VIRASPEC” นี้ เราได้นำเข้าจากประเทศสวีเดน เป็นชุดตรวจที่ได้รับมาตรฐานยุโรป มีข้อดีคือ สามารถใช้ได้ง่าย รวดเร็ว เหมาะกับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะกับเด็กซึ่งจะมีปัญหาในการตรวจหาเชื้อทางโพรงจมูก และยังมีความแม่นยำสูงมาก โดยขณะนี้ เราได้วางแผนการนำเข้าชุดตรวจโควิด 19 ด้วยตัวเองเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล็อตแรก ที่จัดส่งถึงประเทศไทยแล้ววันนี้ มีจำนวน 1,000,000 ชุด และล็อตที่สอง ในช่วงกลางเดือน สิงหาคม อีก 500,000 ชุดโดยจัดจำหน่ายในราคาปลีกชิ้นละ 390 บาท(1กล่อง / 1 ชิ้น) สำหรับให้แต่ละครอบครัวสามารถใช้ตรวจกันเองได้ ซึ่งเราจะเริ่มจัดจำหน่ายในประเทศ ภายในเดือนสิงหาคมนี้ ผ่านแพลตฟอร์ม Morhelloของเรา และโรงพยาบาลพานาซี
หากผู้สนใจอยากได้ชุดตรวจโควิดด้วยตนเองชนิดตรวจหาเชื้อจากน้ำลายของ “VIRASPEC”สามารถสั่งซื้อเข้ามาได้ที่ https://morhello.com/homeและ line : @PanaceeHospitalเราจะส่งชุดตรวจนี้ไปถึงบ้านของท่านโดยไม่ต้องออกมาเสี่ยงการติดเชื้อนอกบ้าน ทั้งนี้ แนะนำให้ผู้ใช้งานศึกษารายละเอียดการใช้งานผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด ซึ่งที่กล่องชุดตรวจโควิด 19 แบบโฮมยูส จะมีฉลากภาษาไทยติดกำกับพร้อม QR Code สำหรับชมวิธีการใช้อย่างชัดเจน”
https://www.naewna.com/likesara/593943
วันนี้รักษาหายมากกว่าป่วยใหม่เป็นพันคน เป็นเรื่องน่ายินดีค่ะ
ต้องช่วยคนป่วยหนักให้หายมากขึ้น
หมอบอกคนป่วยต้องช่วยกันเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมและคนป่วยด้วยความซื่อตรง
อย่าทำให้สถานการณ์ไม่เป็นผลดีต่อการรักษา
สำหรับชุดตรวจโควิดจากน้ำลาย น่าสนใจมากค่ะ