ประสบการณ์ติดเชื้อ โควิด-19 แบบไม่รู้ตัว

กระทู้สนทนา
ประสบการณ์ติดเชื้อ โควิด-19 แบบไม่รู้ตัว

สวัสดีครับ ไม่ได้เข้าพันทิปมาระยะหนึ่ง เพราะติดเชื้อโควิด-19 ครับ

เนื่องจากช่วงโควิด-19 ระบาดหนักที่ผ่านมา ผมเองมั่นใจพอสมควรว่า ตนเองดูแลตัวเองได้ดีพอสมควร และไม่เคยคิดเลยว่าจะมีโอกาสติดโรคนี้ แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้นเจ้าโรคระบาดร้ายจนได้

วันนี้ผมหายเป็นปกติแล้ว จึงขออนุญาตนำเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟังครับ

เรื่องเริ่มจากวันที่ 12 กรกฎาคม 2564 ผมมีโอกาสได้ฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มเข็มแรก ซึ่งตอนฉีดก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไร มีแค่อาการคันยิบๆ ตรงบริเวณที่ฉีด และอีกพักหนึ่งก็เริ่มปวดแขนข้างที่ฉีดเท่านั้น

วันที่ 13 และ 14 อาการปวดแขนเริ่มหายเป็นปกติ แต่มีอาการไข้ต่ำๆ ซึ่งแทบไม่มีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันอะไรเลย ซึ่งทุกอย่างก็ดูเหมือนกับว่าจะเป็นไปได้ด้วยดี

จนกระทั่งวันที่ 15 ในขณะนั่งทำงานอยู่ จู่ๆ ผมก็เกิดอาการมือสั่น ใจสั่น รู้สึกมีอะไรไม่ปกติในร่างกาย แต่พอตรวจความดัน อัตราการเต้นของหัวใจ อุณหภูมิ กลับพบว่าทุกอย่างปกติดี

คืนนั้น ผมเป็นไข้หนักมาก อาบน้ำมีอาการตัวสั่นคล้ายจะช็อค ต้องกินพาราเซตามอนตลอดทั้งคืน มีอาการปวดตัวจนนอนไม่หลับ ตื่นตลอดคืน ซึ่งในเวลานั้น เข้าใจว่า เป็นผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน

วันที่ 16 ถึง 18 อาการดีขึ้นสลับแย่ลง คล้ายวันที่ 15 ต้องกินพาราเซตามอนเวลารู้สึกว่าไข้ขึ้นสูง อาการปวดเมื่อยลดลง แต่ในวันที่ 18 พบอาการเพิ่มเติมว่า จมูกเริ่มไม่ได้กลิ่น

วันที่ 19 อาการดีขึ้นกว่าวันก่อน ไข้ทุเลาลงบ้าง ประมาณพอรู้สึกว่าดีขึ้น จู่ๆ ไข้ก็ขึ้นสูง แต่พอไข้ขึ้นสูงมากๆ จู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนหายเป็นปกติ สลับกันทั้งวัน

วันที่ 20 อาการคล้ายวันที่ 19 แต่จมูกที่ไม่ได้กลิ่นเริ่มกลับมาได้กลิ่นบ้างแล้ว วันนี้เริ่มสงสัยว่า เป็นวันที่ฉีดวัคซีนผ่านมาแล้ว 8 วัน อาการข้างเคียงจากการฉีดไม่น่าจะนานขนาดนี้ จึงตัดสินใจไปโรงพยาบาล

แต่โรงพยาบาลที่ไปจำกัดคนตรวจตามมาตรการรักษาความปลอดภัย วันนั้นคิวตรวจเต็มแล้ว จึงไม่ได้ตรวจ สุดท้ายก็แวะไปตรวจไข้ที่คลินิคแทน

ที่คลินิควัดไข้ได้ 38.7 องศาเซลเซียส และหมอแนะนำให้ลองตรวจโควิด-19 ดู เนื่องจากสงสัยว่าเป็นไข้มานานเกินไป ไม่น่าจะมาจากอาการข้างเคียงของวัคซีน ตอนนั้นจึงตัดสินใจไปตรวจโควิด-19 ที่อีกคลินิคซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน

ผลตรวจโควิดแบบเจาะเลือดในวันนั้นออกมาเป็นลบ ซึ่งแปลได้ว่าผมไม่ได้ติดโควิด-19 แต่อย่างใด ซึ่งหมอที่คลินิคนี้ อธิบายว่า คนเกิดอาการข้างเคียงจากวัคซีนสิบกว่าวันก็มี ส่วนที่จมูกไม่ได้กลิ่น น่าจะเป็นเพราะไข้สูงมาก จึงทำให้โพรงจมูกอักเสบ

วันนั้นจึงกลับบ้านอย่างสบายใจ ว่าเรายังไม่ได้ติดโควิด-19

วันที่ 21 จมูกรับกลิ่นได้มากกว่าเดิม ไข้ลดต่ำลง แต่โดยรวมยังคล้ายๆ เดิม คือ มีไข้สูงสลับต่ำตลอดทั้งวัน

วันที่ 22 จมูกกลับมารับกลิ่นได้เป็นปกติ

วันที่ 23 ถึง 28 อาการไข้ดีขึ้นตามลำดับ จนกระทั่งไม่มีไข้เหลืออยู่ แต่พบว่า หากเดินหรือออกแรง จะมีอาการเหนื่อยกว่าปกติค่อนข้างมาก

วันที่ 29 อาการเหมือนวันที่ 28 คือ ไข้หายเป็นปกติแล้ว แต่หากออกแรงจะเหนื่อยมากกว่าปกติ

วันที่ 30 ตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี ATK ด้วยตัวเอง พบผลเป็นลบ คือไม่ติดโควิด-19 โดยในวันนั้น ผมเดินทางไปตรวจด้วยวิธี RT PCR อีกวิธีที่ Lab ซึ่งรับตรวจ ซึ่งผลจะออกในวันที่ 2 สิงหาคม 2564

วันที่ 31 อาการทั้งหมดหายไปแล้ว รวมถึงอาการเหนื่อยดีขึ้นจนแทบไม่ปรากฎอาการแล้ว

วันที่ 2 สิงหาคม ที่ผล RT PCR ออก ปรากฎว่า ผล RT PCR ที่ออกวันที่ 2 สิงหาคม 2564 เป็นบวก ซึ่งแสดงว่า ผมเป็นโควิด-19 ซึ่งในวันนี้ ผมได้ขึ้นทะเบียนทาง website กับ สปสช ว่าเป็นผู้ป่วยโควิด-19 จนกระทั่งถึงปัจจุบัน ไม่ได้รับแม้แต่ SMS ตอบกลับ
 

เหตุการณ์ทั้งหมด ทำให้มานั่งคิดว่า ผมไปติดโควิด-19 ตั้งแต่ตอนไหน แล้วทำไม ตรวจทั้งเจาะเลือด และ ATK กลับให้ผลเป็นลบ ซึ่งต่อจากบรรทัดนี้ จะเป็น timeline และการคาดการณ์ของผมเองนะครับ
 

วันที่ 12 ฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม

วันที่ 15 เริ่มพบอาการไม่ปกติ ซึ่งห่างจากวันที่ฉีดวัคซีน 3 วัน เลยคาดว่า ผมอาจจะติดโควิด-19 ในวันที่ฉีดวัคซีนนั่นเอง (ระยะฟักตัวของโควิด-19 อยู่ที่ประมาณ 3-14 วัน)

อาการหนักมากๆ วันที่ 15 ถึง 18 ประมาณ 4 วัน

อาการหนัก วันที่ 19 ถึง 29 ประมาณ 11 วัน

วันที่ 20 ไปตรวจโควิด-19 แบบเจาะเลือด ซึ่งเป็นการตรวจ Antibody ในร่างกาย ซึ่งการตรวจชนิดนี้ ควรจะต้องเป็นโควิด-19 มาแล้วประมาณ 10 วัน เพื่อให้ร่างกายสร้าง Antibody แต่วันที่ไปตรวจวันนี้ หากนับจากวันที่ 15 เพิ่งเป็นมา 5 วัน เลยอาจจะตรวจไม่พบ

จากวันที่ 15 ถึง 29 มีอาการไข้ทั้งหมดประมาณ 14 วัน พอดี (ตามทฤษฎีไข้โควิด-19 ระยะเวลา 14 วันเป๊ะๆ)

วันที่ 30 ตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี ATK ผลเป็นลบ ซึ่งการตรวจด้วยวิธีนี้เป็นการตรวจ Antigen การที่ให้ผลเป็นลบ อาจหมายถึง ผู้ตรวจเพิ่งเริ่มเป็น หรือใกล้หายแล้ว จึงทำให้มีเชื้ออยู่ในร่างกายไม่มาก จึงตรวจไม่พบด้วยวิธีนี้

ผลตรวจ RT PCT เป็นบวก แสดงให้เห็นว่าเป็นโควิด-19 หรือเคยเป็นมาก่อน เนื่องจากการตรวจด้วยวิธีนี้ ต่อให้เป็นและหายแล้ว ก็ยังสามารถตรวจพบจากซากเชื้อที่อยู่ในร่างกาย ต่อให้หายมาสามเดือนก็ยังตรวจเจอ ดังนั้น คนที่เป็นโควิด-19 และหายแล้ว ปกติจะไม่มีการตรวจซ้ำ แต่จะใช้วิธีนับวันเอา คือ วันที่ติดโควิด-19 บวกไป 14 วัน เป็นวันที่เลยระยะเวลาแพร่เชื้อ และบวกไปอีก 14 วัน เพื่อกักตัว (รวมแล้วคือ บวกไป 28 วัน หลังจากวันติดเชื้อ)
 

สรุปว่า

หากตรวจโควิด-19 ด้วยวิธีเจาะเลือด ต้องมีอาการมาแล้วอย่างน้อย 10 วัน ไม่อย่างนั้นจะตรวจไม่เจอ และน่าจะใช้ไม่ได้กับคนที่ฉีดวัคซีนมาแล้ว (เพราะร่างกายสร้าง Antibody แล้ว ตรวจยังไงก็เจอ)

วิธีตรวจแบบ ATK ต้องตรวจในระยะเวลาพอเหมาะ หากเพิ่งเป็นหรือใกล้หายแล้ว จะตรวจไม่เจอ

วิธี RT PCT เป็นวิธีที่ตรวจเจอได้แน่ๆ แต่เป็นวิธีที่จะไม่ตรวจหากคนไข้เป็นและหายแล้ว เพราะยังไงก็ตรวจเจอ
 

เหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้ได้รู้ซึ้งถึงคำว่า ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน จากที่ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะติดโควิด-19 เพราะค่อนข้างดูแลตัวเองดีพอควร แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้น ติดโรคนี้มาจนได้ แถมยังติดจากเหตุการณ์และสถานที่ที่คาดไม่ถึงเสียด้วย

จนถึงวันนี้ 10 สิงหาคม 2564 อาการทั้งหมดแทบจะเป็นปกติแล้ว เหลือเพียงอาการที่รู้สึกว่าเหนื่อยง่ายกว่าปกติ (ทดลองเดินประมาณ 3 กิโลเมตร แล้วรู้สึกเหนื่อยกว่าปกติ)

ช่วงที่เป็นหนักๆ ผมอาจเพราะไม่รู้ตัวว่าเป็นโควิด-19 และอาจไม่ได้ใจเสีย แต่ยอมรับว่ารู้สึกท้อเหมือนกัน เพราะเป็นนานมากแล้วไม่หายเสียที

ผมอาจจะโชคดีที่กินแค่พาราเซตามอนแล้วอาการดีขึ้นได้ แต่แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคดีแบบนี้

ดังนั้น จึงอยากเอาเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟัง เพื่อให้เพื่อนๆ ได้รับรู้อาการเบื้องต้น และระมัดระวังตัวกันครับ (โดยเฉพาะเวลาไปยังสถานที่ซึ่งมีคนเยอะมากๆ เช่น สถานที่ฉีดวัคซีน)

ขอบคุณมากครับ ^^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่