สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
คนกลางว่าไงล่ะ ถ้าคนกลางไม่มีจุดยืน ทำตัวเป็นไม้หลักปักขี้เลน เป็นผู้นำครอบครัวไม่ได้ ก็จบกันแค่นี้ดีกว่า
คิดถึงอนาคต คิดให้ไกล ๆ แค่รักอย่างเดียวมันไม่พอ
เขาอยากได้ตู้เอทีเอ็มเดินได้มาเป็นสะใภ้ ก็ให้เขาหาเอาเอง
ส่วนลูกชาย ถ้าแม่สั่งซ้ายหันขวาหันก็หันตามไปทุกเรื่อง
ไม่มีสมอง คิดอะไรไม่เป็น ก็อย่าไปเสียดายเลยผู้ชายแบบนี้
คิดถึงอนาคต คิดให้ไกล ๆ แค่รักอย่างเดียวมันไม่พอ
เขาอยากได้ตู้เอทีเอ็มเดินได้มาเป็นสะใภ้ ก็ให้เขาหาเอาเอง
ส่วนลูกชาย ถ้าแม่สั่งซ้ายหันขวาหันก็หันตามไปทุกเรื่อง
ไม่มีสมอง คิดอะไรไม่เป็น ก็อย่าไปเสียดายเลยผู้ชายแบบนี้
ความคิดเห็นที่ 10
คุณพูดหลายรอบว่า “แฟนเข้าใจ”
เขาเข้าใจแล้วเขาทำอะไรเพื่อคุณบ้างไหมคะ นอกจากเข้าใจ ปลอบ แล้วก็ปล่อยให้แม่เขาทำกับคุณตามอำเภอใจ
คุณเป็นคนเก่ง ขนาดช่วงโควิดยังหางานหาเงินเลี้ยงคนในครอบครัวได้ เราบอกตรงๆว่าคุณควรมีชีวิตที่ดีกว่านี้นะคะ นี่มันไม่ควรจะใช่สภาพชีวิตของผู้หญิงแบบคุณเลย
จนเราสงสัยว่าแฟนคุณมีดีอะไรที่ตรงไหน ที่คุณตัดสินใจยอมทน ผู้ชายอายุ 24 แต่มีลูกแล้ว เลิกกับภรรยา และตัวเองก็ไม่มีศักยภาพพอจะเลี้ยงหรือส่งเสียลูกตัวเองได้ ไม่มีความพร้อมแล้วก็ยังจะมาแต่งกับคุณ สิ่งเหล่านี้มันบอกอะไรหลายๆอย่างในตัวผู้ชายคนนี้นะคะ
เดาว่าเขาพูดเก่ง เอาใจเก่ง เพราะขนาดนี้แล้วคุณมองว่า “แฟนเราเข้าใจ” แต่การกระทำของเชามันมีอะไรเป็นมรรคผลให้ชีวิตคู่บ้างไหมคะ
คำแนะนำเดียวของเราคือ อย่าเพิ่งมีลูกนะคะ ให้เวลาตัวเองทบทวนหลายๆอย่างก่อน เราเชื่อว่าคุณฉลาดค่ะ รอให้อารมณ์รัก-ชัง-ชอบ-โกรธ ต่างๆมันนิ่งอีกสักหน่อย แล้วคุณจะมองออกค่ะ
เขาเข้าใจแล้วเขาทำอะไรเพื่อคุณบ้างไหมคะ นอกจากเข้าใจ ปลอบ แล้วก็ปล่อยให้แม่เขาทำกับคุณตามอำเภอใจ
คุณเป็นคนเก่ง ขนาดช่วงโควิดยังหางานหาเงินเลี้ยงคนในครอบครัวได้ เราบอกตรงๆว่าคุณควรมีชีวิตที่ดีกว่านี้นะคะ นี่มันไม่ควรจะใช่สภาพชีวิตของผู้หญิงแบบคุณเลย
จนเราสงสัยว่าแฟนคุณมีดีอะไรที่ตรงไหน ที่คุณตัดสินใจยอมทน ผู้ชายอายุ 24 แต่มีลูกแล้ว เลิกกับภรรยา และตัวเองก็ไม่มีศักยภาพพอจะเลี้ยงหรือส่งเสียลูกตัวเองได้ ไม่มีความพร้อมแล้วก็ยังจะมาแต่งกับคุณ สิ่งเหล่านี้มันบอกอะไรหลายๆอย่างในตัวผู้ชายคนนี้นะคะ
เดาว่าเขาพูดเก่ง เอาใจเก่ง เพราะขนาดนี้แล้วคุณมองว่า “แฟนเราเข้าใจ” แต่การกระทำของเชามันมีอะไรเป็นมรรคผลให้ชีวิตคู่บ้างไหมคะ
คำแนะนำเดียวของเราคือ อย่าเพิ่งมีลูกนะคะ ให้เวลาตัวเองทบทวนหลายๆอย่างก่อน เราเชื่อว่าคุณฉลาดค่ะ รอให้อารมณ์รัก-ชัง-ชอบ-โกรธ ต่างๆมันนิ่งอีกสักหน่อย แล้วคุณจะมองออกค่ะ
ความคิดเห็นที่ 2
ขนาดคนที่เขาแต่งงานแบบพร้อมทุกอย่าง มีงานมั่นคง มีเงินเดือน ทั้งคู่ ย้ายเข้าบ้านสามียังมีปัญหา
ส่วนคู่คุณอ่านแลัวไม่พร้อมสักอย่าง ตัวเองดันลาออกจากงาน ไปอยู่แบบไม่มีเงิน ไม่มีงาน เพื่อวัดใจเขา แล้วเป็นยังไงทีนี้ ไม่มีเงินไปอยู่ที่ไหนก็ลำบาก จะทำอะไรไม่คล่อง มีแต่คนดูถูก
แต่คิดในแง่ดี ก็ดีที่คุณคิดได้ แยกออกมา ผู้ชายแบบนั้นไม่พร้อมอะไรที่เป็นผู้นำครอบครัว สามีอายุ24 มีลูกติด 7 ขวบ
บายมาก ลองคิดดู ถ้าคุณอายุ30 มีสามี 30+ มันคนละเรื่องเลยนะ เป็นวัยที่เหมาะสม ตัดสินใจอะไรได้เอง ปัญหาก็จะลดลง
ส่วนคู่คุณอ่านแลัวไม่พร้อมสักอย่าง ตัวเองดันลาออกจากงาน ไปอยู่แบบไม่มีเงิน ไม่มีงาน เพื่อวัดใจเขา แล้วเป็นยังไงทีนี้ ไม่มีเงินไปอยู่ที่ไหนก็ลำบาก จะทำอะไรไม่คล่อง มีแต่คนดูถูก
แต่คิดในแง่ดี ก็ดีที่คุณคิดได้ แยกออกมา ผู้ชายแบบนั้นไม่พร้อมอะไรที่เป็นผู้นำครอบครัว สามีอายุ24 มีลูกติด 7 ขวบ
บายมาก ลองคิดดู ถ้าคุณอายุ30 มีสามี 30+ มันคนละเรื่องเลยนะ เป็นวัยที่เหมาะสม ตัดสินใจอะไรได้เอง ปัญหาก็จะลดลง
แสดงความคิดเห็น
หลังจากแต่งงาน พ่อแม่สามีมาบงการชีวิตครอบครัวกันบ้างไหมค้ะ?
จนมาวันนี้ เราอึดอัดและอยากระบายออกมา
เราไม่สามารถระบายให้ใครฟังได้เลย
นอกจากในโลกของพันทิปและเก็บความรู้สึกไว้คนเดียวเสมอมา
เริ่มเรื่องเลยนะ เรากับแฟนเพิ่งแต่งงานกันได้1ปีกว่าๆเราอายุ30แฟนเราอายุ24 ก่อนหน้านั้นที่เราคบกัน พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายรับรู้ และรับทราบมาตลอด คุยกัน คบกัน มาเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้แฟนเรามีลูกติดมา1 คน แต่เขาเลิกกับภรรยาเขาไปแล้วนะคะ แล้วลูกของเขาทางพ่อแม่ก็เป็นคนเลี้ยงไว้ จนวันหนึ่ง เราคุยกันว่าจะสร้างอนาคตร่วมกัน เลยตัดสินใจแต่งงานกัน
มันจริงค่ะที่การแต่งงานไม่ใช่จุดจบของความรัก เพียงแต่เป็นการเริ่มต้นของความรักต่างหาก
เราสองคนดำเนินชีวิตมาเรื่อยๆ จนมาถึงช่วงปลายปีที่แล้ว แม่แฟนเราได้โทรมาบอกว่าให้แฟนเราลงไปช่วยงานของที่บ้าน เนื่องจากแฟนรอปลดทหารส่วนเราเป็นครู เขาเลยอยากให้แฟนเราลงไปช่วยงานที่บ้านค่ะ ที่บ้านแฟนทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง. แฟนเราเลยถามเรา
ว่าจะเอายังไงกันดี เขาก็ห่วงเราถ้าต้องอยู่ไกลกัน เราเลยปรึกษาพ่อแม่เรา พ่อแม่เราให้เราตัดสินใจด้วยตัวเอง เราจึงลาออกจากงานครูที่เป็นครูอัตราจ้าง ทิ้งถิ่นฐาน บอกลาพี่ๆน้องๆเพื่อไปหาอนาคตและประสบการณ์ใหม่ๆที่กำลังจะเกิดขึ้น
ใช่ค่ะ เป็นประสบการณ์ที่ใหม่จริงๆ เรามาอยู่บ้านเขาช่วงแรกๆ พ่อแม่เขา ดูเหมือนไม่ค่อย
โอเคกับเราสักเท่าไหร่ พูดออกมาว่า ไม่มีเงินติดตัวสักบาท จะมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ใช่ค่ะ เราให้เขามองว่าเราไม่มีเงิน เพียงเพราะแค่เราอยากลองวัดใจ ว่าเขาจะทำยังไงกับเรา มาอยู่ช่วงแรกๆ อึดอัดมาก เราช่วยงานบ้าน งานสวน
เราทำแทบทุกอย่างที่เราสามารถจะทำได้
แต่แม่แฟนเราไม่ให้แฟนมาช่วยเรา จะเรียกแฟนเราให้ไปนวด ให้ไปดูแลนั่งข้างๆอยุ่ตลอดเวลา จนบางทีเราก็แอบนั่งร้องไห้ แต่เราก็ไม่อยากท้อ คิดแค่ว่า เราออกมาแล้วชีวิตมันต้องไปให้สุด
เราพยายามพิสูจน์ตัวเองให้เห็นว่า เราทำได้
เราไม่เป็นไรนะ เราเข้มแข็งพอนะ
ระหว่างที่อยู่บ้านแฟน เราก็ขายของออนไลน์ไปด้วย เอาเวลาหลังจากช่วยงานสวนเสร็จออกไปส่งของ เลยทำให้เราพอมีเงินเก็บเพิ่มมากขึ้น
แต่จุดตรงนี้เอง ทำให้เราต้องมาพบเจอกับประสบการณ์ที่เราเองยังนั่งทบทวนถึงทุกวันนี้
ว่ามันคืออะไร??
แม่แฟนเรา เริ่มให้เรา รับผิดชอบค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ค่ากิน ค่าน้ำ ค่าไฟ และทุกๆค่า
ในบางครั้ง ก็ให้เราจ่ายเงินเดือนลูกน้องแทนด้วย บางทีจะใช้รถไปไหนมาไหนก็ให้เราเติมน้ำมัน เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ไม่ใช่แค่รถของตัวเองนะ
ลามไปถึงรถของลูกน้องเขาด้วย ซึ่งตรงนี้แฟนเราเริ่มรับรู้แล้วว่าเราไม่โอเคกับเรื่องแบบนี้ หลายๆครั้งเข้าเราอดทนไม่ไหว เราเลยพูดกับแฟนเราว่าเราไม่โอเคนะ เราเหนื่อย ที่ต้องมารับภาระแทนทุกคน แฟนเราเข้าใจ แต่แม่แฟนเรา พูดต่อหน้าเราและแฟนเราว่า ถ้าเหนื่อย ถ้าที่นี่มันไม่ดี ก็ออกไป กลับบ้านไป!!!
เราตกใจมาก แฟนเราเริ่มหน้าเจื่อน ด้วยความสงสารแฟน เราก็ทนมาตลอด เราเลยตัดสินใจออกทำงานประจำ แต่ แต่ แม่แฟนเรา ไม่ให้ลูกเขาออกทำงานข้างนอกนะคะ ให้เราออกทำงานเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวเขา และให้แฟนเรา
คอยรับส่งลูกเขาแค่นั้นค่ะ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ทำการตกลงให้เงินเดือนกับแฟนเราทุกๆเดือน แต่ความเป็นจริงพอมาอยุ่แล้วไม่ใช่แบบนั้นเลยเราหาเงินคนเดียว มาโดยตลอด แล้วชอบให้แฟนเรามาขอยืมเรา ทั้งที่ของเก่ายังไม่ใช้ จะเอาของใหม่อีกแล้ว
ตลอดเวลาที่อยุ่กับบ้านแฟน เราเป็นคนดูแลทุกอย่างค่ะ เรื่องอาหารการกิน เรื่องของใช้ภายในบ้าน เราทำเผื่อทุกคน รวมถึงลูกน้องเขาด้วย เวลาซื้ออะไร ก็จะซื้อฝากแทบทุกคน แต่ตรงกันข้ามกันค่ะ เวลาที่แม่แฟนเราออกไปซื้ออะไรมาทานภายในบ้าน อย่างเช่น ก๋วยเตี้ยว เขาจะซื้อมายื่นให้ทุกคนค่ะ ยกเว้นเราเสมอๆ ครั้งแรกเราก็คิดว่าไม่เป็นไรนะคะ ไม่ได้เสียใจอะไร แต่หลายๆครั้งเข้า เราก็รู้สึกแอบนอยด์นิดๆค่ะ
บางทีแม่เขาทำกับข้าว เขาก็ทำแค่ภายในครอบครัวค่ะ ไม่เคยเผื่อเราแม้แต่ครั้งเดียว
ที่เรารุ้เพราะเวลาวันไหนเราเลิกดึก
เขามักจะเอากับข้าวที่ทำทิ้งลงถังขยะเสมอๆค่ะ
หรือบางทีแฟนเรารู้ แฟนสงสารเราเลยพาเราซื้อเข้ามาค่ะ จะได้ตัดปัญหา ที่เราไม่ค่อยทำกับข้าวในตอนมืดหลังจากที่กลับจากทำงานแล้ว เพราะว่า เราเคยมีประสบการณ์ค่ะ เขาบอกว่าเขาจะนอน เขาฉุนกลิ่นอาหารที่เราทำค่ะ มีคร้งหนึ่งเราผัดกะเพา แม่แฟนเราฉุนจนเดินออกมาแล้วเอากะทะเราทิ้งลงถังขยะเลยล่ะค่ะ เรากับแฟนได้แต่ยืนงง
เราอดทนมาได้ 8 เดือนค่ะ เลยตัดสินใจออกมาเช่าห้องอยู่กับแฟนด้านนอก เพราะดัวยในหลายๆเรื่องค่ะ อยู่หอได้ 2 เดือน เราเลยตัดสินใจกลับบ้านเราค่ะ แฟนเราก็ตามลงมาด้วย เลยกลับมาทำงานด้วยกันค่ะ
เหมือนจะแฮปปี้ เอ็นดิ้งนะคะ แต่เปล่าเลย
แม่แฟนเราก็ยังโทรมาแทบทุกวันค่ะ โทรมาขอเงิน ขอให้ช่วยเรื่องเกี่ยวกับการเงินแทบทุกวัน โทรมาขอค่าเทอมลูกขายเขาบ้าง เอาลูกชายมาอ้างว่าอยากได้ไอโฟน ทั้งที่น้องอายุแค่ 7 ขวบเองค่ะ จนมาตอนสุดท้ายที่เราเจอหนักแทบทุกวันก็คือมาขอเงินคืนเรื่องเงินและสินสอดที่เอามาแต่งเราค่ะ แต่แฟนเราก็ค่อนข้างเข้าใจเรา อ้างว่าทุกวันนี้เขาเป็นหนี้เพรระเอาเงินมาแต่งเรา โดยทุกวันนี้ พยายามบีบบังคับ ให้แฟนเราลงกลับไปอยุ่บ้านอีกรอบค่ะ ห้ามเราสองคนมีลูกเพราะกลัวแฟนเราทิ้งลูกชายเขา. แต่เราไม่ยอมค่ะเรื่องนี้ เรารั้นจะมีให้จนได้ เพราะท้ายที่สุดนี้เราก้อยากสร้างครอบครัวเราเหมือนกัน
ก็ยังเป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้เลยค่ะ เราก็ได้แต่ระบายกับตัวเองและในกระทู้พันทิปนี้
ซึ่งเป็นกระทู้แรก เราอยากบอกว่าปัญหาแม่สามี ลูกสะไภ้มีอยุ่จริง อยากบอกกับคนที่ยังไม่แต่งงานว่าให้ศึกษาข้อมูลครอบครัวนั่นๆให้ดีก่อน ก่อนที่จะตัดสินใจไวแบบเราค่ะ เพราะถ้าจัดสินใจลงไปแล้ว มันยากมากที่จะย้อนให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมค่ะ
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ สุดท้ายนี้เราตัดสินใจกับตัวเองแล้วค่ะ ถ้แฟนจะไป เราให้เขาขึ้นไปคนเดียวแต่เราจะไม่ขอขึ้นไปอีก เพราะกลับไปเราก็รู้ว่าปัญหามันจะยังคงเดิม หรือบางทีอาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำค่ะ
ขอบคุณพื้นที่ความสบายใจตรงนี้
และเพื่อนๆที่รับฟังค่ะ