สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาว Pantip
วันนี้เราจะมารีวิวประสบการณ์จัดฟันใสกับ Selfie ค่ะ ที่จริงรีวิวนี้เป็นรีวิวแรกของเราเลย หากมีก่งก๊ง งงๆบ้าง ต้องขออภัยด้วยนะคะ ยังไม่ถนัดสักเท่าไหร่ แค่อยากมาแชร์ประสบการณ์ค่าาา555
ต้องบอกก่อนว่าเราเคยจัดฟันมาแล้ว1ครั้งนะคะสมัยเด็กๆ แต่ด้วยความที่เป็นคนขี้เกียจและรักสบายของเราเองแหละ ทำให้ฟันเราเริ่มกลับมาล้ม/เกจากการไม่ดูแลและไม่สวมใส่รีเทนเนอร์ ทำให้ไม่มั่นใจเวลายิ้ม โดยเฉพาะฟันล่าง T_T ต้องยิ้มแบบไม่เห็นฟันตลอด อยากให้ฟันกลับมาเรียงตัวสวยเหมือนเดิม (ดูภาพด้านล่างได้เลย)
เราเลยเริ่มเสริชหาข้อมูลการจัดฟันครั้งที่2ของเราไปเรื่อย ๆ จนเราไปเจอแบรนด์ @selfie.th ใน ig แรกๆไปตามดูเค้าก่อนอยู่สักพักเพราะ ig เค้ารูปสวยดี จนเริ่มเคลิ้ม 555 เนี้ยดูๆ ภาพเค้าเริ่ดมาก
เลยแอดไลน์ไปคุยกับแอดมินของเค้าโดยตรง และใช่ค่ะ คุยไปสักพักก็โดนป้ายยาเรียบร้อย!! ให้บริการดีมากแถมตอบเร็วอีก เราเลยตัดสินใจทำนัดเข้าไปเจอกับคุณหมอเพื่อตรวจและพิมพ์ฟันที่คลินิกแถวชิดลม
ก่อนถึงวันนัดมีแอดมินโทรมาแจ้งเตือนอีก 1รอบกันลืมค่ะ การเดินทางก็สะดวกดีนะ เรานั่งรถไฟฟ้ามาลงที่BTSชิดลมและเดินอีก 5 นาทีก็ถึงคลินิคเลยค่ะ คลินิคอยู่หลังเซ็นทรัลชิดลมค่ะ เลยไปนิดๆ แต่ถ้าขับรถมาก็เห็นมีที่จอดด้านล่างอยู่นะ (แต่เราเป็นคนไม่ขับรถก็เลยเลือกที่จะนั่งรถไฟฟ้าและเดินแทน)
ลงจาก BTS และเดินตาม google map มาเรื่อยๆก็เจอตึกวิชัยและป้ายคลินิค IDENT เลย หาง่ายดี
อยู่ชั้น 2 เดินขึ้นนิดเดียวถึงเลยจ้าาา
พอมาถึงจะมีเจ้าหน้าที่ให้กรอกประวัติเหมือนการมาหาหมอฟันทั่วๆไป และรอเรียกเข้าพบหมอนะคะ
เข้าไปแล้วก็เริ่มปรึกษาคุณหมอได้เลยว่ามีข้อกังวลอะไรบ้าง อยากแก้จุดไหน หมอก็จะให้คำแนะนำและทำการถ่ายรูปฟันทุกมุม เสร็จก็เริ่มตรวจและพิมพ์ฟันต่อเลยเพื่อเอาไปประเมินว่าเราสามารถจัดฟันกับเซลฟี่ได้มั้ย และเราได้ x-ray ด้วยเพราะจำไม่ได้ว่าผ่าฟันคุดไปหมดยัง5555 แต่คุณหมอแจ้งมานะว่าถ้าฟันคุดยังไม่โตและไม่รู้สึกว่ามันปวด/เจ็บ ก็สามารถจัดได้ปกตินะ นี่ก็คิดมาตลอดว่ามีฟันคุดแล้วทำไม่ได้!
และด้วยความที่เราไม่ได้หาหมอฟันนานแล้ว คือนานจนจำไม่ได้ ทำให้มีหินปูนเยอะพอสมควร คุณหมอเลยแนะนำให้เราทำความสะอาดช่องปากและขูดหินปูนก่อนการพิมพ์ฟันเพื่อความแม่นยำ (ตรงนี้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่งเราโอเคนะ เพราะถือว่ามาหาหมอฟันรวบเลยทีเดียว) พอตรวจเสร็จ พิมพ์ฟันเสร็จ ก็ชำระเงินกลับบ้านได้เลย ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงเอง เท่าที่จำได้คือจ่ายไป 2,690 บาทสำหรับแพคเกจพิมพ์ฟัน และ ประมาณ 1,200 กว่าบาทสำหรับทำความสะอาด/ขูดหินปูน P.S. ขอนอกเรื่องนิดนึง อยากจะบอกว่าคุณหมอที่สาขาชิดลมน่ารักมากกกกกกกก !! ให้ข้อมูลชัดเจน ใจดี และมือเบามาก
กลับเข้าเรื่องๆ555 เสร็จก็ไปนอนรอผลกันว่าเราจะสามารถจัดฟันใสกับเซลฟี่ได้หรือเปล่า อิอิ
นอนรอประมาณ 2 วัน ทางเซลฟี่ก็ส่งอีเมลมาให้เราว่า เราสามารถจัดฟันใสกับเซลฟี่ได้ เย้! คือที่ต้องประเมินเพราะรู้สึกว่าทางร้านจะไม่สามารถรักษาเคสที่มีปัญหาแบบหนักมากกก เช่นต้องถอนฟันอะไรงี้ ~~ ถ้าเราตัดสินใจจะทำต่อ ก็สามารถชำระเงินได้เลย ราคาชุดจัดฟันใสไม่จำกัดจำนวนเซตของเค้าคือ 53,490 บาท ที่ชอบคือรวมทุกอย่างละ ไม่มีบวกเพิ่มแล้วจ้าาาาา!
เค้าจะมีแผนการชำระ 3 แบบให้เราเลือกตามนี้:
1) ชำระแบบเต็มทีเดียว จะได้รับส่วนลดเพิ่ม 5% จาก 53,490 บาท เหลือ 50,816 บาท
2) ดาวน์ก่อนได้ 14,490 บาท และ ผ่อนที่เหลือ 0% 10 เดือน เดือนละ 3,900 บาท
3) ผ่อนเต็มๆไปเลยจ้า 0% 10 เดือน เดือนละ 5,349 บาท
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมบน website นางได้เลยละเอียดดี (www.selfie.co.th)
ตอนแรกก็ลังเลว่าแบบ จ่ายเต็มเลยดีมั้ยเพราะได้ส่วนลด 5555 แต่คิดไปคิดมา เลือกแบบผ่อนน่าจะสบายกระเป๋าเรากว่าเพราะมัน 0% 10 เดือน เราเลยเลือกแบบสาม ใช้บัตรเครดิตผ่อนเลย เมื่อชำระเงินแล้ว เราก็รอเค้าส่งแผนการรักษาแบบ 3D มาให้ ตรงนี้ก็รอประมาณ 4 วันมั้งเร็วดี เซลฟี่จะส่งเป็นอีเมลมาให้ ขอบอกว่าเราชอบมากกก มันเห็นเป็นฟันของเราเลยในรูปแบบ 3D และดูเป็นสเตปไปเลยว่า ฟันเราจะเคลื่อนตัวยังไงจนจบการรักษา เป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นอะไรแบบนี้ ><
หลังจากนั้นก็รออีกประมาณ2-3สัปดาห์ ชุดอุปกรณ์จาก USA ก็ส่งมาให้ถึงบ้านโดยพี่grabค่ะ เปิดมาตกใจเบาๆไม่แน่ใจว่านี่อุปกรณ์จัดฟันหรือกล่องใส่เครื่องสำอางค์ คือเค้าทำออกมาสวยจริงๆนะ อันนี้เราชอบสุดและตั้งหน้าตั้งตารอมาก เห็นแต่ในไอจี ในที่สุดก็มีบ้างแล้ววววว ลงสตอรี่อวดชาวบ้านรัวๆค่ะ 555 แต่ดูเค้าลงทุนตั้งใจดีนะ รู้เลยว่า แบรนด์นี้ใส่ใจมากๆ ประทับใจ^^
เปิดกล่องมาก็จะเจออุปกรณ์ต่างๆเช่น เคส (กรี๊ดเลยชอบมากกกก) โฟมฟอกฟันขาว และอุปกรณ์อื่นๆเช่นตัวยางกัด(ชิววี่)ที่ช่วยทำให้อุปกรณ์เข้าที่ พอเปิดตัวลิ้นชักก็เจอซองอุปกรณ์ครบเซ็ทเลย มีแถมรีเทนเนอร์ให้ด้วยดีใจมากก ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม อิอิ
อ่อแล้วมีแอดมินโทรมาสอนวิธีการเริ่มต้นและแนะนำอุปกรณ์ให้เรียบร้อย ตอนใส่เซ็ทที่1 ก็คอยสอบถามตลอดว่าทุกอย่างโอเคดีมั้ย อันนี้ประทับใจเหมือนกันว่านางคอยเฝ้าอยู่ตลอด ดูแลดีอะ ชอบๆ <3
สำหรับตัวอุปกรณ์คือมันต้องเปลี่ยนแต่ละเซ็ททุก 2 อาทิตย์นะจ๊ะ (ตัวเซ็ทจะเป็นตามรูปที่เราแปะไว้ข้างล่างเลยนะ จะมีเลขบอกทุกห่อเลยละ) ทุกอย่างราบรื่นดีมากแค่ต้องไม่ลืมใส่มัน เพราะต้องใส่อย่างน้อย 22 ชม.ต่อวัน! ตอนแรกๆก็ไม่ชิน ลืมบ้างอะไรบ้างหลังถอดมากินข้าว แต่หลังๆถ้าไม่ใส่นี้รู้สึกแปลกละ เหมือนขาดอะไรไปในตัว 55555 มันไม่เจ็บเท่าตอนจัดแบบเหล็กเลย แค่ตึงๆแน่นๆช่วงเริ่มใส่แรกๆของแค่ละเซ็ท แต่ชอบที่ใส่แล้วคนแทบไม่ทักเลยนะ มองไม่เห็นเลยว่าเราจัดฟันอยู่ ถอดกินอะไรได้ปกติ ^^
ทุกๆ 2 สัปดาห์ทางทีมก็จะช่วยแจ้งเตือนให้เปลี่ยนเป็นเซ็ทถัดไป และทุกๆ 6 สัปดาห์ก็จะมาขอภาพฟันของเราเพื่อให้ทันตแพทย์เช็คความคืบหน้า โอ้วแล้วเค้ามีแอปพลิเคชันด้วยให้ดูว่าเปลี่ยนเป็นเซ็ทถัดไปวันไหน(กันลืม) ซึ่งตอนนี้เราจัดเสร็จแล้ว ระยะเวลาการจัดของเราแค่ประมาณ 5 เดือนกว่าๆเอง ขอบอกว่าเวลาผ่านไปไวมากๆ!! ตอนนี้แค่ต้องใส่รีเทนเนอร์ที่ทางเซลฟี่ให้มาตอนนอนต่อไปเรื่อยๆเพื่อรักษาผลลัพธ์ไว้
เพื่อความไม่งง อันนี้เราทำสรุปข้อดี/ข้อเสียของ Selfie แบบง่ายๆ ประมาณนี้ตามความคิดเรานะ
ข้อดี
1.ราคาดีมากสมเหตุสมผล ผ่อนชำระได้นาน10 เดือนเลย
2.แพคเกจสวยมากกกกกกกกกก กล่องนี่เก็บไว้ใส่ของได้ต่อ อันนี้ดีงาม
3.สะดวกมากเพราะไม่ต้องพบหมอทุกเดือน เหมาะกับช่วงโรคระบาดแบบนี้
4.แอดมินตามติด ให้คำปรึกษา และแจ้งเตือนเก่งกว่าสิริอีก 555
5.เราชอบส่วนตัวตรงที่มันใสและสีมันกลืนไปกับฟันจนดูไม่ออกว่าสวมเลย เพื่อนๆชมมา
6.จ่ายจบราคาเดียวไม่จุกจิกได้มาครบทุกอย่าง รวมทั้งรีเทนเนอร์และเคสใส่พกพา
ข้อเสีย
1.รักษาเคสยากมากยังไม่ได้ เช่นเคสที่ต้องมีผ่าตัดหรือซ้อนมากๆๆ โชคดีเราเคสแบบฟันเก/ล้มเคยจัดมาแล้ว ทำได้เลย
2.แบรนด์น้องใหม่มากรีวิวน้อยเพราะตอนแรกนี่หารีวิวไม่เจอก็ยังแอบกลัวนะ (แต่นี้ไว้ใจตั้งแต่คุยกับแอดมินเลยลองดู)
3.ตอนเราเข้าไปตรวจฟันทางเซลฟี่ยังมี สาขาไม่เยอะมาก น่าจะแค่ 4 ที่นะเท่าที่จำได้ เราโชคดีที่อยู่ใกล้ชิดลมเลยสะดวก แต่สำหรับเพื่อนๆบางคนอาจจะมองเป็นข้อเสียหลัก
4.ผ่อนได้ผ่านบัตรเครดิตเท่านั้นนะ ใครไม่มีก็ต้องชำระเต็มเอา
5. ไม่รู้ข้อเสียมั้ยแต่ต้องมีวินัยในการใส่มากๆนะ ต้องใส่ให้ครบอย่างน้อย 22 ชม.ต่อวัน ใครคิดจะถอดๆใส่ๆ ไม่แนะนำจ้าเพราะมันจะไม่เห็นผล
สรุปราคา จ่ายค่าปรึกษา/พิมพ์ฟัน 2,690 บาท + ค่าขูดหินปูน (อันนี้แล้วแต่เราเลย ถ้าฟันสะอาดหรือขูดมาแล้วก็ไม่ต้องทำ และ ราคาก็ขึ้นอยู่กับคลินิก) ของเรา 1,200 บาท + ค่าชุดอุปกรณ์ครบเซ็ท 53,490 บาท (ผ่อน 0% 10 เดือน) ของเราสรุปจ่ายไป 57,380 บาท (net) ไม่มีบวกเพิ่มเลยระหว่างการรักษา ~!
หากเพื่อนๆคนไหนมีคำถาม สามารถทิ้งไว้ใต้โพสเลยนะค่า ยินดีตอบทุกคำถามเลยค่าาา ขอบคุณที่อ่านจบค่ะ555 <3
[CR] (รีวิว) จัดฟันใสกับแบรนด์น้องใหม่ Selfie ส่งตรงจากอเมริกา ราคาสบายกระเป๋า!!
ต้องบอกก่อนว่าเราเคยจัดฟันมาแล้ว1ครั้งนะคะสมัยเด็กๆ แต่ด้วยความที่เป็นคนขี้เกียจและรักสบายของเราเองแหละ ทำให้ฟันเราเริ่มกลับมาล้ม/เกจากการไม่ดูแลและไม่สวมใส่รีเทนเนอร์ ทำให้ไม่มั่นใจเวลายิ้ม โดยเฉพาะฟันล่าง T_T ต้องยิ้มแบบไม่เห็นฟันตลอด อยากให้ฟันกลับมาเรียงตัวสวยเหมือนเดิม (ดูภาพด้านล่างได้เลย)
เราเลยเริ่มเสริชหาข้อมูลการจัดฟันครั้งที่2ของเราไปเรื่อย ๆ จนเราไปเจอแบรนด์ @selfie.th ใน ig แรกๆไปตามดูเค้าก่อนอยู่สักพักเพราะ ig เค้ารูปสวยดี จนเริ่มเคลิ้ม 555 เนี้ยดูๆ ภาพเค้าเริ่ดมาก
เลยแอดไลน์ไปคุยกับแอดมินของเค้าโดยตรง และใช่ค่ะ คุยไปสักพักก็โดนป้ายยาเรียบร้อย!! ให้บริการดีมากแถมตอบเร็วอีก เราเลยตัดสินใจทำนัดเข้าไปเจอกับคุณหมอเพื่อตรวจและพิมพ์ฟันที่คลินิกแถวชิดลม
ก่อนถึงวันนัดมีแอดมินโทรมาแจ้งเตือนอีก 1รอบกันลืมค่ะ การเดินทางก็สะดวกดีนะ เรานั่งรถไฟฟ้ามาลงที่BTSชิดลมและเดินอีก 5 นาทีก็ถึงคลินิคเลยค่ะ คลินิคอยู่หลังเซ็นทรัลชิดลมค่ะ เลยไปนิดๆ แต่ถ้าขับรถมาก็เห็นมีที่จอดด้านล่างอยู่นะ (แต่เราเป็นคนไม่ขับรถก็เลยเลือกที่จะนั่งรถไฟฟ้าและเดินแทน)
ลงจาก BTS และเดินตาม google map มาเรื่อยๆก็เจอตึกวิชัยและป้ายคลินิค IDENT เลย หาง่ายดี
อยู่ชั้น 2 เดินขึ้นนิดเดียวถึงเลยจ้าาา
พอมาถึงจะมีเจ้าหน้าที่ให้กรอกประวัติเหมือนการมาหาหมอฟันทั่วๆไป และรอเรียกเข้าพบหมอนะคะ
เข้าไปแล้วก็เริ่มปรึกษาคุณหมอได้เลยว่ามีข้อกังวลอะไรบ้าง อยากแก้จุดไหน หมอก็จะให้คำแนะนำและทำการถ่ายรูปฟันทุกมุม เสร็จก็เริ่มตรวจและพิมพ์ฟันต่อเลยเพื่อเอาไปประเมินว่าเราสามารถจัดฟันกับเซลฟี่ได้มั้ย และเราได้ x-ray ด้วยเพราะจำไม่ได้ว่าผ่าฟันคุดไปหมดยัง5555 แต่คุณหมอแจ้งมานะว่าถ้าฟันคุดยังไม่โตและไม่รู้สึกว่ามันปวด/เจ็บ ก็สามารถจัดได้ปกตินะ นี่ก็คิดมาตลอดว่ามีฟันคุดแล้วทำไม่ได้!
และด้วยความที่เราไม่ได้หาหมอฟันนานแล้ว คือนานจนจำไม่ได้ ทำให้มีหินปูนเยอะพอสมควร คุณหมอเลยแนะนำให้เราทำความสะอาดช่องปากและขูดหินปูนก่อนการพิมพ์ฟันเพื่อความแม่นยำ (ตรงนี้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่งเราโอเคนะ เพราะถือว่ามาหาหมอฟันรวบเลยทีเดียว) พอตรวจเสร็จ พิมพ์ฟันเสร็จ ก็ชำระเงินกลับบ้านได้เลย ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงเอง เท่าที่จำได้คือจ่ายไป 2,690 บาทสำหรับแพคเกจพิมพ์ฟัน และ ประมาณ 1,200 กว่าบาทสำหรับทำความสะอาด/ขูดหินปูน P.S. ขอนอกเรื่องนิดนึง อยากจะบอกว่าคุณหมอที่สาขาชิดลมน่ารักมากกกกกกกก !! ให้ข้อมูลชัดเจน ใจดี และมือเบามาก
นอนรอประมาณ 2 วัน ทางเซลฟี่ก็ส่งอีเมลมาให้เราว่า เราสามารถจัดฟันใสกับเซลฟี่ได้ เย้! คือที่ต้องประเมินเพราะรู้สึกว่าทางร้านจะไม่สามารถรักษาเคสที่มีปัญหาแบบหนักมากกก เช่นต้องถอนฟันอะไรงี้ ~~ ถ้าเราตัดสินใจจะทำต่อ ก็สามารถชำระเงินได้เลย ราคาชุดจัดฟันใสไม่จำกัดจำนวนเซตของเค้าคือ 53,490 บาท ที่ชอบคือรวมทุกอย่างละ ไม่มีบวกเพิ่มแล้วจ้าาาาา!
เค้าจะมีแผนการชำระ 3 แบบให้เราเลือกตามนี้:
1) ชำระแบบเต็มทีเดียว จะได้รับส่วนลดเพิ่ม 5% จาก 53,490 บาท เหลือ 50,816 บาท
2) ดาวน์ก่อนได้ 14,490 บาท และ ผ่อนที่เหลือ 0% 10 เดือน เดือนละ 3,900 บาท
3) ผ่อนเต็มๆไปเลยจ้า 0% 10 เดือน เดือนละ 5,349 บาท
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมบน website นางได้เลยละเอียดดี (www.selfie.co.th)
ตอนแรกก็ลังเลว่าแบบ จ่ายเต็มเลยดีมั้ยเพราะได้ส่วนลด 5555 แต่คิดไปคิดมา เลือกแบบผ่อนน่าจะสบายกระเป๋าเรากว่าเพราะมัน 0% 10 เดือน เราเลยเลือกแบบสาม ใช้บัตรเครดิตผ่อนเลย เมื่อชำระเงินแล้ว เราก็รอเค้าส่งแผนการรักษาแบบ 3D มาให้ ตรงนี้ก็รอประมาณ 4 วันมั้งเร็วดี เซลฟี่จะส่งเป็นอีเมลมาให้ ขอบอกว่าเราชอบมากกก มันเห็นเป็นฟันของเราเลยในรูปแบบ 3D และดูเป็นสเตปไปเลยว่า ฟันเราจะเคลื่อนตัวยังไงจนจบการรักษา เป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นอะไรแบบนี้ ><
หลังจากนั้นก็รออีกประมาณ2-3สัปดาห์ ชุดอุปกรณ์จาก USA ก็ส่งมาให้ถึงบ้านโดยพี่grabค่ะ เปิดมาตกใจเบาๆไม่แน่ใจว่านี่อุปกรณ์จัดฟันหรือกล่องใส่เครื่องสำอางค์ คือเค้าทำออกมาสวยจริงๆนะ อันนี้เราชอบสุดและตั้งหน้าตั้งตารอมาก เห็นแต่ในไอจี ในที่สุดก็มีบ้างแล้ววววว ลงสตอรี่อวดชาวบ้านรัวๆค่ะ 555 แต่ดูเค้าลงทุนตั้งใจดีนะ รู้เลยว่า แบรนด์นี้ใส่ใจมากๆ ประทับใจ^^
เปิดกล่องมาก็จะเจออุปกรณ์ต่างๆเช่น เคส (กรี๊ดเลยชอบมากกกก) โฟมฟอกฟันขาว และอุปกรณ์อื่นๆเช่นตัวยางกัด(ชิววี่)ที่ช่วยทำให้อุปกรณ์เข้าที่ พอเปิดตัวลิ้นชักก็เจอซองอุปกรณ์ครบเซ็ทเลย มีแถมรีเทนเนอร์ให้ด้วยดีใจมากก ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม อิอิ
อ่อแล้วมีแอดมินโทรมาสอนวิธีการเริ่มต้นและแนะนำอุปกรณ์ให้เรียบร้อย ตอนใส่เซ็ทที่1 ก็คอยสอบถามตลอดว่าทุกอย่างโอเคดีมั้ย อันนี้ประทับใจเหมือนกันว่านางคอยเฝ้าอยู่ตลอด ดูแลดีอะ ชอบๆ <3
สำหรับตัวอุปกรณ์คือมันต้องเปลี่ยนแต่ละเซ็ททุก 2 อาทิตย์นะจ๊ะ (ตัวเซ็ทจะเป็นตามรูปที่เราแปะไว้ข้างล่างเลยนะ จะมีเลขบอกทุกห่อเลยละ) ทุกอย่างราบรื่นดีมากแค่ต้องไม่ลืมใส่มัน เพราะต้องใส่อย่างน้อย 22 ชม.ต่อวัน! ตอนแรกๆก็ไม่ชิน ลืมบ้างอะไรบ้างหลังถอดมากินข้าว แต่หลังๆถ้าไม่ใส่นี้รู้สึกแปลกละ เหมือนขาดอะไรไปในตัว 55555 มันไม่เจ็บเท่าตอนจัดแบบเหล็กเลย แค่ตึงๆแน่นๆช่วงเริ่มใส่แรกๆของแค่ละเซ็ท แต่ชอบที่ใส่แล้วคนแทบไม่ทักเลยนะ มองไม่เห็นเลยว่าเราจัดฟันอยู่ ถอดกินอะไรได้ปกติ ^^
ทุกๆ 2 สัปดาห์ทางทีมก็จะช่วยแจ้งเตือนให้เปลี่ยนเป็นเซ็ทถัดไป และทุกๆ 6 สัปดาห์ก็จะมาขอภาพฟันของเราเพื่อให้ทันตแพทย์เช็คความคืบหน้า โอ้วแล้วเค้ามีแอปพลิเคชันด้วยให้ดูว่าเปลี่ยนเป็นเซ็ทถัดไปวันไหน(กันลืม) ซึ่งตอนนี้เราจัดเสร็จแล้ว ระยะเวลาการจัดของเราแค่ประมาณ 5 เดือนกว่าๆเอง ขอบอกว่าเวลาผ่านไปไวมากๆ!! ตอนนี้แค่ต้องใส่รีเทนเนอร์ที่ทางเซลฟี่ให้มาตอนนอนต่อไปเรื่อยๆเพื่อรักษาผลลัพธ์ไว้
เพื่อความไม่งง อันนี้เราทำสรุปข้อดี/ข้อเสียของ Selfie แบบง่ายๆ ประมาณนี้ตามความคิดเรานะ
ข้อดี
1.ราคาดีมากสมเหตุสมผล ผ่อนชำระได้นาน10 เดือนเลย
2.แพคเกจสวยมากกกกกกกกกก กล่องนี่เก็บไว้ใส่ของได้ต่อ อันนี้ดีงาม
3.สะดวกมากเพราะไม่ต้องพบหมอทุกเดือน เหมาะกับช่วงโรคระบาดแบบนี้
4.แอดมินตามติด ให้คำปรึกษา และแจ้งเตือนเก่งกว่าสิริอีก 555
5.เราชอบส่วนตัวตรงที่มันใสและสีมันกลืนไปกับฟันจนดูไม่ออกว่าสวมเลย เพื่อนๆชมมา
6.จ่ายจบราคาเดียวไม่จุกจิกได้มาครบทุกอย่าง รวมทั้งรีเทนเนอร์และเคสใส่พกพา
ข้อเสีย
1.รักษาเคสยากมากยังไม่ได้ เช่นเคสที่ต้องมีผ่าตัดหรือซ้อนมากๆๆ โชคดีเราเคสแบบฟันเก/ล้มเคยจัดมาแล้ว ทำได้เลย
2.แบรนด์น้องใหม่มากรีวิวน้อยเพราะตอนแรกนี่หารีวิวไม่เจอก็ยังแอบกลัวนะ (แต่นี้ไว้ใจตั้งแต่คุยกับแอดมินเลยลองดู)
3.ตอนเราเข้าไปตรวจฟันทางเซลฟี่ยังมี สาขาไม่เยอะมาก น่าจะแค่ 4 ที่นะเท่าที่จำได้ เราโชคดีที่อยู่ใกล้ชิดลมเลยสะดวก แต่สำหรับเพื่อนๆบางคนอาจจะมองเป็นข้อเสียหลัก
4.ผ่อนได้ผ่านบัตรเครดิตเท่านั้นนะ ใครไม่มีก็ต้องชำระเต็มเอา
5. ไม่รู้ข้อเสียมั้ยแต่ต้องมีวินัยในการใส่มากๆนะ ต้องใส่ให้ครบอย่างน้อย 22 ชม.ต่อวัน ใครคิดจะถอดๆใส่ๆ ไม่แนะนำจ้าเพราะมันจะไม่เห็นผล
สรุปราคา จ่ายค่าปรึกษา/พิมพ์ฟัน 2,690 บาท + ค่าขูดหินปูน (อันนี้แล้วแต่เราเลย ถ้าฟันสะอาดหรือขูดมาแล้วก็ไม่ต้องทำ และ ราคาก็ขึ้นอยู่กับคลินิก) ของเรา 1,200 บาท + ค่าชุดอุปกรณ์ครบเซ็ท 53,490 บาท (ผ่อน 0% 10 เดือน) ของเราสรุปจ่ายไป 57,380 บาท (net) ไม่มีบวกเพิ่มเลยระหว่างการรักษา ~!
หากเพื่อนๆคนไหนมีคำถาม สามารถทิ้งไว้ใต้โพสเลยนะค่า ยินดีตอบทุกคำถามเลยค่าาา ขอบคุณที่อ่านจบค่ะ555 <3
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้