1. กัปตันคิมเดบิวต์เป็นนักวอลเลย์บอลมืออาชีพระดับสโมสรในเกาหลีใต้แรกในปี 2005  และเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกในปี 2012 ในฐานะ Top score (207 คะแนนที่ยังคงเป็นสถิติโอลิมปิกอันดับ1อยู่) และ MVP London olympic 2012 ทั้งๆที่เกาหลีใต้จบแค่ที่ 4 ในการแข่งขันนั้นซึ่งปกติแล้วส่วนใหญ่จะต้องมาจากแชมป์ เรามองว่าจากผู้เล่นที่เริ่มเล่นวอลเลย์บอลมืออาชีพในระยะเวลาใกล้เคียงกัน ตอนนี้ยังมีอีกกี่คนที่ยังสามารถเล่นได้ท็อปฟอร์มขนาดนี้และยังคงทำคะแนนเป็นอันดับ 1 ในทุกๆแมทช์อยู่  (ในบรรดา FIVB Heroes กัปตันคิมเป็นคนเดียวที่เล่นอยู่)
 
2. แน่นอนอยู่แล้วว่าผู้เล่นที่อายุน้อยกว่าจะสามารถทำได้ดีกว่า สามารถกระโดดได้สูงกว่า มีแรงเยอะกว่าแต่อย่าลืมว่าตอนนี้กัปตันคิมอายุ 33 ปีแล้ว บวกกับผ่านการผ่าตัดเข่าและช่องท้องฉีกขาดมานับไม่ถ้วนเพราะฉะนั้นแล้วร่างกายเขาไม่ได้ฟิตเหมือนเมื่อก่อน แต่เรากลับมองว่า ณ ตอนนี้ผู้เล่นที่อายุใกล้เคียงกันยังมีผู้เล่นอีกกี่คนที่ฟอร์มยังไม่ตก ยังทำคะแนนได้เรื่อยๆ วิ่งรับลูกได้เรื่อยๆ เหมือนเขา
 
3. ระบบทีม เนื่องจากวอลเลย์บอลเป็นกีฬาประเภททีม เขาไม่สามารถเล่นคนเดียวได้ ในโอลิมปิกครั้งนี้ 8 ทีมสุดท้ายที่เข้ารอบเกาหลีใต้เป็นประเทศเดียวที่มีผู้เล่นระดับโลกแค่ 1 คนย้ำว่าแค่ 1 คน ในขณะที่หลายประเทศมีผู้เล่นระดับโลกอยู่เยอะ ผู้เล่นหลายคนในเกาหลีใต้แทบจะโนแนมด้วยซ้ำไป อีกทั้งเกาหลีใต้มีปัญหาเยอะมากระหว่างการเตรียมทีมมาแข่งโอลิมปิก เนื่องจากพูดเล่นสองคนหลักถูกถอนออกจากทีมชาติไป ทำให้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทีมเกาหลีใต้ลองผิดลองถูกมาโดยตลอดยังไม่เคยมีทีมที่สมบูรณ์เลย ทีมเกาหลีไม่ได้อยู่ในอันดับ top 10 ของโลกด้วยซ้ำ แถมยังต้องมาแข่งกับทีมที่มีทั้งต่ำแหน่ง แชมป์ รองแชมป์ พร้อมเหรียญการันตีอีกมากมายเพราะฉะนั้นแล้วการที่พวกเขามาถึง 4 ทีมสุดท้ายถือว่าเป็นเรื่องที่สุดยอดมาก อย่างที่บอกไปตอนต้นว่ามีผู้เล่นระดับโลกแค่คนเดียวนั่นก็คือกัปตันคิม และเขาถือว่าเป็นบุคคลสำคัญที่พาทีมมาไกลถึงขนาดนี้ ถ้านี่ไม่เรียกว่าเก่งก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรแล้ว 
 
4. เรามองว่ากัปตันคิมคือผู้เล่นที่สามารถทำได้ดีในทุกๆตำแหน่ง  อย่างที่เรารู้กันว่าคิมเป็นนักตบหัวเสาซึ่งเขาก็ทำตำแหน่งนี้ได้ดีมากๆทุกโอกาส ล้วนทำคะแนนให้กับทีมทั้งนั้น เขาทำหน้าที่เป็นตัวบล็อคได้ดีมากแม้ว่าหลายหลายครั้งเค้าจะขึ้นบล็อกแค่คนเดียวก็ตาม เขาเป็นคนที่รับลูก ขุดลูกที่เก่งมากๆ จากการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิก 2020 ใน Top digger เขาอยู่อันดับ 6 ท่ามกลาง Libero ของทุกๆประเทศ (จะมีนักตบหัวเสากี่คนที่รับลูกตบจากทีมตรงข้ามได้ดีขนาดนี้) ถ้าใครเคยดูการแข่งขันลีกตุรกีจะรู้ว่าทุกคนให้ฉายากัปตันคิมว่า the tallest libero in the world (ลิปที่ตัวสูงที่สุดในโลก) 

5. สิ่งที่เราภูมิใจที่สุดในตัวเขานั่นก็คือฐานะกัปตัน เขาทำมันออกมาได้ดีมากโดยไม่มีที่ติเลยแม้แต่นิดเดียว เขาเป็นผู้นำที่ดี เป็นผู้นำที่เพื่อนๆหรือน้องๆในทีมสามารถที่จะเชื่อใจได้ 100% เขาเป็นผู้นำที่คอยจะให้กำลังใจผู้อื่นเสมอ แสดงออกถึงด้านที่เข็มแข็งเสมอแม้ว่าเขาเองก็เหนื่อยมาก เขามักจะสร้างพลังสร้างความหวังให้ทีมเสมอ มีประโยคนึงที่โค้ช Lavarini เคยพูด “การมีอยู่ของเธอ มันทำให้ทีมมีกำลังใจและทำออกมาได้ดี” ซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ การมีอยู่ของเขามันทำให้ทีมมีแรงสู้ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะก็ตาม 

6. กัปตันคิมถูกเรียกว่าคือพูดเล่นที่สามารถนำทีมที่อยู่ลำดับล่างสุดขึ้นมายืนบนโพเดียมและหลายครั้งก็ได้แชมป์อีกด้วย 
- ในปี 2005 ที่ทางสโมสรวอลเลย์บอลเกาหลีบอกว่าทีมที่รั้งท้ายสุดจากการแข่งขันฤดูกาลก่อนสามารถที่จะนำเข้าผู้เล่นที่เก่งได้หนึ่งคน และตอนนั้น Heungkuk Life Pink Spiders ก็อยู่อันดับเกือบสุดท้ายจนเขาเข้ามาและช่วยทีมทำให้ได้แชมป์ในปีนั้น พร้อมรางวัล New face award, Best receiver, Best server,  Best outside hitter และMVP จากนั้นระยะเวลา 2005 ถึง 2009 กัปตันคิมก็ยังเป็นพูดเล่นที่ดีที่สุดและนำทีมคว้าแชมป์ในทุกๆปีพ่วงตำแหน่งMVPในทุกๆปีอีกด้วย 

- จากนั้นได้ย้ายมาเล่นที่ญี่ปุ่นกับสโมสรที่อันดับไม่สูงมากจากการแข่งขันฤดูกาลก่อนหน้านั้นก็คือ JT Marvelous และเขาก็ยังสามารถเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดและทำให้ทีมได้แชมป์พ่วงตำแหน่ง MVP อีกเช่นเคย
 
- ต่อมาในปี 2011 ไปเล่นกับสโมสร Fenerbahçe ของลีกตุรกีซึ่งในตุรกี Fenerbahçe ถือว่าเป็นสโมสรกีฬาที่ดังแล้วก็ใหญ่มากๆสโมสรหนึ่ง แต่ทางFenerbahçeยังไม่เคยได้แชมป์ในการแข่งขัน CEV Women's Champions League ถึงแม้ว่าในปีนั้นทีมจะมีผู้เล่นระดับโลกหลายคนแต่ คิมก็ยังเป็นคนที่ทำแต้มได้มากที่สุดและเป็นMVP รวมถึงเป็นคนสำคัญที่พาทีมได้แชมป์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการแข่งขันนี้ แล้วตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมาจนถึงปี 2016 คิมก็ยังคงพาทีมเข้ายืนโพเดียมและได้แชมป์มาโดยตลอด พร้อมทั้งพ่วงรางวัลต่างๆทั้ง MVP, Top score, Best outside hitter 

- 2017 ย้ายมาเล่นให้กับสโมสรในลีกของประเทศจีนถึงแม้ว่าจะไม่ได้แชมป์ในการเล่นตลอดหนึ่งฤดูกาล แต่เขาก็สามารถทำให้ทีมจากที่อยู่อันดับล่างของตารางขึ้นมายืนบนโพเดียมได้ 

- ฤดูกาล2018/2019 เขากลับมาเล่นในลีกตุรกีอีกครั้งกับสโมสร Eczacıbaşı VitrA ท่ามกลางผู้เล่นรุ่นใหม่และผู้เล่นระดับโลก เขาก็ยังคงโดดเด่น และช่วยพาทีมได้แชมป์ รวมถึงได้ Super Cup ถ้วยที่ใหญ่ที่สุดของลีกตุรกีถึง 2ปีซ้อน อีกทั้งยังได้รับการไว้วางใจจากผู้เล่นระดับโลกให้เป็นกัปตันทีมอีกด้วย