ผิวคล้ำขึ้นตอนท้อง ปัญหาหนักใจของคุณแม่ตั้งครรภ์ หลายคนที่ท้องแล้วอวบอิ่ม ผิวพรรณสดใสขึ้น แต่ก็มีคุณแม่ท้องอีกหลายคนที่มักเจอปัญหาผิวพรรณหมองคล้ำ ขาหนีบ ข้อพับต่างๆ รักแร้คล้ำขึ้น ซอกคอมีขี้ไคลเกาะหนา ซึ่งความเปลี่ยนแปลงที่เกิดกับผิวพรรณเหล่านี้ จะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ราว 3 เดือนแรกเท่านั้นเอง เราไปดูกันว่า เกิดจากอะไรและมีวิธีแก้ปัญหาอย่างไรบ้าง
ผิวคล้ำขึ้นตอนท้อง เกิดจากอะไร
เกิดจากความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนภายในร่างกาย โดยเฉพาะฮอร์โมนเพศหญิง เช่น “เอสโตรเจน” และ “โปรเจสเตอโรน” เพิ่มสูงขึ้นและส่งผลกระทบต่อระบบสืบพันธุ์ อย่างการตกไข่และประจำเดือนของผู้หญิง ซึ่งฮอร์โมน 2 ชนิดนี้ไปกระตุ้นเม็ดสีของผิวหนังให้ทำงานมากผิดปกติ ทำให้เมลานินในชั้นผิวหนังเข้มขึ้น คุณแม่ตั้งครรภ์แรกๆ จึงประสบปัญหาว่า ทำไมตั้งครรภ์แล้ว ผิวจึงดูหมองคล้ำมากกว่าเคย ตัวอย่างรอยหมองคล้ำ ได้แก่
- ใบหน้าเริ่มมี กระและฝ้า มารุกรานผิวหนัง จากคนที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ก็อาจเจอปัญหานี้ได้
- รักแร้มีรอยดำปื้นหนา ผิวหนังคล้ำ รูขุมขนพองคล้ายหนังไก่
- ปรากฏเส้นกลางหน้าท้อง สีน้ำตาลจางๆ
- ปานหัวนมขยายและคล้ำมากขึ้น หัวนมคล้ำและใหญ่ขึ้น
- ใต้รอบอก ตรงรอยพับของเต้านมอาจมีรอบดำ เกาะหนามากขึ้น
- ริมฝีปากคล้ำ รอยพับตรงคอมีรอยดำปื้นๆ คล้ายขี้ไคลเกาะ
- ความเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับผิวพรรณ ที่เกี่ยวกับการทำงานของเม็ดสีเมลานินอาจทำให้คุณแม่เครียดมากขึ้น แต่จะจางลงเมื่อตั้งครรภ์เข้าสู่ไตรมาสที่ 2 หรือ - ผ่านไปสัก 3 เดือน อย่างไรก็ตาม หากยังไม่หาย รอยคล้ำต่างๆ จะเพิ่มมากขึ้นตามอายุครรภ์
คุณแม่ตั้งครรภ์ สามารถรับมือกับผิวคล้ำขึ้นได้อย่างไรบ้าง
การตั้งครรภ์สักครั้ง ต้องบอกว่าคุณแม่ต้องเสียสละอย่างมาก เช่น ความเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย ไม่ใช่แค่รูปร่างขยายใหญ่ขึ้น น้ำหนักที่ต้องแบกเพิ่มมากขึ้น แต่รวมไปถึงสุขภาพร่างกายที่ต้องดูแลมากขึ้น อีกทั้งต้องรับมือกับปัญหาต่างๆ ที่จะตามมา เช่น เรื่องผิวพรรณ คุณแม่อาจเคยใช้ชีวิตประจำวันในการดูแลผิวที่ไม่ต้องซับซ้อนมากนัก แต่เมื่อตั้งครรภ์ปุ๊บ ทุกอย่างจะต้องหาความรู้ใหม่ อย่างการดูแลผิวนี่เอง ซึ่งคุณแม่ต้องจำไว้ก่อนว่า
- ผิวคล้ำที่คล้ำขึ้นระหว่างตั้งครรภ์จะค่อยๆ จางหายไปแน่นอนหลังคลอด ฉะนั้นอย่าเพิ่งเครียดไป
- ระหว่างตั้งครรภ์ หมั่นดูแลผิวพรรณให้สะอาด บำรุงผิวด้วยวิตามิน E สม่ำเสมอ แม้จะเห็นผลน้อยมาก แต่เพื่อไม่ให้ผิวคล้ำขึ้นกว่าเดิม
- ต้องปกป้องดูแลผิวไม่ให้เจอมลภาวะ เช่น ฝุ่นละอองและแสงแดด
10 วิธีปกป้องและดูแลผิวไม่ให้คล้ำเสียขณะตั้งครรภ์
เมื่อทราบแล้วว่า การที่ผิวคล้ำขึ้น มีรอยดำเกาะหนาๆ ตามซอกหลืบ ไม่ใช่ปัญหาถาวร และควรปกป้องดูแลผิวขั้นพื้นฐานอย่างไรบ้าง เราลองมาลงลึกขึ้นอีกนิดสำหรับคุณแม่มือใหม่กันดีกว่าค่ะ
1. หมั่นสครับผิวเบาๆ
คุณแม่ต้องดูแลผิวหนังชั้นนอกให้สะอาดก่อนเป็นอันดับแรกค่ะ หลังทำความสะอาดผิวพรรณด้วยสบู่หรือครีบมอาบน้ำแล้ว ใช้ผลิตภัณฑ์ครับผิว เช่น มะขามเปียกผสมกับกากกาแฟ กะดูปริมาณที่เหมาะสมแล้วนำมาขัดผิวเบาๆ เน้นตามรอยดำ และทิ้งไว้สัก 5-10 นาที จากนั้นล้างออกด้วยครีมอาบน้ำอีกครั้งค่ะ ทั้งนี้คุณแม่ไม่จำเป็นต้องใช้แค่มะขามเปียกกับกากกาแฟเท่านั้น แต่สามารถหาสครับที่ตนเองชอบตามร้านบิวตี้สโตร์ทั่วไป อีกอย่าง การได้สครับผิวยังช่วยผ่อนคลายอารมณ์ให้สดใสอีกด้วยค่ะ
2. อย่าขาดการบำรุงผิว
หลังอาบน้ำทุกครั้ง เช็ดตัวให้หมาดๆ อย่าถูผิวรุนแรง จากนั้นทาโลชั่นที่เหมาะกับผิว เคล็ดลับเพิ่มเติม คุณแม่สามารถเพิ่มการดูแลผิวโดยการผสมออยล์ที่ชอบสัก 2-3 หยดลงฝ่ามือแล้วลูบไล้ทั่วร่างกาย จะเป็นออยล์ที่ใช้ประจำแต่ถ้ามีวิตามิน E ผสมอยู่ด้วยนั้น จะดีมากต่อการป้องกันผิวแตกลาย ขอเน้นว่า การทาโลชั่นต่างๆ ควรทาทั้งตัว อย่าลืมซอกต่างๆ ราวมถึงมือและเล็บด้วยค่ะ
3. ครีมกันแดดสำคัญที่สุด
ไม่ว่าจะครีมแพงราคาหลักหมื่น แต่หากไร้การปกป้องด้วยโลชั่นหรือครีมกันแดดที่เหมาะสมแล้ว ยิ่งทำให้ผิวคล้ำเสีย จริงๆ แล้วทางแพทย์ผิวหนังแนะนำว่า ควรทาครีมกันแดดก่อนออกแดดประมาณ 20-30 นาทีและควรทาซ้ำทุก 3-4 ชั่วโมง ในปริมาณควรเท่าเหรียญ 10 บาท สมัยนี้หาครีมกันแดดบางเบา ทาทับเมคอัพได้ไม่ยากค่ะ แม้แต่การทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ควรทาครีมกันแดด ไม่ว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่ก็ตาม
4. สวมเสื้อผ้ามิดชิด
เวลาออกนอกบ้าน คุณแม่ตั้งครรภ์หรือสาวๆ ควรมีเสื้อคลุมสำรองไว้สักตัวค่ะ เช่น คาร์ดิแกนตัวบาง หรือเสื้อแจ็กเก็ตตัวเก่ง จะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดอีกชั้นหนึ่งได้ดีเลยค่ะ เพราะเราไม่สามารถมาทาครีมกันแดดได้ทั่วตัวทั้งวันแน่ๆ คุณแม่ท้องต้องจำไว้เสมอว่าผิวของคุณแม่ไวต่อแสงแดด จะได้รับผลกระทบได้มากกว่าคนปกติ
5. สวมเสื้อผ้าให้สบาย
ร่างกายของคุณแม่จะเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่รู้ตัวในช่วง 3 เดือนแรก แต่อยากให้คุณแม่ เปลี่ยนไซซ์เสื้อผ้าให้หลวมขึ้นสักเล็กน้อยค่ะ เพื่อลดความรัดรึงของช่วงตัว เช่น บรา ควรใส่พอดีตัวหรือหลวมสักเล็กน้อย เนื่องจากหน้าอกที่เริ่มขยายใหญ่ จะป้องกันการเสียดสีใต้ราวนม ลดรอยหมองคล้ำได้ด้วย หรือกางเกงใน ไม่ควรใส่รัดมากเกินไป จะทำให้ตามขอบเอว ซอกขา ไม่เกิดการเสียดสีจนเกิดรอยดำเช่นกัน
6. หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นบ่อยๆ
คุณแม่สามารถอาบน้ำอุ่น แช่น้ำอุ่นเพื่อความผ่อนคลาย ขจัดความเมื่อยล้าได้ค่ะ แต่อย่าอาบน้ำอุ่นบ่อย เพราะน้ำอุ่นจะทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิว ทำให้ผิวอ่อนแอ เม็ดสีทำงานหนักมากขึ้น ผิวจะคล้ำขึ้น อีกอย่าง การอาบน้ำอุ่นยังลดความกระชับของผิว ส่งผลให้ผิวเหี่ยวย่นเร็วก่อนวัยอันควรอีกด้วย
7. รับประทานผักผลไม้
ในผักผลไม้มีวิตามินที่ช่วยบำรุงผิวให้แข็งแรง โดยเฉพาะวิตามิน A E C คุณแม่สามารถรับประทานผักผลไม้บำรุงผิวเช่น แครอท มะเขือเทศ เมล็ดดอกทานตะวัน เมล็ดอัลมอนด์ อะโวคาโด ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น สตรอเบอร์รี่ ราซเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ รวมไปถึง ส้ม แอปเปิ้ล ฝรั่ง คุณแม่ท้องหรือสาวๆ ทั่วไป สามารถรับประทานทุกวันสลับเปลี่ยนกันไปให้หลากหลายเพื่อรับสารอาหารอย่างครบถ้วน
8. ดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆ
หนึ่งในตัวช่วยที่สำคัญที่สุดของการดูแลผิว คือ น้ำ คนเราต้องดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอวันละ 8-10 แก้ว ซึ่งคุณแม่ท้องอาจดื่มมากกว่านั้น เพื่อเติมน้ำให้แก่ชั้นผิว ให้ร่างกายสดชื่น สมองปลอดโปร่งสดใส และคุณแม่อย่าลืมดื่มนมตอนเช้าและก่อนนอนด้วยนะคะ
9. พักผ่อนให้เพียงพอ
ควรนอน 6-8 ชั่วโมงต่อวัน เวลานอนหลับพักผ่อน เป็นช่วงฟื้นฟูร่างกายดีที่สุดค่ะ เนื่องจากร่างกายจะผลิตฮอร์โมนหนุ่มสาวที่เรียกว่า โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) เป็นฮอร์โมนจากต่อมใต้สมองเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ร่างกายเจริญเติบโต เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ดังนั้น จะช่วยให้หน้าตาและผิวพรรณสดใสมากขึ้น
10. อย่าปล่อยให้ความเครียดทำร้าย
ความเครียดคือศัตรูตัวสำคัญของทุกคนค่ะ ยิ่งผู้หญิงตั้งครรภ์ มีความเครียดหลายอย่างที่เข้ามาระหว่างท้อง ดังนั้น คุณแม่ควรดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจให้สดใส ปลอดโปร่ง ความเปลี่ยนแปลงทุกอย่างที่เกิดระหว่างตั้งครรภ์นั้นเป็นเรื่องปกติหากไม่ใช่ภาวะร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับสุขภาพของคุณแม่และทารก
ปัญหาผิวคล้ำขึ้นตอนท้อง ไม่ใช่เรื่องที่ต้องน่ากังวลสำหรับคุณแม่ท้อง เพราะเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่ต้องเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และอาจเกิดกับคุณแม่บางคนเท่านั้นค่ะ และจะค่อยๆ หายไปในไม่ช้า หรือหลังคลอด สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณแม่คือ การดูแลสุขภาพให้แข็งแรง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ นอกจากช่วยเรื่องสุขภาพแล้วยังส่งผลไปถึงผิวพรรณอีกด้วย
https://th.theasianparent.com/skin-darkening-during-pregnancy
ผิวคล้ำขึ้นตอนท้อง แก้ปัญหาอย่างไรดี?
ผิวคล้ำขึ้นตอนท้อง เกิดจากอะไร
เกิดจากความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนภายในร่างกาย โดยเฉพาะฮอร์โมนเพศหญิง เช่น “เอสโตรเจน” และ “โปรเจสเตอโรน” เพิ่มสูงขึ้นและส่งผลกระทบต่อระบบสืบพันธุ์ อย่างการตกไข่และประจำเดือนของผู้หญิง ซึ่งฮอร์โมน 2 ชนิดนี้ไปกระตุ้นเม็ดสีของผิวหนังให้ทำงานมากผิดปกติ ทำให้เมลานินในชั้นผิวหนังเข้มขึ้น คุณแม่ตั้งครรภ์แรกๆ จึงประสบปัญหาว่า ทำไมตั้งครรภ์แล้ว ผิวจึงดูหมองคล้ำมากกว่าเคย ตัวอย่างรอยหมองคล้ำ ได้แก่
- ใบหน้าเริ่มมี กระและฝ้า มารุกรานผิวหนัง จากคนที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ก็อาจเจอปัญหานี้ได้
- รักแร้มีรอยดำปื้นหนา ผิวหนังคล้ำ รูขุมขนพองคล้ายหนังไก่
- ปรากฏเส้นกลางหน้าท้อง สีน้ำตาลจางๆ
- ปานหัวนมขยายและคล้ำมากขึ้น หัวนมคล้ำและใหญ่ขึ้น
- ใต้รอบอก ตรงรอยพับของเต้านมอาจมีรอบดำ เกาะหนามากขึ้น
- ริมฝีปากคล้ำ รอยพับตรงคอมีรอยดำปื้นๆ คล้ายขี้ไคลเกาะ
- ความเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับผิวพรรณ ที่เกี่ยวกับการทำงานของเม็ดสีเมลานินอาจทำให้คุณแม่เครียดมากขึ้น แต่จะจางลงเมื่อตั้งครรภ์เข้าสู่ไตรมาสที่ 2 หรือ - ผ่านไปสัก 3 เดือน อย่างไรก็ตาม หากยังไม่หาย รอยคล้ำต่างๆ จะเพิ่มมากขึ้นตามอายุครรภ์
คุณแม่ตั้งครรภ์ สามารถรับมือกับผิวคล้ำขึ้นได้อย่างไรบ้าง
การตั้งครรภ์สักครั้ง ต้องบอกว่าคุณแม่ต้องเสียสละอย่างมาก เช่น ความเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย ไม่ใช่แค่รูปร่างขยายใหญ่ขึ้น น้ำหนักที่ต้องแบกเพิ่มมากขึ้น แต่รวมไปถึงสุขภาพร่างกายที่ต้องดูแลมากขึ้น อีกทั้งต้องรับมือกับปัญหาต่างๆ ที่จะตามมา เช่น เรื่องผิวพรรณ คุณแม่อาจเคยใช้ชีวิตประจำวันในการดูแลผิวที่ไม่ต้องซับซ้อนมากนัก แต่เมื่อตั้งครรภ์ปุ๊บ ทุกอย่างจะต้องหาความรู้ใหม่ อย่างการดูแลผิวนี่เอง ซึ่งคุณแม่ต้องจำไว้ก่อนว่า
- ผิวคล้ำที่คล้ำขึ้นระหว่างตั้งครรภ์จะค่อยๆ จางหายไปแน่นอนหลังคลอด ฉะนั้นอย่าเพิ่งเครียดไป
- ระหว่างตั้งครรภ์ หมั่นดูแลผิวพรรณให้สะอาด บำรุงผิวด้วยวิตามิน E สม่ำเสมอ แม้จะเห็นผลน้อยมาก แต่เพื่อไม่ให้ผิวคล้ำขึ้นกว่าเดิม
- ต้องปกป้องดูแลผิวไม่ให้เจอมลภาวะ เช่น ฝุ่นละอองและแสงแดด
เมื่อทราบแล้วว่า การที่ผิวคล้ำขึ้น มีรอยดำเกาะหนาๆ ตามซอกหลืบ ไม่ใช่ปัญหาถาวร และควรปกป้องดูแลผิวขั้นพื้นฐานอย่างไรบ้าง เราลองมาลงลึกขึ้นอีกนิดสำหรับคุณแม่มือใหม่กันดีกว่าค่ะ
1. หมั่นสครับผิวเบาๆ
คุณแม่ต้องดูแลผิวหนังชั้นนอกให้สะอาดก่อนเป็นอันดับแรกค่ะ หลังทำความสะอาดผิวพรรณด้วยสบู่หรือครีบมอาบน้ำแล้ว ใช้ผลิตภัณฑ์ครับผิว เช่น มะขามเปียกผสมกับกากกาแฟ กะดูปริมาณที่เหมาะสมแล้วนำมาขัดผิวเบาๆ เน้นตามรอยดำ และทิ้งไว้สัก 5-10 นาที จากนั้นล้างออกด้วยครีมอาบน้ำอีกครั้งค่ะ ทั้งนี้คุณแม่ไม่จำเป็นต้องใช้แค่มะขามเปียกกับกากกาแฟเท่านั้น แต่สามารถหาสครับที่ตนเองชอบตามร้านบิวตี้สโตร์ทั่วไป อีกอย่าง การได้สครับผิวยังช่วยผ่อนคลายอารมณ์ให้สดใสอีกด้วยค่ะ
2. อย่าขาดการบำรุงผิว
หลังอาบน้ำทุกครั้ง เช็ดตัวให้หมาดๆ อย่าถูผิวรุนแรง จากนั้นทาโลชั่นที่เหมาะกับผิว เคล็ดลับเพิ่มเติม คุณแม่สามารถเพิ่มการดูแลผิวโดยการผสมออยล์ที่ชอบสัก 2-3 หยดลงฝ่ามือแล้วลูบไล้ทั่วร่างกาย จะเป็นออยล์ที่ใช้ประจำแต่ถ้ามีวิตามิน E ผสมอยู่ด้วยนั้น จะดีมากต่อการป้องกันผิวแตกลาย ขอเน้นว่า การทาโลชั่นต่างๆ ควรทาทั้งตัว อย่าลืมซอกต่างๆ ราวมถึงมือและเล็บด้วยค่ะ
3. ครีมกันแดดสำคัญที่สุด
ไม่ว่าจะครีมแพงราคาหลักหมื่น แต่หากไร้การปกป้องด้วยโลชั่นหรือครีมกันแดดที่เหมาะสมแล้ว ยิ่งทำให้ผิวคล้ำเสีย จริงๆ แล้วทางแพทย์ผิวหนังแนะนำว่า ควรทาครีมกันแดดก่อนออกแดดประมาณ 20-30 นาทีและควรทาซ้ำทุก 3-4 ชั่วโมง ในปริมาณควรเท่าเหรียญ 10 บาท สมัยนี้หาครีมกันแดดบางเบา ทาทับเมคอัพได้ไม่ยากค่ะ แม้แต่การทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ควรทาครีมกันแดด ไม่ว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่ก็ตาม
4. สวมเสื้อผ้ามิดชิด
เวลาออกนอกบ้าน คุณแม่ตั้งครรภ์หรือสาวๆ ควรมีเสื้อคลุมสำรองไว้สักตัวค่ะ เช่น คาร์ดิแกนตัวบาง หรือเสื้อแจ็กเก็ตตัวเก่ง จะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดอีกชั้นหนึ่งได้ดีเลยค่ะ เพราะเราไม่สามารถมาทาครีมกันแดดได้ทั่วตัวทั้งวันแน่ๆ คุณแม่ท้องต้องจำไว้เสมอว่าผิวของคุณแม่ไวต่อแสงแดด จะได้รับผลกระทบได้มากกว่าคนปกติ
5. สวมเสื้อผ้าให้สบาย
ร่างกายของคุณแม่จะเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่รู้ตัวในช่วง 3 เดือนแรก แต่อยากให้คุณแม่ เปลี่ยนไซซ์เสื้อผ้าให้หลวมขึ้นสักเล็กน้อยค่ะ เพื่อลดความรัดรึงของช่วงตัว เช่น บรา ควรใส่พอดีตัวหรือหลวมสักเล็กน้อย เนื่องจากหน้าอกที่เริ่มขยายใหญ่ จะป้องกันการเสียดสีใต้ราวนม ลดรอยหมองคล้ำได้ด้วย หรือกางเกงใน ไม่ควรใส่รัดมากเกินไป จะทำให้ตามขอบเอว ซอกขา ไม่เกิดการเสียดสีจนเกิดรอยดำเช่นกัน
6. หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นบ่อยๆ
คุณแม่สามารถอาบน้ำอุ่น แช่น้ำอุ่นเพื่อความผ่อนคลาย ขจัดความเมื่อยล้าได้ค่ะ แต่อย่าอาบน้ำอุ่นบ่อย เพราะน้ำอุ่นจะทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิว ทำให้ผิวอ่อนแอ เม็ดสีทำงานหนักมากขึ้น ผิวจะคล้ำขึ้น อีกอย่าง การอาบน้ำอุ่นยังลดความกระชับของผิว ส่งผลให้ผิวเหี่ยวย่นเร็วก่อนวัยอันควรอีกด้วย
7. รับประทานผักผลไม้
ในผักผลไม้มีวิตามินที่ช่วยบำรุงผิวให้แข็งแรง โดยเฉพาะวิตามิน A E C คุณแม่สามารถรับประทานผักผลไม้บำรุงผิวเช่น แครอท มะเขือเทศ เมล็ดดอกทานตะวัน เมล็ดอัลมอนด์ อะโวคาโด ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น สตรอเบอร์รี่ ราซเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ รวมไปถึง ส้ม แอปเปิ้ล ฝรั่ง คุณแม่ท้องหรือสาวๆ ทั่วไป สามารถรับประทานทุกวันสลับเปลี่ยนกันไปให้หลากหลายเพื่อรับสารอาหารอย่างครบถ้วน
8. ดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆ
หนึ่งในตัวช่วยที่สำคัญที่สุดของการดูแลผิว คือ น้ำ คนเราต้องดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอวันละ 8-10 แก้ว ซึ่งคุณแม่ท้องอาจดื่มมากกว่านั้น เพื่อเติมน้ำให้แก่ชั้นผิว ให้ร่างกายสดชื่น สมองปลอดโปร่งสดใส และคุณแม่อย่าลืมดื่มนมตอนเช้าและก่อนนอนด้วยนะคะ
9. พักผ่อนให้เพียงพอ
ควรนอน 6-8 ชั่วโมงต่อวัน เวลานอนหลับพักผ่อน เป็นช่วงฟื้นฟูร่างกายดีที่สุดค่ะ เนื่องจากร่างกายจะผลิตฮอร์โมนหนุ่มสาวที่เรียกว่า โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) เป็นฮอร์โมนจากต่อมใต้สมองเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ร่างกายเจริญเติบโต เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ดังนั้น จะช่วยให้หน้าตาและผิวพรรณสดใสมากขึ้น
10. อย่าปล่อยให้ความเครียดทำร้าย
ความเครียดคือศัตรูตัวสำคัญของทุกคนค่ะ ยิ่งผู้หญิงตั้งครรภ์ มีความเครียดหลายอย่างที่เข้ามาระหว่างท้อง ดังนั้น คุณแม่ควรดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจให้สดใส ปลอดโปร่ง ความเปลี่ยนแปลงทุกอย่างที่เกิดระหว่างตั้งครรภ์นั้นเป็นเรื่องปกติหากไม่ใช่ภาวะร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับสุขภาพของคุณแม่และทารก
ปัญหาผิวคล้ำขึ้นตอนท้อง ไม่ใช่เรื่องที่ต้องน่ากังวลสำหรับคุณแม่ท้อง เพราะเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่ต้องเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และอาจเกิดกับคุณแม่บางคนเท่านั้นค่ะ และจะค่อยๆ หายไปในไม่ช้า หรือหลังคลอด สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณแม่คือ การดูแลสุขภาพให้แข็งแรง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ นอกจากช่วยเรื่องสุขภาพแล้วยังส่งผลไปถึงผิวพรรณอีกด้วย
https://th.theasianparent.com/skin-darkening-during-pregnancy